Wearable
ลือ! สมาร์ทวอทช์ Apple และ Samsung อาจมีการตรวจน้ำตาลในเลือดได้
เว็บไซต์ข่าว ET News จากเกาหลีใต้ระบุว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่จากทั้ง Apple และ Samsung จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำตาลในเลือดได้

สำหรับ Samsung คาดว่าจะเปิดตัว 3 อุปกรณ์สวมใส่พร้อมกันในงาน Unpacked ครั้งที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีพร้อมกับสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่เช่นกัน โดยฟีเจอร์ใหม่ดลังกล่าวจะเป็นการตรวจจับระดับกลูโคส (น้ำตาล) ในเลือด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของผู้คนในปัจจุบันที่มักเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น
เทคโนโลยีที่ตรวจจับ ทาง Samsung จะใช้เทคนิค Raman spectroscopy หรือเทคนิคทางสเปกโทรสโกปีโดยทั่วไปจะใช้เพื่อกำหนดโหมดการสั่นของโมเลกุล ซึงพัฒนาโดย Samsung และ MIT โดยการทำงานของเซ็นเซอร์ในสมาร์ทวอทช์คาดว่าจะใช้ความยาวคลื่นที่เกิดจากการสั่นและแสงเลเซอร์จะไปกระทบกับผิวหนังและตัววัสดุ

นอกจากนี้ Apple และ Samsung ต่างก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือ ECG กันแล้วใน Apple Watch Series 6 และ Samsung Galaxy Watch 3 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นต้องผ่านการรับรองจากรัฐบาลเพราะเป็นฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งในฟีเจอร์การตรวจจับน้ำตาลในเลือดก็น่าจะต้องรอเช่นกัน
Wearable
ลือ! Facebook เตรีมสร้างสมาร์ทวอทช์ เน้นการส่งข้อความและสุขภาพ
The Information รายงานว่าบริษัทด้านโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook กำลังผลิตสมาร์ทวอทช์โดยโฟกัสไปที่ด้านสุขภาพและการส่งข้อความเป็นหลัก

สมาร์ทวอทช์ Facebook รุ่นดังกล่าว (ยังไม่มีชื่อทางการ) จะใช้ Open-Source จาก Google โดยอาจเปิดตัวในปี 2022 แต่ในรุ่นที่ 2 Facebook อาจพัฒนาระบบปฏิบัติการขึ้นมาใหม่สำหรับฮาร์ดแวร์ของตัวเองและอาจเปิดตัวในปี 2023
ส่วนในรุ่นที่ 1 คาดว่าจะมีแอปพลิเคชั่นอย่าง Messenger, WhatsApp มาให้ใช้งาน Instagram รองรับเครือข่ายเซลลูลาร์ รวมถึงการรองรับแอป Peloton Interactive เพื่อใช้ในด้านฟิตเนส ขณะที่ราคาจะต่ำกว่า Apple Watch Series 6 และ Watch SE
ที่มา : GSMArena, The Information
Smart Review
รีวิว Galaxy Buds Pro หูฟังไร้สายที่ดีที่สุดจาก Samsung

Galaxy Buds Pro หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC แบบอัตโนมัติตามสถานการณ์ และเสียงดังกระหึ่มสมจริงด้วยการปรับจูนโดย AKG
ดีไซน์
Galaxy Buds Pro เปิดตัวมาทั้งหมด 3 สี โดยสีที่ใช้รีวิวครั้งนี้ Phantom Silver โดยอีก 2 สีที่มีวางจำหน่ายคือ Phantom Black และ Phantom Violet ซึ่งแต่สีก็จะจับคู่กับสีตัวเครื่องของ Galaxy S21 Series ได้อย่างลงตัว

ตัวหูฟังมาพร้อมกับเคสชาร์จที่เป็นสีเดียวกัน ซึ่งมีขนาดเล็กพกพาได้ง่าย ดีไซน์ของเคสยังมีความโค้งเว้าทำให้เวลาหยิบจับกระชับมือ ใส่กระเป๋ากางเกงก็ทำได้ง่ายด้วยขนาดและดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อการพกพาติดตัวไปได้ทุกที่

เมื่อเปิดฝาเคสออกมา จะพบกับหูฟังทั้ง 2 ข้าง ตอนเห็นครั้งแรกต้องบอกเลยว่าดูหรูหรามากๆ เพราะวัสดุที่ตัวหูฟังนั้นเป็นแบบมันเงา สะท้อนแสงสวยงามมากๆ และที่ตัวเคสด้านในก็จะมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ด้วย

สำหรับด้านนอกของตัวเคสก็มีไฟบอกสถาะนะแบตเตอรี่ของตัวเคสว่าเหลือประมาณมากหรือน้อยเช่นเดียวกัน ส่วนด้านหลังจะมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับชาร์จไฟให้กับตัวเคส

เมื่อเก็บหูฟังเข้าไปในเคสก็จะเป็นการชาร์จไฟอัตโนมัติและตัวหูฟังจะลงล็อกทันทีด้วยแม่แหล็กที่ช่วยดูดเก็บ ไม่ได้ร่วงหล่นโดยไม่ตั้งใจนั้นเอง ส่วนพอร์ตที่ชาร์จไฟจากตัวเคสมายังหังฟังจะเป็นหัวแบบ Pogo pin

มาดูกันต่อที่ตัวหูฟังจะมีตัว L และ R เพื่อบอกว่าด้านไหนเป็นด้านซ้าย และด้านขวา ตามลำดับ โดยมีจุดสำหรับเชื่อมต่อเพื่อชาร์จไฟ และจุดดำๆ ที่เห็นนั้นเป็นเซ็นเซอร์การสัมผัส


ด้านนอกตัวหูฟังอย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นวัสดุที่มันเงา ทำให้ดูหรูหรามากๆ บริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับแตะสัมผัสเพื่อสั่งงานได้ด้วย และมี 2 ไมโครโฟนสำหรับช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอก

จุดยางของตัวหูฟัง (Earbud tip) มีให้ทั้งหมด 3 คู่ในกล่อง สามารถเลือกเปลี่ยนขนาดให้เหมาะกับหูของแต่ละคนได้ ความรู้สึกของการใส่หูฟัง ด้วยรูปทรงของหูฟังทำให้ใส่ได้สบายมากขึ้น ไม่รู้สึกปวดหู แม้จะใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมง และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการไหลเวียนของอากาศทำให้ไม่รู้สึกร้อนหูหรือเหงื่อออกระหว่างการใช้งานทั่วไป

การเชื่อมต่อและฟีเจอร์การใช้งาน
การเชื่อมต่อครั้งแรกระหว่างตัว Galaxy Buds Pro กับสมาร์ทโฟน ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่น Galaxy Wearable ให้เรียบร้อย สามารถดาวน์โหลดได้จาก Galaxy Store หรือ Play Store โดยรองรับการทำงานบน Android 7.0 ขึ้นไป
เปิดฝาเคสเพื่อให้หูฟังเข้าสู่โหมดการจับคู่ด้วย Bluetooth โดยการใส่หูฟังที่หูแล้วแตะค้างที่ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน และที่ตัวแอปพลิเคชั่นก็ทำการค้นหาแล้วเลือกเชื่อมต่อหูฟัง ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอแอปได้เลย


ฟีเจอร์การใช้งานการสัมผัส Touch Pad
- แตะ 1 ครั้ง : เป็นการเล่นเพลง และเมื่อแตะอีก 1 ครั้งก็จะเป็นการหยุดเล่นเพลง
- แตะ 2 ครั้งติดต่อกัน : เป็นการเล่นเพลงถัดไป, รับสาย/วางสาย, พักสายสนทนาเพื่อรับสายซ้อน, สลับสายสนทนา
- แตะ 3 ครั้งติดต่อกัน : เป็นการเล่นเพลงก่อนหน้า, เริ่มเล่นเพลงปัจจุบันใหม่
- แตะแล้วค้างไว้ : ปรับแต่งฟังก์ชั่นการทำงานได้ในแอปพลิเคชั่น

ด้านการฟังเพลง ต้องบอกว่ารอบนี้ Samsung ทำออกมาได้ดีมาก โดยการเพิ่มลำโพงแบบ 2 ทาง คือ Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.5 มม. ทำให้เสียงเพลงที่ได้ยินมีรายละเอียดเสียงแหลมที่ชัดเจนและเสียงเบสที่หนักแน่น ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนๆ ของ Samsung ตัวใหม่นี้ทำได้ดีกว่าและน่าประทับใจมากครับ

ตัวหูฟังสามารถปรับตั้งค่า EQ ได้อิสระ และเสียงจากภายนอกแทบไม่เข้ามารบกวนขณะสวมใส่หูฟังตัวนี้เลย ถ้าเทียบกับ Galaxy Buds Live ในรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวพร้อม Galaxy Note20 Series

