iPhone Xc และ iPhone Xs เจาะลึกทุกรายละเอียด ที่นี่ที่เดียว

หลังจากการเปิดตัว iPhone X ถ้านับเวลาก็เกือบจะครบรอบ 1 ปี แล้ว iPhone X เป็นสมาร์ทโฟนที่เป็นตัวแทนของยุคใหม่ของ iPhone เพราะเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของ Apple ที่ฉลองครบรอบ 10 ปี

หลังจากเปิดตัว iPhone X ออกมาก็มีกระแสทั้งดีใจและไม่ชอบใจในหลายๆ เรื่อง โดยส่วนมากแล้วสิ่งที่หลายคนไม่ชอบใจเกี่ยวกับราคาที่สูง ทำให้สาวกหลายคนกำลังมองหา iPhone รุ่นใหม่ที่คาดว่าดีกว่าในปีนี้

ไม่ใช่ว่าทาง Apple จะไม่รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้งาน iPhone X ทำให้มีการพัฒนา iPhone ออกมาถึง 3 รุ่น ซึ่งข่าวที่หลุดออกมาทำให้ทราบว่าในปีนี้จะมีเปิดตัว iPhone ที่มีราคาและขนาดหน้าจอที่ต่างกัน ด้วยความต้องการที่อยากเห็น iPhone รุ่นใหม่มีความสามารถในการใช้งานที่ดีกว่ารุ่นเก่า iPhone X ทำให้ iPhone ทั้ง 3 รุ่นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ใช้งาน

ชื่อของ iPhone 2018

นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนอยากรู้ซึ่งมีการถกเถียงกันอย่างมากในช่วงนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้เรายังไม่มีแนวทางในการเรียก iPhone ทั้ง 3 รุ่นและไม่รู้ว่าทาง Apple จะใช้ชื่อรุ่นว่าอะไร เราจึงเรียกตามประเภทของหน้าจอแสดงผลแทน รวมถึงขนาดหน้าจอแสดงผลด้วย ทำให้เราสามารถแยกแยะ iPhone แต่ละรุ่นออกจากกันได้

แต่มาในช่วงต้นเดือนกันยายนดูเหมือนจะมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่า Apple จะตั้งชื่อด้วยตัวอักษร X แทนที่จะตั้งเป็นตัวเลขเหมือนกับ iPhone 8 ซึ่งล่าสุดกระแสข่าวที่ออกมานั้นมีชื่อที่แน่นอนแล้วว่า

• iPhone XC/Xr เป็นชื่อสำหรับ iPhone LCD 6.1 นิ้ว ราคาน่าจะอยู่ที่ 749-849 เหรียญสหรัฐ
• iPhone Xs เป็นชื่อสำหรับ iPhone OLED 5.8 นิ้ว ราคาน่าจะอยู่ที่ 899-999 เหรียญสหรัฐ
• iPhone OLED 6.5 นิ้วน่าจะเป็น iPhone รุ่นเดียวที่ชื่อยังไม่แน่นอนระหว่าง iPhone Xs Max และ iPhone Xs Plus ราคาน่าจะอยู่ที่ 999-1199 เหรียญสหรัฐ

วัสดุโลหะหรืออลูมิเนียม

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ Mingi-Chi Kuo จาก KGI Securities ได้ออกมาบอกไว้ว่าโครงสร้างและกรอบของ iPhone Xs นั่นแตกต่างจาก iPhone XC ตรงที่โครงสร้างและกรอบเป็นอลูมิเนียม แต่ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว iPhone X มีการใช้สแตนเลสคุณภาพดีในการทำกรอบและโครงสร้าง

แต่เมื่อดูจากเทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่จะมีอยู่ใน iPhone ทั้ง 3 รุ่น Apple น่าจะเลือกใช้งานอลูมิเนียมในการทำกรอบและโครงสร้างและใช้กระจกประกบด้านหน้าและด้านหลังอีกทีหนึ่ง ซึ่งการออกแบบโครงสร้างแบบนี้จะช่วยสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย Air Power ของ Apple ที่คาดว่าน่าจะเปิดตัวในงานนี้เหมือนกัน

