Connect with us

Featured

รีวิว Vivo Y20 สมาร์ตโฟนกล้อง AI Triple Macro Camera สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง และแบตอึด 5000mAh

Published

on

Vivo Y20 สมาร์ตโฟนน้องเล็กสเปคสุดคุ้ม หน้าจอ Halo Full View Display กว้างถึง 6.51 นิ้ว มีสแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง จัดเต็มกล้อง 3 เลนส์ AI Triple Macro Camera พร้อมแบตเตอรี่แบบอึดๆ 5000mAh ในราคาสุดสบายกระเป๋า

 

สรุปสเปค Vivo Y20

  • ขนาดตัวเครื่อง : 164.41 x 76.32 x 8.41 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 192.3 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Halo Full View Display ชนิด IPS กว้าง 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) อัตราสว่น 20:9 และพื้นที่การแสดงผล 89%
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 460 Octa Core
  • RAM 4 GB
  • ROM 64 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 256GB
  • ระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ AI Triple Macro Cameara แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต Micro USB 2.0
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

Vivo Y20 สะดุดตาตั้งแต่ตัวกล่องเลยทีเดียว เพราะเล่นโทนสีฟ้าได้อย่างสวยงามตามสีประจำของแบรนด์ครับ โดยแบ่งพื้นสีขาวส่วนบนเล็กน้อย มีชื่อรุ่น Y20 ส่วนด้านล่างเป็นสีน้ำเงินมีเส้นตัดพร้อมชื่อแบรนด์ Vivo

อุปกรณ์ต่างๆ ภายในกล่องมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง Vivo Y20 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์
  • สาย MicroUSB 2.0
  • เคสใส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

ดีไซน์ของ Vivo Y20 นั้นออกแบบได้สวยงาม ตัวฝาหลังจะเด่นชัดที่โมดูลกล้องที่เหมือนกับการสาดแสงออกมาครับ ทำให้ดูสะดุดไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีขาว Dawn White ให้ความรู้สึกสดใส อบอุ่นในยามเช้า ส่วนอีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีน้ำเงิน Nebula Blue ครับ

 

ส่วนการจับถือนั้นถนัดมือ ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกครับ ซึ่งตัวขอบด้านข้างจะมีความโค้ง 2.5D เพื่อไม่ให้ถือนานๆ แล้วฝ่ามือเป็นรอย

 

ด้านหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ทำออกมาได้ใหญ่สะใจเลยทีเดียวครับ ด้วยขนาด 6.51 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 ใครที่ชอบดูวิดีโอต่างๆ ถือว่าจุใจแน่นอน

 

ส่วนเรื่องสีสันของหน้าจอชนิด IPS ก็ทำออกมาได้ดีในเรทราคาระดับนี้ครับ ซึ่งความคมชัดจะได้อยู่ที่ HD+ รับชมเนื้อหาต่างๆ ได้คมชัดอยู่

 

บริเวณเหนือหน้าจอแสดงผลจะมีหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าลงไป 1 เลนส์ ถัดขึ้นไปจะมีลำโพงสำหรับสนทนาเท่านั้น

 

ทางขวาตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power พร้อมใช้เป็นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย ถัดขึ้นไปจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

 

ขณะที่ด้านซ้ายจะมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM ถึง 2 ช่อง และมีช่องใส่ MicroSD แยกมาให้อีก 1 ช่องด้วย

 

ทางด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต Micro USB 2.0 และลำโพงตัวหลัก

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Macro Camera เรียงในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลช 1 ดวงที่อยู่ด้านล่างสุดครับ

 

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

ด้านซอฟต์แวร์ของ Vivo Y20 แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็มาพร้อม Android 10 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5 รุ่นล่าสุด ทำให้การจัดการพลังงานนั้นทำได้ดี และไหลลื่นมากขึ้นแม้ว่าจะเป็นรุ่นราคาสุดประหยัดก็ตาม

 

หน้าตา UI : Funtouch OS 10.5

 

วอลเปเปอร์สวยงาม มีให้เลือกเยอะ

ใครที่อยากเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ให้เข้ากับตัวเครื่องก็มีให้เลือกประมาณ 10 แบบครับ ชอบแบบไหนก็ลองเลือกกันได้เลย

 

การรักษาความปลอดภัย

หนึ่งในความความพิเศษของ Vivo Y20 คือความสะดวกในการสแกนลายนิ้วมือครับ เพราะอยู่ที่ข้างตัวเครื่องในปุ่ม Power กันเลย ใครถนัดมือขวาก็แค่เพียงหยิบเครื่องขึ้นมา นิ้วโป้งก็จะอยู่ตรงกับตัวสแกนพอดีเป๊ะ ทำให้หยิบขึ้นก็มาก็ใช้งานได้ทันทีเพราะสแกนได้เร็วสุดเพียง 0.33 วินาทีเท่านั้น

 

ส่วนใครไม่ถนัดการสแกนลายนิ้วมือ ก็ยังมีการสแกนใบหน้าที่ทำงานได้ค่อนข้างเร็วครับ

 

เปลี่ยนเอฟเฟกต์ไม่ซ้ำใครด้วย Dynamic Effects

ในหน้าจอล็อกอาจมีเอฟเฟกต์เคลื่อนไหว ในช่วงที่มีการสแกนใบหน้าหรือการชาร์จ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนได้เกือบ 10 แบบเลยทีเดียว

 

มีโหมดถนอมสายตา

ใครที่ใช้งาน Vivo Y20 ไปนานๆ อาจมีอาการล้าดวงตาได้ครับ ทำให้มีโหมดถนอมสายตาเพื่อช่วยลดแสงสีฟ้าได้อย่างดี สามารถปรับโทนความเข้มได้ตามความชอบ หรือใครที่อยากให้ระบบปรับอัตโนมัติ ก็มีตัวเลือกการเปิดหรือปิดตามพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย

 

โหมดมืดก็มีให้เลือกเช่นกัน

ใครไม่อยากตัดแสงสีฟ้าออก รุ่นนี้ก็มีตัวเลือกโหมดมืดมาให้ใช้งานเพื่อความสบายตาครับ โดยจะเปลี่ยนพื้นหลังและแอปพลิเคชั่นที่รองรับ Dark Mode เป็นสีดำทั้งหมด

 

โคลนแอป

ฟีเจอร์นี้ยังคงมีมาให้แน่นอน สำหรับการโคลนอีก 1 แอปเพื่อใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียอีก 1 บัญชีแยกกันได้ครับ เช่น การแบ่ง Line เป็น 2 บัญชี เป็นต้น

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ฮาร์ดแวร์ภายในของ Vivo Y20 นั้นเลือกหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 Octa Core มาขับเคลื่อน โดยมีขนาดเล็กที่ 11 นาโนเมตรเท่านั้น ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับชิปที่ใกล้เคียงกันครับ ทั้งยังมี ROM ให้ 64GB สามารถโหลดแอปพลิเคชั่นหรือถ่ายรูปต่างๆ ได้ไม่ต้องกลัวเต็ม

 

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 255 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,041

 

ปิดการแจ้งเตือนพร้อมรีดประสิทธิภาพให้ดีขึ้นระหว่างเล่นเกม

ก่อนจะทดสอบการเล่นเกม Vivo Y20 นั้นมี 2 ฟีเจอร์หลักเพื่อให้เราเล่นเกมได้แบบไม่มีสะดุดครับ ทั้ง Ultra Game Mode 8.0 ที่ช่วยในเรื่องการสั่นของเครื่องทำให้ได้อรรถรสมากขึ้น พร้อมกับการปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้มาบังหน้าจอ ทั้งยังมีเทคโนโลยี Multi Turbo 3.0 ช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นขึ้น ทั้งด้านเครือข่าย, ความร้อนตัวเครื่องจัดการได้ดีขึ้น และภาพที่มีความสมูธกว่าเดิม

 

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

เรามาทดสอบที่เกมแรกอย่าง ROV เราสามารถเปิดภาพ HD ได้ที่ระดับสูงมาก และกราฟิกในระดับสูงครับ ส่วนเฟรมเรทสูงก็เปิดได้เช่นกัน ต้องบอกว่าเมื่อเล่นในโหมด 5 VS 5 ตามปกติ รุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาดสุดๆ เฟรมเรทมาแบบนิ่งๆ 59-60fps ตั้งแต่ต้นเกมถึงจบเกมครับ ในช่วงที่มีการบวกกันเยอะๆ เฟรมเรทก็ไม่ดรอปให้เห็นด้วย

 

PUBG Mobile

มาลองที่เกม Battle Royale กันบ้างอย่าง PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับสมดุลคู่กับเฟรมเรทกลางครับ ภายในเกมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว การสัมผัสต่างๆ ถือว่าทำได้ดีมากกับสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้ครับ

 

แบตเตอรี่อึดอยู่ได้ครบวัน

ในเรื่องความอึดในรุ่นเล็กของ Vivo อย่าง Vivo Y20 ต้องบอกว่าชาร์จให้เต็มแค่ตอนเช้าก็อยู่ได้ทั้งวันแน่นอน จากการมีแบตเตอรี่ความจุถึง 5000mAh แต่ถ้าใครเล่นเกมหนักๆ ก็อาจต้องได้ชาร์จกันบ้าง ความอึดของแบตเตอรี่ใน Vivo Y20 ให้เราชมภาพยนตร์ในรูปแบบ HD ได้นานสูงสุด 16 ชั่วโมง หรือเล่นเกมได้นานถึง 11 ชั่วโมง ซึ่งรุ่นนี้ยังมี Reverse charging หรือเป็น Power Bank ให้กับรุ่นอื่นได้ด้วย (จำเป็นต้องใช้งานคู่กับสาย OTG ซึ่งต้องซื้อแยกต่างหาก)

 

กล้องถ่ายรูป

Vivo Y20 ยังจัดเต็มเรื่องกล้องหลังที่มีให้ถึง 3 เลนส์ใช้งานกับครบครัน ทั้งเลนส์หลัก + เลนส์ Super Macro ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร และเลนส์ Bokeh ช่วยในการถ่าย Portrait เบลอหลังได้ดีขึ้น โดยฟีเจอร์ต่างๆ มีดังนี้

AI ฉลาด แยกแยะหมวดหมู่ได้

ในเลนส์หลักของ Vivo Y20 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากครับสำหรับเรทราคาเดียวกัน การโฟกัสทำได้เร็ว โดยมีสีสันที่สดใส ภาพคมชัด แสงและเงาถือว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะถ่ายบุคคลหรือวัตถุต่างๆ สามารถนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียได้แบบสบายๆ

 

เบลอหลัง Portrait ได้แบบเนียนๆ ด้วย Face Beauty

นอกจากโหมดปกติแล้ว ในการถ่ายภาพ Portrait ก็ขาดไปไม่ได้เลยครับ บอกเลยว่า Vivo Y20 ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด การตัดขอบเพื่อเบลอฉากหลังทำได้ค่อนข้างเนียน และใบหน้าก็มีการปรับ Face Beauty ให้ดูเนียนและสวยสดใสอีกด้วย

 

ทั้งนี้ หากใครที่ถ่ายออกมาแล้วอยากปรับความเบลอฉากหลังให้มากขึ้นหรือน้อยลง ก็มาแก้ไขค่ารูรับแสง (F) ได้อีกครั้งในอัลบั้มครับ ซึ่งกว้างสุดถึง f/0.95 และแคบสุดที่ f/16

 

ใครที่อยากปรับใบหน้าเองก็มีให้เลือกหลายโหมด ไม่ว่าจะเป็นผิวนวล, โทนผิว, ปรับขาว, หน้าเรียว, ตาโต, จมูก และอื่นๆ เพียบ โดยแต่ละอย่างสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0 – 100 ระดับไปเลย

 

นอกจากนี้ ในโหมด Portrait กล้องหลังและกล้องหน้ายังมีเอฟเฟกต์บุคคลให้เลือกไปใช้งานกันอีกด้วยหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังขาวดำ

เอฟเฟกต์บุคคลกล้องหลัง

เอฟเฟกต์บุคคลกล้องหน้า

 

Super Macro ถ่ายใกล้ก็คมชัด

ในเลนส์ Super Macro เราสามารถถ่ายวัตถุในระยะที่โฟกัสได้ถึง 4 ซม. เลยทีเดียวครับ ภาพที่ได้ออกมาแม้ว่าจะมีสีสันดรอปจากเลนส์หลัก (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ) แต่ก็มีความคมชัดอยู่ครับ

 

กล้องหน้าสวยงามด้วย AI Beauty

มาต่อกันที่กล้องหน้าครับก็ให้ความละเอียดมาที่ 8 ล้านพิกเซล การถ่ายเซลฟี่มีความคมชัด แถมมีความสวยงามของใบหน้าด้วยการให้ AI มาปรับให้อัตโนมัติครับ ภาพที่ได้ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่ นอกจากนี้ การปรับแต่งใบหน้าก็ทำได้เหมือนกับกล้องหลังเลยด้วย

 

กล้องหน้า Portrait เบลอหลังได้เหมือนกัน

ไม่ใช่แค่กล้องหลังที่ถ่าย Portrait ได้เท่านั้น แต่ฟีเจอร์นี้ก็มีที่กล้องหน้าเหมือนกันครับ ที่นอกจากความ Beauty แล้ว การเบลอฉากหลังเพื่อให้ภาพที่มิติก็ทำออกมาได้ดี ซึ่งใบหน้ายังมีความสว่าง ไม่มืดแม้ย้อนแสง

 

สรุปจุดเด่น

  • กล้องหลัง 3 เลนส์แบบจัดเต็มทั้งโหมดปกติ, Macro หรือ Portrait เบลอฉากหลัง
  • หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว ได้อรถถรสในการชมวิดีโอต่างๆ เต็มที่
  • ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 460 สามารถใช้งานทั่วไปได้ไหลลื่น
  • แบตเตอรี่มีความจุถึง 5000mAh ใช้งานได้ครบตลอดวันแน่นอน
  • มีช่องสำหรับใช้งานแบบ 3 Slot ใส่ซิมการ์ดได้ 2 ช่อง และอีก 1 MicroSD สูงสุด 256GB

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
  • ตัวเครื่องไม่กันน้ำ

ใครที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ Vivo Y20 ได้แล้วในราคาเพียง 5,299 บาทเท่านั้น ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

Vivo Y20

กำลังฮอต

Featured1 สัปดาห์ ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News1 เดือน ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก