Connect with us

Android News

AnTuTu Android: 10 อันดับ มือถือ เร็วแรงที่สุด ในปี 2023

Published

on

AnTuTu Android พบกับ 10 อันดับ มือถือแอนดรอยด์ ที่เร็วแรงที่สุด มีประสิทธิภาพดี ในปี 2023 (อัปเดทล่าสุดเดือนสิงหาคม 2023) จากการจัดอันดับ AnTuTu วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันว่ามีรุ่นใดที่ได้คะแนนรวมเฉลี่ยได้สูงสุด!

AnTuTu Android 2023

AnTuTu คืออะไร

AnTuTu logo

AnTuTu (เว็บไซต์) เป็นเครื่องมือเปรียบเทียบยอดนิยมที่ใช้วัดประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน ในบทความนี้ เราจะมาดูสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด 10 อันดับแรกประจำปี 2023 ตามการจัดอันดับของเว็บไซต์นี้ ตั้งแต่การวัดคะแนนพลังการประมวลผลที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจไปจนถึงกราฟิกที่เรนเดอร์ได้อย่างน่าทึ่ง

เกณฑ์มาตรฐานในวัดผลจะออกมาในรูปแบบคะแนนเฉลี่ยจากประสิทธิภาพในการดึงการทำงานหรือผลักดันฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ให้ถึงขีดจำกัดโดยการกำหนดงานที่เข้มข้นของ CPU และตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ คะแนนยิ่งสูง อุปกรณ์ก็จะทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพที่วัดผลออกมานั้นอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การโหลดของ CPU รวมถึงปัจจัยตัวแปรอื่นๆ และผลคะแนนไม่สามารถวัดประสบการณ์ในการใช้งานจริงของผู้ใช้ได้

ทำความเข้าใจคะแนน AnTuTu Android

คะแนนเป็นค่าตัวเลขที่แสดงถึงประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์ ยิ่งคะแนนสูงประสิทธิภาพยิ่งดี คะแนนจะคำนวณจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพของ CPU, ประสิทธิภาพของ GPU ประสิทธิภาพของหน่วยความจำ และประสิทธิภาพของพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งคะแนนไม่ได้เป็นเพียงตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุส่วนที่อาจต้องปรับปรุงของรุ่นนั้นๆ ด้วย

เหตุผลที่การวัดผลของอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาในรูปแบบคะแนน จะทำให้เราสามารถทราบถึงคุณภาพของส่วนประกอบที่ใช้ในอุปกรณ์รุ่นนั้น เพราะหากส่วนประกอบมีคุณภาพต่ำก็มักจะร้อนขึ้นภายใต้การทำงานผ่านโปรแกรมนี้ และคะแนนก็จะต่ำลง ในขณะที่อุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบที่มีคุณภาพดีจะไม่ร้อนมากนักและสามารถทำงานได้ ซึ่งคะแนนก็จะทำออกมาได้ดีกว่า

นอกจากนี้ AnTuTu ยังให้คะแนนเกณฑ์มาตรฐานซึ่งผู้ใช้สามารถใช้เพื่อให้ทราบว่าอุปกรณ์ใดดีกว่ากันเท่าไหร่

ข้อดีของการใช้ AnTuTu Android

ข้อดีหลักประการหนึ่ง คือมีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของอุปกรณ์อย่างครอบคลุม สิ่งนี้มีประโยชน์ในการระบุส่วนที่สมาร์ทโฟนรุ่นนั้นอาจยังทำได้ไม่ดี และยังใช้สำหรับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของเรากับอุปกรณ์อื่นๆ ในตลาด นอกจากนี้ แอปยังสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี ทำให้ทุกคนที่มีอุปกรณ์ Android สามารถเข้าถึงได้ ข้อดีอีกอย่างคือแอปได้รับการอัปเดตเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการล่าสุด

ข้อเสียของการใช้ AnTuTu Android

แม้ว่จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน ข้อกังวลหลักประการหนึ่งคือแอปอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องเสมอไป ผู้ใช้บางรายรายงานว่าแอปอาจไม่สอดคล้องกันในการวัด ซึ่งนำไปสู่ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ แอปอาจใช้แบตเตอรี่และพลังประมวลผลจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์ สุดท้ายก็จะเป็นในเรื่องของข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับแอป เนื่องจากแอปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้นั่นเอง

10 อันดับ มือถือ เร็วแรงที่สุด AnTuTu Android 2023

1. Redmagic 8 Pro+ (1,607,836 คะแนน) อันดับ 1 AnTuTu Android

AnTuTu Android 2023 Redmagic 8 Pro Plus

RedMagic 8 Pro+ หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.8″ ความละเอียด 2480 x 1116 พิกเซล Refresh rate 120Hz และใช้กล้องหน้าแบบใต้หน้าจอ 16MP จึงทำให้ทั้งด้านหน้านั้นเป็นจอไปทั้งหมด ใช้หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5X + ความจุ UFS 4.0

มาพร้อมระบบระบายความร้อนใหม่ VC Cooling Ice 11.0 ขนาดใหญ่ 2068mm³ ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Nubia เคยทำมาเลย ช่วยให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องโดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อนสะสม นอกจากนี้ที่กรอบตัวเครื่องยังมีปุ่ม Shoulder มาให้ด้วยความเร็วสูง 540Hz เป็นปุ่มด้านข้างที่ตอบสนองได้ไวที่สุดเลยก็ว่าได้ ในส่วนของแบตเตอรี่ให้มาจุใจ 5000mAh ชาร์จเร็ว 165W

  • หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1116 x 2480 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Redmagic OS 6
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 12GB/16GB
  • ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 165W

2. ROG Phone 7 Ultimate (1,605,327 คะแนน)

ROG Phone 7 Ultimate

ROG Phone 7 Ultimate ที่สุดของเกมมิ่งสมาร์ทโฟน AnTuTu Android ครั้งนี้กลับมาพร้อมการออกแบบใหม่ในรูปแบบทูโทน ผสานความแรงของหน่วยประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 ร่วมกับระบบระบายความร้อนแบบใหม่ GameCool 7 พร้อมด้วยการปรับค่าพิเศษ ROG tuning ให้เล่นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด

รุ่นนี้ยังมีจุดเด่นบริเวณจอแสดงผลด้านหลัง (ROG Vision) พร้อมระบบระบายความร้อน GameCool 7 พร้อมช่องระบายความร้อนด้านหลังตัวเครื่อง AeroActive Portal และหน้าจอ Samsung AMOLED มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรท 165Hz

  • หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2448 พิกเซล, AMOLED, 1 พันล้านสี, 165Hz, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 16GB
  • ความจุเครื่อง: 512GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
    • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.5
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W

3. Samsung Galaxy S23 Ultra (1,556,351 คะแนน)

AnTuTu Android 2023 Samsung Galaxy S23 Ultra

Galaxy S23 Ultra แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับลิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ที่ปรับแต่งเองสำหรับ Galaxy โดยเฉพาะ และการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียด 200MP

ฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอก็น่าสนใจ อย่างการมีโหมดวิดีโอ Astro Hyperlapse หรือการปรับปรุงความเสถียรของวิดีโอให้ดีขึ้นกว่ากล้องหลัก 108MP ตัวเก่าด้วยฟีเจอร์ Adaptive VDIS รวมไปถึงแบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

  • หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 8GB/12GB
  • ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 4 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
    • กล้อง Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

4. Xiaomi 13 (1,553,040 คะแนน)

AnTuTu Android 2023 Xiaomi 13

จอแสดงผลของ Xiaomi 13 ตอนนี้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย คือ 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz (ไม่ใช่ LTPO) รองรับการแสดงผล Dolby Vision, HDR10+ และรองรับ HLG มีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบ

กล้องหลังได้ Leica เช่นเดียวกัน โดยกล้องหลักมีขนาด 50 MP, f/1.8, เทียบเท่าเลนส์ 23 มม. และ Hyper OIS ในขณะที่กล้อง Telephoto มีขนาด 10MP มีระบบกันสั่น OIS พร้อมเลนส์ Leica รูรับแสง f/2.0 และซูม 3x ส่วนกล้อง Ultra-wide มีความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 ไม่รองรับออโต้โฟกัส

  • หน้าจอ: 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, AMOLED, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 12GB
  • ความจุเครื่อง: 256GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.0
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W

5. Xiaomi 13 Pro (1,540,980 คะแนน)

Xiaomi 13 Pro

อันดับ 5 ของ AnTuTu Android เป็นของ Xiaomi 13 Pro การอัปเกรดที่ใส่มาในรุ่นนี้คือความสว่างสูงสุดสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ 1,200 นิต ในขณะที่การเพิ่มความสว่างสูงสุดระหว่างการเล่นวิดีโอ HDR สามารถสูงถึง 1,900 นิต มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM LPDDR5X และที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องก็เป็นชนิด UFS 4.0 เจเนอเรชันใหม่ด้วย

จอแสดงผลของ Xiaomi 13 Pro ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ Xiaomi 12 Pro คือมีหน้าจอขนาด 6.73 นิ้ว อัตราการรีเฟรชตัวแปร 120Hz เป็นแผงจอแบบ LTPO ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR10+, Dolby Vision, HLG และการลดแสง DC 1920Hz โดยจอแสดงผลยังมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบที่ช่วยให้ปรับอุณหภูมิสีได้ทันที

  • หน้าจอ: 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, LTPO OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 12GB
  • ความจุเครื่อง: 512GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50.3 ล้านพิกเซล f/1.9
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.0
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 4820mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W

6. Samsung Galaxy S23+ (1,511,174 คะแนน)

Samsung Galaxy S23+

Galaxy S23 ทุกรุ่นจะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm ที่ผลิตโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy คือเป็นชิปที่ออกมาให้มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นปกติ

สำหรับกล้องนั้นยังคงมีเซ็นเซอร์ 50MP ซึ่งก็ต้องขอบคุณชิปเซ็ตใหม่ที่ใส่มาให้เพราะทำให้สามารถบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps (เพิ่มขึ้นจาก 24fps ของปีที่แล้ว) กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต้ 10MP ซูมออปติคอลได้ 3x

  • หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 8GB
  • ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 4700mAh ชาร์จเร็ว 45W

7. Samsung Galaxy S23 (1,486,260 คะแนน)

AnTuTu Android 2023 Samsung Galaxy S23

Galaxy S23 มือถือ Samsung รุ่นเล็กสุด อันดับที่ 8 ของ AnTuTu Android ก็มีสเปคเหมือนกับ S23+ รุ่นพี่ทุกอย่าง ยกเว้นขนาดหน้าจอที่ให้มา 6.1 นิ้ว กะทัดรัด พกพาง่าย โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในปีนี้ ได้แก่ Vision Booster ซึ่งปรับสีและคอนทราสต์ให้เข้ากับสภาพแสงโดยรอบ และฟีเจอร์ Enhanced Comfort เพื่อลดอาการปวดตา

นอกจากนี้ก็ใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกับรุ่นพี่ และลำโพงเสียงสเตอริโอ Tuned by AKG สำหรับกล้องก็มีเซ็นเซอร์ 50MP และแบตเตอรี่ 3900mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W

  • หน้าจอ: 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 8GB
  • ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 3900mAh ชาร์จเร็ว 25W

8. OnePlus 11 (1,412,496 คะแนน)

OnePlus 11

OnePlus 11 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อปสุดของ OnePlus ประจำต้นปีนี้ โดยมาแบบเลขเดียวๆ ไม่ต้องมีคำว่า “Pro” เพราะทุกอย่างนั้นจบในรุ่นนี้แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2, หน้าจอ 2K แบบ 120Hz พร้อมกล้อง 50MP ที่ร่วมพัฒนากับทาง Hasselblad

ด้วยความแรงที่จัดเต็มมาให้ใน OnePlus 11 5G ทำให้ระบบระบายความร้อนต้องอัปเกรดตามไปด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อม Cryo-velocity VC Cooling รุ่นใหม่ที่ใช้โครงสร้างโมเลกุลหกเหลี่ยมคู่กับวัสดุคริสตัลผลึกกราฟีนที่ใหญ่ที่สุดช่วยให้ระบายความร้อนได้เร็วกว่าเดิม

  • หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3216 พิกเซล LTPO3 Fluid AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย OxygenOS 13
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 8GB/16GB
  • ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.0
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 100W

9. Sony Xperia 1 V (1,379,395 คะแนน)

Sony Xperia 1 V

Xperia 1 V เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเครื่องแรกของโลกที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงเทคโนโลยีการซ้อนทับหลายเฟรมความเร็วสูงทำให้สามารถถ่ายภาพที่ป้องกันสัญญาณรบกวนด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นเทียบเท่ากล้องฟูลเฟรม ด้วยเลนส์ 24 มม.เลยทีเดียว ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ภาพ Stack CMOS และเทคโนโลยี 2 Layer Transit Pixel ที่ผสานการทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ภาพ Exmor T สำหรับมือถือ ซึ่งใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ภาพรุ่นก่อนหน้าประมาณ 1.7 เท่า

นอกจากนี้แล้ว ยังใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ผสานการทำงานร่วมกับ Qualcomm Snapdragon Elite Gaming มาพร้อมจอแสดงผลแบบ 4K OLED ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราการรีเฟรซที่สูงถึง 120Hz และแบตเตอรี่ 5000 mAh

  • หน้าจอ: 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1644 x 3840 พิกเซล, OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR BT.2020
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU: Adreno 740
  • RAM: 12GB
  • ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
  • microSD card: รองรับ
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.9
    • กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.3
    • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.0
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 30W

10. Lenovo Legion Y70 (1,339,770 คะแนน)

Lenovo Legion Y70

Legion Y70 สมาร์ทโฟนเล่นเกมของ Lenovo ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 มาพร้อมกับคุณสมบัติ Snapdragon Elite Gaming เต็มรูปแบบ และ Qualcomm FastConnect 6900 สำหรับการเชื่อมต่อ WiFi ขั้นสูง มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 144Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างการสัมผัสสูงถึง 1500Hz

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความบางเฉียบเพียง 7.99 มม. ที่ฐานมีโซลูชันระบายความร้อนสูงสุด 10 ชั้น รวมถึงแผ่นกราไฟต์หลายแผ่นและ VC ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดคือ 5,047 ตร.มม. ซึ่งหนาเพียง 0.55 มม. เท่านั้น และมี 5100 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 68W

  • หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล OLED, 144Hz, HDR10+
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย ZUI 14
  • ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
  • GPU: Adreno 730
  • RAM: 8GB/12GB/16GB
  • ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB
  • microSD card: ไม่รองรับ
  • กล้องหลัง: 3 ตัว
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
    • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
    • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC, และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่: 5100mAh รองรับชาร์จไว 68W

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 อันดับ มือถือ เร็วแรงที่สุด AnTuTu Android ในปี 2023 และเพื่อนๆ ใช้งานรุ่นไหนกันอยู่บ้าง อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ

กำลังฮอต

Featured3 วัน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News4 สัปดาห์ ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Android News4 สัปดาห์ ago

5 เหตุผลที่ Galaxy Z Flip5 ยังคงเป็นมือถือจอพับที่น่าใช้สุด ๆ

Galaxy Z Flip5 จัดว่...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก