Connect with us

Featured

รีวิว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตรุ่นเรือธงของซัมซุง หน้าจอสวย คมชัด เติมเต็มทุกการใช้งาน และครั้งแรกกับความสามารถกันน้ำบนแท็บเล็ตไฮเอนด์!!

Published

on

รีวิว Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Samsung ที่อัปเกรดสเปคและความสามารถให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X, ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2, RAM/ROM สูงสุด 12/256GB หรือไฮไลท์เด่นอย่างความสามารถกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ครั้งแรกของแท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab S Series อีกด้วย!

เรียกว่านี่เป็นการปฏิวัติวงการแท็บเล็ตใหม่อีกครั้งโดย Samsung เลยทีเดียว และหลังจากลองใช้งาน Galaxy Tab S9 Ultra จริงกว่า 1 สัปดาห์ เราจะมารีวิวสรุปชัด ๆ เลยว่า Galaxy Tab S9 Series นี้เหมาะกับใครและน่าสนใจแค่ไหน พร้อมแล้วติดตามครับ!

สรุปสเปค Samsung Galaxy Tab S9 Ultra

  • ขนาดตัวเครื่อง : 208.6 x 326.4 x 5.5 มม.
  • น้ำหนัก : 737 กรัม (รุ่น 5G)
  • หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 14.6” ความละเอียด WQXGA+ (2960 x 1848 พิกเซล) 
  • refresh rate : 120Hz
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 2 Octa-Core ความเร็ว 3.36GHz (4nm)
  • GPU : Adreno 740 ความเร็ว 719MHz
  • RAM : 12GB
  • Storage : 256GB
  • micro-SD : ใส่เพิ่มได้สูงสุด 1TB
  • แบตเตอรี่ : 11,200 mAh
  • ระบบชาร์จ : รองรับสูงสุด 45W Super Fast Charge
  • กล้องหน้าคู่ : 12MP (Wide) + 12MP (Ultra Wide)
  • กล้องหลังคู่ : 13MP (Wide) + 8MP (Ultra Wide)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11a/b/g/n/ac/6e), Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB Type-C (3.2)
  • รองรับปากกา Stylus : S Pen (ให้มาฟรีในกล่องและกันน้ำ IP68)
  • ระบบปฎิบัติการ : Android 13 (One UI 5.1.1)
  • วางจำหน่ายสีเดียว : Graphite

กันน้ำกันฝุ่นครั้งแรกของไฮเอนด์แท็บเล็ต!

เราขอเริ่มเรื่องดีไซน์ด้วยจุดเด่นของ Galaxy Tab S9 Ultra ก่อนเลยกับความสามารถกันน้ำกันฝุ่นครั้งแรกของไฮเอนด์แท็บเล็ต ใช่แล้วครับ! แท็บเล็ตรุ่นนี้กันน้ำได้ แถมเป็นมาตรฐาน IP68 แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธงเลยด้วย ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจมากขึ้น

ยกตัวอย่างอยากเอาแท็บเล็ตไปฟังเพลงดูคอนเทนต์ข้างสระว่ายน้ำ แต่แน่นอนถ้าเป็นรุ่นทั่วไปถ้าพลาดทำตกน้ำคือจบ พังแน่นอน แต่บนรุ่นนี้ไม่ต้องห่วงเลย น้ำกระเด็นใส่หรือเผลอตกน้ำไปจริง ๆ ก็ไม่เป็นไร (ลองมาให้แล้ว ไม่เป็นอะไรจริง) หรือจะเป็นสถานการณ์ฝนตกหนักที่เราอาจจะต้องลุยฝนจริง ๆ การมีมาตรฐานระดับ IP68 มาการันตีก็ทำให้มั่นใจได้อีกเปราะว่าเครื่องจะไม่เป็นอะไรหากเปียกจริงจัง ซึ่งเราว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้ ถือว่าปฏัติวงการแท็บเล็ตเลย เพราะว่าซื้อของราคาหลักหมื่น ควรจะสามารถกันน้ำได้แล้ว จะได้ใช้ได้อย่างสบายใจ

