แกะกล่องพรีวิว realme 15 Series 5G สมาร์ตโฟนที่ให้ “ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต” พร้อมทรงพลังด้วยชิป Snapdragon 7 Gen 4 และ AI แบบจัดเต็ม

โดย Shine
พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

แกะกล่องพรีวิว realme 15 Series 5G ตามนัดมาแล้ว !! รอบนี้พามาดูสเปค ดีไซน์ และรายละเอียดตัวชูโรงฟีเจอร์แบบคร่าวๆ ของทั้ง realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G กันบ้างครับ โดยจุดเด่นทั้งคู่มีเพียบ โดยเฉพาะการใช้งาน AI Edit Genie ที่ใช้คำสั่งเสียงในการแก้ไขภาพได้อย่างอิสระ รองรับการพูดภาษาไทยได้ รวมถึงพลังกล้อง 50MP ที่จัดเต็ม มีฟีเจอร์ให้ใช้งานเพียบเลยทีเดียว

ดูอุปกรณ์ภายในกล่องกันก่อน

ขอพาดูสิ่งที่ให้มาในกล่องของ realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G กันก่อนเลย โดยทั้งคู่ได้กล่องสีเหลืองเอกลักษณ์ของ realme อยู่แล้ว โดยสิ่งที่ให้มาก็เหมือนกัน ดังนี้

  • ตัวเครื่อง realme 15 5G หรือ realme 15 Pro 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย
  • อะแดปเตอร์ชาร์จ 80W Ultra Charge
  • สาย USB Type-A to Type-C
  • เคสซิลิโคนแบบขุ่น
  • เข็มเปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

realme 15 Series 5G ดีไซน์สุดบางและเป็นเอกลักษณ์

realme 15 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นเน้นเรื่องความบางเป็นหลักอย่างที่เราบอกกันไปแล้ว ซึ่งนี่เป็นเอกลักษณ์ของ realme Numver Series มาตลอด โดยในรุ่น realme 15 Pro 5G มีความบางสุดที่ 7.79 มม. เท่านั้นในสีเงิน Flowing Silver ส่วนสีเขียว Velvet Green ที่เห็นกันนี้จะมีความบางอยู่ที่ 7.84 มม.

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ความพิเศษของสีเขียว Velvet Green ใน realme 15 Pro 5G จะเป็นวัสดุที่ให้สัมผัสเหมือนผ้าระดับพรีเมียมจากสตูดิโอออกแบบชั้นสูงของปารีส มีความนุ่มนวล พร้อมด้วยสีเขียวแบบเข้มๆ และยังมีโลโก้ของ realme ที่มุมซ้ายล่างด้วยครับ ขณะที่น้ำหนักก็เบาแค่เพียง 187 กรัมเท่านั้น จับถือได้นาน ไม่เมื่อยมือแน่นอน

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ส่วน realme 15 5G มาในสี Suit Titanium จะได้ความสวยงามของสีไทเทียมแบบพรีเมียม มีลวดลายเส้นตรงคล้ายกับลายของผ้า ให้ฝาหลังดูมีมิติมากขึ้นด้วยครับ

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ความบางของรุ่นนี้อยู่ที่ 7.66 มม. เท่านั้น มีขอบแบนเรียบทั้ง 4 ด้าน ทำให้การจับถือดูกระชับมือมากจริงๆ ขณะที่น้ำหนักก็เบาแค่เพียง 187 กรัมเท่านั้น

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ไฟแจ้งเตือนแบบใหม่ Pulse Light

realme 15 Series 5G มาพร้อมกับไฟ Pulse Light ซึ่งจะเป็นไฟสีสันต่างๆ ที่อยู่ตรงโมดูลกล้องที่แสดงผลเป็นวงกลม มีการส่องสว่างขึ้นมาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การแจ้งเตือน, สายเรียกเข้า, จังหวะเพลง, แจ้งเตือนแบตเตอรี่ต่ำและการชาร์จ การเปิดใช้งานโหมด GT, การใช้งาน Gemini และอื่นๆ

ทนน้ำทนฝุ่นมาตรฐาน IP68/69

เรื่องความทนทานยังจัดเต็มมาให้สุดๆ ด้วยมาตรฐาน IP68/69 ทนได้ทั้งละอองฝุ่นและสามารถทนน้ำได้สบายๆ ลึกสูงสุดถึง 1.5 เมตร นานสุด 30 นาทีเลยทีเดียว หมดกังวลหากเจอเหตุไม่คาดฝันหรือใช้งานตอนฝนตกได้อย่างต่อเนื่องแบบหายห่วง

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

หน้าจอ HyperGlow 4D Curve+ คมชัดสูง จอใหญ่ ลื่น 144Hz

สำหรับหน้าจอแสดงผลก็ใส่มาให้จุใจในการใช้งานเพื่อการรับชมแบบเต็มอรรถรสด้วยขนาด 6.8 นิ้ว โดย realme 15 Pro ได้หน้าจอแสดงผลแบบ HyperGlow 4D Curve+ ที่มีความโค้งทั้ง 4 ด้าน คมชัดสูง 1.5K+ พร้อมรองรับ Refresh Rate 144Hz ใช้งานได้ติดนิ้วทั้งการใช้ทั่วไปและเล่นเกม โดยการแสดงผลก็จัดเต็มด้วยสีสัน 1.07 พันล้านสี มีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 94% พร้อมค่า Contrast Ratio 5000000:1 และรองรับความถี่ในการถนอมสายตามากถึง 4608Hz PWM Dimming

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G
พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ขณะที่ realme 15 5G จัดเต็มด้วยหน้าจอแบนขนาด 6.77 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ ไหลลื่น 144Hz และ Contrast Ratio 5000000:1 รองรับการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสีอีกด้วย

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

พาชมรอบเครื่อง

ขอพาดูรอบเครื่องกันอีกหน่อยไปพร้อมกันทั้ง 2 รุ่นเลย realme 15 Series 5G ได้กล้องหน้าแบบ Punch Hole โดยลำโพงด้านบนก็เป็นแบบสเตอริโอเหมือนกันด้วยครับ

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ฝั่งขวาเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ตามปกติ เพราะการสแกนลายนิ้วมือจะอยู่ในหน้าจอทั้งคู่

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ฝั่งด้านล่างเครื่องเหมือนกันเป๊ะ คือช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 2 ช่องพลิกหน้า-หลัง ตามด้วยไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโออีกตัว

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ด้านบนจะได้ไมโครโฟนในการตัดเสียงรบกวน รวมถึงเซ็นเซอร์อินฟราเรด

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องเหมือนกัน มีเลนส์หลักที่ด้านบน ขณะที่ฝั่งขวาจะมีเลนส์ Ultra Wide-Angle ที่ถูกล้อมรอบด้วยไฟ Pulse Light และยังได้ไฟแฟลชคู่ที่ด้านบนและล่างขวาด้วยครับ

ชิปเซ็ตตัวกลางทรงพลัง เล่นเกมได้ลื่น

ชิปประมวลผลทั้ง 2 รุ่นนี้ก็จัดมาให้แบบคุ้มๆ โดย realme 15 5G ใช้เป็น MediaTek Dimensity 7300+ 5G ที่เป็นชิปตัวกลางที่ผลิตด้วยขนาดเล็ก 4nm ทำให้ประหยัดพลังงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ และยังเร็วแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นด้วย

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

ขณะที่ realme 15 Pro 5G ใช้เป็นฝั่ง Snapdragon 7 Gen 4 ชิปรุ่นใหม่ของ Qualcomm ขนาด 4nm มีความแรงขึ้นมากพอสมควรเพื่อเทียบกับรุ่นเดิม เล่นเกมได้ลื่นๆ ใช้งานได้แบบไม่มีสะดุด

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

กล้องทรงพลังคมชัดสูงสุด 50MP จัดเต็มด้วย AI

พลังกล้องของ realme 15 Series 5G ให้มาแบบจัดเต็มสุดๆ ด้วยความละเอียด 50MP แบบครบทุกเลนส์ใน realme 15 Pro 5G และ 50MP Dual Lens (กล้องหลังเลนส์หลัก + กล้องหน้า) ใน realme 15 5G

พรีวิว realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G

รวมถึงยังมี AI Edit Genie ที่ใช้คำสั่งเสียงในการปรับแต่งแก้ไขภาพได้ตามจินตนาการครั้งแรกของอุตสาหกรรมด้วย

สรุปสเปค realme 15 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.27 × 76.16 × 7.66 มม.
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลแบบ Flat OLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2392 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 144Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, 3840Hz PWM Dimming, Contrast Ratio 5000000:1 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 94%, 100% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 4500 นิต และแสดงผล 1.07 พันล้านสี
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 7300+ 5G Octa-core ความเร็ว 2.5GHz
  • GPU : Arm Mali-G615
  • RAM : 8GB/12GB LPDDR4X
  • ROM : 128GB/256GB UFS 3.1
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
    • เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX882 รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Ultra-Wide 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา
  • กล้องหน้า 50MP รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ OV50D
  • ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ Titan ความจุ 7000mAh ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge

สรุปสเปค realme 15 Pro 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.26 × 76.15 × 7.79 มม. (สี Flowing Silver) / 162.26 × 76.15 × 7.84 มม. (สี Velvet Green)
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล HyperGlow 4D Curve+ Display แบบ OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2800 x 1280 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 144Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, 4608Hz PWM Dimming, Contrast Ratio 5000000:1 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 94%, 100% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 6500 นิต และแสดงผล 1.07 พันล้านสี
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 Octa-core ความเร็ว 2.8GHz
  • GPU : Adreno
  • RAM : 8GB/12GB LPDDR4X
  • ROM : 128GB/256/512GB UFS 3.1
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
    • เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX896 รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Ultra-Wide 50MP รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 115.6 องศา เซ็นเซอร์ OV50D
  • กล้องหน้า 50MP รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ OV50D
  • ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ Titan ความจุ 7000mAh ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge

แค่ได้เห็นฟีเจอร์คร่าาวๆ ก็น่าใช้มากๆ แล้ว แต่นี่เป็นเพียงพรีวิวให้ดูกันเป็นน้ำจิ้มก่อนเท่านั้นนะ โดยรีวิวเต็มๆ ของ realme 15 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นจะมีมาให้ติดตามกันแบบจัดเต็มแน่นอนเร็วๆ นี้ผ่านทาง iphone-droid.net ครับ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More