Connect with us

Featured

รีวิว Infinix Hot 8 สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 6.6 นิ้ว ควบคู่กับแบต 5000mAh พร้อมใช้งานได้ทั้งวัน และกล้องหลังถึง 3 เลนส์ ในราคาสุดสบายกระเป๋า

Published

on

Infinix Hot 8 สมาร์ทโฟนรุ่นสุดประหยัดกับราคาที่จับต้องได้ง่ายๆ มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว แบตเตอรี่สุดอึด 5,000 mAh และกล้องหลังที่ให้มาถึง 3 เลนส์ โดยความคุ้มค่าจะเกินราคาไปขนาดไหนมาดูกันเลยดีกว่า

 

สรุปสเปค Infinix Hot 8

  • หน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ Waterdrop Display ชนิด IPS ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9
  • หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6761 Helio A22 Quad Core ความเร็ว 2.0 GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 32GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • เลนส์ AI Scene Recognition ความละเอียด QVGA
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย XOS 5.0.2
  • พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh

 

[แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล]

ตัวกล่องของ Infinix Hot 8 มาในทรงสี่เหลี่ยมตามปกติ โดยจะเห็นตัวหน้าจอพร้อมชื่อรุ่นที่ด้านหน้า และสเปคที่สำคัญทางด้านหลังตัวเครื่อง โดยอุปกรณ์ภายในจะมีให้ดังนี้

  • ตัวเครื่อง Infinix Hot 8
  • อะแดปเตอร์
  • สาย Micro USB 2.0
  • เคสใสกันกระแทก
  • หูฟังพอร์ต 3.5 มม.
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

ดีไซน์ฝาหลังของ Infinix Hot 8 มีการเล่นเฉดสีเบาๆ ด้วยสีม่วงจรดดำ ทำให้ตัวเครื่องดูแพงเกินราคา และเมื่อมองลงลึกเข้าไปในดีไซน์ตัวเครื่อง เราจะเห็นเหมือนกับประกายเพชรเบาๆ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นแบบสวยๆ เมื่ออยู่กลางแจ้ง

 

นอกจากนี้ การดีไซน์ของ Infinix Hot 8 ยังมีความโค้งมนที่ด้านหลังเล็กน้อย ทำให้เวลาจะจับหรือจะถือก็ทำได้อย่างสะดวกมากๆ

 

หน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาดใหญ่ถึง 6.6 นิ้ว โดยเป็นชนิดแบบ IPS-TFT และเป็น Waterdrop Display หรือทรงหยดน้ำนั่นเอง ซึ่งมีความละเอียดอยู่ที่ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) และอัตราส่วน 20:9

 

เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ในตัวของหยดน้ำ ถัดขึ้นไปจะมีลำโพงสำหรับสนทนา และที่ซ้ายจะมีไฟ LED บอกสถานะ

 

ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง + MicroSD ได้อีก 1 ช่อง รวม 3 ช่องเลยครับ

 

ทางฝั่งขวาจะเป็นการรวมทั้งหมด โดยมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคเครื่องอยู่

 

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีลำโพงตัวหลัก, พอร์ต Micro USB 2.0, ไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

 

และที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องแนวตั้งที่มุมซ้ายบน โดยมีกล้อง 3 เลนส์ และไฟแฟลช LED ถึง 4 ดวงคั่นอยู่ระหว่างเลนส์ที่ 2 และ 3 โดยถัดไปกลางเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่

 

[ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน]

ระบบปฎิบัติการ

Infinix Hot 8 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย XOS 5.0.2 โดยการใช้งานเบื้องต้นก็จะมีทั้งหน้าจอหลัก, ปัดลงเพื่อดูการตั้งค่าด่วนหรือการแจ้งเตือน และปัดขึ้นเพื่อดูหน้าจอรวมแอปพลิเคชั่นได้ครับ

 

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนรูปแบบวอลเปเปอร์ก็ทำได้เช่นกันครับ มีให้เลือกประมาณ 10 แบบผ่านตัวเครื่อง หรือเลือกได้อย่างอิสระผ่านแอปพลิเคชั่น XTheme ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง

 

ระบบความปลอดภัย

เรื่องของระบบความปลอดภัยก็ให้มาครบเช่นกันสำหรับเครื่องราคา 2,990 บาท โดยการสแกนลายนิ้วมือสามารถจดจำได้มากถึง 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถสแกนได้ค่อนข้างรวดเร็วและเสถียร

 

ส่วนการสแกนใบหน้าก็สามารถทำได้ง่ายๆ ในส่วนเดียวกัน โดยจะรองรับเพียง 1 ใบหน้าเท่านั้น ซึ่งระหว่างสแกนใบหน้าก็ถือว่าทำได้เร็วสำหรับราคาระดับนี้ เพียงแค่กดปุ่มปลดล็อคเครื่องและรอประมวลผลประมาณ 1 วินาทีก็เริ่มใช้งานได้ทันที

 

ใช้งานได้รวดเร็วผ่านแผงอัจฉริยะ

แผงอัจฉริยะเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายให้การใช้งานง่ายขึ้นมากๆ โดยเราสามารถเข้าถึงแอปได้เพียงแค่ปัดออกมาจากด้านข้างหน้าจอ ไม่ต้องไปนั่งเสียเวลาหาแอปที่ใช้บ่อยเลยครับ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแอปหรือปรับตำแหน่งที่อยู่ก็ได้เช่นกันทั้งฝั่งซ้ายหรือขวา

 

เปลี่ยนปุ่มนำทาง

เมื่อมีหน้าจอใหญ่ ใครก็ต้องอยากใช้การนำทางที่ทำให้เครื่องนั้นดูเต็มมากขึ้น ซึ่งใน Infinix Hot 8 สามารถเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ แบบปุ่มปกติ, การนำทางแบบลายเส้น (เปลี่ยนจากปุ่มเป็นลากขึ้นแทน) และการนำทางแบบผสม

 

เพิ่มมิติการฟังเพลงด้วยระบบเสียง Dirac Sound

สำหรับระบบเสียง Dirac Sound จะทำให้การฟังเพลงหรือการรับชมวิดีโอต่างๆ ได้อรรถรสยิ่งขึ้นด้วยเสียงที่มีมิติกว่าเดิม และเมื่อลองฟังจริงๆ เมื่อเราปิด Dirac Sound เสียงจะเบาลงทันที และหากเปิดความดังและมิติของเสียงจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ

 

ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล

Infinix Hot 8 มาพร้อมกับฟีเจอร์เครื่องมือไลฟ์สไตล์ดิจิทัลเพื่อดูว่าในแต่ละวันเราใช้งานแอปพลิเคชั่นอะไรไปบ้าง ปลดล็อคไปกี่ครั้ง มีการแจ้งเตือนกี่รอบ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราได้ทราบว่าพฤติกรรมของเราใช้สมาร์ทโฟนเยอะเกินไปหรือไม่อย่างไร

 

[ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่]

Infinix Hot 8 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Mediatek Helio A22 Quad Core ความเร็ว 2.0 GHz ควบคู่กับ RAM 2GB + ROM 32GB ซึ่งความจุนี้สามารถลงแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานได้ทั่วไปโดยไม่มีเต็มแน่นอน ส่วน RAM 2GB ก็ถือว่าเพียงพออยู่สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่าง Facebook, Youtube หรือ Twitter ที่ไม่ต้องโหลดใหม่ระหว่างสลับแอป

 

สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำคะได้ไปได้ที่ 62,483 คะแนน

 

ก่อนที่จะไปทดสอบการเล่นเกมเบาๆ กัน ต้องบอกว่า Infinix Hot 8 ยังมีฟีเจอร์โหมดเกมที่ช่วยให้การเล่นเกมนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการเคลียร์ RAM หรือการทำงานของแอปพลิเคชั่นเบื้องหลัง โดยเรายังเข้าไปตั้งค่าให้ล็อคแสงหน้าจอหรือป้องกันการกดโดยไม่ได้ตั้งใจได้ด้วยเช่นกัน

 

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

ส่วนเกม ROV ก็ได้ยอดเยี่ยมจากการเล่นโหมด 5 VS 5 ปรับกราฟิกเป็นระดับกลางๆ ซึ่งภายในเกมตั้งแต่ช่วงต้นเกมไปถึงจบเกม เฟรมเรทแทบไม่มีเหวี่ยงให้เห็นจะอยู่ราวๆ 28-30 fps และระบบสัมผัสก็ทำให้ไหลลื่นมากๆ โดยใครไม่ซีเรียสเรื่องกราฟิก สมาร์ทโฟนในราคาระดับนี้เล่นได้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แล้วครับ

 

Garena : Speed Drifters

มาถึงเกมเบาๆ อย่างเกมแข่งรถ Garena : Speed Drifters กันบ้าง เราลองทดสอบด้วยการปรับกราฟิกระดับกลางคู่กับเฟรมเรทระดับสูงสุด ซึ่ง Infinix Hot 8 เล่นได้อย่างไหลลื่น ทั้งตอนดริปหรือตอนเร่งเครื่องก็ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ

 

แบตเตอรี่อึดพร้อมใช้งานทั่วไปได้ทั้งวัน

Infinix Hot 8 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุถึง 5000mAh ทำให้เราสามารถใช้งานทั่วไปได้ทั้งวันแน่นอน ใครที่เน้นโซเชียลเป็นหลัก เล่นเกมเป็นรอง รับรองว่าไม่มีหมดแน่นอน ส่วนใครที่เน้นเกมก็อาจจะต้องพกที่ชาร์จไปและชาร์จสัก 1 รอบต่อวันเท่านั้นครับ เพราะการเล่นเกมแบบสุดๆ ทั้งวันก็อาจจะกินแบตเล็กน้อย

 

ทั้งนี้ เรื่องแบตเตอรี่ก็ยังมีฟีเจอร์ Battery Lab ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อช่วยจัดการพลังงานในเครื่อง ปรับตัวให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน แถมยังยืดระยะความอึดเมื่อ Stand by ได้ยาวนานขึ้นอีกถึง 10%

 

[กล้องถ่ายรูป]

สำหรับ Infinix Hot 8 ก็ให้การถ่ายภาพได้สวยคมชัดเหมือนกันด้วย 3 เลนส์หลัง และแฟลช LED ถึง 4 ตัว โดยแต่ละเลนส์มีดังนี้

  • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ AI Scene Recognition ความละเอียด QVGA

ส่วนกล้องหน้าก็ถ่ายได้คมชัดด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.0 โดยฟีเจอร์ทั้งกล้องหน้าและหลังก็มีเพียบ ได้แก่

อัจฉริยะด้วย AI Scene Recognition

Infinix Hot 8 มาพร้อมกับกล้องที่มีความฉลาดในเรื่องการตรวจจับวัตถุที่ค่อนข้างแม่นยำที่จะถ่าย เช่น ใบหน้าคนหรือถ่ายตอนกลางคืน ก็จะขึ้นระบุฉากเอาไว้ นอกจากนี้ เลนส์หลักยังมีเทคโนโลยี PDAF ช่วยในเรื่องระบบโฟกัสที่ทำได้อย่างรวดเร็วมากๆ สามารถโฟกัสได้ดีโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่กลางแจ้งหรือที่ที่มีแสงสว่างเยอะ

ถ่ายใบหน้าสวยงามด้วย AI Beauty Mode

ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของรุ่นนี้สามารถถ่ายใบหน้าสวยงามได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ AI ในการปรับแสง สี และสภาพผิวให้เนียนโดยอัตโนมัติ หรือใครยังไม่ถูกใจก็สามารถเลือกปรับระดับได้เองตั้งแต่ 1 – 6 ระดับได้เช่นกันครับ

 

นอกจากนี้ ก็ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกอีกเกือบ 10 แบบ เช่น สีฟ้า, อ่อนนุ่ม, เปลวไฟ, คลาสสิก หรือป่าไม้ เป็นต้น

 

หน้าชัดหลังเบลอหรือรูปบุคคลก็ทำได้เหมือนกัน

ด้วยเลนส์ Depth ที่มีมาให้ใน Infinix Hot 8 ทำให้เราสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกัน ซึ่งการเบลอก็ทำได้ดีพอสมควร มีการตัดขอบได้เนียนตาและดูธรรมชาติ โดยเมื่อเราใช้กล้องหลังก็จะสามารถปรับค่า F ได้กว้างสุดถึง f/1.0 จากการใช้ซอฟต์แวร์ และแคบสุดที่ f/16 (ค่า f ยิ่งน้อยยิ่งเบลอ)


ปิดโหมด Portrait (ซ้าย) และเปิดโหมด Portrait (ขวา)

 

ส่วนใครที่ใช้กล้องหน้าในโหมดรูปบุคคล AI ก็จะปรับมวลในเรื่องการเบลอฉากหลังให้อัตโนมัติ มีการตัดขอบได้ดีพอสมควร แต่จะไม่สามารถปรับค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เหมือนกล้องหลังครับ

 

เพิ่มความน่ารักในการถ่ายภาพด้วย AR Sticker

สำหรับ AR Sticker สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยมีสติ๊กเกอร์ให้เลือกใช้กันหลาย 10 แบบเลยทีเดียว จะเป็นหูกระต่าย, แมว หรือใส่แว่นแบบเท่ๆ ก็ทำได้หมดครับ

 

สรุปจุดเด่น

  • ให้กล้องหลังมาถึง 3 เลนส์ความละเอียด 13 + 2 + QVGA ล้านพิกเซล
  • มีหน้าจอแสดงผล Waterdrop ที่กว้างถึง 6.6 นิ้ว ทำให้ใช้งานได้เต็มตาระหว่างเล่นเกมหรือดูวิดีโอ
  • มีแบตเตอรี่ถึง 5,000mAh รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
  • มีระบบเสียง Dirac Sound เพิ่มมิติของการฟังเพลงไปอีกขั้น
  • มีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง และ MicroSD ได้อีก 1 ช่อง
  • ราคาคุ้มค่ากับสเปคที่ได้ในราคาเพียง 2,990 บาท

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ยังใช้พอร์ต Micro USB 2.0 อยู่

สำหรับ Infinix Hot 8 วางจำหน่ายในราคาเพียง 2,990 บาทเท่านั้น โดยสามารถซื้อผ่านออนไลน์ของ LAZADA ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

กำลังฮอต

Featured3 วัน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News4 สัปดาห์ ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Android News4 สัปดาห์ ago

5 เหตุผลที่ Galaxy Z Flip5 ยังคงเป็นมือถือจอพับที่น่าใช้สุด ๆ

Galaxy Z Flip5 จัดว่...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก