Buying Guides
วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี เหมาะกับการใช้งาน ปี 2022
วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี ปี 2022 ที่เหมาะกับการใช้งานที่ง่ายที่สุดก็เพียงแค่ซื้อเครื่องใหม่ล่าสุดและมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือความจุที่อย่างน้อยๆ ก็ 128GB ขึ้นไป แต่อาจไม่คุ้มค่าที่สุดในการใช้งาน วันนี้ทีมงาน iphone-droid จะมาแนะนำให้ครับ เพราะสเปคและราคาที่อาจสูงเกินความจำเป็นก็ได้ (ชมคลิป)
iPhone รุ่นไหนดี ?
iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดมีทั้งหมด 5 รุ่น โดยมาพร้อมชิปประมวลผลที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ Apple A15 Bionic ได้แก่ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max และ iPhone SE 3
ในการเลือกซื้อ iPhone รุ่นใหม่ในช่วงนี้ หลายคนอาจลังเลในเรื่องของการมา iPhone 14 แต่ถ้าย้อนกลับไปดูในปีที่ผ่านๆ มา กว่าจะเปิดตัวก็อยู่ในช่วงปลายปีหรือเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
เปรียบเทียบสเปค iPhone
iPhone SE 3 | iPhone 13 mini | iPhone 13 | iPhone 13 Pro | iPhone 13 Pro Max | |
---|---|---|---|---|---|
ราคาเริ่มต้น | 15,900 | 25,900 | 29,900 | 38,900 | 42,900 |
ขนาดจอ | 4.7″ | 5.4″ | 6.1″ | 6.1″ | 6.7″ |
จอภาพ | LCD | OLED HDR | OLED HDR | OLED HDR, ProMotion 120Hz | OLED HDR, ProMotion 120Hz |
ขนาดตัวเครื่อง | 5.45″ x 2.65″ x 0.29″ | 5.18″ x 2.53″ x 0.30″ | 5.78″ x 2.82″ x 0.30″ | 5.78″ x 2.82″ x 0.30″ | 6.33″ x 3.07″ x 0.30″ |
น้ำหนัก | 5.09 oz | 4.97 oz | 6.14 oz | 7.19 oz | 8.46 oz |
สี | Starlight, Midnight, red | Starlight, Midnight, Blue, Pink, Red, Green | Starlight, Midnight, Blue, Pink, Red, Green | Graphite, Gold, Silver, Sierra Blue, Alpine Green | Graphite, Gold, Silver, Sierra Blue, Alpine Green |
ชิปเซ็ต | A15 Bionic (4-core GPU) | A15 Bionic (4-core GPU) | A15 Bionic (4-core GPU) | A15 Bionic (5-core GPU) | A15 Bionic (5-core GPU) |
ความจุเครื่อง | 64/128/256GB | 128/256/512GB | 128/256/512GB | 128/256/512GB/1TB | 128/256/512GB/1TB |
ระบบยืนยันตัวตน | Touch ID | Face ID | Face ID | Face ID | Face ID |
กล้องหลัง | Wide 12MP f/1.8 | Wide 12MP f/1.6 Ultra-wide 12MP f/2.4 | Wide 12MP f/1.6 Ultra-wide 12MP f/2.4 | Wide 12MP f/1.5 Ultra-wide 12MP f/1.8 Telephoto 12MP f/2.8 | Wide 12MP f/1.5 Ultra-wide 12MP f/1.8 Telephoto 12MP f/2.8 |
กล้องหน้า | 7MP f/2.2, 1080p | 12MP f/2.2, 4K HDR | 12MP f/2.2, 4K HDR | 12MP f/2.2, 4K HDR | 12MP f/2.2, 4K HDR |
แบตเตอรี่ | -mAh | 2348mAh | 3240mAh | 3095mAh | 4352mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC | 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, Ultra Wideband | 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, Ultra Wideband | 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, Ultra Wideband | 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, Ultra Wideband |
MagSafe |
วิธีเลือก iPhone 2022 ที่ดีที่สุด
iPhone 13 คุ้มค่าที่สุด
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว สว่างขึ้นถึง 28%
- ระบบกล้องคู่ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยที่สวยงาม
- ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 4-core
- Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วสุดแรงและการสตรีมคุณภาพสูง
หากต้องการ iPhone ใหม่และไม่แน่ใจว่าต้องการเน้นอะไรเป็นพิเศษ iPhone 13 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพตัวเครื่อง และราคา ถึงแม้ว่า iPhone13 Pro นั้นดีกว่าแน่นอน เพราะได้หน้าจอ 120Hz ProMotion ระบบกล้องที่จัดเต็มมากกกว่า รวมไปถึงความสามารถในการถ่ายภาพมาโคร และแบเตอรี่ที่ใช่งานได้ยาวนานกว่านิดหน่อย
แต่จำเป็นหรือไม่ เพราะราคาของ iPhone 13 Pro นั้นแพงกว่า iPhone 13 อยู่ที่ 9,000 บาท หากไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ที่สูงกว่าก็อาจจะเกินความจำเป็น ดังนั้นรุ่นมาตรฐานจึงเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ iPhone ทุกรุ่น
iPhone 13 Pro และ Pro Max ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว พร้อม ProMotion
- การอัปเกรดระบบกล้องระดับโปรครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยและและการถ่ายภาพมาโคร
- ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core ชิปที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน
- Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วสุดแรงและการสตรีมคุณภาพสูง
ในปีที่แล้ว iPhone 12 Pro Max มีระบบกล้องที่แตกต่างจาก iPhone 12 Pro นั่นก็คือในเรื่องของระบบกันภาพสั่นไหว sensor-shift OIS แต่ในปีนี้ iPhone 13 Pro และ Pro Max มีระบบกล้องที่เหมือนกันทุกประการ ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือให้เลือกขนาดตัวเครื่องที่เหมาะกับการใช้งาน
ทั้งสองรุ่นมีกล้องแบบเดียวกัน เซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ขึ้นและรูรับแสงที่กว้างกว่าเดิมในเลนส์กล้องหลัก เมื่อเทียบกับรุ่น iPhone 12 Pro และ Pro Max ของปีก่อนหน้า สำหรับเซ็นเซอร์ Ultra-wide ขนาดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็มีรูรับแสงที่กว้างขึ้น พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติ PDAF
iPhone 13 Pro Max เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดและแพงที่สุดจาก Apple มีจอแสดงผล 6.7 นิ้ว Super Retina XDR ความละเอียด 1284 x 2778 พิกเซลเช่นเดียวกับ iPhone 13 Pro ที่มีขนาดเล็กกว่า ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต A15 Bionic ล่าสุดของ Apple และมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลภายในสูงสุด 1TB ดังนั้นหากต้องการฟีเจอร์ที่สุดทุกอย่างก็ต้องเป็นรุ่นนี้เท่านั้น
iPhone SE 3 ดีที่สุดสำหรับเด็ก
- จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว
- ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลังสุดๆ แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่รวดเร็วและการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูง
- ปุ่มโฮมพร้อม Touch ID ปลดล็อคและลงชื่อเข้าใช้แอปได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเด็กแล้ว มือถือที่มีขนาดเล็กคือตัวเลือกที่ดีที่สุด รวมไปถึงราคาไม่แพงด้วย iPhone SE 3 รุ่นใหม่ล่าสุดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมชิปประมวลผล A15 Bionic ประสิทธิภาพเร็วแรงใช้งานได้หลายปี เพราะอย่างที่ทราบกันว่า Apple สนับสนุนการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่อเนื่องหลายปี
นอกจากนี้ยังมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือ แทนที่จะเป็น Face ID เพื่อลดความยากในการใช้งานสำหรับเด็กที่มีอายุน้อย เพราะ Apple เคยกล่าวว่า Face ID เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปเท่านั้น
iPhone SE 3 มีขนาดที่เล็กพอดีมือและเด็กๆ ก็พกใส่กระเป๋าได้ง่าย อีกราคาเริ่มต้น 15,900 บาทสำหรับอุปกรณ์ของ Apple ก็ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น แม้ว่าตัวเครื่องจะมีดีไซน์เก่าไม่ต่างไปจากรุ่นก่อนหน้า
iPhone 11 ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ
- จอภาพ แบบ Liquid Retina HD ขนาด 6.1 นิ้ว
- ระบบกล้องคู่พร้อมโหมดกลางคืน โหมดภาพถ่ายบุคคล และวิดีโอระดับ 4K สูงสุด 60 fps
- กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP พร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคล, วิดีโอระดับ 4K และโหมดสโลว์โมชั่น
- ชิป A13 Bionic พร้อม Neural Engine
- Face ID เพื่อการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย
iPhone 11 เป็นรุ่นเก่ากว่า iPhone SE 3 แถมไม่รองรับ 5G ด้วย แต่รุ่นเก่านี้ก็มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ครบเครื่องกว่าและน่าซื้อมากกว่า โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นใช้งาน iPhone และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากกำลังวางแผนซื้อให้คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่
iPhone 11 มีหน้าจอ 6.1 นิ้ว ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ดังนั้น iPhone SE ตัดออกไปได้เลย แต่ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกัน เพราะดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ของ iPhone 11 นั่นเอง แถมมีระบบ Face ID และมีกล้องที่ดีกว่าด้วยกล้องคู่ กล้องหลักและกล้อง Ultra-wide อีกทั้งกล้องหน้าคมชัดกว่าคือ 12 ล้านพิกเซล สำหรับการ FaceTime ที่ดีขึ้น
ด้านชิปประมวลผล A13 Bionic ไม่ส่งผลต่อการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone SE รุ่นใหม่ด้วยตามข้อมูลสเปคที่ Apple ระบุเอาไว้
iPhone 13 mini ขนาดเล็กที่ดีที่สุด
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 5.4 นิ้ว สว่างขึ้นถึง 28%
- ระบบกล้องคู่ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยที่สวยงาม
- ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 4-core
- Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วสุดแรงและการสตรีมคุณภาพสูง
ทำไม iPhone 13 mini ถึงเป็น iPhone ขนาดเล็กที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะผู้ใช้งานจะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ เหมือนกับ iPhone 13 ในขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่า และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า iPhone 12 mini อีกด้วย
จอภาพที่ให้มาในรุ่นนี้เป็นจอ Super Retina XDR แบบ OLED กล้องหลังเลนส์คู่ และได้ชิป A15 Bionic ที่ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนชอบ iPhone ขนาดเล็ก
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการแนะนำ วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี ในปี 2022 เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่หากไม่ติดเรื่องงบประมาณก็จะเลือกง่ายหน่อย สามารถเลือกรุ่นที่ชื่นชอบได้เลยครับ
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