รีวิว Xiaomi 11 Lite 5G NE สมาร์ทโฟน 5G บางสุดของแบรนด์ พร้อมจอ AMOLED 10-bit และกล้องที่ให้สร้างสรรค์ได้สุดขีด

Xiaomi 11 Lite 5G NE สมาร์ทโฟนในคอนเซ็ปต์ “Own Your Style” ที่มาพร้อมความบางเบาขั้นสุด สีสันสวยงามดูทันสมัยและพร้อมปลดล็อกตัวตนของคุณ โดยมีฟีเจอร์กล้องระดับเรือธงมาให้สร้างสรรค์ผลงานเพียบ และแสดงผลได้คมชัดผ่านหน้าจอ AMOLED แบบ 10-Bit วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวฉบับเต็มให้ได้ชมกันครับ

สรุปสเปค Xiaomi 11 Lite 5G NE

• ขนาดรอบตัวเครื่อง : 160.53 x 75.73 x 6.81 มม.
• น้ำหนัก : 158 กรัม
• หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9, 402 ppi พร้อม 10-bit (1.07 พันล้านสี) รองรับ HDR10+, Refresh Rate 90Hz และ Contrast ratio : 5,000,000:1
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 778G ความเร็วสูงสุด 2.4GHz
• GPU : Adreno 642L
• RAM : 6/8GB LPDDR4X
• ROM : 128/256GB UFS 2.2 รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
  • เลฃนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ TeleMacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 3-7 เซนติเมตร
• กล้องหน้า In-Display Selfie ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.24
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
• รองรับการใช้งาน 5G NR: n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n41/n66/n77/n78
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4250mAh รองรับ 33W Fast charging

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

• ตัวเครื่อง Xiaomi 11 Lite 5G NE พร้อมฟิล์มกันรอย
• อะแดปเตอร์ 33W Fast charging
• สาย USB Type-C
• หัวแปลง Type-C เป็น 3.5 มม.
• อุปกรณ์เปิดถาดซิม
• เคสใส
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

สมาร์ทโฟน 5G บางสุดของ Xiaomi

ตั้งแต่ได้สัมผัสแรกหลังแกะกล่องออกมา Xiaomi 11 Lite 5G NE มีน้ำหนักที่เบาและบางมากๆ แต่ก็ดูมีความแข็งแรงในตัวครับ ซึ่งตัวเครื่องมีความบางเพียง 6.81 มม. ซึ่งเป็นรุ่น 5G ที่บางที่สุดของแบรนด์แล้วด้วย แถมน้ำหนักก็เบามากๆ เพียง 158 กรัมเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้สบายมือแม้ใช้งานเป็นเวลานาน

ที่สำคัญ ตัวขอบหน้าจอก็มีความบางเพียง 1.88 มม. เท่านั้น ทำให้การแสดงผลต่างๆ ทำได้แบบเต็มตายิ่งขึ้นด้วย

ที่ไม่พูดไม่ได้เลยในเรื่องดีไซน์คือสีสันของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ที่มีความสดใสทุกสี โดยสีที่เราได้มาเป็นสีชมพูอ่อน Peach Pink ที่มีความละมุนสุดๆ ยิ่งได้สะท้อนกับแสงภายนอกก็จะมีการสะท้อนเปลี่ยนสีเล็กๆ ด้วย ซึ่งรุ่นนี้ก็ยังมีอีก 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ Truffle Black, สีฟ้า Bubblegum Blue และสีพิเศษ สีขาว ‘Snowflake White’

และดีไซน์ทั้งหมดใน Xiaomi 11 Lite 5G NE ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก สีสันเรียบหรูและดูพรีเมี่ยม

หน้าจอเรือธงระดับ 10-Bit

แม้ว่าจะเป็นตระกูล Lite แต่ Xiaomi 11 Lite 5G NE ก็จัดหน้าจอให้มาแบบขั้นสุดนึกว่าเรือธงเลยทีเดียว ตั้งแต่พาเนลแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.55 นิ้ว ระดับ FHD+ ใช้งานได้เต็มตาไม่มีขัดใจแน่นอน ทั้งยังรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ช่วงสีกว้างถึงระดับ DCI-P3 และเทคโนโลยีแสดงผล TrueColor ระดับ 10-bit หรือ 1.07 พันล้านสีที่ปกติเราจะได้เห็นแค่ในรุ่นเรือธงเท่านั้น ช่วยให้การแสดงผลของสีสันเวลาใช้งาน ดูวิดีโอหรือภาพยนตร์ ทำได้สมจริงขั้นสุด

ซึ่งเรายังได้ความไหลลื่นด้วย Refresh Rate 90Hz ควบคู่กับ Touch Sampling Rate 240Hz ที่ใครใช้งานเพื่อเล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างดีแน่นอนครับ

มาต่อกันที่รอบเครื่องกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง เริ่มด้วยด้านบนของหน้าจอที่จะมีกล้องหน้าแบบ DotDisplay ฝังที่มุมซ้ายบน พร้อมลำโพงที่ 2 ตรงกลาง

ด้านขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่ใช้งานเป็นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย

ขณะที่ด้านบนตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 และ IR Blaster ครับ

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีทั้งช่องสำหรับใส่ MicroSD Card แบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 จะเป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังที่มีกล้อง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งตัวกล้องเกือบจะมีความนูนออกมาน้อยมาก ทำให้เวลาวางเครื่องก็สบายใจได้เลยว่าจะไม่กระทบถึงเลนส์กล้องมากเกินไป

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

Xiaomi 11 Lite 5G NE แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด ทั้ง Android 11 และ MIUI 12.5.4 ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ และความเสถียรในการใช้งานทำได้อย่างเต็มที่ไม่มีสะดุดแน่นอนครับ ซึ่งพื้นที่คงเหลือหลังแกะกล่องก็มีให้เต็มที่กว่า 100GB

รองรับ 5G Dual Sim

ใครที่มี 2 ซิมเพื่อใช้งานเป็นประจำแล้วต้องการเปิด 5G พร้อมกัน รุ่นนี้ก็ทำได้สบายๆ ครับ และความเร็วของเครือข่ายก็ไม่มีตกอีกด้วย ใครที่ใช้เพื่อเล่นเกมหรือดูวิดีโอบ่อยๆ จะต้องชอบแน่นอน

รองรับ Always On-Display (AOD)

ด้วยความที่เป็นหน้าจอ AMOLED ก็จะมีฟีเจอร์ AOD มาให้ใช้งานกันครับ ซึ่งจะเป็นการบอกเวลา และรายละเอียดการแจ้งเตือนของระบบให้ได้ทราบกันผ่านหน้าจอนี้โดยไม่จำเป็นต้องปลดล็อกเข้าไปดูครับ

เราสามารถปรับแต่งความสวยงามต่างๆ ให้เป็นสไตล์ที่เราชอบได้เหมือนกัน มีให้เลือกธีมหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่เราเขียนข้อความขึ้นมาเอง หรือเป็นหน้านาฬิกาแบบอนาล็อกหรือดิจิทัลก็มีให้ครบ รวมถึงบางธีมก็สามารถแต่งสีสันได้เองอีกด้วย

ระบบความปลอดภัย

สำหรับระบบความปลอดภัย โดยการสแกนลายนิ้วมือก็จะอยู่ตรงปุ่ม Power ครับ ซึ่งการออกแบบตัวปุ่มที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือจะไม่ได้เป็นแบบการยุบเข้าไปในตัวเครื่อง แต่เป็นเหมือนกับปุ่ม Power ปกติ ทำให้ดูมีความสวยงามในการใช้งานมากขึ้น

ขณะที่การสแกนใบหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน และมีความรวดเร็วมากๆ ด้วยครับ

ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ

สำหรับสายเอนเตอร์เทนต์ Xiaomi 11 Lite 5G NE ก็มาพร้อมกับลำโพงคู่แบบสเตอริโอเสียงกระหึ่มอีกด้วย มีการแยกเสียงซ้าย-ขวาชัดเจน ช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งานเข้าไปอีกขั้น โดยตัวเนื้อเสียงจะมีความแหลมเล็กน้อย

โหมดถนอมสายตา

เวลาที่ใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานอาจเกิดความเมื่อยล้าได้ครับ ซึ่งรุ่นนี้ก็จัดโหมดการอ่านมาให้ด้วย ซึ่งจะปรับได้แบบ ได้แก่ โหมดคลาสสิกที่จะตัดแสงสีฟ้าออกไป

หรือจะเป็นแบบโหมดกระดาษที่นอกจากจะตัดแสงสีฟ้าแล้ว ก็ยังเพิ่มลายพื้นผิวให้คล้ายกับผิวของกระดาษจริงด้วย

เปิด Dark Mode ใช้ตอนกลางคืนได้

หรือใครจะใช้งานเป็นโหมดกลางคืนที่ยังคงสีสันต่างๆ ไว้คงเดิม แต่พื้นหลังเป็นสีดำเพื่อไม่ให้แสบตาก็ทำได้เหมือนกันครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

Xiaomi 11 Lite 5G NE ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G ความเร็ว Clock สูงสุด 2.4GHz มีสถาปัตยกรรมขนาด 6nm ทำให้ประหยัดพลังงานและมีความแรงแทบจะที่สุดแล้วใน Snapdragon 7 Series ครับ ทั้งยังมีชิป Qualcomm AI Engine รุ่นที่ 6 เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลระดับ AI 12TOPS เข้าไปอีก

ส่วนเรื่อง RAM ที่ให้มา 6GB หรือ 8GB ก็จะมีฟีเจอร์พิเศษที่แปลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่เหลือใช้เป็น RAM ได้อีก 2GB ครับ ทำให้ใช้งานได้ลื่นยิ่งขึ้นหรือจะเปิดแอปแล้วให้ทำงานพื้นหลังก็ทำได้มากขึ้นด้วย

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

สำหรับ ROV เกมมหาชนที่หลายคนคงเล่นกันครับ โดยสามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมด แต่เฟรมเรทยังเป็นแบบ 30fps อยู่ (คาดว่าจะได้อัปเดทเพิ่มเติมในอนาคต) แถมเล่นได้แบบสบายมากตั้งแต่ต้นเกมถึงจบเกม หรือช่วงที่มีการปล่อยสกิลใส่กันรัวๆ เฟรมเรทก็ยังคงนิ่งๆ 30fps

Asphalt 9: Legends

ต่อมากับเกมกราฟิกที่แรงขึ้นมาอีกนิดกับเกมแข่งรถ Asphalt 9: Legends สามารถเปิดภาพระดับสูงได้ เพิ่มอรรถรสในการเล่นให้สนุกขึ้นไปอีก แถมภาพที่แสดงผลออกมาบนหน้าจอก็สวยมากๆ สีสันจัดเต็มสุดๆ

PUBG Mobile

และใครที่เล่นเกมสาย FPS อย่าง PUBG Mobile (หรือ Call of Duty: Mobile) ก็เล่นได้สบายหายห่วงครับ เล่นได้ไหลลื่น หน้าจอตอบสนองได้ไวแบบเรียลไทม์เลยทีเดียว รวมถึงเวลาเคลื่อนไหวซ้าย-ขวาไวๆ ภาพก็ไม่เบลอด้วย Refresh Rate ที่ 90Hz ครับ

แบตเตอรี่อึดพร้อมชาร์จเร็ว 33W

ในเรื่องแบตเตอรี่ก็จัดมาให้ถึง 4250mAh ซึ่งจริงๆ ก็ใช้งานทั่วไปได้ครบวันแน่นอนครับ หรือใครเล่นเกมหนักหน่อยก็อาจอยู่ได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง แต่รุ่นนี้ก็ยังรองรับ 33W Fast charging ที่ชาร์จเร็วสุดๆ โดยจากที่เราทดสอบจากเหลือ 20% เต็ม 100% ใช้เวลาไปประมาณ 65 นาทีครับ

กล้องถ่ายรูป

มาถึงเรื่องกล้องถ่ายรูปกันบ้าง โดย Xiaomi 11 Lite 5G NE ได้จัดกล้องระดับเรือธงมาใส่ให้เพื่อใช้งานได้เต็มที่และมีฟีเจอร์เยอะมากๆ โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอที่หาจากสมาร์ทโฟนรุ่นไหนไม่ได้ในตอนนี้ครับ จะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

กล้องคมชัดสูงสุด 64MP พร้อมตรวจจับฉากด้วย AI

เลนส์หลักของ Xiaomi 11 Lite 5G NE จัดมาให้คมชัดสุงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ใครจะโหมดนี้เพื่อนำไปใช้งานและตกแต่งต่อก็ทำได้แน่นอนครับ ได้ทั้งความคมชัดและสีสันก็ยังคงสวยงามอยู่

ทั้งนี้ เมื่อใช้ในโหมดปกติก็จะได้ AI เข้ามาช่วยในการแยกแยะวัตถุ เช่น ตัวอักษร, ท้องฟ้า, อาหาร และดอกไม้ เป็นต้น ซึ่งการแยกแยะนี้จะทำให้แสง เงา และสีสันของแต่ละวัตถุเป็นไปได้อย่างเหมาะสม

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Ultra-Wide Angle เก็บได้ครบทุกองค์ประกอบ

ในเลนส์ Ultra-Wide Angle ก็จัดมุมกว้างมาให้ถึง 119 องศา จะเก็บบรรยากาศต่างๆ หรือวัตถุที่มีความสูงก็ทำได้ครบมาก ไม่ต้องถอยออกไปไกลๆ โดยมีสีสันและ Contrast ที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่าย Portrait เนียนตาพร้อมฟีเจอร์ให้เล่นเพียบ

ในการถ่าย Portrait เราก็ต้องการภาพที่มีความสวยงามเนียนตา เบลอฉากหลังที่ตัดขอบได้ดี ซึ่งรุ่นนี้ก็ทำได้ตามความต้องการทั้งหมด และยังมีการปรับความบิวตี้ได้ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

หรือใครจะปรับค่าปรับรูรับแสงเพื่อเบลอมากเบลอน้อยก็ทำได้ตามใจชอบ ปรับได้ตั้งแต่ f/1.0 ถึง f/16 (f ยิ่งน้อยยิ่งเบลอเยอะ)

• 

ทั้งนี้ก็ยังมีฟิลเตอร์สำหรับการถ่าย Portrait ให้เลือกเป็น 20 แบบ เพื่ออารมณ์ที่หลากหลายของภาพ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์ฟ, ทาโรต์, เป็นกลาง, ต้นปาล์ม, มืดมน, ท้องฟ้า, ฟิล์ม, ขาวดำ และคลาสสิก เป้นต้น

• 

• 

• 

ฟีเจอร์ยังไม่หมดครับ เพราะยังมีเอฟเฟ็กต์ Portrait ให้ใช้งานด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับฟิลเตอร์โดยสิ้นเชิง และมีหลายแบบให้ใช้เหมือนกัน ได้แก่ นีออน, แฟนธ่อม, คิดถึง, รุ้ง, เสื่อมสลาย, บีม, ปนเป, สีแดง และดินแดนแห่งความฝัน

• 

• 

• 

• 

• 

Night Mode ถ่ายกลางคืนได้ขั้นสุด

โหมดนี้แน่นอนว่าเป็นการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนครับ บอกเลยว่าแม้ Xiaomi 11 Lite 5G NE จะเป็นตระกูล Lite แต่การประมวลผลเร็วมากๆ ประมาณ 1-2 วินาทีเท่านั้นเองครับ ซึ่งภาพที่ได้ออกมามีความสว่างและคมชัดมากขึ้น สามารถเห็นรายละเอียดในภาพได้แบบสบายเหมือนเดิม แตกต่างจากการใช้โหมดปกติถ่ายแน่นอนครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่ายใกล้ขั้นสุดถึง 3 ซม. ด้วยเลนส์ TeleMacro

นี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะชอบมากๆ ครับ ด้วยการถ่ายเจาะวัตถุระยะใกล้ๆ ซึ่งรุ่นนี้ใกล้ได้ตั้งแต่ 3-7 ซม. เลยทีเดียว รองรับโฟกัสอัตโนมัติอีกต่างหาก และยังมีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล มากกว่ารุ่นอื่นๆ ที่มักจะให้ความคมชัดมาเพียง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น

• 

• 

• 

• 

• 

• 

กล้องหน้าคมชัดพร้อมโหมดบิวตี้สวยเนียน

กล้องหน้าของรุ่นนี้จัดมาให้ที่ความคมชัดถึง 20 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับโหมดบิวตี้ที่ปรับผิวเนียนได้ถึง 100 ระดับ รวมถึงการถ่าย Portrait ละลายฉากหลังก็ทำได้เนียนมากๆ ตัดขอบได้ค่อนข้างเป๊ะเลยทีเดียว

• 

• 

• 

• 

โหมดวิดีโอ

ขบการถ่ายภาพนิ่งไปแล้ว Xiaomi 11 Lite 5G NE ก็เป็นอีกรุ่นที่ให้ฟีเจอร์ด้านวิดีโอแบบจัดเต็มในระดับเรือธงเลยทีเดียวครับ ดังนี้

ฟีเจอร์ One-click AI Cinema (เอฟเฟ็กต์ภาพยนตร์)

ในโหมดนี้จะเป็นการถ่ายที่มีเอฟเฟ็กต์พิเศษที่เราไม่จำเป็นต้องไปตัดต่อผ่าน PC ให้เสียเวลา เพราะ Xiaomi 11 Lite 5G NE ทำให้แบบจบหลังกล้องเลยจ้า

• Time Freeze (หยุดเวลา) : เป็นการหยุดเวลาสิ่งของทั้งหมดในเฟรมโดยที่ตัวบุคคลในภาพยังขยับได้ตามปกติครับ

• Magic Zoom (ซูมเมจิก) : ลูกเล่นการซูมที่เล่นกับระยะเลนส์

• Night Time-lapse (เวลากลางคืนที่ล่วงเลย) : ง่ายๆ ก็คือเป็น Time-lapse ที่สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้แบบสบายๆ และยังคมชัดครับ

• Parallel World (โลกคู่ขนาน) : จะเป็นการเพิ่มสิ่งที่ถ่ายออกมาเป็นคู่ขนานแบบกลับหัว ทำให้เป็นลูกเล่นที่หลายน่าจะชอบครับ

ฟีเจอร์โคลน

สำหรับฟีเจอร์นี้จะเป็นการเน้นถ่ายภาพบุคคลทั้งแบบวิดีโอและภาพยนิ่งให้ออกมาเหมือนมีหลายคนในเฟรมภาพเดียวครับ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 แบบให้ใช้งาน ดังนี้

• รูปภาพ

• วิดีโอ

• หยุดเฟรม

Vlog Mode สำหรับสาย Vlogger

น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ Vlogger น่าจะชอบมากๆ ที่จะเป็นการแบ่งที่ละฉากและถ่ายทีละเอฟเฟ็กต์เพื่อนำมารวมกันเป็น 1 คลิปสั้นๆ โดยจะมีให้เราเลือกใช้เยอะมาก และสามารถดูตัวอย่างเอฟเฟกต์ที่เราอยากจะถ่ายได้ก่อนด้วยครับ

สรุปการใช้งาน

ตลอดการใช้งาน Xiaomi 11 Lite 5G NE น่าจะเป็นหนึ่งในรุ่นที่ชอบมากที่สุดครับ เรื่องความไหลลื่นในการใช้งานแทบไม่ต้องห่วง ทั้ง CPU Snapdragon 778G พร้อมมีจอ 90Hz เข้ามาช่วยเสริมการใช้งานกันไปอีก โดยหน้าจอก็แสดงผลสีสันได้สดมากๆ ดูวิดีโอได้แบบไม่รู้สึกขัดตา (จอเรือธงแบบ 10-Bit) ส่วนเรื่องกล้องน่าจะเป็นพระเอกของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ครับ ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาถือว่าเยอะมากๆ โดยเฉพาะด้านวิดีโอที่ทำได้เกินตระกูล Lite จริงๆ ใครที่เล็งรุ่นใหม่เอาไว้ ก็ไม่ควรพลาดรุ่นนี้เด็ดขาด !

ราคาและวันวางจำหน่าย

Xiaomi 11 Lite 5G NE เปิดราคาในไทยตามรุ่นตามความจุ ดังนี้

• รุ่น 6 GB + 128 GB : 10,990 บาท
• รุ่น8 GB + 128 GB : 11,990 บาท
• รุ่น 8 GB + 256 GB : 13,990 บาท

โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กันยายนนี้เป็นต้นไป