มือถือใหม่ น่าซื้อ น่าใช้ เดือนเมษายน 2023

แนะนำ มือถือใหม่ ประจำเดือนเมษายน 2023 ต้องบอกเลยว่าเป็นซัมเมอร์ที่หลายค่ายออกรุ่นใหม่แล้ววางจำหน่ายในบ้านเราเยอะมาก และมีหลายราคาให้เลือกใช้กันเพียบ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่สักเครื่องในช่วงนี้ ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันเลย

สำหรับมือถือที่กำลังฮอตสุดๆ ในเดือนนี้ก็ต้องยกให้กับ Redmi Note 12 series ที่ยกทัพเข้ามาวางจำหน่ายพร้อมกันถึง 4 รุ่น ตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหมื่นกลางๆ ในขณะที่ vivo ก็มีรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดอย่าง iQOO Z7 series และเรียลมีก็มีอีกรุ่น realme 10T 5G แต่ถ้าใครที่ต้องการรุ่นไม่แพงแต่ได้สเปคครบเครื่อง ก็จะมี Honor X8a

iQOO Z7 5G

• รุ่น 8GB + 128GB ราคา 10,999 บาท
• รุ่น 12GB + 256GB ราคา 11,999 บาท

iQOO Z7 5G สมาร์ทโฟนที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองทั้งด้านความเร็ว พลังการใช้งานที่เหนือกว่า และประสิทธิภาพการทำงานสำหรับเหล่า Gen Z โดยหนึ่งในฟีเจอร์สุดล้ำได้แก่ เทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 120W เอาใจคนที่ชื่นชอบสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นรุ่นที่ออกมาเพื่อการเล่นเกมที่มีอัตราเฟรมเรตสูง พร้อมระบบสั่น 4D Game Vibration และระบบระบายความร้อน Super-Conducting Liquid Cooling Vapor Chamber อีกทั้งยังได้ระบบเสียง Dual Stereo Speakers ที่ให้เสียงรอบทิศทาง และกล้องความละเอียด 64MP Ultra-Sensing OIS

• หน้าจอ: 6.64 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล IPS LCD, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 782G
• GPU: Adreno 642L
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W

iQOO Z7x 5G

• รุ่น 8GB + 128GB ราคา 7,999 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 8,499 บาท

iQOO Z7x 5G ต่อยอดจากความสำเร็จของ iQOO Z7 5G โดยมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละวัน เหมาะกับไลฟ์สไตล์วัยรุ่นที่ต้องแอคทีฟอยู่เสมอ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 6000mAh และเทคโนโลยี FlashCharge 80W

ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G พร้อมกล้องความละเอียด 50 Ultra Clarity เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ผสานสเปคการใช้งานในราคาที่ย่อมเยาได้อย่างลงตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเหล่า Gen Z ที่ต้องการเชื่อมต่อกับออนไลน์และสัมผัสความบันเทิงสุดมันส์ไปพร้อมๆ กัน

• หน้าจอ: 6.64 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล IPS LCD, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 695 5G
• GPU: Adreno 619
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 6000mAh ชาร์จเร็ว 80W

Redmi Note 12 Pro+ 5G

• ราคา 14,990 บาท

Redmi Note 12 Pro+ 5G เป็นรุ่นที่น่จะเป็นคำตอบสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจ Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผลสีสันสดใส 120Hz AMOLED กล้องคมชัดสูงสุดถึง 200MP เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการพร้อมระบบกันสั่น OIS โดยในรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 5G รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos ส่วนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ไฮเปอร์ชาร์จอัจฉริยะ 120W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W

Redmi Note 12 Pro 5G

• รุ่น 6GB + 128GB ราคา 9,999 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 12,990 บาท

Redmi Note 12 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 1080 มีกล้องระดับเรือธง IMX766 พร้อมระบบกันสั่น OIS หน้าจอแสดงผล 120Hz AMOLED และแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W Turbo Charge ในขณะที่ดีไซน์ตัวเครื่องมาพร้อมกรอบที่บางและกระจกที่ฝาหลังที่ทำให้ตัวเครื่องมีรูปทรงที่ดูประณีตและลุคแบบพรีเมียม

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

Redmi Note 12 5G

• รุ่น 6GB + 128GB ราคา 8,499 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 9,999 บาท

Redmi Note 12 5G ก็จะมาในทรงฝาหลังโค้ง 3D มอบความกระชับเวลาเราถืออยู่บนมือเพราะความโค้งจะรับกับรูปมือเราพอดี หน้าจอ AMOLED 6.67″ FHD+ พร้อมอัตราการรีเฟรชถึง 120Hz ใช้งานได้อย่างลื่นไหล โดยตัวเครื่องสามารถกันละอองน้ำตามมาตรฐาน IP53 ได้อีกด้วย และแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 4 Gen 1
• GPU: Adreno 619
• RAM: 6GB/8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

Redmi Note 12

• ราคา 6,699 บาท

Xiaomi รุ่นไหนดี ก็ต้องเป็น Redmi Note 12 ใหม่ล่าสุด มาในดีไซน์กรอบเหลี่ยมที่ดูทันสมัย ช่วยให้จับถือได้อย่างเต็มไม้เต็มมือ ฝาหลังมีพื้นผิวแบบด้านที่มอบสัมผัสเนียนมือ หน้าจอ AMOLED 6.67″ FHD+ ที่สว่างและมีสีสันที่น่าทึ่งพร้อมอัตราการรีเฟรชที่น่าประทับใจถึง 120Hz ใช้งานได้อย่างลื่นไหล และยังมีมาตรฐานกันละอองน้ำ IP53 ที่ช่วยให้รอดจากน้ำกระเซ็นใส่ได้อีกด้วย แถมได้แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 685
• GPU: Adreno 610
• RAM: 6GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

Honor X8a

• ราคา 7,999 บาท

HONOR X8a เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่ราคาไม่แรง แต่สเปคและดีไซน์ใช้งานได้ดีเกินตัว ตั้งแต่ความสวยงามในเรื่องหน้าจอที่ได้ขอบหน้าจอบางเฉียบเพียง 1.1 มม. เท่านั้น แถมยังได้จอ 90Hz อีกต่างหาก รวมถึงสีสันของฝาหลังเน้นสีสันได้อย่างมีมิติและงานประกอบแข็งแรง และพลังของกล้องหลังที่ให้สูงสุด 100MP ใช้งานได้คมชัด

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล IPS LCD, 90Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย Magic UI 6.1
• ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G88
• GPU: Mali-G52 MC2
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4500mAh ชาร์จเร็ว 22.5W

realme 10T 5G

• รุ่น 4GB + 128GB ราคา 6,999 บาท
• รุ่น 8GB + 256GB ราคา 8,999 บาท

realme 10T 5G ดีไซน์ฝาหลังสไตล์ HyperSpeed ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 810 5G พร้อมการ์ดจอ Arm Mali-G57 MC2 ที่ความเร็ว 950MHz เพื่อรองรับอัตรา Refresh rate หน้าจอที่ 90Hz และ Sampling rate สูงถึง 180Hz โดยมีเทคโนโลยีกล้อง Advanced 50MP Triple Camera ที่มีเลนส์หลักความละเอียดถึง 50MP

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล, IPS LCD, 90Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 810 5G
• GPU: Mali-G57 MC2
• RAM: 4GB/8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Depth f/2.8
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 18W

Samsung Galaxy M14 5G

• ราคา 6,499 บาท

Galaxy M14 5G สมาร์ทโฟนรุ่นกลางแบตเตอรี่อึด 6000mAh พร้อมชิป Exynos 1330 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Infinity-V แบบ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 90Hz รัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI Core 5 มีกล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 50MP และรองรับชาร์จเร็ว 25W

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล PLS LCD, 90Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI Core 5
• ชิปเซ็ต: Exynos 1330
• GPU: Mali-G68 MP2
• RAM: 4GB
• ความจุเครื่อง: 64GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 6000mAh ชาร์จเร็ว 25W

วิธีเลือกมือถือ รุ่นไหนดี ปี 2023

1. ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานได้ได้อย่างไม่ติดขัด ไม่ว่านจะเล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกม ก็ควรเลือกมือถือที่มี 6GB ขึ้นไป เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
2. ตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการกันน้ำ และการเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ ก็จะทำให้การจับถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อยด้วย
3. กล้องถ่ายรูป: สิ่งที่ขนาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนเลยก็คือเรื่องกล้องถ่ายรูป นอกจากจะต้องมีความละเอียด มีเลนส์ครบทุกตัวแล้ว ระบบกันสั่น OIS ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องมี เพื่อให้การถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอนั้นคมชัด ไม่เบลอ
4. หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป เล่นโซเชียล ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยแผงหน้าจอ AMOLED ก็จะมีสันสันที่สวยงาม
5. กราฟิกและเกม: สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ออกมาเพื่อการเล่นเกมทั่วไปได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ก็อาจมองหาชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป รวมไปถึงหน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ก็จะทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความลื่นไหลมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอก็จะเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ มือถือใหม่ น่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนเมษายน 2023 แนะนำให้เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราและงบที่ตั้งเอาไว้จะดีที่สุด เพื่อการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพในแบบที่เราต้องการครับ อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