แข็งแกร่งด้วยบอดี้ Armor Aluminum

ในเรื่องงานประกอบ Galaxy Tab S9 Ultra ก็ใช้วัสดุ Armor Aluminum ที่มีทั้งความทนทานและได้ทั้งในเรื่องป้องกันรอยขีดข่วนของบอดี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวเรื่องการหักงอ จับแล้วรู้สึกเลยว่าแข็งแรง หนักแน่น ถือใช้งานก็รู้สึกได้เลยว่าพรีเมี่ยมดีจริง ๆ สีที่วางจำหน่ายในไทยจะมี 2 สี คือสี Graphite และ สี Beige แต่สำหรับ S9+ และ S9 Ultra จะวางขายเพียงสีเดียวคือสี Graphite สีนี้ก็คมเข้มสมฐานะดีครับ

บางเฉียบและน้ำหนักพกพาได้

แม้ตัวเครื่องจะแข็งแกร่งแต่ก็ได้ความเพรียวบางด้วยเช่นกัน ช่วยให้เราถือใช้งานหรือพกติดกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ไม่เทอะทะ ตัวเครื่องมาพร้อมความบางเพียง 5.5 มม.เท่านั้น ในขณะที่น้ำหนักจะอยู่ที่ 737 กรัม (รุ่น 5G) ตัวเลขอาจจะไม่ได้น้อย แต่หากเทียบกับขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ยักษ์แบบนี้ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เบาเลยทีเดียวล่ะครับ

หน้าจอใหญ่สุด อลังการที่สุด

หากพูดถึงความอลังการของ Galaxy Tab S9 Ultra ก็สานต่อความยิ่งใหญ่มาจากรุ่นก่อนด้วย หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 14.6″ เรียกว่าใหญ่แบบสะใจ ใหญ่ไม่แพ้แล็ปท็อปกันแล้ว ลบภาพแท็บเล็ตจอใหญ่แบบเดิม ๆ ไปได้เลยเพราะนี่คือใหญ่กว่า เต็มตากว่าของจริงเชียวล่ะครับ

ดีไซน์หน้าจอยังมาพร้อมขอบบางเฉียบเหมือนเดิม บางจนต้องเพิ่มขอบกล้องหน้ายื่นออกมาเป็นรอยบากเล็ก ๆ แบบนี้แทนนั่นแหละครับ แต่บอกไว้ก่อนว่ารอยบากนี้ไม่ได้กวนสายตาเวลาใช้งานเลยนะ เพราะลองเทียบขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 14.6″ สิ มีพื้นที่อื่นให้มองมากกว่าเยอะ

อัปเกรดเป็น Dynamic AMOLED 2X แล้ว

รอบนี้ Samsung ก็อัปเกรดชนิดหน้าจอใหม่ให้ Tab S9 Series ด้วยจากเดิม S8 จาก LTPS LCD และ S8+/S8 Ultra จาก Super AMOLED มาเป็น Dynamic AMOLED 2X ทั้ง 3 ตัว จะเห็นได้เลยว่า S8 มา S9 นี่หน้าจอถึงว่าอัพเกรดขั้นสุด! จอสวยขึ้น แสดงผลได้ชัดเจนกว่าเดิม คอนทราสต์ดีขึ้น สีดำก็ดำสนิทรองรับ HDR10+ เท่าที่เราลองใช้งานดูคอนเทนต์ต่าง ๆ บอกเลยว่าสวยคมอลังการแบบที่หาไม่ได้จากแท็บเล็ตรุ่นไหนแน่นอน สีดำนุ่มลึกขึ้น ดูมีมิติ ฟินกว่าเดิมมาก ถ้าจะบอกว่านี่คือแท็บเล็ตที่จอสวยที่สุด ณ เวลานี้ก็คงไม่เกินจริงนักหรอกเนาะ!

ความละเอียดให้มาที่ WQXGA+ (2960 x 1848 พิกเซล) ก็เพียงพอมาก ๆ บนจอที่ใหญ่ระดับนี้ก็ยังคมชัด เพราะเชื่อว่าด้วยขนาดระดับนี้เราคงไม่ได้มาเพ่งกันใกล้ ๆ แน่นอนเนาะ ใช้อ่านเว็บไซต์หรือดูคอนเทนต์วิดีโอต่าง ๆ ถูกใจแน่นอนครับจอของ Tab S9 Ultra นี้

อัตราส่วนก็เป็นแบบ 16:10 ที่เหมาะกับการใช้เพื่อความบันเทิงได้ด้วย เวลาเราดูหนังหรือซีรีส์ที่มีอัตราส่วนมาตรฐาน 16:9 เราก็จะได้พื้นที่ที่เต็มตาเพราะขอบดำบน-ล่างจะมีแค่นิดหน่อยเท่านั้น และด้วยความที่จอ Dynamic AMOLED 2X นั้นแสดงสีดำได้ดำสนิท ขอบที่เกินออกมาจึงไม่ขัดสายตาเลยเวลาชมวิดีโอแบบเต็มจอเลยครับ

นอกจากนี้ในการใช้งานกลางแจ้ง Galaxy Tab S9 Ultra ก็ยังมีฟีเจอร์ Vision Booster ที่ช่วยเร่งแสงและสีขึ้นด้วยอัลกอริทึมกลางแจ้งอัจฉริยะที่ตรวจจับแสงของดวงอาทิตย์และเปลี่ยนระดับแสงบนหน้าจอให้สอดคล้องกัน ปรับปรุงคอนทราสต์และสีเพื่อให้ทุกอย่างมีชีวิตชีวาแบบที่ควรจะเป็นอีกด้วยครับ แท็บเล็ตจอสู้แสงแล้ว!

ตอบสนองไวถึง 120Hz

ส่วนเรื่องการตอบสนองยังได้ Refresh rate สูงระดับ 120Hz มาเลย ทำให้การทำงานทุกอย่างลื่นไหลเข้าไปอีก จอใหญ่ระดับนี้มีพื้นที่ให้เราได้เลื่อน ปาด เข้าแอปเยอะ ความลื่นไหลระดับนี้ก็ช่วยให้เราอยากใช้งานมากขึ้นไปอีก สมกับที่เป็นระดับท็อปสุดจริง ๆ ครับ

กล้องหลังดีไซน์ใหม่เอกลักษณ์ของ Samsung ในปีนี้

มาถึงตรงนี้อาจจะไม่ได้เห็นความแตกต่างในเรื่องดีไซน์จากรุ่นก่อนมากนัก แต่ก็มีจุดที่เห็นแล้วรู้เลยว่านี่แหละคือรุ่นใหม่ประจำปี 2023 แน่ ๆ คือดีไซน์กล้องเพราะ Galaxy Tab S9 Ultra เปลี่ยนดีไซน์กล้องใหม่เหลือเพียงโมดูลกล้องเด่น ๆ แบบเดียวกับ Galaxy S23 Series หรือรุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในปีนี้ทั้งหมดครับ

รอบ ๆ ตัวเครื่องวางตำแหน่งได้ดีเลย

การวางตำแหน่งของ Galaxy Tab S9 Ultra ถือว่าทำได้ดีเหมือนเดิมครับ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่องเมื่อจับถือใช้งานในแนวนอน ซึ่งเวลาเราตั้งหรือถือเครื่องก็จะอยู่ในมุมขวาที่กดได้ถนัดครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ฝั่งขวามือเวลาใช้งานแนวนอนและด้านล่างเวลาใช้งานแนวตั้ง ซึ่งก็เหมาะสมกับการใช้งานอีกเช่นกันครับ เพราะเวลาเราใช้งานแนวนอนก็สามารถเสียบชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ง่ายไม่มีอะไรมาบดบัง

ลำโพง 4 ตัวจูนเสียงโดย AKG รองรับ Dolby Atmos ด้วย

ในเรื่องลำโพง Galaxy Tab S9 Series ก็มาพร้อมลำโพง 4 ตัวจัดเต็มเหมือนเดิม วางตำแหน่งได้ดีคือซ้าย-ขวาในการใช้งานแนวนอน และบน-ล่างในการใช้งานแนวตั้ง เสียงที่ออกมายอดเยี่ยม เพราะได้การจูนเสียงโดย AKG มาแล้ว มิติของเสียงดีมาก กระจายออกมาแบบ Stereo เลย ถ้าไม่ได้บอกว่าเสียงที่ได้ยินมาจากแท็บเล็ตก็คงคิดว่าเป็นลำโพงคุณภาพเยี่ยมสักรุ่นเลยไปแล้ว!

มี POGO PIN เชื่อมต่อกับเคสได้

ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีพอร์ต POGO PIN ที่เอาไว้เชื่อมกับเคสคีย์บอร์ดหรือ Book Cover Keyboard Slim ด้วย เป็น PIN แบบแม่เหล็กที่ติดกรึ่บเข้ากับเคสได้ทันที แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้เคสตัวนั้นมาด้วย ในรีวิวนี้เลยไม่ได้ลองใช้งานควบคู่กันไปนะครับ

รุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นรุ่น 5G ซึ่งก็จะมีช่องใส่ซิมอยู่ที่ด้านบนที่มีช่องใส่ซิมแบบ nano-SIM คู่กับช่องใส่ micro-SD ที่รองรับสูงถึง 1TB เลยด้วยครับ แต่ถ้าเป็นรุ่น Wi-Fi ก็จะเป็นแค่ช่องใส่ micro-SD อย่างเดียวแทนครับ ตรงนี้ก็ถือว่า Samsung ยังใจดีให้เราเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้อยู่ ใครที่ใช้ความจุ 256GB ไม่พอ ก็จัดเพิ่มไปได้เลย

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Galaxy Tab S9 Series ก็บอกเลยว่ายอดเยี่ยมมาก ทั้งในเรื่องหน้าจอที่ใหญ่อลังการแบบที่เราไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ความอลังการของจอ Dynamic AMOLED 2X ที่ส่งตรงมาจากเรือธงอย่างแท้จริง บอดี้ Armor Aluminum ที่แข็งแกร่งเหนือใคร หรือจะเป็นความสามารถกันน้ำกันฝุ่นครั้งแรกบนแท็บเล็ตอีก สร้างมาตรฐานใหม่ให้คู่แข่งต้องเหนื่อยกันอย่างมากแน่นอนครับ!

S Pen ปากกาคู่ใจที่แถมมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม!

พูดถึงแท็บเล็ตตระกูล S จะไม่พูดถึง S Pen ปากกาคู่ใจก็คงไม่ได้เนาะ Galaxy Tab S9 Series ยังคงมี S Pen ติดมาให้ในกล่องเหมือนเดิม พร้อมใช้งานโดยที่เราไม่ต้องไปซื้อเพิ่มให้ยุ่งยาก ตัว S Pen จะมีขนาดที่พอเหมาะหยิบใช้งานได้เหมือนปากกาจริง ๆ ผิวสัมผัสแบบด้านที่ทำให้จับถือได้ถนัดมือและคล่องตัว ดีไซน์ของ S Pen จะมีความโค้งฝั่งหนึ่งและอีกฝั่งเป็นแบบแบนราบ พร้อมปุ่มกด 1 ปุ่มเอาไว้ใช้ในความสามารถ Air Action หรือเรียกคำสั่งลัดอย่าง Air Command ขึ้นมาให้เราได้พร้อมใช้งานฟีเจอร์เด่น ๆ ทั้ง Smart Select, Screen Write, Live Messages, Translate ได้เลย

ฝั่งเรียบนี้ก็สามารถใช้แปะกับตัวเครื่องเพื่อยึดติดด้วยแม่เหล็กได้ ซึ่งรุ่นนี้ก็มีการปรับปรุงแม่เหล็ก ให้ยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น แปะกรึ๊บเข้าไปก็แน่นไม่ต้องกลัวหลุด ภายในตัว S Pen นี้จะมีแบตเตอรี่ด้วยเพื่อใช้งานคำสั่งผ่าน Bluetooth ได้ หรือถ้าแบตฯหมดจริง ๆ ก็ยังสามารถใช้งานขีดเขียนหน้าจอได้อยู่ เพียงแต่จะไม่มีฟีเจอร์ที่ใช้ Bluetooth เท่านั้นเองครับ

สามารถวางปากกาได้ 2 จุดคือ แปะเข้าที่แถบสีดำด้านหลังของตัวเครื่อง (ถ้าแปะจุดนี้จะเป็นการชาร์จไปในตัว) หรือวางไว้ที่มุมด้านบนของตัวเครื่องได้เหมือนกันครับ

Samsung Notes แอปจดบันทึกชั้นยอดที่อัปเกรดขึ้นอีก

ในเรื่องการใช้งานร่วมกับ S Pen จริง ๆ Samsung ออกแบบมาให้ใช้งานได้คล่องตัวขึ้นมากตั้งแต่แกะกล่องทั้งแอป Samsung Notes ที่มีติดมาอยู่แล้ว ให้เราได้จดบันทึก วาดรูป หรือขีดเขียนได้อย่างอิสระ พอทำงานร่วมกับ S Pen ที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีก็ยิ่งถูกใจเราเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Handwriting to Text ช่วยแปลงตัวอักษรจากลายมือเป็นตัวพิมพ์ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ หรือแบ่งปันบันทึกระหว่างอุปกรณ์ Samsung Galaxy เพื่อแก้ไขเนื้อหาแบบเรียลไทม์โดยตรงในแอปก็ทำได้ด้วย

รองรับการทำงานร่วมกับแอป Third Party ชั้นนำ

หรือจะเป็นการใช้งานร่วมกับแอป Third Party ชื่อดัง Samsung รองรับแอปชื่อดังทั้ง

  • GoodNotes แอปจดโน้ตชื่อดังที่ปรับแต่งมาพิเศษสำหรับ S Pen ให้ใช้งานเวอร์ชั่นเต็มกันฟรี ๆ 1 ปี
  • Clip Studio Paint EX แอปวาดรูปพร้อมเครื่องมือครบชุด ใช้งานเวอร์ชั่น EX ได้ฟรี 6 เดือน

เรียกว่าสายจดสายวาดแค่ได้ 2 แอปนี้ไปก็คุ้มค่าแล้วล่ะครับ เพราะค่าสมาชิกก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยหรือใครที่เป็นสายตัดต่อก็ยังมีแอป LumaFusion ที่ปรับแต่งประสิทธิภาพมาให้รองรับการตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี แถมได้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ระดับ 14.6″ แบบนี้มีพื้นที่เหลือ ๆ ในการแก้ไข ตัด และปรับแต่งสุดท้ายด้วยความแม่นยำกว่าแท็บเล็ตทั่วไปแน่นอน

โดยรวมในเรื่องการทำงานคู่กับ S Pen ของ Galaxy Tab S9 Ultra ก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย แถมรอบนี้ยังมีพาร์ทเนอร์จากแอปยอดนิยมทั้ง GoodNotes, Clip Studio Paint EX มาเสริมเรื่องการทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้นไปอีก พออยู่บนหน้าจอ 14.6″ นี้ก็ตอบโจทย์ในการทำงานคู่ปากกามากขึ้นจะแบ่งหน้าจอวาดเขียน หรือจะจดพร้อมกับเรียนหรือประชุมออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ

ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด One UI 5.1.1

มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ Galaxy Tab S9 Series มาพร้อมกับ Android 13 ที่ครอบทับด้วย One UI 5.1.1 มีการปรับแต่งหน้าตา UI มาให้เข้ากับแท็บเล็ตจอใหญ่ได้เป็นอย่างดี ทั้งหน้าเมนูในแอปการตั้งค่าที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน มี TaskBar อยู่ด้านล่างเวลาเปิดเข้าแอป ก็สามารถสลับได้ง่ายดายเหมือนใช้งานบนแล็ปท็อปเลยทีเดียวและบนเวอร์ชั่นล่าสุดก็เพิ่มแอปที่เพิ่งเข้าล่าสุดได้มากขึ้นเป็น 4 แอปแล้วด้วยครับ

แบ่งหน้าจอได้หลากหลาย ทำงานจอเดียวหลายแอปไปเลย

หรือถ้าอยากใช้งานแบ่งหน้าจอก็เพียงแค่ลากไอคอนแอปด้านล่างขึ้นมาได้เลย และยิ่งทำงานบนหน้าจอที่ใหญ่ระดับ 14.6″ ของ Galaxy Tab S9 Ultra ก็ยิ่งสบาย จะแบ่ง 2 แอปทำงานพร้อมกัน หรือแบ่ง 3 แอปก็ไม่ต้องห่วง พื้นที่ใช้งานเหลือเฟือ แถมความเก่งของซอฟต์แวร์ Samsung ก็คือสามารถบังคับให้ทุกแอปแบ่งหน้าจอได้หมด

เข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings > Advanced Features > Labs > Multi window for all apps

ฟีเจอร์ตัดวัตถุออกจากฉากหลัง*ก็มีมาให้ใช้งานด้วย และรอบนี้เก่งขึ้นคือเราสามารถดึงออกจากในหน้าเว็บแล้ว ไม่ใช่แค่ในแอป Gallery เท่านั้น ทีนี้เราก็สามารถดึงภาพมาใช้งานร่วมกับพวกโน้ตหรือไฟล์ที่เราจดบันทึกได้ง่ายขึ้นไปอีกครับ

*ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะกับแอป Samsung Internet เท่านั้น Google Chrome ยังไม่รองรับครับ*

DeX mode เปลี่ยนรูปแบบให้เป็น PC ไปเลย

อีกความสามารถที่น่าสนใจของ Galaxy Tab S9 Series ก็คือ DeX mode ที่ช่วยเปลี่ยนให้ UI นั้นกลายเป็นแบบ PC ไปเลย เปิดแอปได้หลายหน้าต่างอิสระขึ้น ยิ่งถ้าใช้งานร่วมกับเคสคีย์บอร์ดหรือเม้าส์แยกนี่กลายเป็นแล็ปท็อปดี ๆ ที่ใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่นกันเลยล่ะครับ

Galaxy Ecosystem เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Galaxy ได้อย่างไร้รอยต่อ

สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ของ Samsung Galaxy อยู่แล้ว การได้ใช้งานร่วมกับ Galaxy Tab S9 Series เป็น Ecosystem เดียวกันก็ถือเป็นจุดเด่นที่เราคิดว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ ทุกอย่างไร้รอยต่อไปหมด อย่างการซิงค์ข้อมูลข้ามเครื่องก็ง่ายมาก ยกตัวอย่างเราจดข้อมูลคร่าว ๆ ไว้บน Galaxy S23 Ultra แบบเร็ว ๆ ผ่าน Samsung Notes แล้วอยากมาขยายงานต่อบน Tab S9 Ultra เพียงแค่เราใช้ Samsung Account เดียวกันก็จะซิงค์แบบออนไลน์ มาเปิดงานต่อได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นการส่งไฟล์หากันก็ไม่มีขั้นตอนที่วุ่นวาย หรือจะเป็นการก็อบข้อความจากบนสมาร์ทโฟนแล้วมาวางข้อความนั้นบน Tab S9 Ultra ก็ได้เช่นกัน

Quick Share ส่งไฟล์ได้ง่ายและเร็วสุด ๆ

ส่วนการส่งไฟล์ก็สะดวกเพราะ Samsung มี Quick Share ที่เพียงเรากดแชร์ก็จะมีอุปกรณ์ที่มีบัญชีของเราให้เลือกแตะส่งไฟล์ได้ทันที บางทีเราถ่ายคลิปวิดีโอเจ๋ง ๆ บนสมาร์ทโฟน Galaxy มาแล้วอยากตัดต่อเพิ่มเติมบนจอใหญ่ก็กดส่งคลิกเดียว ส่งตรงมาถึงทันที รวดเร็ว ไว้ใจได้แบบสุด ๆ ครับ

ชิป Snapdragon 8 Gen 2 แรงที่สุดใน Galaxy

มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพ Galaxy Tab S9 Ultra มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ตัวเดียวกับที่ใช้บน Galaxy S23 Series เลยครับ และก็เป็นแท็บเล็ตที่ประสิทธิภาพสูงที่สุดฝั่งแอนดรอยด์ตอนนี้ด้วย ด้วยประสิทธิภาพ CPU ที่เพิ่มขึ้น 34% และ GPU อีก 41% พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมแรม 12GB การใช้งานที่เราทดสอบมา บอกเลยว่าทำได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด ทั้งการแบ่งจอทำงานหลาย ๆ แอปพร้อมกัน การเข้า-ออกแอป หรือจะใช้งานแอปใหญ่ ๆ ที่ต้องการประมวลผลสูงก็ตาม

เพื่อให้เห็นภาพของประสิทธิภาพที่ Galaxy Tab S9 Ultra คร่าว ๆ เราลองทดสอบผ่านแอป Benchmark ให้เห็นคะแนนจาก AnTuTu Benchmark กันหน่อย ซึ่งคะแนนก็บอกเลยว่าสูงจริง ๆ ได้ไปถึง 1593616 คะแนนกันเลย

ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้คะแนน Single-Core ไป 2088 คะแนน และ Multi-Core 5649 คะแนนครับ เรียกว่าสูงกันมาก ๆ ในกลุ่มแท็บเล็ตแอนดรอยด์ตอนนี้เลย

เล่นเกมก็สะใจ จอเบิ้มขนาดนี้!

ส่วนการเล่นเกมก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงด้วย สเปคที่ให้มาระดับนี้ เล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้หมดอยู่แล้ว แต่เพื่อให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ความยิ่งใหญ่ของ Galaxy Tab S9 Ultra เราก็เลยลองกับ 3 เกมฮิต ทั้ง Asphalt 9, PUBG และ Genshin Impact ดูสักหน่อยว่าจะสะใจสักแค่ไหน

เล่น Asphalt 9 บน Galaxy Tab S9 Ultra

สำหรับ Asphalt 9 เราสามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับ High Quality หรือสูงสุด ร่วมกับ 60fps เลย ในการเล่นจริง ๆ ก็ทำได้ดีเลยครับ กราฟิกสวยอลังการยิ่งเล่นบนหน้าจอใหญ่ขนาดนี้ยิ่งฟิน ระบบเสียงก็ขับออกมาได้อย่างอลังการเป็น Asphalt ที่เว่อวังที่สุดเวอร์ชั่นหนึ่งเลยล่ะครับ

เล่น PUBG บน Galaxy Tab S9 Ultra

ต่อมากับเกม Battle Royale อย่าง PUBG เราสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้ 2 แบบคือ Ultra + Ultra หรือ HDR + Extreme ซึ่งในการทดสอบเราเลือกปรับที่ Ultra + Ultra เพื่อความลื่นไหลและภาพที่สวยงามที่สุด ตัวเกมแสดงผลได้ยอดเยี่ยมเลย ภาพสวยอลังการบนจอใหญ่ระดับนี้แบบไม่ติดขัด เฟรมเรตก็ลื่น ๆ ระดับ 40fps ลำโพง 4 ตัวให้เสียงและทิศทางที่แม่นยำมาก รู้ได้ก่อนแน่นอนว่าศัตรูกำลังเข้ามาจากทางไหน

เล่น Genshin Impact บน Galaxy Tab S9 Ultra

ปิดท้ายที่ Genshin Impact เกมที่จัดว่ากินสเปคที่สุดในยุคนี้ บน Galaxy Tab S9 Ultra ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเล่นได้สบาย ๆ ในการตั้งค่าสูงสุดแบบ 60fps ภาพเต็มตา แถมความลื่นไหลสุดยอดมาก ๆ เท่าที่เล่นมายังไม่เจออาการกระตุกแบบหนัก ๆ ให้เห็นเลย สมแล้วที่เป็นเกมที่ Samsung ใช้โปรโมทประสิทธิภาพของรุ่นนี้ครับ!

อย่างที่เห็นครับในเรื่องประสิทธิภาพก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว ด้วยชิปเซ็ตตัวแรงที่สุด Snapdragon 8 Gen 2 บวกกับซอฟต์แวร์ที่มอบความลื่นไหลให้ตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี คงไม่ต้องห่วงอะไรมากแล้วล่ะครับ

กล้องคู่ทั้งหน้า-หลัง มุมปกติก็ดี มุมกว้างก็ได้

สำหรับแท็บเล็ตเอาจริง ๆ เรื่องกล้องอาจจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่ เพราะนอกจากสแกนเอกสารหรือถ่ายรูปเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แทบไม่ได้ใช้จริงจังเลย แต่ในยุคที่หลายคนอาจต้องใช้ประชุมออนไลน์มากขึ้น หรือถ่ายคอนเทนต์และตัดต่อได้ทันที การมีกล้องดี ๆ เข้ามาก็น่าจะช่วยได้อีกเยอะ ซึ่ง Galaxy Tab S9 Ultra ก็ให้กล้องคู่มาทั้งหน้า-หลังเลย เป็นมุมมอง Wide และ Ultra Wide ทั้งคู่มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

กล้องหน้า

  • กล้องหลัก 12MP f/2.2
  • กล้อง Ultra Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120º

กล้องหลัง

  • กล้องหลัก 13MP f/2.0
  • กล้อง Ultra Wide 8MP f/2.2

คุณภาพก็ทำได้ดีเลยครับ กล้องหน้ามีทั้งมุมปกติและมุมกว้างจะใช้วิดีโอคอลก็ได้หลายรูปแบบหรือจะใช้กล้องหลังถ่ายภาพทั่วไปมาเพิ่มเติมก็เพียงพอครับ

กล้องหน้า Wide
กล้องหน้า Ultra Wide

แบตเตอรี่ 11,200mAh ใช้งานสะใจเอาอยู่ทุกสถานการณ์

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Galaxy Tab S9 Ultra 5G ให้แบตเตอรี่มาเยอะถึง 11,200mAh ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานตลอดวันมาก ๆ เท่าที่เราลองใช้งานมาจริง ๆ ถือว่าทำได้ดีเลย ลองใช้เป็นแท็บเล็ตเครื่องหลักเพื่อทำงาน และเล่นเกม ดูคอนเทนต์ไปด้วยก็เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวันอยู่ครับ ยิ่งได้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy เข้ามาก็จัดการเรื่องแบตเตอรี่ได้ดีมาก ๆ เลยด้วย

ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้ก็ได้ระบบชาร์จไวสูงสุด 45W Super Fast Charging สูงที่สุดที่ Samsung มีในตอนนี้แล้ว ช่วยได้เยอะถ้าแบตฯใกล้หมดจริง ๆ เราก็ไม่ต้องรอนานมากในการชาร์จ เพราะแบตฯให้มาเยอะขนาดนี้นี่เนอะ

เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว โปรโมชั่นสุดคุ้ม!

Galaxy Tab S9 Series ตอนนี้ก็เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น สำหรับ Tab S9 และ Tab S9+ จะมีทั้งรุ่น WiFi กับ 5G ให้เลือกในขณะที่ Tab S9 Ultra มีให้เลือกแค่รุ่น 5G ราคาก็ตามนี้เลยครับ

  • Galaxy Tab S9 WiFi (8GB + 128GB) ราคา 28,900 บาท
  • Galaxy Tab S9 5G (8GB + 128GB) ราคา 32,900 บาท
  • Galaxy Tab S9+ WiFi (12GB + 256GB) ราคา 35,900 บาท
  • Galaxy Tab S9+ 5G (12GB + 256GB) ราคา 39,900 บาท
  • Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12GB + 256GB) ราคา 49,900 บาท

และมีโปรโมชั่นสุดคุ้ม! สำหรับผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ – 10 สิงหาคม มี 2 ช่องทางคือผ่านหน้าร้าน Samsung Experience Store และผ่านช่องทางออนไลน์ samsung.com รับสิทธิพิเศษดังนี้เลย

ผ่านช่องทางหน้าร้าน Samsung Experience Store และร้านที่ร่วมรายการ

  • จอง Tab S9 รับของแถมเป็น Book Cover Keyboard Slim มูลค่า 4,990 บาท
  • จอง Tab S9+ รับของแถมเป็น Book Cover Keyboard Slim มูลค่า 5,990 บาท
  • จอง Tab S9 Ultra รับของแถมเป็น Book Cover Keyboard Slim มูลค่า 6,990 บาท

ผ่านช่องทางออนไลน์ samsung.com | Shopee Mall | Samsung Official store ที่ Lazada

  • ซื้อ Tab S9 รับสิทธิ์เพิ่มหน่วยความจำ 2 เท่าฟรี (จาก 128GB เป็น 256GB) มูลค่า 6,000 บาท
  • ซื้อ Tab S9+ รับสิทธิ์เพิ่มหน่วยความจำ 2 เท่าฟรี (จาก 256GB เป็น 512GB) มูลค่า 6,000 บาท
  • ซื้อ Tab S9 Ultra รับสิทธิ์เพิ่มหน่วยความจำ 2 เท่าฟรี (จาก 256GB เป็น 512GB) มูลค่า 6,000 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตแอนดรอยด์ไซซ์ใหญ่สุด อลังการสุดในตอนนี้แล้ว”

สรุปแล้ว Galaxy Tab S9 Ultra ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่จัดเต็มที่สุดในตอนนี้แล้วก็ว่าได้ เพราะได้มาทั้งหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ที่สุด 14.6″, ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แรงที่สุด, แบตเตอรี่ 11,200mAh เยอะที่สุด, ปากกา S Pen ตอบสนองดีที่สุด หรือที่สุดกับการกันน้ำกันฝุ่นเป็นครั้งแรกของแท็บเล็ตอีก แต่ไม่พอแค่สเปคที่ให้มาเท่านั้นเพราะซอฟต์แวร์ที่ Samsung พิถีพิถันปรับแต่งเพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยมอย่าง One UI 5.1.1 ก็ทำให้ทุกอย่างลงตัวทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบไม่มีอะไรขาดอะไรเกินเลยจริง ๆ ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่เราคิดว่ารุ่นนี้คือแท็บเล็ตแอนดรอยด์ไซซ์ใหญ่ที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้วจริง ๆ ใครที่อยากได้ความอลังการแบบนี้ คงไม่มีตัวเลือกไหนจะให้ได้นอกจาก Galaxy Tab S9 Ultra แล้วจริง ๆ ครับ!

กำลังฮอต

Featured1 สัปดาห์ ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 สัปดาห์ ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News2 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured2 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก