
รีวิว POCO M7 สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังเรื่องความคุ้มค่า แบตเตอรี่ที่ให้มาจุกๆ 7000mAh ใช้งานได้นานตลอดวันแน่นอน รวมถึงสเปคที่ใช้งานได้ไหลลื่น พร้อมด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว 144Hz คมชัดเต็มตาแน่นอน และยังได้กล้องหลังคู่ 50MP แบบ AI และฟังก์ชันการใช้งานที่เสริมความสะดวกอีกเพียบครับ
สรุปสเปค POCO M7
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 169.48 x 80.45 x 8.40 มม.
- น้ำหนัก : 214 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Dot Drop Display ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 144Hz, Touch Sampling Rate สูงสุด 288Hz, 374PPI, ช่วงสี 85% NTSC, Contrast Ration 1400:1 และความสว่างสูงสุด 850 นิต
- CPU : Snapdragon 685 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.8GHz
- RAM : 6/8GB LPDDR4X
- ROM : 128/256GB UFS 2.2 รองรับ MicroSD Card สูงสุด 2TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์เสริม (Auxiliary Lens)
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 7000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W HyperCharge และชาร์จย้อนกลับ (Reverse Charging) 18W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง POCO M7 กัน !
กล่องของ POCO M7 มาในสีเหลืองตามเอกลักษณ์ความเป็น POCO อยู่แล้ว พร้อมด้วยชื่อรุ่น POCO M7 ที่เป็นสีดำที่ตัดได้แบบสวยงามเลยครับ

เปิดออกมาจะเจอกับกล่องที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่แถมมาให้ครบเลย ไม่ว่าจะเป็นเคสซิลิโคนสีดำแบบทึบ ตามด้วยคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และเข็มเปิดถาดซิม

มาอีกชั้นจะเป็นตัวเครื่อง POCO M7 ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยครับ

และท้ายสุดจะเป็นอะแดปเตอร์ 33W และสาย USB Type-A to Type-C ครับ

ดีไซน์สวยงาม ด้วยสีเงินอันโดดเด่น !
สำหรับ POCO M7 ที่เราได้มาเป็นสีเงินที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนด้วยลวดลายที่เป็นตารางเป็นสัดส่วน หลักๆ จะเป็นขอบสีแดงและน้ำเงินที่แบ่งแบบ 1:3 โดยสีแดงจะอยู่ในส่วนบน และใต้โมดูลกล้องจะเป็นสีน้ำเงิน

โดยฝาหลังจะเป็นแบบผิวด้านสีเงิน สัมผัสแล้วไม่ลื่นมือเลย และให้ความรู้สึกที่เหมือนมีความทนทานและแข็งแกร่งขั้นสุด และดูเหมือนดีไซน์ที่มาจากอนาคตเลย

ที่โมดูลกล้องหลังจะเป็นแบบวงรีแนวตั้ง มีเลนส์หลักด้านบนสุดและมีเลนส์เสริมมาให้ มีสัญลักษณ์ “50MP AI CAM” และไฟแฟลชจะมีเพียงดวงเดียวครับ

ที่ขอบเครื่องจะมีความโค้งเล็กน้อยที่ขอบทั้ง 4 ด้านเพื่อให้เวลาจับถือจะมีความถนัดมือมากๆ และไม่รู้สึกบาดมือเลยครับ

บอกเลยว่าแม้แบตเตอรี่จะใหญ่ถึง 7000mAh แต่ความบางอยู่แค่เพียง 8.4 มม. เท่านั้น และน้ำหนักอยู่ที่ 214 กรัม

มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP64
POCO M7 ยังมาพร้อมกับมาตรฐานกันละอองน้ำและฝุ่น IP64 ซึ่งยังใช้งานได้ดีในตอนที่มีฝนตกเบาๆ ทำให้เราใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่บอกก่อนว่าไม่ใช่มาตรฐานที่จะไปตกน้ำได้ครับ

หน้าจอ Dot Drop Display ยักษ์ใหญ่ 6.9 นิ้ว ไหลลื่น 144Hz
ใครที่ชอบหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อการรับคมเนื้อหาแบบเต็มตาจริงๆ บอกเลยว่า POCO M7 ตอบโจทย์ขั้นสุดเลยเพราะให้หน้าจอแสดงผลมาแบบ Dot Drop Display ขนาด 6.9 นิ้ว มีความคมชัดถึง FHD+ และมีความสว่างสูงสุด 850 นิตด้วยครับ

ความไหลลื่นของหน้าจอนั้นให้มาถึง Refresh Rate 144Hz ที่ปรับได้แบบ AdaptiveSync ปรับความถี่ได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ของการใช้งาน รองรับ Touch Sampling Rate สูงสุด 288Hz ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นเกมที่ต้องใช้ในการสัมผัสที่รวดเร็วแล้วครับ

ที่สำคัญก็ยังมีการถนอมสายตาที่ผ่านการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ถึง 3 อย่าง ดังนี้
- TÜV Rheinland Low Blue Light (ซอฟต์แวร์) ลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา
- TÜV Rheinland Flicker Free ไม่เกิดการกระพริบเพื่อลดความเมื่อล้าดวงตา
- TÜV Rheinland Circadian Friendly เพื่อรองรับวงจรการนอนหลับและตื่นตามธรรมชาติ

พาชมรอบเครื่อง
มาดูรอบเครื่องกันสักหน่อย ที่หน้าจอให้มาเป็นกล้องหน้าที่มาเป็น Punch Hole และลำโพงสำหรับการสนทนาที่ด้านบน

ฝั่งซ้ายมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card ครับ

ฝั่งขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านล่างจะมีไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB-C และลำโพงตัวหลัก

ขณะที่ด้านบนจะให้เซ็นเซอร์อินฟราเรด IR Blaster มาให้เพื่อให้สมาร์ทโฟนใช้เป็นรีโมทต่างๆ ได้เลย

และที่ด้านหลังจะเป็นโมดูลกล้องหลัง 2 เลนส์ และไฟแฟลช 1 ดวงตามที่บอกไปด้านบนครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
แกะกล่องมาพร้อม Android 15 และ HyperOS 2 ฟังก์ชันเพียบ
รีวิว POCO M7 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 มีการครอลบทับด้วย HyperOS 2 for POCO โดย UI มีการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อนเลยครับ ขณะที่การใช้งานก็มีความไหลลื่น

ลำโพงดังกระหึ่ม เพิ่มได้ถึง 200%
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงที่เสียงดังกระหึ่ม รองรับระบบเสียงแบบ Hi-RES และ Dolby Atmos ได้อรรถรสในการใช้งานแบบเต็มที่แน่นอนครับ ชดเชยลำโพงที่มาแบบลำโพงเดี่ยวไปเลย

มาพร้อม AI จาก Google ที่พร้อมให้ใช้งาน
สำหรับ POCO M7 ยังมาพร้อมการใช้งานด้าน AI ที่มี Google เป็นผู้ช่วยมือขวาอย่างดี ทั้ง Gemini ที่สามารถกดปุ่มด้านข้างค้างไว้เพื่อเรียกใช้งานได้ทันที จากนั้นอยากรู้อะไรก็ถามได้เลยเหมือนกัน

รวมถึงยังมี Circle to Search ที่สามารถวงเพื่อค้นหาสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เลย เพียงแค่กดค้างที่ปุ่ม Home หรือแถบด้านล่างครับ

ความปลอดภัยมีให้ใช้ครบถ้วน
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ให้มาครบ ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างเครื่อง ทำงานได้รวดเร็ว ตอบสนองไว และมีความปลอดภัยแน่นอน ขณะที่การสแกนใบหน้าก็เป็นอีกทางเลือก และก็ใช้งานได้เร็วเช่นกันครับ

รีโมท Mi ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมทได้เลย
ด้วยคาวมที่ให้เซ็นเซอร์ IR มาให้ ก็สามารถใช้ POCO M7 เป็นรีโมทได้เลย ใช้งานควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ลย มีหลายแบรนด์ให้เลือก และใช้งานได้หมดเลยจริงๆ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตตัวกลางของ Snapdragon ยังใช้ได้ไหลลื่นอยู่นะ !
รีวิว POCO M7 ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 685 แบบ Octa Core ขนาด 6nm ในการขับเคลื่อน ซึ่งแม้จะเป็นชิปรุ่นประหยัด แต่การใช้งานทั่วไปก็ยังทำได้ไหลลื่น ไม่ร้อนเกินไป และก็เล่นเกมที่ใช้กราฟิกไม่หนักได้แบบเหลือๆ แน่นอน

ขยาย RAM รวมได้สูงสุดถึง 16GB
ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM ที่รองรับสูงสุด 16GB (ในรุ่น RAM 8GB) ที่สามารถเพิ่มได้สูงสุด 8GB นั่นเองครับ ขณะที่ก็ยังมีรุ่น RAM 6GB ที่ก็สามารถเพิ่มได้สูงสุด 6GB รวมเป็น 12GB

ผลการทดสอบบน AnTuTu 10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.5.0 ได้มาที่ 360,852 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 470 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,516 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ได้มาลองเล่นเกมมหาชนอย่าง ROV กันก่อนครับ รุ่นนี้เราสามารถเปิดภาพระดับ HD ได้แบบสูงสุด + การแสดงผลระดับสูง และเฟรมเรทก็เปิดให้สูงได้ครับ การเล่นจริงๆ ก็ทำได้ดี ไหลลื่น เฟรมเรทค่อนข้างคงที่ วิ่งสูงสุดที่ 60fps แทบจะตลอดเวลา และในช่วงที่มีเอฟเฟ็กต์เยอะๆ จากการปล่อยสกิลก็ไม่เจออาการกระตุกหรือติดขัดอะไร

Garena Delta Force
ต่อกันที่เกมแนว FPS อย่าง Garena Delta Force กันบ้างครับ เราเปิดกราฟิกในรูปแบบไหลลื่น + เฟรมเรทสูง ซึ่งเราได้เล่นในโหมด Attack & Defense เพื่อยึดฐาน จริงๆ ก็เล่นได้ค่อนข้างไหลลื่น หน้าจอสัมผัสได้ติดนิ้วดีเลย การสะบัดเพื่อเคลื่อนที่ก็ดีกว่าที่คาด ภาพไม่เบลิระหว่างเลื่อนซ้าย-ขวาครับ

แบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ 7000mAh ใช้งานครบวันก็ยังเหลือ !
POCO M7 จัดแบตเตอรี่มาให้เราใช้งานได้เหลือๆ เพราะให้ความจุมาถึง 7000mAh ใครที่ใช้งานทั่วไปก็มีเหลือใช้งานต่อจนถึงค่ำๆ ดึกๆ ได้แบบสบายๆ เลยล่ะครับ ส่วนการชาร์จก็อยู่ที่ 33W HyperCharge ซึ่งก็เร็วประมานนึงครับ แต่ด้วยความจุแบตฯ ที่ให้มาเยอะก็อาจจะทำให้เวลาในการชาร์จใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถึงเต็มจะ 100% (หากเหลือแบตฯ น้อยกว่า 20%)


ไม่ใช่แค่แบตฯ เยอะเพื่อให้ใช้งานตลอดวันเท่านั้น แต่ยังใช้ประโยชน์ในการเป็นการชาร์จย้อนกลับความเร็ว 18W ได้ด้วย โดยใช้แทนแบตสำรองแบบพกพาได้เลย ทำให้เราชาร์จให้กับอุปกรณ์เสริมหรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นได้ด้วย !

กล้อง AI Dual Lens คมชัด 50MP ใช้งานได้ดีเกินคาด !
รีวิว POCO M7 กล้องหลังให้มา 2 เลนส์ คือจะเป็นเลนส์หลัก 50MP และเลนส์เสริม ซึ่งแม้ว่าเลนส์ที่ 2 จะใช้งานแบบสัมผสัจริงไม่ได้ แต่ก็มีการเข้าช่วยในเรื่องของ AI ของปรับแต่งภาพที่ได้จากเลนส์หลักครับ ทำให้ภาพที่ได้สวยงามและดีกว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ

กล้องหลัก 50MP ถ่ายคมชัด พร้อมฟิลเตอร์ให้ใช้งานอย่างสนุก
แม้ว่าจะมีให้ใช้เพียงระยะเดียว แต่ POCO M7 ก็ได้กล้องหลังที่ถ่ายได้สวยงาม ถ่ายย้อนแสงแบบ HDR ได้ค่อนข้าง การตัดแสงของฉากหน้าและหลังก็ทำได้ดีพอสมควร ส่วนเรื่องของสีสันอาจจะไม่ได้จัดจ้านมาก แต่ก็ยังมีความสดอยู่ ไม่ได้ดูจริงแบบ 100% ทั้งนี้ยังมีฟิลเตอร์ Film บวก ที่ให้ภาพที่มีความนวลมากขึ้น และยังมี Film ลบ ที่จะออกแนวย้อนยุคครับ
ทั้งนี้ การถ่ายภาพบุคคลถือว่ายังทำได้ดีในการละลายฉากหลัง โดยเฉพาะในที่แสงกลางแจ้งจะมีความแม่นยำพอตัวเลยล่ะ ภาพตัวบุคคลจะสมจริงเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ยังสามารถปรับความเบลอหลังเหรือรูรับแสงได้อีกครั้งในแอปรูปภาพด้วย แต่ก็แอบเสียดายนิดหน่อยตรงที่ไม่สามารถเปิดบิวตี้ได้ที่โหมดนี้
























เซลฟี่ได้ดีคมชัด 8MP
กล้องหน้า POCO M7 ใช้งานได้จริงอยู่เหมือนกัน มีความละเอียดที่ 8MP สามารถเซลฟี่ได้สวยงาม ละลายฉากหลังได้เหมือนกับกล้องหลังเลย หรือใครอยากให้ปรับบิวตี้ด้วยต้องเป็นโหมดหลักเท่านั้นครับ




สรุป: รีวิว POCO M7
POCO M7 ได้จุดเด่นหลักของการใช้งานที่เต็มตามากๆ คือ หน้าจอแสดงผลใหญ่ 6.9 นิ้ว ได้ความไหลลื่นด้วย Refresh Rate 144Hz แล้วยังคมชัดระดับ FHD+ ซึ่งหากได้ยากมากกับราคาใหล้เคียงกันครับ เอาใจคนที่ชอบดูวิดีโอจอใหญ่ๆ ชัดๆ แน่นอน แล้วที่ชอบเลยคือแบตเตอรี่ที่ให้มาใหญ่ถึง 7000mAh ถือว่าสูงมากๆ ใช้งานได้นานจริง ถ้าใช้โซเชียลทั่วไป น่าจะเกิน 1 วันแน่นอน ขณะที่ดีไซน์ก็ยังมีความโดดเด่น สวยงาม ดูแตกต่างจริงๆ ขณะที่กล้องก็ยังใช้งานได้ดี ถ่ายได้สวยเหมือนกัน ทำได้ดีในราคาประหยัดครับ

ราคาและการวางจำหน่าย POCO M7
POCO M7
POCO M7 พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ เงิน และฟ้า โดยราคาจะมี 2 ความจุ ดังนี้
- 6GB + 128GB : 3,999 บาท
- 8GB + 256GB : 4,599 บาท

เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม: