แกะกล่องพรีวิว vivo X300 Series สมาร์ตโฟนเรือธงที่ทุกคนรอคอย เตรียม “ซูม” ให้สุด ด้วยกล้อง Telephoto ZEISS APO !

โดย Map

vivo X300 Series เครื่องศูนย์ไทยมาถึงมือทีมงาน iphone-droid.net เรียบร้อยครับ รอบนี้ยังมาด้วยกัน 2 รุ่นคือ vivo X300 และ vivo X300 Pro ชูจุดเด่นเรื่องกล้องเทพเหมือนเคย ด้วยการอัปเกรดทั้งสเปกกล้อง ฟีเจอร์ รวมถึงดีไซน์ที่ปรับใหม่หมด ให้น่าถือ น่าพกพายิ่งขึ้น ไหน ๆ ก็ได้เครื่องมาแล้ว ขอมาแกะกล่องพรีวิวให้ชมดีไซน์และสเปกเบื้องต้นกันก่อนเปิดตัวจริงสักนิดเนาะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลยเถอะ!

อ๊ะ…แต่ถ้าอยากดูเป็นคลิปแกะกล่องเราก็มีนะ แกะไว้ให้ชมทั้ง 2 รุ่นเลย ดูได้จากด้านล่างนี้แหละ

@iphone_droid

แกะกล่อง vivo X300 สี Halo Pink เครื่องศูนย์ไทย สวยแค่ไหน มาชมกัน! ✨ #iphonedroid #vivoX300 #vivoX300Series #แค่คลิกซูมชิดติดเวที #ซูมชัด200MPด้วยกล้องZEISS

♬ original sound – iphone-droid.net – iphone-droid.net
@iphone_droid

แกะกล่อง vivo X300 Pro สี Dune Brown เครื่องศูนย์ไทย ให้อะไรมาในกล่องบ้างน้าา ✨ #iphonedroid #vivoX300Pro #vivoX300Series #แค่คลิกซูมชิดติดเวที #ซูมชัด200MPด้วยกล้องZEISS

♬ original sound – iphone-droid.net – iphone-droid.net

แกะกล่อง vivo X300 Series

ก่อนอื่นมาดูตัวกล่องกันก่อน ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยกล่องขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกของรุ่นเรือธงที่พรีเมี่ยมตั้งแต่แพ็กเกจเลย ที่ด้านหน้ามีชื่อรุ่นระบุไว้ชัดเจนทั้ง X300 และ X300 Pro พร้อม Co-engineered with ZEISS ที่บ่งบอกถึงการร่วมมือกันกับแบรนด์กล้องระดับโลกต่อเนื่องอีกรุ่น

อันนี้เป็นเครื่องศูนย์ไทยจริง ๆ นะ เราแกะซิลเองเลย ให้ดูที่ด้านหลังมีรายละเอียดเป็นภาษาไทย พร้อมระบุชื่อสีไว้ด้วย ซึ่งสีที่เราได้มา vivo X300 เป็นสีชมพู ส่วน vivo X300 Pro เป็นสีน้ำตาลทะเลทรายครับ

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับถาดชั้นแรกที่มีตัวเครื่องอยู่ในซองอย่างเรียบร้อย ส่วนชั้นถัดลงไปจะมีกล่องอุปกรณ์ที่แยกไว้เป็น 2 กล่องอย่างดี แบ่งเป็นฝั่งซ้ายมีเข็มจิ้มถาดซิม, เอกสารคู่มือและใบรับประกัน

มีเคสแถมมาให้ในกล่องด้วย ซึ่งรอบนี้จะให้เป็นเคสซิลิโคนสีเดียวกับตัวเครื่องทั้งหมดแล้ว และอย่างที่บอกไปครับว่าเราได้สีชมพูกับสีน้ำตาลทะเลทรายมา ตัวเคสก็จะหน้าตาประมาณนี้

ส่วนอีกกล่องจะมีสายชาร์จแบบ USB-A to C และอะแดปเตอร์ชาร์จไว 90W FlashCharge หัวกลมแถมมาให้เหมือนเดิม ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้เสียสตางค์

ทั้งหมดก็ให้มาครบถ้วนพร้อมใช้งานเลยครับ และเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ตัวเครื่องจะมีฟิล์มกันรอยติดมาให้ตั้งแต่โรงงานแล้วด้วยนะ เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาในกล่องจะมีทั้งหมด 6 อย่าง ดังนี้

  • ตัวเครื่อง vivo X300 | vivo X300 Pro
  • เคสซิลิโคน
  • เอกสารคู่มือ
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • สายชาร์จ USB-A to C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 90W FlashCharge

ดีไซน์ vivo X300 Series

เอาล่ะ! ได้เวลายลโฉมดีไซน์ของ vivo X300 Series กันแล้วครับ ปีนี้ทั้งคู่ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องกล้องหลังวงกลมสุดทรงพลังเหมือนเดิม ได้ความเป็น X Series อย่างแท้จริง มองแว้บแรกก็รู้ได้ทันทีว่ากล้องนั้นถึงใจแน่นอน

แต่ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นความ minimal ของดีไซน์มากขึ้น ไม่เน้นวงแหวนใหญ่ ๆ แล้ว ลดความหนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังดูเรียบง่ายทันทีที่เห็นเลยด้วย

รวมถึงรูปทรงของตัวเครื่องรอบนี้ปรับมาให้มีความเหลี่ยมมากขึ้น ลดความโค้งของกรอบเครื่อง หน้าจอและฝาหลังลงอย่างชัดเจน เป็นดีไซน์แบบสมัยใหม่ที่เข้าถึงได้ จับถือได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับสีสัน vivo X300 ที่เราได้มาจะเป็นสี Halo Pink ที่มีความโดดเด่นมาก ๆ เพราะมากับฝาหลังโทนพาสเทลที่เหลือบกับแสงเพิ่มลูกเล่นความวิบวับอีกเล็กน้อย แต่ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านทำให้ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเท่าไหร่ เป็นความลงตัวของการสัมผัสและรูปลักษณ์จริง ๆ

แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะที่วงแหวนรอบโมดูลกล้องของสี Halo Pink ใน vivo X300 ยังมีลูกเล่นสีรุ้ง ๆ เข้ามาด้วย เพิ่มรายละเอียดให้มากขึ้น เวลาเราพลิกไป-มาก็จะได้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

ส่วน vivo X300 Pro เราได้สีน้ำตาล Dune Brown มา ซึ่งสีนั้นจะไม่ได้ออกไปทางน้ำตาลเข้ม ๆ นะครับ ออกไปทางเบจมากกว่า มีความอ่อน ๆ ถ้ากระทบกับแสง และผิวสัมผัสก็ยอดเยี่ยมเป็นผิวด้านที่ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเช่นกัน จับถือนี่เนียนมือดีมาก ๆ

ที่โมดูลกล้องของ X300 Pro ก็จะโดดเด่นยกสูงขึ้นจากตัวเครื่องอีกนิด พร้อมลวดลายเส้นเรียงกันถี่ ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเลนส์กล้องโปรจริง ๆ และยังเพิ่มเส้นสีส้มเข้ามาอีก

ทีนี้พออยู่กับกรอบเครื่องสีเทาและฝาหลังสีทองอ่อน ๆ แล้วทุกอย่างจึงลงตัวดีมาก ๆ ครับ เป็นดีไซน์ที่เหมือนจะ minimal ทั่ว ๆ ไป แต่ก็ลึกซึ้งในเรื่องการใช้สีสันจริง ๆ ครับ

เรื่องความนูนของโมดูลกล้อง vivo X300 Series ปรับให้ลงตัวมากขึ้น เพราะนอกจากจะลดฐานขนาดใหญ่แล้ว ยังทำให้ตัวโมดูลกล้องมีความเนียนไล่ระดับขึ้นจากฝาหลังขึ้น อีกทั้งความหนาก็ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่น โดยเฉพาะของ vivo X300

พลิกมาดูที่หน้าจอกันบ้าง vivo X300 Series ใช้หน้าจอแบนอย่างที่บอกไปครับ และรอบนี้ยังมีการปรับขนาดหน้าจอให้ชัดเจนขึ้นกว่าที่ผ่านมา คือ X200 ขนาด 6.31″ ส่วน X300 Pro ขนาด 6.78″ แบ่งเป็นรุ่นจอเล็กและจอใหญ่อย่างชัดเจนเลย

แต่ด้านสเปกจอของทั้งคู่ถ้าไม่นับขนาด จะได้มาเหมือนกันแทบทั้งหมดเลยคือ ความละเอียด 2800×1260 พิกเซล, Refresh rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits ครับผม หรือกระทั่งขอบจอที่บางเฉียบระดับ 1.1 มม. เรียกว่าเป็นจอเกรดสูงที่มอบมิติของภาพได้อย่างจัดเต็มทีเดียว

ขอย้อนกลับมาที่รอบ ๆ ตัวเครื่องหน่อยละกันเนอะ vivo X300 Series จะวางปุ่มกดมาตรฐานไว้ที่มุมขวามือของตัวเครื่อง แบ่งเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คุ้นเคยสำหรับคนเคยใช้ vivo มาอยู่แล้ว

และรอบนี้ X300 Pro ก็จะมีปุ่มใหม่เพิ่มเข้ามาคือปุ่ม Shortcut หรือปุ่มทางลัด คล้ายกับของ X Fold5 ที่เริ่มเพิ่มมาให้ใช้งานแล้วนั่นเอง ซึ่งตรงนี้จะมีเฉพาะรุ่น Pro นะครับ X300 ไม่มีมาแหละ

ด้านบน-ล่างตัวเครื่องก็ยังวางตำแหน่งมาตรฐานเหมือนรุ่นก่อนครับ มีลำโพงหลักของตัวเครื่อง, พอร์ตการเชื่อมต่อ, ไมโครโฟนและช่องใส่ซิมอยู่ด้านล่าง และด้านบนก็จะมีลำโพงอีกชุดสำหรับใช้เป็นลำโพง Stereo ร่วมกับด้านล่างนั่นเองครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ vivo X300 Series ก็ถือว่ามีการปรับให้ทันสมัยขึ้น ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ minimal เรียบง่าย แต่ก็ไม่ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของ X Series อย่างดีไซน์กล้องวงกลมอันทรงพลัง มีการใช้งานจริงที่ลงตัวกว่าเดิม กรอบเครื่องเหลี่ยม หน้าจอ-ฝาหลังแบนที่เหมาะเจาะ ด้านขนาดและน้ำหนักก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนนัก ทำให้ได้ความรู้สึกเวลาจับถือดียิ่งขึ้น

กล้อง vivo X300 Series

เข้าเรื่องกล้องสักนิดละกันเนอะ แม้จะบอกว่าเป็นมาแกะกล่องพรีวิว แต่เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นประสิทธิภาพกล้องของ vivo X300 Series อยู่บ้าง แต่ก่อนอื่นเรามาสรุปสเปกของทั้งคู่ก่อนดีกว่าคร่าว ๆ ตามนี้เลยครับ

สเปกกล้อง vivo X300

  • 200MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ ISOCELL HPB ขนาด 1/1.4″) f/1.68
  • 50MP กล้อง Ultra Wide-angle (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 50MP กล้อง ZEISS APO Telephoto Camera 3x (เซ็นเซอร์​ LYT-602 ขนาด 1/1.95″) f/2.57

สเปกกล้อง vivo X300 Pro

  • 50MP กล้องหลัก ZEISS Gimbal-Grade (เซ็นเซอร์ LYT-828 ขนาด 1/1.28″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide-angle (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 200MP กล้อง ZEISS APO Telephoto Camera 3.5x (เซ็นเซอร์​ ISOCELL HPB ขนาด 1/1.4″) f/2.67

จะเห็นว่าสเปกกล้องของทั้งคู่ได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยเซ็นเซอร์ตัวใหม่ และแน่นอนว่าทั้งคู่ยังพัฒนาร่วมกับ ZEISS ทั้งการจูนซอฟต์แวร์และการเคลือบเลนส์ ZEISS T* Coating ด้วย นอกจากนี้ในรุ่น X300 Pro ยังได้ชิปประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพชื่อ VS1 มาทำงานร่วมกับชิป Dimensity 9500 และ V3+ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีขึ้นอีกด้วย

ซึ่งเท่าที่ลองใช้งานคร่าว ๆ ก็บอกเลยว่า คุณภาพของกล้อง vivo X300 Series นั้นยังไว้ใจได้เหมือนเดิม ด้วยการประมวลผลที่ดีขึ้น ภาพที่ออกมาจะเน้นความสมจริงขึ้น ไม่ปรับแต่งจนเวอร์เกิน แต่ก็ยังคงมีความสวยสดในสไตล์ vivo ได้เป็นอย่างดีครับ

แต่ไม่ใช่แค่กล้องหลังที่อัปเกรดขึ้นในรอบนี้ เพราะ vivo X300 Series ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้กล้องหน้าตัวใหม่ ความละเอียด 50MP (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1) มาให้เลย ได้ทั้งมุมกว้างและมีระบบ Autofocus มาให้อีก สายเซลฟี่รอบนี้ถูกใจมาก ๆ แน่!

ประสิทธิภาพ vivo X300 Series

สำหรับสเปกภายในของ vivo X300 Series รอบนี้ ก็ได้อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่ขึ้นมาเป็น Dimensity 9500 ที่เคลมว่าได้พลัง CPU เร็วขึ้น 32% GPU แรงขึ้น 33% และ NPU การประมวลผล AI ไวขึ้น 111% เลยนะ

แต่นั่นไม่ใช่ประสิทธิภาพเดียวที่ vivo X300 Series อัปเกรดขึ้นมา เพราะในด้านซอฟต์แวร์รุ่นนี้มาพร้อม OriginOS 6 บนพื้นฐาน Android 16 มาตั้งแต่แกะกล่องเลย ทำให้ประสบการณ์การใช้งานต่างไปจาก Funtouch OS ก่อนหน้ามาก ๆ

ทั้งในด้านความเร็วในการตอบสนอง หรือความลื่นไหล เพราะทุกการใช้งานดูลื่นไหลไปหมด ไม่เจออาการกระตุกเลย อีกทั้งหน้าตา UI ก็สวยงาม มีเอฟเฟกต์เบลอ เอฟเฟกต์แสงเงา รวมถึงการปรับแต่งที่มากขึ้นอีกด้วย (อ่านพรีวิว OriginOS 6 ได้ที่นี่)

แบตเตอรี่ของ vivo X300 Series เครื่องศูนย์ไทย ก็จะได้มาเท่ากับเวอร์ชั่นที่เปิดตัวจีนเลยด้วย แบ่งเป็น vivo X300 = 6040mAh และ vivo X300 Pro = 6510mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 90W FlashCharge ทั้งคู่ด้วย หายห่วงแน่นอน!

สรุปสเปก vivo X300

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.31″, อัตราส่วน 19.54:9
  • ความละเอียด : 1.5K (2640 x 1216 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • Refresh rate : 120Hz
  • ชิปเซ็ต : Dimensity 9500 Octa-core 4.21GHz (3nm)
  • RAM : 12GB (LPDDR5X Ultra)
  • storage : 256GB (UFS 4.1)
  • แบตเตอรี่ : 6040mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว : 90W FlashCharge
  • กล้องหน้า : 50MP AF f/2.0
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
  • 200MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ HPB ขนาด 1/1.4″) f/1.68
  • 50MP กล้อง Ultra Wide Angle (เซ็นเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 50MP กล้อง Periscope 3x (เซ็นเซอร์​ LYT-602 ขนาด 1/1.95″) f/2.57
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Wi-Fi Display, 2 x 2 MIMO, MU-MIMO, Bluetooth 6 และพอร์ต USB-C (USB 3.2 Gen 1)
  • มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP68 & IP69
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 16 (OriginOS 6)
  • สีสัน : Halo Pink, Iris Purple, Phantom Black

สรุปสเปค vivo X300 Pro

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″, อัตราส่วน 20:9
  • ความละเอียด : 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • Refresh rate : 120Hz
  • ชิปเซ็ต : Dimensity 9500 Octa-core 4.21GHz (3nm)
  • RAM : 16GB (LPDDR5X Ultra)
  • storage : 512GB (UFS 4.1)
  • แบตเตอรี่ : 6510mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว : 90W FlashCharge
  • กล้องหน้า : 50MP f/2.0
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ LYT-828 ขนาด 1/1.28″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide Angle (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 200MP กล้อง Periscope 3.5x (เซ็นเซอร์​ ISOCELL HPB ขนาด 1/1.4″) f/2.67
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Wi-Fi Display, 2 x 2 MIMO, MU-MIMO, Bluetooth 6 และพอร์ต USB-C (USB 3.2 Gen 1)
  • มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP68 & IP69
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 16 (ครอบทับด้วย OriginOS 6)
  • สีสัน : Dune Brown, Mist Blue, Phantom Black

ก็เอามาพรีวิวคร่าว ๆ ให้ชมเท่านี้ก่อนเนอะ ส่วนรายละเอียดการใช้งานเต็ม ๆ รวมถึงฟีเจอร์กับตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดต่าง ๆ เดี๋ยวมีให้ติดตามเต็ม ๆ ในรีวิวฉบับเต็มแน่นอนครับ หลังงานเปิดตัววันที่ 27 พฤศจิกายนนี้

แต่ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็คิดว่าโดนแน่ ๆ แล้วรุ่นนี้ ตอนนี้ vivo X300 Series ก็เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแบบ Blind Booking แล้วนะ รับของแถมมูลค่าสูงสุด 14,998 บาทเลยด้วย!

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More