รีวิว ROG Phone 5s Pro เกมมิ่งโฟนตัวเทพ สเปคจัดเต็มที่สุดด้วยจอ 144Hz ชิป Snap 888+ แรม 18GB และรอม 512GB

รีวิว ROG Phone 5s Pro เกมมิ่งโฟนตัวแรงรุ่นล่าสุดจาก ASUS ที่รอบนี้อัปเกรดสเปคแบบจัดเต็ม อัดมาให้แบบไม่กั๊กด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888+ แรม 18GB รอม 512GB แบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมฟีเจอร์ด้านการเล่นเกมอีกเพียบ ทั้ง X-Mode, Air Trigger 5 แถมยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Aero Active Cooler 5 ติดมาให้ในกล่องอีกต่างหาก

หลังจากที่เราได้ลองใช้งานมากว่าสัปดาห์ ก็จะขอมาเล่าประสบการณ์การเล่นเกมที่ได้จากรุ่นนี้สักหน่อย บอกเลยว่าเราประทับใจมาก และใครที่คิดว่าอยากได้เกมมิ่งโฟนที่เล่นได้ดีในทุกเกม ติดตามรีวิวนี้ได้เลยครับ!

สรุปสเปค ROG Phone 5s Pro

• ขนาดตัวเครื่อง : 172.83 x 77.25 x 9.9 มม.
• น้ำหนัก : 238 กรัม
• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) refresh rate 144Hz, Touch sampling rate 360Hz รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1,200 nits กระจก Gorilla Glass Victus
• CPU : Snapdragon 888+ 5G (5nm) Octa Core ความเร็ว 2.99GHz
• GPU : Adreno 660
• RAM : 18GB (LPDDR5)
• ROM : 512GB (UFS 3.1)
• แบตเตอรี่ : 6000mAh
• ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge และ PD Charging
• กล้องหน้า : 24MP f/2.45
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX686 f/1.8
  • กล้อง Ultra Wide Angle 13MP มุมกว้าง 125º f/2.4
  • กล้อง macro 5MP f/2.0
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ROG UI
• รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6/6E (802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C

กล่องทรง 6 เหลี่ยมพร้อมลูกเล่นเท่ ๆ

ก่อนอื่นมาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนดีกว่า ROG Phone 5s Pro มาพร้อมกล่องทรง 6 เหลี่ยมที่มีความเท่เหมาะกับเกมมิ่งโฟนจริง ๆ ที่ด้านหน้าจะระบุชื่อรุ่นพร้อมชิปเซ็ตไว้อย่างชัดเจน อย่างรุ่นที่เราได้มาก็คือ ROG Phone 5s Pro พร้อม Snapdragon 888+ นั่นเองครับ

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับการ์ตูนช่องเรื่อง Akira ที่เราสามารถใช้เครื่อง ROG Phone 5s Pro นั้นสแกนดูอนิเมชั่นเท่ ๆ ได้ด้วยครับ

ตัวกล่องจะแบ่งชุดอุปกรณ์เป็น 2 ฝั่งคือฝั่งขวาภายในจะมีตัวเครื่อง ROG Phone 5s Pro อยู่ และฝั่งซ้ายจะมี Aero Active Cooler 5 หรือพัดลมระบายความร้อนของตัวเครื่องนั่นเองครับ

ซึ่งตัวกล่องจะสามารถเปิดลงไปได้อีกชั้นฝั่งซ้ายจะมีอุปกรณ์เสริมอย่างพวก สายชาร์จ อะแดปเตอร์ และตัวจุกปิดพอร์ตสำรองที่มีแถมมาให้ครับ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นกล่องเล็กที่ภายในมือเคส เอกสารคู่มือและเข็มจิ้มถาดซิมครับผม

เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ ROG Phone 5s Pro จะมีด้วยกัน 8 อย่างดังนี้ครับ

1. ตัวเครื่อง ROG Phone 5s Pro
2. พัดลม Aero Active Cooler 5
3. เคส
4. สายชาร์จ
5. อะแดปเตอร์
6. เข็มจิ้มถาดซิม
7. เอกสารคู่มือ
8. จุดสำรองสำหรับปิดพอร์ต

ดีไซน์เกมมิ่งเต็มตัว

ได้เวลายลโฉมตัวเครื่องกันแล้วครับ ROG Phone 5s Pro มาพร้อมดีไซน์ที่เรียกว่าเกมมิ่งแบบเต็มตัวมาก ๆ ถือไปไหนก็คงรู้เลยว่ารุ่นนี้มาพร้อมความแรงและความเป็นเกมมิ่งโฟนจริง ๆ ฝาหลังจะมาพร้อมดีไซน์ลวดลายเส้นตัดกันได้อย่างดีบนฝาหลังสีเทา สีนี้ ASUS ใช้ชื่อเรียกว่า Phantom Black มีความเท่อย่างมากเลยล่ะครับ

ที่ฝาหลังของ ROG Phone 5s Pro ยังมีหน้าจอ PMOLED ที่จะใช้แสดงผลเวลาเราเล่นเกม, เข้าเกม, เปิด X Mode, สายเข้า หรือเวลาชาร์จแบตได้อีกด้วย ตรงนี้ ASUS ใช้ชื่อเรียกทางการว่า ROG Vision ยิ่งเสริมให้มีความเป็นเกมมิ่งที่ต้องมีลูกเล่นแนว ๆ นี้อยู่จริง ๆ ครับ

ส่วนโมดูลกล้องก็จะออกแบบมาให้มีความเหลี่ยม ๆ วางในแนวนอน ดูแล้วให้ความรู้สึกถึงความล้ำสมัยในแบบที่เกมมิ่งโฟนควรมี ไม่ได้โดดเด่นจนเตะตาเกินไปให้ความกลมกลืนกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีครับ

ความพิเศษของฝาหลัง ROG Phone 5s Pro ยังไม่หมดเพราะเราจะเห็นสัญลักษณ์เส้น ๆ สีเงินที่ฝาหลัง ซึ่งตรงนี้จะเป็นปุ่มสัมผัสที่สามารถตั้งค่าเป็นปุ่มในการเล่นเกมได้ด้วยครับ ใช้ประโยชน์จากด้านหลังได้ไม่น้อยเลยจริง ๆ ครับ

หน้าจอ AMOLED สีสด คมชัดเยี่ยม

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง ROG Phone 5s Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78″ ความละเอียด FHD+ ใหญ่เต็มตา เหมาะกับการดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมอย่างมาก แถมตัวหน้าจอยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ ด้วย ดูวิดีโอแบบ HDR คมชัดสุด ๆ

ตอบสนองไว refresh rate 144Hz

ส่วนเรื่องการตอบสนองแน่นอนว่าเป็นเกมมิ่งโฟนแบบนี้ก็ต้องไวให้เข้ากับการเล่นเกมหน่อย รุ่นนี้ได้ refresh rate สูงสุดถึง 144Hz และยังมี Touch Sampling rate 360Hz อีกต่างหาก แน่นอนว่าทุกการสัมผัสบนหน้าจอนั้นจะลื่นไหล ไวติดนิ้วอย่างมากครับ แม้จะเป็นการใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่เล่นเกมก็รู้สึกได้เลย

ลำโพงคู่ Stereo ที่ด้านหน้า

เหนือหน้าจอของ ROG Phone 5s Pro จะมีตำแหน่งของลำโพงสนทนาที่ใช้งานเป็นลำโพงคู่กับล่างหน้าจอด้วย ตำแหน่งของลำโพงนั้นยิงตรงมาที่ด้านหน้าเต็ม ๆ เมื่อใช้งานแนวตั้งและแนวนอน ให้เสียงที่ครบอย่างมากครับ นอกเหนือจากลำโพงแล้วจะมีกล้องหน้าความละเอียด 24MP และไฟ LED แจ้งเตือนด้วยครับ

มี AirTrigger 5 ส่วนเสริมสำหรับการเล่นเกม

ที่ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งขวาจะมีปุ่มกดเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power ที่มีแถบสีแดงคาดอยู่ด้วย เพิ่มความดุดันเข้าไปอีก และที่มุมซ้าย-ขวาจะมีปุ่ม Air Trigger แบบ Ultra Sonic ที่เราสามารถเพิ่มเป็นปุ่ม L R เวลาเล่นเกมได้ครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อ 2 จุด

พอร์ตการเชื่อมต่อของ ROG Phone 5s Pro จะมีอยู่ 2 จุดคือด้านล่างตัวเครื่องปกติแบ่งเป็นพอร์ต USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. และที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีพอร์ตการเชื่อมต่ออีกจุดที่มีจุกยากปิดอยู่ แต่เราสามารถถอดมาใช้งานชาร์จและเชื่อมต่อกับพัดลม AeroActive Cooler 5 ได้ด้วย เรียกว่าออกแบบมาสำหรับคนเล่นเกมจริง ๆ ครับตำแหน่งแบบนี้

ใส่ได้ 2 ซิมนะรุ่นนี้

ช่องใส่ซิมของ ROG Phone 5s Pro ก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลครับ ตรงแถบที่แดงที่เห็นเด่น ๆ นั่นเองครับ ตัวถาดซิมจะเป็นแบบ Dual-SIM ใส่ได้ 2 ซิมหน้า-หลังครับ ส่วนหน่วยความจำภายนอกหรือ micro-SD รุ่นนี้เพิ่มไม่ได้ครับ

สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ สแกนใบหน้าครบ

ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ROG Phone 5s Pro มีมาให้ทั้งระบบสแกนใบหน้าและระบบสแกนลายนิ้วมือ เรียกว่าให้มาครบมาก ถ้าใช้งานทั่วไปสแกนใบหน้าได้ก็รวดเร็ว หรือในสถานการณ์ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดตอนออกไปข้างนอกก็มีสแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานปลดล็อคหน้าจอได้อย่างถนัด

โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกเลยว่า ROG Phone 5s Pro นั้นออกแบบมาเหมาะกับเกมเมอร์อย่างมาก เพราะนอกจากรูปลักษณ์ที่ดูดุดันเหมาะกับลุคของเกมเมอร์ที่ต้องการความเท่แล้ว ลูกเล่นในส่วนของการแสดงผลหน้าจอลื่น ๆ และหน้าจอหลังที่แสดงผลได้เพิ่มเติมด้วย หรือจะเป็นปุ่มสัมผัสพิเศษที่เพิ่มเข้ามาทั้ง AirTrigger และ Touch Sensor ด้านหลังตัวเครื่อง พอร์ตการเชื่อมต่อที่คิดมาแล้วว่าจะใช้งานได้อย่างเป็นประโยชน์สำหรับเกมเมอร์ด้วยครับ

ขุมพลัง Snapdragon 888+ มันเร็วไปซะหมด

มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพกันเลยครับ ROG Phone 5s Pro นั้นจัดเต็มเอามาก ๆ เพราะมาพร้อมชิปเซ็ตที่แรงที่สุดอย่าง Snapdragon 888+ แรม 18GB รอม 512GB เรียกว่าจัดเต็มมาสุด ๆ เท่าที่สมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งจะให้ได้แล้วครับ เท่าที่เราลองใช้งานจริงบอกเลยว่าทุกการทำงานมันเร็วมาก รวดเร็วทันใจไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอป ดาวน์โหลดเกม หรือเลื่อนไปมาตอบสนองได้ดีจริง ๆ

ที่ว่าแรง ๆ นี่แรงแค่ไหน เราทดสอบคะแนนจาก AnTuTu Benchmark และ GeekBench 5 มาให้พอเห็นภาพ คะแนนฝั่ง Android นั้นออกมาสูงมากถึง 836820 คะแนน เรียกว่าสูงมาก ๆ สูงนำสมาร์ทโฟนกว่า 98% กันเลย ถือว่าอยู่บนหัวตารางได้เลยครับรุ่นนี้

ส่วนคะแนนจาก GeekBench 5 ก็ออกมาสูงไม่แพ้กัน Single-Core ได้ 1175 คะแนนและ Multi-Core 3639 คะแนนเลยครับ ก็เป็นคะแนนที่สูงอันดับต้น ๆ ของฝั่ง Android แล้วล่ะครับ

X-Mode ปลดปล่อยขุมพลังถึงขั้นสุด

แน่นอนว่าเป็นเกมมิ่งโฟนฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมก็ต้องมีมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปอยู่แล้ว บน ROG Phone 5s Pro มาฟีเจอร์ X-Mode ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ถึงขีดสุดโดยไม่สนเรื่องความร้อนในการใช้งานหรือการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ ซึ่งเราสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้จากการบีบที่ส่วนล่างของตัวเครื่อง จะมีเอฟเฟกต์แสดงขึ้นและไอคอนต่าง ๆ รวมถึง Wallpaper จะเปลี่ยนไปเพื่อให้เรารู้สึกถึงความดุดันของขุมพลังภายใน

Armoury Crate โซนสำหรับการปรับแต่งทุกอย่าง

ROG Phone 5s Pro มีแอป Armoury Crate ที่เป็นโซนสำหรับเครื่องไม่ว่าจะเป็นคลังรวมเกมที่มีในเครื่อง คอนโซลสำหรับการปรับแต่งระบบหรือลูกเล่นต่าง ๆ เช่น โหมดการใช้งานของตัวเครื่องทั้ง X-Mode ก็ปรับในนี้ได้ ปรับรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอ ROG Vision หรือกระทั่งเกมแนะนำที่รองรับ refresh rate สูงด้วยเช่นกัน เรียกว่าอยากจัดการอะไรเกี่ยวกับตัวเครื่อง ROG Phone 5s Pro ก็เข้ามาที่ไอคอนสามเหลี่ยมสีแดงได้เลยครับ

AirTrigger 5 ส่วนเสริมที่ช่วยให้เล่นเกมได้สนุกขึ้น

อย่างที่บอกว่า ROG Phone 5s Pro นั้นมาพร้อมปุ่ม AirTrigger 5 ที่ใช้งานเป็นปุ่ม L R ได้ ตรงนี้จะช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมแนวยิง ๆ ที่เราสามารถเซ็ตให้ปุ่ม L เป็นการเล็ง และปุ่ม R เป็นปุ่มยิง ให้อารมณ์เหมือนเกมคอนโซลที่มักวางปุ่มแนวนี้อยู่แล้ว การตอบสนองของปุ่มก็เป็นแบบ Ultra Sonic ก็ทำได้ดีมีระดับในการกดเราสามารถตั้งค่าได้ที่ Armoury Crate ว่าจะให้แตะเบาหรือแรงแค่ไหนครับ

Game Genie จัดการทุกอย่างในการเล่นเกม

ถ้า Armoury Crate คือการจัดการระบบของตัวเครื่องภายนอก Game Genie ก็คือศูนย์รวมการจัดการภายในเกมครับ ขณะที่เราเล่นเกมเราปาดหน้าจอจากมุมซ้ายสุดเพื่อเรียกเมนู Game Genie ออกมาได้ ในนี้จะมีการตั้งค่าหลายอย่างเกี่ยวกับการเล่นเกมอาทิ การตั้งค่า AirTrigger, การแสดงข้อมูลการใช้งาน CPU/GPU หรือ FPS แบบเรียลไทม์, ล็อคความสว่างหน้าจอ, ปรับ refresh rate และอีกเพียบเลยจริง ๆ ครับ เรียกว่าหาการตั้งค่าอะไรไม่เจอก็ให้เลื่อนเปิด Game Genie แล้วหาได้เลยครับ รวมไว้ในนี้หมด

เล่นเกมกันได้แล้ว!

คุยเรื่องฟีเจอร์มาเยอะแล้ว ได้เวลาทดสอบเล่นเกมจริงกันเลยดีกว่า เกมที่เราจะใช้ทดสอบ รีวิว ROG Phone 5s Pro รอบนี้จัดเกมกราฟิกโหด ๆ มาให้ 4 เกม ประกอบด้วย Asphalt 9, Call of Duty, Genshin Impact และ Marvel Future Revolution ครับ

เล่น Asphalt 9 บน ROG Phone 5s Pro

ขอเริ่มต้นที่เกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9 ก่อนเลย ตัวเกมสามารถเปิดกราฟิกได้ถึงระดับ High Quality พร้อม 60fps ซึ่งขณะที่เราเล่นเกมและเปิดเช็ก fps แบบเรียลไทม์ไปด้วย ก็ถือว่าทำได้ดีมากครับ เฟรมเรตอยู่ที่ 59 – 60fps ตลอดทั้งเกม แม้จะมีเอฟเฟกต์เต็มฉากไปหมด จังหวะที่รถเบียดปะทะกันก็ยังลื่นไหล แถมการแสดงผลบนหน้าจอ AMOLED นี่ช่วยให้เราเล่นได้อย่างสนุกยิ่งขึ้นด้วยครับ

เล่น Call of Duty บน ROG Phone 5s Pro

ต่อมาคือเกมยิงอย่าง Call of Duty ตัวเลือกการตั้งค่าเราสามารถปรับสูงสุดได้ 2 แบบคือ เลือกกราฟิกเป็น Very High คู่กับเฟรมเรต Max หรือจะเลือกเป็นกราฟิกระดับ Medium และได้เฟรมเรตไปที่ระดับ Ultra ซึ่งเท่าที่ลองเล่นเฟรมเรต Max จะดันได้สูงสุดที่ 60fps แต่ถ้าเป็น Ultra จะสุดที่ 90fps ครับ ตรงนี้แล้วแต่ความชอบเลย ส่วนตัวเราเลือกเล่นแบบกราฟิก Very High กับเฟรมเรต 60fps มากกว่า ภาพที่ได้สวยสมจริง แถมความลื่นไหลก็ยอดเยี่ยมเพียงพอแล้ว การมี AirTrigger นี่ช่วยให้เราเล่นเกมแนวยิงสนุกขึ้นจริง ๆ ครับ

เล่น Marvel Future Revolution บน ROG Phone 5s Pro

อีกเกมใหม่ล่าสุดอย่าง Marvel Future Revolution ที่ใช้สเปคสูงไม่น้อย แต่เราก็สามารถปรับกราฟิกและเฟรมเรตได้ที่ระดับสูงสุดเหมือนกัน ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ และเฟรมเรตก็นิ่งมาตลอดที่เราได้เล่นจริง ๆ ความจัดเต็มของลำโพงคู่ Stereo ด้านหน้าช่วยให้เราเต็มอิ่มกับเกมแนวนี้ได้ดีมาก ๆ

เล่น Genshin Impact บน ROG Phone 5s Pro

มาปิดท้ายที่เกมปราบเซียนอย่าง Genshin Impact ที่เป็นที่พูดถึงเรื่องการกินสเปคอย่างมาก แต่พอมาเล่นบน ROG Phone 5s Pro ก็ไม่มีปัญหาครับ เราปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตไปที่สูงสุด (60fps) ตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลและต่อเนื่องดีมาก แม้จะเล่นเป็นเวลานานก็ยังให้เฟรมเรตที่ลื่นไหลระดับ 50 – 60fps ตลอด ไม่เจออาการเฟรมเรตดรอปเลย แต่แน่นอนว่าความร้อนมีให้รู้สึกได้อย่างชัดเจนครับตามข้อมูลระบุว่าไปถึงระดับ 54º กันก็มี

ในเรื่องความร้อนอย่างที่บอกไปว่าหากเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ จริงอย่าง Genshin Impact นั้นความร้อนเกิดขึ้นแน่นอนตามสไตล์ แต่การจัดการภายในถือว่ายังดีมาก เพราะแม้ความร้อนจะสูงแต่ก็ยังประสิทธิภาพไม่ตกเฟรมไม่ดรอปลงมาจนเสียอารมณ์ในการเล่นครับ

AeroActive Cooler 5 ผู้ช่วยให้เล่นได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

แต่แน่นอนว่าการที่ตัวเครื่องร้อนมาก ๆ ผู้เล่นอย่างเราก็อาจจะไม่สามารถถือเล่นได้อย่างต่อเนื่องนัก ตรงนี้ AeroActive Cooler 5 ของ ROG Phone 5s Pro จะเข้ามาช่วยได้อย่างดี ด้วยพัดลมที่ช่วยระบายความร้อนและเพิ่มความเย็นให้กับตัวเครื่องทำให้เราสามารถจับถือเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น เท่าที่ลองใช้งานคู่กับ AeroActive Cooler 5 มา เรื่องอุณหภูมิทำได้ดีขึ้นจริง

แต่นอกจากเรื่องความเย็นที่เพิ่มมากขึ้นในการเล่นเกมจริงจังแล้ว AeroActive Cooler 5 ก็ยังมีปุ่มกดพิเศษเพิ่มเข้ามาด้วย ใครที่ชอบปรับแต่งปุ่มในการเล่นที่มากขึ้นก็สามารถมาตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีก กดได้ทั่วทั้งเครื่องไปเลยครับ

ที่ตัว AeroActive Cooler 5 นั้นจะเว้นช่องสำหรับพอร์ต USB-C ที่ด้านล่างได้เหมือนเดิม ทำให้เราสามารถเล่นเกมไปชาร์จแบตฯไปได้เหมือนเดิม แถมพอได้พัดลมมาระบายความร้อนแบบนี้ เวลาชาร์จไปเล่นไปก็ไม่ต้องกังวลว่าความร้อนจะเกินด้วย

ใช้เป็นขาตั้งก็ได้ด้วย AeroActive Cooler 5 ยังมีขาตั้งที่ช่วยให้เราสามารถตั้งตัวเครื่องในมุมที่เหมาะกับการดูคอนเทนต์ได้อีกด้วย เผื่อเล่นเกมเสร็จแล้วอยากดูหนังหรือซีรีส์ต่อ ก็กางขาตั้งออกแล้ววางดูได้เลย สะดวกดีไม่น้อย

แบตเตอรี่อึดสะใจ 6000mAh

แบตเตอรี่ของ ROG Phone 5s Pro นั้นให้มามากถึง 6000mAh แน่นอนว่าใช้งานได้อย่างจุใจ สำหรับสายเกมที่อยากเล่นเกมแบบต่อเนื่องเราทดสอบมาก็พบว่าสามารถเล่นได้ราว ๆ 3 – 5 ชม.กันเลย เรียกว่าได้หลายแมทช์ต่อเนื่อง หรือถ้าไม่ได้เล่นเกมตลอดเวลา ความจุแบตเตอรี่ระดับนี้ก็ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันในการทำงานทั่วไปอีกด้วยครับ

มีชาร์จไว 65W HyperCharge

แต่ถึงแม้แบตฯจะอึดแค่ไหน แต่ถ้าเล่นเกมจริงจัง ๆ ก็ต้องหมดอยู่ดี ROG Phone 5s Pro จึงให้ระบบชาร์จไว 65W HyperCharge มาด้วย ช่วยให้แบตเตอรี่ระดับ 6000mAh จาก 0 – 70% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที และเต็ม 100% ในเวลาเพียง 52 นาทีเท่านั้น เล่นให้เต็มที่แล้วชาร์จแป๊บเดียวก็เล่นได้ต่อแล้วล่ะครับความเร็วระดับนี้ สุดยอดจริง ๆ ครับ

ซอฟต์แวร์ลื่นไหลด้วย ROG UI

ROG Phone 5s Pro มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับมาด้วย ROG UI อย่างที่เห็นว่ามีฟีเจอร์สำหรับการปรับแต่งการเล่นเกมอย่าง Armoury Crate มาด้วย แต่ถ้าไม่ได้พูดถึงการเล่นเกม ตัว UI ของรุ่นนี้ก็ยังปรับแต่งมาให้ดีในทุก ๆ การใช้งานเช่นกัน

อย่างเช่นระบบ Haptic หรือระบบสั่นที่เป็นเลิศ แน่นอนว่าสำหรับเกมเมอร์แล้วระบบสั่นถือเป็นเรื่องสำคัญ ในการทำงานทั่วไป UI ถูกออกแบบมาให้มีการสั่นรับในทุก ๆ จังหวะของการใช้เลย ไม่ว่าเราจะเข้าแอปตั้งค่าเลื่อนไปมาบนหน้า Recent Apps ทุกอย่างมีจังหวะที่พอเหมาะพร้อมแรงสั่นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงการสั่งงานไปแล้ว ลงตัวมาก ๆ ครับ

แต่แน่นอนว่าความที่เป็นเกมมิ่งโฟนตัวเครื่องจึงมีความยาวที่มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป หากเรานำมาใช้งานปกติก็อาจจะมีความไม่ถนัดอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการถือใช้มือเดียว หรือพกใส่กระเป๋าตัวเครื่องจะมีความยาวที่มากกว่าอย่างชัดเจนครับ แต่ก็นะ ROG Phone 5s Pro เขาถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมในแนวนอนเป็นหลักนี่เนอะ

กล้องหลัง 3 ตัว คุณภาพใช้ได้เลย

ขอปิดท้ายที่เรื่องกล้องละกันสำหรับ รีวิว ROG Phone 5s Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

• กล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX686 f/1.8
• กล้อง Ultra Wide Angle 13MP มุมกว้าง 125º f/2.4
• กล้อง macro 5MP f/2.0

ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว คุณภาพกล้องระดับนี้ครับ ซึ่งหากมองในมุมของกล้องบนเกมมิ่งโฟนก็แอบจะได้คุณภาพมาดีเลยด้วย โดยเฉพาะกล้องหลักที่ให้มามากถึง 64MP f/1.8 มีกล้อง Ultra Wide มาเพิ่มมุมมองภาพกว้างและ macro ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพวัตถุใกล้ ๆ ได้อีก

และเท่าที่เราลองใช้งานมากล้องหลังของ ROG Phone 5s Pro ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเกินเบอร์ของเกมมิ่งโฟนมาก ทั้งในเรื่องการเก็บ Dynamic Range ที่กว้างใช้ได้ มี Auto HDR ที่ช่วยให้เราได้ภาพย้อนแสงสวย ๆ ความคมชัดที่อยู่ในระดับดีเลย โหมดการใช้งานก็ให้มาครบไม่แพ้สมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพเหมือนกันทั้ง Portrait หรือ Night mode ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ ROG Phone 5s Pro

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้ให้กล้องเซลฟี่ความละเอียดมาที่ 24MP ก็ถือว่าความละเอียดสูงเพียงพอต่อการใช้งานเลย ไม่ว่าจะใช้ถ่ายรูปเล่นหรือใช้เป็น WebCam เวลาเล่นเกมไปด้วยก็ถือว่าโอเคครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ ROG Phone 5s Pro

• 

• 

• 

ราคา ROG Phone 5s Pro 39,990 บาท!

สรุปราคา ROG Phone 5s Pro เปิดราคามาที่ 39,990 บาท มีให้เลือกความจุและสีเดียวคือ 18GB + 512GB สี Phantom Black ซึ่งรุ่นนี้ก็จะมีแถมตัว AeroActive Cooler 5 พัดลมระบายความร้อนมูลค่า 1,490 บาทมาในกล่องอย่างที่บอกไปด้วยครับ

นอกจากนี้ ASUS ยังมีตัวเลือกสำหรับรุ่น ROG Phone 5s ไม่ Pro อีก 2 โมเดลด้วยมีความจุและราคาดังนี้เลยครับ

• ROG Phone 5s ความจุ 12GB + 256GB ราคา 25,990 บาท
• ROG Phone 5s ความจุ 16GB + 512GB ราคา 29,990 บาท

โดยรุ่น 12GB + 256GB จะมีให้เลือก 2 สีคือ Phantom Black และ Phantom White ในขณะที่รุ่น 16GB + 512GB มีให้เลือกสีเดียวคือ Phantom Black ครับและทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่มีแถม AeroActive Cooler 5 มาให้ในกล่องเหมือนรุ่น Pro นะครับ

สรุปแล้ว “นี่คือสุดยอดเกมมิ่งโฟนที่แรงที่สุดในตอนนี้”

สรุปแล้ว ROG Phone 5s Pro ก็ถือว่าเป็นเกมมิ่งโฟนตัวท็อปที่จัดสเปคมาได้สูงที่สุดที่จะหาได้ตอนนี้แล้ว ทั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon 888+ แรม 18GB (LPDDR5) แรม 512GB (UFS 3.1) แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh เรียกว่าไม่มีกั๊กจัดที่สุดของสเปคมาให้เราจริง ๆ เท่าที่ใช้งานมาจริงต้องยอมรับว่าสเปคที่มอบให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็รวดเร็วไปหมด ไม่ว่าจะเล่นเกมอะไรก็ลื่นไหลทุกเกม ปรับจุดได้ทุกเกมแบบไม่ต้องยั้ง แถมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเล่นเกมนั้นสนุกและแปลกใหม่อีกหลายอย่าง ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเน้นเล่นเกมแบบงบไม่จำกัด รุ่นนี้คือคำตอบแบบที่ไม่ต้องสงสัยเลยครับ!

จุดเด่น

• สเปคระดับสูงสุด Snap 888+ แรม 18GB รอม 512GB
• การทำงานลื่นไหล และรวดเร็วไปหมด
• แบตเตอรี่ 6000mAh เล่นเกมต่อเนื่องได้นาน ใช้งานทั่วไปอึดกระชากใจ
• มีชาร์จไว 65W HyperCharge
• หน้าจอ AMOLED 6.78″ 144Hz ใหญ่เต็มตา ลื่นไหลถูกใจ
• ลำโพงคู่หน้า Stereo เสียงแน่นมาก
• กล้องหน้า-หลังใช้งานได้ดีเลย

จุดสังเกต

• ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนถ้าเล่นเกมหนัก (แต่ AeroActive Cooler 5 ที่แถมมาในกล่องช่วยได้)
• ไม่รองรับ micro-SD

ติดตามช่องทางออนไลน์ ASUS official store ได้ที่ JD Central, Lazada และ Shopee