กล้องถ่ายรูปใน iPhone 2018

อย่างที่เราได้ยินกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า iPhone XC จะมีกล้องหลังเพียงตัวเดียว ส่วน iPhone Xs และ Xs Plus/Max นั้นจะมีกล้องหลังคู่ โดยเชื่อได้ว่าถึงแม้ทั้ง 3 รุ่นจะมีจำนวนกล้องที่แตกต่างกันแต่ความสามารถในการบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 4K HDR ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที ชิปเซ็ต A12 นั้นยังคงมีอยู่ใน iPhone ทุกรุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างกันน่าจะเป็นกล้องคู่หลัง OIS แน่นอนว่า iPhone XC จะไม่มีคุณสมบัตินี้ ถึงกระนั้นผมเชื่อแน่ว่า Apple ก็คงจะใส่ลูกเล่นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการถ่ายรูปมาทดแทน เพื่อไม่ให้รู้สึกถึงความห่างชั้นของเทคโนโลยีการถ่ายรูปมากนัก สำหรับ iPhone ทั้ง 3 รุ่น

หน้าจอ LCD จะทำให้รู้สึกแตกต่างกับหน้าจอ OLED ?

สำหรับหน้าจอแสดงผลใน iPhone XC นั้นเพื่อนๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะได้สีที่ไม่สดใสเพราะมีข่าวว่าทาง Apple เลือกใช้หน้าจอแสดงผลจากบริษัทร่วมทุนอย่าง JDI (Japan Display Inc) เป็นบริษัทที่เกิดขึ้นจากความรวมมือของ โซนี่, ฮิตาชิ และโตชิบ้า ที่ลงทุนร่วมกันเพื่อพัฒนาหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ให้มีความสามารถในการแสดงสีมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีล่าสุดของ JDI นั้นก็คือ FULL ACTIVE เป็นหน้าจอแสดงผลรูปแบบใหม่ที่มีการออกแบบวงจรต่างๆ ภายในหน้าจอแสดงผลใหม่ทั้งหมด ทำให้ขอบของหน้าจอเล็กลงพื้นที่ในการใช้งานหน้าจอเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีเทคโนโลยี Pixel Eyes ของ JDI ที่ทำให้จอ LCD แสดงผลสีดำได้ดำกว่าเดิม และใช้งานสัมผัสได้แม้นิ้วจะเปียกน้ำ

ในการทำงานของ Apple นั้นส่วนมากแล้วจะทำงานร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนเสมอ แน่นอนว่าการผลิตหน้าจอแสดงผล LCD ก็เช่นกัน คาดว่าหน้าจอแสดงผลจะมีอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 18.5:9 ด้วยความสามารถเหล่านี้จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหน้าจอแสดงผล LCD ใน iPhone XC จะต้องเป็นหน้าจอแสดงผลที่ดีที่สุด

แรมและหน่วยความจำภายใน

อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า Apple เพิ่งเปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง A12 ที่ผลิตจากสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรเป็นผลสำเร็จและจะมีการใช้งานใน iPhone ทั้ง 3 รุ่นที่จะเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายนนี้ด้วย

• แรมขนาด 3GB หน่วยความจำภายใน 128GB จะใช้สำหรับ iPhone XC
• แรมขนาด 4GB หน่วยความจำภายใน 256GB จะใช้สำหรับ iPhone Xs
• แรมขนาด 4GB หน่วยความจำภายใน 512GB จะใช้สำหรับ iPhone Xs Max/Plus

สาเหตุว่าทำไมรุ่น iPhone Xs Max/Plus จะมีหน่วยความจำภายในถึง 512GB มาจากการเปิดตัวของ Galaxy Note9 ที่มีรุ่นขนาด 512GB ซึ่งคาดว่าทาง Apple ก็คงจะเปิดตัวหน่วยความจำเท่ากับทาง Samsung

แบตเตอรี่และเมนบอร์ด

ด้านการวางตำแหน่งของแบตเตอรี่และเมนบอร์ดนั้นมีส่วนสำคัญในการเพิ่มความสามารถให้กับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว เพราะถ้ามีการจัดเรียบที่ดีอาจจะเพิ่มพื้นที่ให้กับอุปกรณ์อื่นได้

มีการคาดการณ์ว่า iPhone XC นั้นจะมีแบตเตอรี่คล้ายกับ iPhone 8 ที่มีแบตเตอรี่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้าเพียงก้อนเดียวเท่านั้น 2,850-2,950mAh สาเหตุที่เป็นแบตเตอรี่ก้อนเดียวก็เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิตแผงวงจรที่ไม่ซับซ้อนกัน ซึ่งการผลิตแผงวงจรให้ซับซ้อนนั้นจะมีต้นทุนที่สูงกว่า

ส่วน iPhone Xs และ iPhone Xs Max/Plus นั้นจะมีการจัดระเบียบการวางเมนบอร์ดและแบตเตอรี่เหมือนกับ iPhone X ทำให้แบตเตอรี่ที่ใช้ใน iPhone ทั้ง 2 รุ่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ก้อนโดยวางในรูปแบบตัวแอล (L) ซึ่งการจัดเรียงในรูปแบบนี้สามารถทำให้แบตเตอรี่มีความจุเพิ่มขึ้นถึง 30% แต่วงจรที่ใช้จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น คาดว่าแบตเตอรี่รวม 2 ก้อนจะมีความจุอยู่ที่ 3,300-3,400mAh

ราคาและวันจำหน่ายที่แน่นอน

ช่วงราคาของ iPhone ทั้ง 3 รุ่นนี้น่าจะอยู่ในช่วงราคาที่มีการคาดการณ์ไว้ แน่นอนว่าระบุราคาที่ชัดเจนลงไปในแต่ละอุปกรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง ราคาที่นำมาบอกนี้เป็นการนำราคาจากการเปิดตัวของ iPhone รุ่นก่อนมาเปรียบเทียบเรตของราคาที่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะมีราคาอยู่เท่าไร

• iPhone XC ราคาน่าจะอยู่ที่ 749-849 เหรียญสหรัฐ ช่วงเวลาจำหน่าย 19 ตุลาคม -2 พฤศจิกายน 2018
• iPhone Xs ราคาน่าจะอยู่ที่ 899-999 เหรียญสหรัฐ ช่วงเวลาจำหน่าย 21 กันยายน 2018
• iPhone Xs Max ราคาน่าจะอยู่ที่ 999-1199 เหรียญสหรัฐ ช่วงเวลาจำหน่าย 21 กันยายน 2018
• iPhone Xs Plus ราคาน่าจะอยู่ที่ 999-1199 เหรียญสหรัฐ ช่วงเวลาจำหน่าย 21 กันยายน 2018

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงบอกราคาถึง 4 รุ่น ทั้งๆ ที่ Apple บอกว่าจะประกาศ iPhone เพียง 3 รุ่นเท่านั้น สาเหตุที่ทำให้ผมคิดว่าน่าจะมีถึง 4 รุ่นในคราวนี้ก็เพราะว่าช่วงเวลานี้มีข่าว 2 อย่างที่ออกมาในเวลาเดียวกันและออกมาจากสถานที่เดียวกันคือประเทศจีน

จากข่าวที่ได้รับมานั้น iPhone Xs Plus รุ่นนี้น่าจะเป็น iPhone ขนาดใหญ่และมีความสามารถใช้งานได้ 2 ซิม มีหน่วยความจำที่มากที่สุดคือ 512GB ซึ่งคาดน่าจะมีราคาเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นนี้

ที่มา phonearena