รีวิว Samsung Galaxy A52 5G สมาร์ทโฟนจัดเต็มกล้อง AI Camera Pro Plus รองรับ 5G และฟีเจอร์ครบ ในราคาเพียงหมื่นต้นๆ

Samsung Galaxy A52 เชื่อว่าเป็นรุ่นที่ใครหลายคนกำลังรอคอยกันอยู่ครับ โดยเหมาะมากๆ สำหรับยุค Gen Z ที่เน้นทำคอนเทนต์เป็นหลัก โดยจัดเต็มในเรื่องกล้องและวิดิโอที่ถ่ายได้อย่างงามๆ ด้วย Super AI Camera Pro Plus รวมถึงการรองรับ 5G สุดเร็วแรง จะส่งหรือดูข้อมูลก็ทำได้รวดเร็วมากๆ รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ ที่ให้มาเพียบในราคาหมื่นต้นเท่านั้น ซึ่งบอกไว้ก่อนครับว่า Samsung Galaxy A52 ที่เราได้มาเป็นรุ่น 5G ซึ่งสเปคจะเหมือนกับรุ่น LTE แทบทั้งหมดยกเว้นการรองรับ 5G เท่านั้นครับ ถ้าพร้อมกันแล้วชมรีวิวจากเรา iphone-droid.net ได้เลยครับ

สรุปสเปค Samsung Galaxy A52 LTE และ 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 159.9 x 75.1 x 8.4 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 189 กรัม
• ป้องกันน้ำมาตรฐาน IP67 (ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที)
• หน้าจอแสดงผล Infinity-O ชนิด Super AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) Refresh Rate 90Hz (รุ่น 5G รองรับ Refresh Rate 120Hz) และความสว่างสูงสุด 800 นิต
• หน่วยประมวลผล (รุ่น LTE) : Qualcomm Snapdragon 720G Octa Core ความเร็ว 2.3GHz
• หน่วยประมวลผล (รุ่น 5G) : Qualcomm Snapdragon 750G Octa Core ความเร็ว 2.2GHz
• RAM 8 GB
• ROM 128 GB (เพิ่ม microSDXC ได้สูงสุด 1TB)
• ระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์แบ่งเป็น
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra Wide-Angle มุมกว้าง 123 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม และรองรับgเครือข่าย 5G (สำหรับรุ่น 5G)
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับ 25W Fast Charge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

• ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A52 LTE หรือ 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอยเรียบร้อย
• อะแดปเตอร์ 15W Adaptive Fast Charger
• สาย USB Type-A to Type-C
• เคสใส
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
• อุปกรณ์เปิดถาดซิม

ดีไซน์สวยงามแบบ Minimalist

ในเรื่องดีไซน์ Samsung Galaxy A Series ทำออกมาได้อย่างสวยงามและมีสีสันสดใสอยู่แล้วครับ โดย Samsung Galaxy A52 5G ก็มาในรูปแบบ Minimalist ที่มีความเรียบง่ายแต่ดูสวยงามและพรีเมี่ยม สีสันแต่ละสีก็จะมีทั้งตรงฝาหลังและขอบตัวเครื่องเป็นสีเดียวกัน ที่สำคัญยังคงมีความบางและเบาของตัวเครื่องมากพอสมควรครับ

หากใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่าโมดูลกล้องและฝาหลังของ Samsung Galaxy A52 5G จะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดครับ แถมตัวเครื่องก็ใช้เป็นแบบ Haze Matte Surface ที่เป็นผิวด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือและก็ไม่ได้รู้สึกลื่นแม้ไม่ได้ใส่เคสครับ

สีสันที่เราได้มาเป็นสีม่วงอ่อน Awesome Violet ที่มีความสดใสมากๆ ซึ่งก็มีอีก 3 สีให้ได้เลือกกัน ได้แก่ สีฟ้า Awesome Blue, ดำ Awesome Black และขาว Awesome White

ป้องกันน้ำ IP67 ครั้งแรกใน Galaxy A Series

Samsung Galaxy A52 5G เป็นสมาร์ทโฟน A Series รุ่นแรกของ Samsung ที่มีมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 ครับ โดยสามารถทนความลึกได้ 1 เมตร นาน 30 นาที แต่เราก็ไม่ได้แนะนำให้ใช้งานในน้ำจริงๆ นะครับ แต่มีไว้ป้องกันตกน้ำโดยไม่ตั้งใจจะดีกว่า

หน้าจอแสดผลสุดลื่นสูงสุด 120Hz

Samsung Galaxy A52 5G มาพร้อมกับหน้าจอขั้นสุด โดยเป็นแบบ Infinity-O ชนิด Super AMOLED ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ซึ่งหน้าจอนี้จะถนอมสายตากว่าจอชนิด TFT-LCD เมื่อใช้ในที่มืด แถมสีสันก็จัดเต็มด้วยความที่เป็น Super AMOLED

นอกจากความคมชัดแล้ว ความลื่นไหลก็ให้มาเหมือนเรือธงเช่นกันครับ โดย Samsung Galaxy A52 5G จะรองรับ Refresh Rate 120Hz ส่วนรุ่น LTE จะรองรับที่ 90Hz ครับ ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าใครที่ได้ใช้จอ 90Hz หรือ 120Hz แล้ว จะกลับไป 60Hz ไม่ได้แล้วจ้า เพราะการสัมผัสและความไหลลื่นต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ

Samsung Galaxy A52 ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมโหมดถนอมสายตา Eye Comfort Shied เพื่อลดแสงสีฟ้า โดยเราสามารถตั้งค่าให้เปิดเองโดยอัตโนมัติหรือเปิดเองตามกำหนดเวลาได้ครับ

บริเวณเหนือหน้าจอแสดงผล Samsung Galaxy A52 5G มาแบบกล้องหน้า Infinity-O ที่เจาะรูไว้ตรงกลางครับ ซึ่งลำโพงตัวที่ 2 จะแอบอยู่ที่ช่องว่างเล็กๆ ของขอบด้านบน แถมรองรับ Dolby Atmos ด้วย

ทางด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้อยู่ครับ ถัดไปจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1 รองรับ Dolby Atmos

ด้านบนจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่องครับ โดยช่องที่ 2 เป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card โดยที่มุมขวาจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวน

ทางขวงตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง

และที่ด้านหลังมีกล้องหลัง 4 เลนส์ โดย 3 เลนส์ฝั่งซ้ายจะเป็นเลนส์หลัก, Ultra-Wide Angle และ Depth ส่วนฝั่งขวาจะเป็นเลนส์ Macro และไฟแฟลช LED ครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

Samsung Galaxy A52 5G และ LTE แกะกล่องมาพร้อมกับซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1 ที่มีความเสถียรเทียบเท่ากับ Pure Android อีกด้วย แถมการอัปเดทก็ได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปีแน่นอนครับ โดย One UI 3.1 จะเน้นการใช้งานมือเดียวและความง่ายในการใช้งานหรือหาการตั้งค่าต่างๆ ก็ทำได้สบายๆ ครับ

หน้าตา UI : One UI 3.1

รองรับ 5G

Samsung Galaxy A52 5G รองรับการเชื่อมต่อด้วยเครือข่าย 5G ที่มีความเร็วแรงและสเถียรกว่าแบบ 4G LTE ครับ โดยการดาวน์โหลดหรืออัปโหลดก็ทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นแน่นอน

รองรับ Always-on-Display

ด้วยความที่ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ก็ทำให้รองรับฟีเจอร์นี้ครับ โดยจะเป็นการแสดงผลสถานะเบื้องต้นของเครื่องได้ทันทีบนหน้าจอล็อก ไม่ว่าจะเป็นเวลา, วันที่, แบตเตอรี่คงเหลือ และการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ ซึ่งการใช้เราสามารถตั้งให้แตะบนหน้าจอเพื่อแสดง 10 วินาที, แสดงตลอดเวลา หรือแสดงตามกำหนดเวลาด้วย

ระบบความปลอดภัย

Samsung Galaxy A52 5G มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ทันที โดยความแม่นยำและความรวดเร็วถือว่าทำได้รวดเร็วมากๆ แถมไม่เห็นความผิดพลาดครับ

ทั้งนี้ก็ยังมีการสแกนใบหน้าที่ทำได้รวดเร็วไม่แพ้กัน

ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos

ความพิเศษของ Samsung Galaxy A52 5G และ LTE มาพร้อมกับลำโพงสเตอริรอบทิศทางที่ปรับแต่งโดย Dolby ATMOS ครับ ใครที่ชอบรับชมภาพยนตร์ก็ได้เพิ่มอรรถรสมากขึ้น มีการแยกเสียงฝั่งซ้าย-ขวาชัดเจนมากๆ หรือใครจะเล่นเกมก็ได้ประโยชน์จากลำโพงคู่เช่นกัน

ส่งไฟล์ได้เร็วด้วย Quick Share และ Nearby Share

สำหรับ Quick Share จะเป็นการส่งไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Galaxy ด้วยกันอย่างรวดเร็วมากๆ ครับ ซึ่งจริงๆ อีกฟีเจอร์ที่มีให้คือ Nearby Share หรือแชร์ใกล้เคียงที่แชร์ไฟล์หว่าง Android ด้วยกันเองได้เหมือนกันครับ

ลบเคลียร์ขยะด้วยการดูแลอุปกรณ์

เมื่อใช้งานไปนานๆ ไฟล์ขยะหรือแคชในระบบจะเพิ่มมากขึ้นครับ โดยเราสามารถเคลียร์ได้ผ่านฟีเจอร์ “การดูแลอุปกรณ์” โดยให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > การดูแลแบตเตอรี่และอุปกรณ์ จากนั้นให้กด ปรับตอนนี้ ทั้งนี้ เราสามารถเพิ่มไอคอน “การดูแลอุปกรณ์” เพื่อให้เข้าถึงได้รวดเร็วเช่นกัน

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ในเรื่องประสิทธิของหน่วยประมวลผลก็จัดให้เร็วแรงเช่นกัน โดย Samsung Galaxy A52 5G ใช้ขุมพลังรุ่นกลางตัวแรงอย่าง Snapdragon 750G ส่วนรุ่น LTE จะใช้เป็น Snapdragon 720G ซึ่งความแตกต่างจะแทบไม่เห็นเมื่อใช้งานทั่วไปครับ ทั้งนี้ ใครที่ใช้ถ่ายภาพหรือวิดีโอบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกลัวเต็มครับ เพราะให้ความจุมาถึง 128GB หรือใครจะเพิ่ม microSD Card ก็ทำได้สูงสุดถึง 1TB

คะแนน AnTuTu เพื่อทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 298,492 คะแนน

รวมเกมไว้ที่เเดียวด้วย Game Launcher

สำหรับ Game Launcher จะเป็นการรวบรวมเกมทั้งหมดที่เราโหลดไว้ในที่เดียวครับ ทั้งนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ Game Booster ที่เข้ามาช่วยรีดประสิทธิภาพให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น รวมถึงการบล็อกแจ้งเตือนต่างๆ และมีการคำนวณเวลาคงเหลือตามแบตเตอรี่คงเหลือ, ความร้อนและหน่วยความจำด้วย

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

สำหรับเกม ROV เราสามารถเปิดกราฟิกระดับสูงและเฟรมเรทสูงได้ครับ โดยภายในเกมถือว่าเล่นได้ไหลลื่นมากๆ ตั้งแต่ต้นเกมถึงท้ายเกม

• 

• 

• 

• 

• 

PUBG Mobile

ในเกมนี้ การตั้งค่าเราสามารถปรับได้ที่ HD และเฟรมเรทสูงครับ โดยจะมีการอัปเดทให้ปรับได้สูงขึ้นในอนาคต ซึ่งการเล่นจะได้จอ 120Hz เข้ามาช่วยให้สัมผัสหน้าจอได้เรียลไทม์ขึ้นและเคลื่อนไหวไปตามนิ้วครับ

• 

• 

• 

• 

Asphalt 9: Legends

และสุดท้ายกับเกมแข่งรถกราฟิกสูงอย่าง Asphalt 9: Legends ก็สามารถปรับกราฟิกในระดับสูงได้ และเราก็ลองเล่นไปประมาณ 20 นาทีก็ทำได้ไหลลื่นเลยทีเดียวครับ

• 

• 

• 

• 

แบตเตอรี่อึดพร้อมชาร์จเร็วแบบพิเศษ

Samsung Galaxy A52 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ที่เท่ากันที่ความจุ 4,500 mAh โดยความอึดของแบต หากใครใช้งานทั่วไปไม่ได้เล่นเกม บอกเลยว่าอยู่ได้เฉียดๆ 2 วันครับ ทั้งนี้ ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จสูงสุด 25W อีกด้วย (ในกล่องให้มาเป็นหัวชาร์จ 15W) โดยเราลองชาร์จจาก 30% – 100% ด้วยอะแดปเตอร์ 15W จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ

กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy A52 ทั้งรุ่น 5G และ LTE นั้นมีสเปคกล้องที่เหมือนกันครับ โดยจัดกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล แบบ Super AI Camera Pro Plus เพิ่มประสิทธิภาพและความคมชัดให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นกลางได้อย่างเต็มที่ครับ ทั้งยังมีฟีเจอร์ให้เล่นเพียบไม่ว่าจะเป็น Single Take, My Filter, Fun mode และอื่นๆ เรียกว่าสายคอนเทนต์จะต้องหลงรักแน่นอนครับ

คมชัดสูง 64 ล้านพิกเซล

Samsung Galaxy A52 5G สามารถถ่ายโหมดความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4:3 ได้ครับ โดยความคมชัดที่ได้มาจะเห็นรายละเอียดได้ดีมากและซูมให้เห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

• 

AI Scene Optimizer ปรับแต่งสีสันอย่างอัจฉริยะ

เรื่องของ AI ก็เข้ามาช่วยให้ตรงกับสโลแกน Super AI Camera โดยจะปรับเปลี่ยนและตกแต่งสีสันให้ตรงกับหมวดหมู่ของภาพที่เรากำลังโฟกัส ซึ่งสามารถปรับได้มากถึง 30 รูปแบบ ทั้งยังรองรับระบบกันสั่นไหว OIS เพื่อให้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้คมชัดยิ่งขึ้น

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Ultra-Wide มุมกว้างถึง 123 องศา

เลนส์ Ultra-Wide Angle ของรุ่นนี้จัดมุมกว้างให้ถึง 123 องศา ที่แทบจะกว้างที่สุดในสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้ครับ โดยความสวยงาม สีสัน แสง และเงาแทบไม่ต่างจากเลนส์หลักครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่าย Macro คมชัดด้วยเลนส์ 5 ล้านพิกเซล

สำหรับเลนส์ Macro ที่ Samsung Galaxy A52 5G ให้มาจะมีความคมชัดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล มากกว่าสมาร์ทโฟนปกติที่ให้มาเพียง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น ทำให้เราถ่ายวัตถุระยะใกล้ๆ (3-5 เซนติเมตร) ได้คมชัดและสีสันไม่ซีดจางครับ

• 

• 

• 

• 

• 

โหมด Portrait ถ่ายละลายหลังได้เนียนตา

สำหรับโหมด Portrait ช่วยให้เราถ่ายภาพบุคคลละลายฉากหลังได้อย่างเนียนตา โดยสามารถปรับระดับได้ตั้งแต่ 0-7 ระดับครับ ทั้งนี้ เราสามารถปรับผิวเนียนได้ตั้งแต่ 0-8 ระดับ แถมใช้งานได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าอีกด้วย

กล้องหลัง

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

กล้องหน้า

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Single Take คลิกเดียวได้ทุกโหมด

สำหรับฟีเจอร์ Single Take คงยังเคยได้ยินกันบ้างโดยเข้ามาอยู่ในรุ่นกลางด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้เรากดเพียงครั้งจะได้ทั้งภาพนิ่ง, วิดีโอ, คลิป Hyperlapse, ภาพที่มีฟิลเตอร์ และครอป แต่ถ้าใครไม่อยากได้ภาพแบบไหนก็สามารถติ๊กออกได้เช่นกันครับ ซึ่งระยะเวลาการประมวลผลระหว่างถ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 5 วินาที

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่ายกลางคืนด้วย Night Mode

Samsung Galaxy A52 5G รองรับ Night Mode มาให้แน่นอนครับ โดยภาพที่ถ่ายในตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อยทำได้อย่างยอดเยี่ยมครับ แสงและสีสันเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งการทำงานจะเป็นการรวมภาพ 12 ภาพเข้าด้วยกันเป็น 1 ภาพ ที่สำคัญใช้งานได้ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Ultra-Wide ด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ยืมฟิลเตอร์ภาพอื่นง่ายๆ ด้วย My Filter

สำหรับ My Filter นั้นมีการสักพักแล้วครับใน Samsung Galaxy ซึ่งในรุ่นนี้ก็รองรับเช่นกัน ฟีเจอร์นี้เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการยืมฟิลเตอร์จากภาพที่เราชอบมาเป็นฟิลเตอร์กล้องในทันที โดยวิธีการใช้งานก็ให้เข้าไปที่สัญลักษณ์ฟิลเตอร์ (มุมขวาบน) > เลือก “ฟิลเตอร์ส่วนตัว” > กด “+” > เลือกภาพที่ต้องการยืมฟิลเตอร์ > กด “บันทึกฟิลเตอร์” จากนั้นก็กดถ่ายได้ทันทีครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

กล้องหน้าคมชัดสูง 32 ล้านพิกเซล

Samsung Galaxy A52 5G จัดกล้องหน้าคมชัดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล โดยถ่ายได้คมชัดอย่างแน่นอนครับ แต่จะถ่ายอย่างเดียวก็จะไม่สนุกแน่นอนครับ ดังนั้นก็มีฟีเจอร์ Fun Mode ที่พัฒนาร่วมกับ SnapChat มาให้เราเล่นฟิลเตอร์สนุกๆ กันได้ด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่ายวิดีโอ 4K ได้

สำหรับ Samsung Galaxy A52 5G ให้สายคอนเทนต์ถ่ายวิดิโอได้คมชัดขั้นสูงถึง 4K@30fps ครับ ทั้งยังมีฟีเจอร์ 4K Video Snap ที่เราสามารถบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ได้เหมือนถ่ายภาพปกติอีกด้วย

สรุปการใช้งาน

จากการทดสอบและรีวิว Samsung Galaxy A52 5G ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับสายคอนเทนต์จริงๆ ครับ โดดเด่นในเรื่องกล้องมากๆ ฟีเจอร์ที่ให้มาแทบไม่ต่างจากรุ่นเรือธง แถมใช้งานได้ดีอีกด้วย ส่วนการใช้งาน 5G ข้างนอกก็ถือว่าไม่ได้กินแบตเตอรี่มากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มี 5G เยอะๆ ด้วยครับ ไม่งั้นสัญญาณจะสลับ 4G และ 5G บ่อยมากจนอาจทำให้แบตไหลได้ครับ ขณะที่การใช้งานทั่วไปก็ทำได้ไหลลื่น ยิ่งได้จอ Refresh Rate 120Hz มาด้วยแล้วทำให้ดูสมูธมากขึ้นจริงๆ ใครที่ใช้จอ 60Hz มาก่อนคงจะทราบดีครับ

ราคาวางจำหน่าย

Samsung Galaxy A52 LTE และ 5G มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีม่วง Awesome Violet, ฟ้า Awesome Blue, ดำ Awesome Black และขาว Awesome White โดยมีราคาตามด้านล่างนี้เลยครับ

• Samsung Galaxy A52 LTE ความจุ 8GB/128GB ราคา 11,999 บาท
• Samsung Galaxy A52 5G ความจุ 8GB/128GB ราคา 13,499 บาท