สรุป 9 ฟีเจอร์เด่น ของชิปเซ็ต MediaTek Kompanio 900T

สรุป 9 ฟีเจอร์เด่น ของชิปเซ็ต MediaTek Kompanio 900T โดย คุณ PC Tseng ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายหน่วยธุรกิจมัลติมีเดียอัจฉริยะของ MediaTek

คุณต้องการใช้งานหลายอย่างพร้อมกันที่ตอบสนองได้ทันใจ หรือหน้าจอที่แสดงผลฉับไวเมื่อเล่นเกมหรือเปล่า ภาพยนตร์ที่กำลังสตรีมมิ่งอยู่นั้นเป็นแบบ HDR หรือไม่ แล้วเท็บเล็ตล่ะ มี 5G ใช่ไหม อยากได้แบตเตอร์รี่ที่ใช้งานได้นานหรือเปล่า ชิป MediaTek Kompanio 900T อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดหากคุณกำลังมองหาเพื่อนคู่คิดเครื่องใหม่ที่กะทัดรัดและพกพาสะดวกอยู่ ลองมาดูคุณสมบัติเด็ดๆ ของชิปตัวนี้กันเลย

1. ศักยภาพเปี่ยมล้น

ชิป Kompanio 900T ประกอบไปด้วยคอร์ Arm Cortex-A78 ‘ขนาดใหญ่’ รุ่นล่าสุดหนึ่งคู่ ใน octa-core CPU ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วได้ถึง 2.4GHz มากกว่านั้น หน่วย GPU Mali-G68 แบบ Quad Core จะช่วยให้ประสิทธิภาพการแสดงผลภาพกราฟฟิกดีเลิศพร้อมกับประหยัดพลังงานไปในตัว

2. การเพิ่มคุณภาพการย้อนเล่นวีดิโอด้วย MiraVision HDR

MiraVision HDR ช่วยเพิ่มคุณภาพการย้อนเล่นวีดิโอ (Video Playback) ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะซึ่งจะประมวลผลแบบอัตโนมัติอยู่เบื้องหลัง ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถเลือกใช้ HDR Composer ของ MiraVision ซึ่งจะเปลี่ยนการสตรีม SDR ให้เป็น HDR แบบเรียลไทม์ อีกทั้งมีเดีย HDR10 สามารถอัพเกรดเป็น HDR10+ แบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย เพราะ MiraVision ได้เพิ่ม Metadata ต่อเฟรมแบบไดนามิกเข้าไป รวมถึงวีดิโอ HDR10+ แบบพรีเมี่ยมก็สามารถอัพเกรดได้ด้วยการใช้ความแตกต่างของความสว่างในแต่ละเฟรมย่อยเพื่อปรับค่าความสว่าง

3. หน้าจอ 2K เร็วทะลุจอ

หน้าจอความถี่ 120Hz จะช่วยพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานได้อย่างทันใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพชัดคมกริบขณะเล่มเกม (Zero-blur gaming) การเลื่อนดูหน้าเว็บแบบลื่นไหล หรือการตอบสนองของหน้าจอแบบฉับพลันเมื่อสัมผัสด้วยนิ้วหรือใช้ปากกาสไตลัสแตะลงไปก็ตาม ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่แสดงผลหน้าจอ 2K (2000×1200) ที่ละเอียดยิบ ชัดคมกริบ และตอบสนองได้เร็วชั่วพริบตา เพื่อให้คุณใช้งานได้หลากหลายในชีวิตประจำวัน

4. การเชื่อมต่อที่ประหยัดพลังงานได้ดีเลิศ

เราฝังทั้งโมเด็ม 5G และเอ็นจิ้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ไว้ในชิป Kompanio เพื่อให้ใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุดในระดับเท่าที่ซิลิคอนจะทำได้ สำหรับ 5G MediaTek ได้พัฒนาให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้นด้วยชุดเทคโนโลยี 5G UltraSave ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นในการใช้งานประจำวัน

5. Wi-Fi 6 ที่เร็วยิ่งขึ้น

ชิป Kompanio 900T มาพร้อมกับคุณสมบัติ Wi-Fi 6 ที่มีเสาอากาศ 2×2 ดังนั้นเมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องกระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน จะทำให้คุณภาพการเชื่อมต่อดีขึ้น รวมถึงค่าความหน่วงต่ำลง และค่า Throughput ข้อมูลสูงขึ้น

6. 5G ที่เหนือกว่า

โมเด็ม 5G แบบฝังในชิปที่มีประสิทธิภาพสูงมากสามารถใช้ระบบการรวมคลื่น Carrier Aggregation แบบ 2CC ที่ครอบคลุมสเปคตรัม 120MHz ได้กว้างขึ้นถ้ามีใช้ในพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งการเชื่อมต่อ 5G ยังทำได้มากกว่านั้น ถ้าผู้ให้บริการสัญญาณ (Carrier) สามารถรองรับการรวมคลื่น Carrier Aggregation แบบ Mixed Duplex FDD+TDD ได้

7. ซิมคู่ 5G แบบ True Dual (สแตนด์อโลน + สแตนด์อโลน)

ซิมคู่ 5G แบบ True Dual สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่าย 5G แบบสแตนด์อโลนได้ถึงสองระบบพร้อมกัน ซึ่งทำได้เหนือกว่า เพราะส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อได้แค่โครงข่ายใดโครงข่ายหนึ่งเท่านั้น และด้วยผู้ให้บริการสัญญาน 5G ได้เริ่มให้บริการสัญญาณทั่วโลกแล้ว เทคโนโลยีแห่งอนาคตดังกล่าวจึงสามารถใช้ได้ไปอีกนาน ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่งนัก

8. ชิป ‘6nm’ ที่ประหยัดพลังงานมาก

ชิป Kompanio 900T ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการผลิต ‘6nm’ แบบ N6 ล่าสุดของบริษัท TSMC ชิปครบวงจรตัวนี้ผลิตด้วยทรานซิสเตอร์ขนาดเล็กที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่ากระบวนการผลิตชิปประเภทอื่นๆ ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีทรงพลังได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอร์รี่บ่อยๆ

9. ชิปตัวเดียวแต่ออกแบบได้หลายหลาก

ผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตแอนดรอยด์พัฒนาไปได้ไกลกว่าหน้าจอแบนๆ ธรรมดา ในปัจจุบันนี้ เราสามารถพลิก พับ หรือแม้แต่แยกออกจากกัน ตอนนี้ผู้ผลิตอุปกรณ์จึงสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะอย่าง เช่น ความบันเทิงแบบสตรีมมิ่ง ประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์งานด้วยปากกาสไตลัส การเรียนออนไลน์ การใช้งานในภาคอุตสาหกรรม หรือแม้แต่เกมมิ่งและการสตรีมเกม และเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่กล่าวมาได้ ชิป Kompanio 900T จึงออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถทำงานร่วมกับหน่วยความจำ (Memory) LPDDR5 หรือ LPDDR4X รวมถึงหน่วยความจำ (Storage) แบบ UFS 3.1 หรือ UFS 2.2 เพื่อปรับเปลี่ยนให้ได้ตามการวางแผนด้านประสิทธิภาพทางการตลาดและการตั้งราคา