Connect with us

Android News

10 ฟีเจอร์ใหม่ Galaxy S23 Series อัปเกรดครั้งนี้มีอะไรน่าสนใจขึ้นบ้าง!?

Published

on

Galaxy S23 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย จัดเต็มอัปเกรดความสามารถใหม่อีกเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นกล้อง, ดีไซน์, สเปค, รวมถึงซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ด้วย แต่หลายคนที่ดูแค่สเปคอาจจะเห็นว่าไม่ได้เปลี่ยนมากนัก วันนี้เราก็เลยขอมาสรุป 10 ฟีเจอร์ใหม่ของ Galaxy S23 Series ที่อัปเกรดจากรุ่นก่อนว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ!

1.ชิปใหม่! Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือสเปคที่รอบนี้อัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดครับ เพราะมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy อัดความเร็วสูงสุดถึง 3.36GHz เพิ่มความแรงแถมยังลดการใช้พลังงานร่วมกับออกแบบการระบายความร้อนภายในใหม่ด้วย ทำให้ Galaxy S23 Series มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง % เลยทีเดียวครับ

2.กล้องใหม่! 200MP มาแล้ว*

และแน่นอนจุดขายในเรื่องกล้องยังเป็นเรื่องหลักของ Galaxy S23 Ultra ในปีนี้ ซึ่งก็มีการอัปเกรดในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ตัวใหม่ที่มีความละเอียดสูงขึ้นเป็น 200MP (จากเดิม 108MP) พร้อมเทคโนโลยีการร่วมภาพ Binning แบบ 16-in-1 ทำให้ได้ไฟล์ภาพที่คมชัด อีกทั้งยังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีและเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วยครับ

*กล้องใหม่ 200MP มีเฉพาะบน Galaxy S23 Ultra รุ่นเดียวเท่านั้น

3.กล้อง Ultra Wide ใหม่! ใช้งานเป็นกล้อง Macro ได้แล้วด้วย

ไม่ใช่แค่รุ่นท็อปสุดเท่านั้นรุ่นรองอย่าง Galaxy S23 และ S23+ ก็มีการปรับเปลี่ยนกล้องใหม่ด้วยเช่นกัน แต่เป็นกล้อง Ultra Wide ที่เปลี่ยนมาใช้เป็นตัวเดียวกับของ S23 Ultra หมายความว่าเราสามารถใช้งานเป็นกล้อง Macro ได้แล้ว เข้าใกล้ได้มากขึ้น และคุณภาพโดยรวมในมุมกว้างก็ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วยนะ!

4.กล้องหน้าใหม่! 12MP มี Autofocus

กล้องหน้าของ Galaxy S23 Series นั้นเรียกว่าเปลี่ยนใหม่กันหมดยกชุด เป็นความละเอียด 12MP พร้อมเซ็นเซอร์ตัวใหม่ที่เก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีระบบ Autofocus มาให้ด้วย ทำให้ใช้งานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น จะถ่ายในที่แสงมากหรือแสงน้อยก็คมขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!

5.วิดีโอความละเอียดใหม่! 8K/30fps

ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งที่อัปเกรดเท่านั้น รอบนี้ Galaxy S23 Series มีการอัปเกรดในเรื่องของวิดีโอให้รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 8K/30fps กันแล้ว (จากเดิม 8K/24fps) ทำให้ถ่ายวิดีโอได้เนียนตายิ่งขึ้น แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะในโหมด Portrait Video หรือวิดีโอแบบหน้าชัด-หลังเบลอนั้นยังรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K/30fps แล้วด้วย (จากเดิม Full-HD)

6.ความจุใหม่! เร็วขึ้น

ความจุภายในก็มีการอัปเกรดใหม่ยกชุด โดย Galaxy S23 Series ทั้ง 3 รุ่นจะมี RAM แบบใหม่ LPDDR5X และ Storage แบบ UFS 4.0* แล้วด้วย เพิ่มความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลสูงสุดถึง 2 เท่ากันเลยล่ะ แถมความจุเริ่มต้นของ Galaxy S23+ และ S23 Ultra ก็เริ่มที่ 8GB + 256GB แล้วด้วยในปีนี้

*เฉพาะรุ่นที่มี Storage 256GB ขึ้นไปเท่านั้น Galaxy S23 รุ่นเริ่มต้น 128GB ยังเป็น UFS 3.1

7.แบตเตอรี่อึดขึ้น! เพิ่มขึ้นรุ่นละ 200mAh*

นอกจากความจุเร็วขึ้นแล้ว แบตเตอรี่ก็เพิ่มขึ้นอีกรุ่นละ 200mAh โดยบนรุ่น Galaxy S23 นั้นจะได้ความจุแบตฯมาที่ 3900mAh (จากเดิม 3700mAh) และบน Galaxy S23+ จะได้มาที่ 4700mAh (จากเดิม 4500mAh) ทำให้เพิ่มอายุการใช้งานได้นานกว่าเดิม

*แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น 200mAh เฉพาะบน S23 | S23+ บน S23 Ultra ยังได้มา 5000mAh เท่าเดิม

8.ซอฟต์แวร์ใหม่! One UI 5.1

ซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่ Galaxy S23 Series ได้มาใหม่เหนือรุ่นอื่น ๆ เพราะได้ One UI 5.1 มาตั้งแต่แกะกล่องเลย จะมีความสามารถใหม่มากมาย อาทิ แชร์อัลบั้มครอบครัวได้, เข้าถึงโหมด ExpertRAW ได้ง่ายขึ้น, Widget ใหม่ ๆ หรือการควบคุมร่วมกับหลายอุปกรณ์เป็นต้น (ดูรายละเอียดเต็ม ๆ ของ One UI 5.1 ได้ที่นี่)

9.แกร่งขึ้น! ด้วย Gorilla Glass Victus 2

อีกเรื่องที่ทั้ง 3 รุ่นอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนชัดเจนก็คือกระจกกันรอย รอบนี้อัปเกรดขึ้นมาเป็นกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 แล้ว (จากเดิม Victus+) ทำให้แกร่งขึ้น ทนต่อการตกแตกได้ดีขึ้นในระดับ 1 เมตรกับพื้นคอนกรีตและระดับ 2 เมตรในพื้นผิวทั่วไป

10.ดีไซน์ใหม่! พร้อมสีสันโทนใหม่

ปิดท้ายที่เรื่องดีไซน์ Galaxy S23 Series มีการปรับดีไซน์ไปจากเดิมอีกโดยเฉพาะ Galaxy S23 และ S23+ มีการตัดเอากรอบเลนส์ Contour-Cut ออกไปให้เหลือแต่กล้องหลังเด่น ๆ แทน ส่วน Galaxy S23 Ultra ก็มีการปรับดีไซน์กรอบเครื่องให้โค้งน้อยลงทำให้จับถือได้ถนัดมือมากขึ้น ส่วนสีสันรอบนี้ก็ปรับโทนใหม่ลดความจัดจ้านลง ให้เป็นแนวสุขุมแทนครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ! ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่อัปเกรดขึ้นมาให้ Galaxy S23 Series ลงตัวขึ้นอีกเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน สำหรับใครที่อยากรู้ในเรื่องสเปคว่าทั้ง 3 รุ่นนี้แตกต่างกันตรงไหนบ้าง เราก็ทำเปรียบเทียบสเปคไว้ให้แล้ว หรือถ้าอยากอ่านเป็นพรีวิวแบบเต็ม ๆ ก็มีเช่นกันครับ

IT News50 นาที ago

ทรู ต้อนรับสาวไทยหัวใจแชมป์  “เทนนิส วงศ์พัฒนกิจ” เข้าสู่ครอบครัว ชูแนวคิด “คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์”

ทรู คอร์ปอเรชั่น  ต้...

IT News57 นาที ago

กล้องติดรถ 70mai พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มในแคมเปญ 10.10 ส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท

กล้องติดรถยนต์ 70mai...

Android News2 ชั่วโมง ago

จอมแม่นเผยสเปคหน้าจอ OnePlus 13 ใช้พาเนล BOE X2 แบบ 2K 120Hz และฟีเจอร์อื่นแบบจัดเต็ม

OnePlus 13 ว่าที่เรื...

Android News5 ชั่วโมง ago

ผู้ใช้งาน Gemini ทั่วโลกสามารถใช้ Imagen 3 เพื่อสร้างภาพ AI คุณภาพสูงสุดได้แล้ว

ในตอนนี้ Google ที่ไ...

Android News5 ชั่วโมง ago

ลือ ! หน้าจอ realme GT7 Pro รุ่น Global จะใช้ของ Samsung ไม่ใช้ BOE X2 แบบในจีน

แบรนด์ฝั่งจีนทั้ง vi...

How To7 ชั่วโมง ago

[How To] วิธีการใช้งาน iPhone Mirroring บน macOS Sequoia พร้อมข้อจำกัดที่ควรทราบ !

ใครที่มี MacBook และ...

Android News8 ชั่วโมง ago

หลุดเครื่องจริง vivo X200 Pro mini เรือธงไซส์เล็ก l ขอบจอบางเฉียบ l 4 ตัวเลือกสี

ปีที่แล้ว vivo ได้เป...

Android News9 ชั่วโมง ago

รอซื้อ !! Xiaomi Pad 7 Ultra อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาแล้ว ลุ้นเปิดตัวพร้อมแท็บเล็ตเกมมิ่ง Redmi

หลังจากที่ Xiaomi ได...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก