ข้อมูลล่าสุดจาก SellCell เผยให้เห็นว่า iPhone Air กลายเป็น iPhone รุ่นที่มูลค่ามือสองตกเร็วที่สุดในรอบหลายปี โดยภายในเพียง 10 สัปดาห์หลังวางขาย ราคามือสองของหลายความจุดิ่งลงไปเกือบ 50% ถือว่าร่วงแรงกว่าทุกรุ่นในไลน์อัปเดียวกันอย่างชัดเจน
iPhone 17 Series ยังแข็งแรง แต่ iPhone Air กลับร่วงแรง
การวิเคราะห์ข้อมูล Trad in จากบริษัทรับซื้อกว่า 40 รายในสหรัฐฯ พบว่า
- iPhone 17 Series มีค่าเสื่อมราคาเฉลี่ย 34.6% หลัง 10 สัปดาห์ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ iPhone 16 ปีที่แล้วที่ร่วง 39%
- iPhone 15 ยังคงเป็นแชมป์ในรอบหลายเจเนอเรชัน ด้วยค่าเสื่อมเฉลี่ยเพียง 31.9%
- iPhone 14 อยู่ที่ 36.6%
แต่เมื่อมองไปที่ iPhone Air กลับพบตัวเลขที่ไม่สวยงามนัก เพราะราคา ร่วงเฉลี่ยสูงถึง 44.3% ครอบคลุมทุกความจุ และบางโมเดลดิ่งไปไกลถึง 47.7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะที่สุดนับตั้งแต่ยุค iPhone 14 Plus และ iPhone 13 mini ในปี 2022
รุ่นที่ราคาตกหนักที่สุดคือ iPhone Air ความจุ 1TB ซึ่ง SellCell ระบุว่าเป็น “รุ่นที่มูลค่าตกเร็วที่สุดในข้อมูลทั้งหมด”
- Apple iPhone Air — ฿ 38,900
฿ 40,103
iPhone 17 Pro ยังยืนหนึ่งในตลาดมือสอง
เมื่อแยกดูรายรุ่นยิ่งเห็นความแตกต่างชัดเจน
- iPhone 17 Pro Max 256GB เสื่อมราคาเพียง 26.1% ถือว่าดีที่สุดในบรรดาทุกรุ่น
- แม้รุ่น 512GB จะร่วงมากขึ้นเล็กน้อยที่ 30.3% แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับร่วงแรงแบบ iPhone Air
- ทุกรุ่นของ Pro และ Pro Max ร่วงไม่เกิน 40% สะท้อนความต้องการในตลาดมือสองที่ยังแข็งแรง
- ส่วน iPhone 17 ธรรมดา อยู่ระหว่าง 32.9–40.8% ใกล้เคียงกับเทรนด์ของรุ่นไม่ Pro ในปีก่อน ๆ
สรุปคือ iPhone 17 ทั้งไลน์อัปยังคงมูลค่าได้ดีกว่า iPhone Air ถึง 9.7% หลังผ่านไป 10 สัปดาห์
สิ่งที่น่าสนใจคือราคาของ iPhone 17 โมเดลอื่น ๆ เริ่มทรงตัวในสัปดาห์ที่ 10 ตามแพทเทิร์นที่เห็นในรุ่น iPhone 15 และ iPhone 16 แต่ iPhone Air กลับยังคงร่วงต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะนิ่ง ซึ่ง SellCell มองว่าอาจบ่งบอกถึง ความไม่มั่นใจของตลาดต่อรุ่น Air ในระยะยาว
ภาพรวมจึงชี้ให้เห็นว่า iPhone Air เป็น iPhone ที่มูลค่าร่วงเร็วผิดปกติเมื่อเทียบกับทุกรุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังตั้งคำถามกับตำแหน่งการตลาดหรือตัวเลือกสเปกของรุ่นนี้
เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม: