เทียบสเปคชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 1 และ MediaTek Dimensity 9000

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Snapdragon 8 Gen 1 หน่วยประมวลผลเรือธงจาก Qualcomm ที่สเปคต่างๆ มีการพัฒนาขึ้นจาก Snapdragon 888 อย่างมากครับ ซึ่งก็ยังมีเรือธงจากฝั่ง MediaTek อย่าง Dimensity 9000 ที่ปีนี้ก็มาดีเช่นกัน ใครที่เล็งสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปตัวไหนไว้ วันนี้เราจะนำสเปคหลักๆ มาเทียบกันให้ชมเลยครับ

ขนาดและคอร์ CPU

ทั้ง 2 ชิปนี้ ใช้สถาปัตยกรรมขนาดเล็กเพียง 4 นาโนเมตรเท่ากัน แต่ Snapdragon 8 Gen 1 ได้ใช้การผลิตจาก Samsung แต่ Dimensity 9000 จะผลิตจาก TSMC ครับ ขณะที่คอร์ CPU แกนต่างๆ ใช้เหมือนกันเป็นแบบ octa-core (8 คอร์) แต่ต่างกันที่ความเร็ว Clock ดังนี้

Snapdragon 8 Gen 1

• Cortex-X2 ความเร็ว 3.0GHz จำนวน 1 คอร์
• Cortex A710 ความเร็ว 2.5GHz จำนวน 3 คอร์
• Cortex A510 ความเร็ว 1.8GHz จำนวน 4 คอร์

Dimensity 9000

• Cortex-X2 ความเร็ว 3.05GHz จำนวน 1 คอร์
• Cortex A710 ความเร็ว 2.85GHz จำนวน 3 คอร์
• Cortex A510 ความเร็ว 1.8GHz จำนวน 4 คอร์

ส่วน GPU ฝั่ง Snapdragon ใช้เป็น Adreno GPU ส่วน Dimensity 9000 ใช้เป็น ARM Mali-G710 MC10 ครับ

การรองรับด้านการถ่ายภาพ

ในด้านการถ่ายภาพมีความแตกต่างกันพอสมควรครับ ขอเริ่มด้วย Snapdragon 8 Gen 1 ที่มาพร้อมชิป ISP เป็น Snapdragon Sight แบบ 18-Bit สามารถถ่ายภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ได้ 240 ภาพใน 1 วินาที หรือความละเอียด 3.2 Gigapixels ใน 1 วินาที ทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 8K HDR และ 18-bit RAW

ส่วน Dimensity 9000 ใช้ 18-Bit HDR ISP รองรับการกล้องความละเอียดสูงสุด 320 ล้านพิกเซล หรือความละเอียด 9 Gigapixels ใน 1 วินาที ทั้งยังถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K HDR ได้ทั้ง 3 เลนส์กล้อง

การเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อของทั้ง 2 ชิป รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 6 รวมถึงการรองรับเครือข่าย 5G แต่ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด Snapdragon 8 Gen 1 ทำได้สูงสุดที่ 10Gbps และ Dimensity 9000 ที่ 7Gbps นอกจากนี้ การเชื่อมต่อ Bluetooth ฝั่ง Snapdragon รองรับ Bluetooth 5.2, LE ส่วน Dimensity 9000 เป็นชิปสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Bluetooth 5.3, LE

สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของทั้ง 2 ชิป เราอาจจะได้เห็นของฝั่ง Snapdragon 8 Gen 1 ก่อนในช่วงปลายปีนี้เลยครับ ขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่จะใช้ Dimensity 9000 อาจได้เห็นกันในต้นปีหน้าเลยครับ

ที่มา : Qualcomm, MediaTek