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าจะถูกใจทุกคนคือ 360 Audio ความเจ๋งของฟีเจอร์นี้จะมีตัวติดตามศรีษะของเราด้วยเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ไม่ว่าจะขยับศรีษะหรือหันไปทางไหน ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ได้ยินก็จะปรับทิศทางใหม่ให้อัตโนมัติ เพื่อให้สมจริง ถ้าใครชอบดูหนังหรือคอนเสิร์ตต้องประทับกับฟีเจอร์นี้แน่นอน

สำหรับระบบตัดเสียงรบกวน ANC ของหูฟัง ต้องบอกทำได้ดีมากๆ เพราะใช้ไมโครโฟนทั้งด้านในและด้านนอกในการจับเสียงรบกวน และปรับค่าให้อัตโนมัติตามเสียงรบกวนที่อยู่รอบๆ เช่น ริมถนนที่เสียงดังก็จะปรับค่าให้สูง หรือถ้าอยู่ในห้องค่อนข้างเงียบก็จะปรับค่าให้ต่ำ

เสียงคุยโทรศัพท์ในที่ที่มีเสียงดังรบกวนมากๆ เช่น ริมถนน เป็นต้น พบว่าปลายทางได้ยินเสียงคุยของเราชัดเจนมาก แทบไม่ได้ยินเสียงรบกวนอื่นๆ เลย และลองทดสอบคุยในห้องที่เปิดเพลงดังๆ ก็พบว่าปลายทางได้ยินเสียงเพลงเบามาก ในขณะที่เสียงคุยชัดเจนมากๆ

Voice Detect ที่ตัวหูฟังจะสลับจากโหมด ANC ไปเป็นโหมดรับเสียงรอบข้างหรือ Ambient Mode อัตโนมัติ เมื่อหูฟังตรวจจับเสียงขณะที่เราพูดคุยกับคนอื่น เช่น พูดสั่งแฟ เป็นต้น โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกเพื่อฟังเสียงผู้ที่เรากำลังคุยด้วย ซึ่งเสียงที่ได้ยินแทบไม่ดีเลย์เลย
ตัวหูฟังสามารถเปิด Ambient Mode ได้ด้วยตนเอง เพื่อฟังเสียงรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกเมื่อต้องพูดคุยกับเพื่อนข้างๆ หรือใส่วิ่งริมถนนก็เปิดโหมดนี้ได้เพื่อฟังเสีงรอบๆ เพื่อความปลอดภัย

สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ Samsung หลายเครื่อง และใช้งานบน One UI 3.1 ขึ้น ถ้าล็อกอิน Samsung Account เดียวกันไว้ จะสามารถใช้งาน Auto Switching สลับการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อื่นอัตโนมัติเมื่อมีสายโทรเข้าที่อุปกรณ์นั้น เพื่อให้รับสายและคุยได้ทันทีผ่าน Galaxy Buds Pro พอวางสายก็จะสลับไปเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เลือกไว้ตามเดิม
Galaxy Buds Pro รองรับการใช้งาน Bixby ด้วยคำสั่งเสียงได้ เช่น สั่งให้เล่นเพลง ถามปริมาณแบตเตอรี่ของหูฟัง สั่งเปิด/ปิด ANC และ Ambient Mode ได้ เป็นต้น

สำหรับคนขี้ลืมหรือทำหูฟังหาย สามารถค้นหาได้ง่ายๆ ด้วยแอปพลิเคชั่น SmartThings โดยกดให้หูฟังส่งเสียงแจ้งเตือนเพื่อให้หาไ้ด้ง่ายขึ้น และสามารถค้นหาแบบออฟไลน์ได้ ดูตำแหน่งล่าสุดที่ถูกใช้งานแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ตาม

นอกจากนี้แล้ว สามารถแชร์เพลงที่เรากำลังฟังไปยัง Galaxy Buds Pro ของเพื่อนได้ด้วยฟีเจอร์ Buds Together โดยที่เราไม่ต้องถอดหูฟังเราไปใส่หูเพื่อน ซึ่งอันนี้ดีมากๆ และถูกสุขลักษณะที่ดีอีกด้วยสำหรับของใช้ส่วนตัว

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
Samsung Galaxy Buds Pro ที่ตัวหูฟังมีแบตเตอรี่ 61mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ราว 4-5 ชั่วโมงในโหมด ANC และถ้ารวมกับเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่ 472mAh ก็ชาร์จใช้งานได้อีกประมาณ 12-13 ชั่วโมง ก็ถือว่าได้งานได้ยาวๆ ทั้งวันเลย
นอกจากนี้แล้วยังรองรับการชาร์จผ่าน Wireless PowerShare ชาร์จไฟได้ทุกที่อย่างสะดวกเพียงวาง Galaxy Buds Pro บนด้านหลังของสมาร์ทโฟน Galaxy ที่รองรับฟีเจอร์นี้

สรุป Samsung Galaxy Buds Pro
สำหรับแฟนๆ Samsung ที่มีใช้งานสมาร์มโฟน Galaxy กันอยู่แล้ว การเลือกหูฟังไร้สายดีๆ สักอันต้องเป็น Galaxy Buds Pro ตัวนี้เลย เพราะในครั้งนี้ Samsung ทำออกมาได้ดีมาก ทั้งดีไซน์ที่สวยหรู พรีเมี่ยม และฟีเจอร์ระบบเสียงจัดเต็มจริงๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ออกกำลังกายก็กันน้ำได้ อีกทั้งยังรองรับ SmartThiang Find ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ในการแสดงตำแหน่งและค้นหาหูฟังทั้ง 2 ข้าง ไม่ว่าหูฟังจะถูกปิดหรือเปิดอยู่ก็ตาม
จุดสังเกตเพิ่มเติมสำหรับใครที่ไม่ได้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung เจ้าหูฟัง Galaxy Buds Pro ก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกเดียวที่มี เพราะบางฟีเจอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เช่นการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assisant หรือ Siri สำหรับ iPhone
Samsung Galaxy Buds Pro วางจำหน่ายแล้วในราคา 6,990 บาท เป็นเจ้าของกันได้ที่ Samsung Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ด้านล่างนี้
- Samsung : https://bit.ly/2NkBbRL
- Shopee : https://bit.ly/2ZcvgRq
- Lazada : https://bit.ly/3jLOKpo
News
ฉลองตรุษจีนกับ Galaxy Watch Active2 สีใหม่ Rose Gold เริ่มขายแล้ววันนี้
ขอแนะนำ Galaxy Watch Active2 เพื่อนคู่กายด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพที่แม่นยำ กับสีสันใหม่อย่าง Rose Gold ที่เข้าคู่กับสุดยอดสมาร์ทโฟนอย่าง S21 5G และ S21+ 5G

Galaxy Watch Active2 มาพร้อมฟังก์ชันจัดเต็ม ให้คุณสนุกเต็มที่กับการออกกำลังกาย ด้วยโหมดออกกำลังกายสูงถึง 40 แบบ พร้อม 7 แบบอัตโนมัติ และ 15 แบบในการออกกำลังกายตามภาพแอนิเมชันหน้าจอ ที่สำคัญมี Auto Workout Tracking ที่แทร็กได้รวดเร็วเพียง 3 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันด้านสุขภาพที่ให้เลือกอีกมากมาย
เป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 64 เป็นต้นไป ด้วยราคาเพียง 6,990.- เท่านั้น ที่ Samsung Experience Store และ store.samsung.com หรือศึกษาคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ที่นี่
-
Android Tips2 สัปดาห์ ago
How-To วิธี AirDrop จาก iPhone ไป Android หรือคอมง่าย ๆ ด้วย Snapdrop
-
Apple News1 สัปดาห์ ago
อัปเดท ราคา iPhone 12 จาก AIS, dtac, TrueMove H เริ่มต้น 11,900 บาท เดือนกุมภาพันธ์ 2021
-
Apple News2 สัปดาห์ ago
อัปเดท! ราคาล่าสุด iPhone SE, iPhone XR เริ่มเพียง 2,800 บาท เดือนกุมภาพันธ์ 2021
-
Apple News1 สัปดาห์ ago
เผยเรนเดอร์ iPhone 13 Pro ขอบเครื่องแบน รองรับ Touch ID ใต้จอ และรอยบากเล็กลง
-
IT News2 สัปดาห์ ago
Clubhouse ฮิตหนัก คนไทยแห่ขาย Invite ออนไลน์เพียบ!
-
Android News1 สัปดาห์ ago
เปรียบเทียบความเร็วการชาร์จ 5 เรือธง S21 Ultra vs Note20 Ultra vs iPhone 12 Pro Max, Mi 11 และ Mate40 Pro
-
Android News5 วัน ago
พรีวิว OPPO X 2021 สมาร์ทโฟนจอม้วนได้รุ่นแรก มิติใหม่ของการขยายหน้าจอจากสมาร์ทโฟนไปแท็บเล็ต
-
How To2 สัปดาห์ ago
How-To วิธีเปลี่ยนชื่อ ตั้งชื่อเล่นและ Username บน Clubhouse