Connect with us

Smart Review

รีวิว Sony WF-1000XM5 การกลับมาของหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด ในขนาดกะทัดรัดและน่าใช้งานกว่าที่เคย!

Published

on

รีวิว WF-1000XM5 หูฟังไร้สาย TWS ตัวล่าสุดจาก Sony ที่กลับมายกระดับมาตรฐานของ “หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีสุด” อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีเสียงขั้นเทพ, ชิปคู่ใหม่ V2 + QN2e, ในขนาดที่กะทัดรัดลงกว่ารุ่นก่อนถึง 25% เรียกว่าทำการบ้านมาดีมากครับรอบนี้ และหลังจากเราลองใช้งานจริงกว่า 1 สัปดาห์วันนี้ก็จะมารีวิวให้ชมว่าน่าใช้สักแค่ไหน พร้อมแล้วติดตามครับ!

คุณสมบัติ Sony WF-1000XM5

  • ขนาดเคสชาร์จ : 64.6 x 40.0 x 26.5 มม.
  • น้ำหนักเคสชาร์จ : ประมาณ 39 กรัม
  • น้ำหนักหูฟัง : 5.8 กรัม (ต่อข้าง)
  • ไดรเวอร์ยูนิต : 8.4 มม.
  • หน่วยประมวลผล : Sony V2 + QN2e
  • ระบบตัดเสียงรบกวน : รองรับ Noise Canceling
  • รูปแบบเสียงที่สนับสนุน : SBC, AAC, LDAC
  • Bluetooth : 5.3
  • ป้องกันน้ำ : IPX4
  • แบตเตอรี่ : สูงสุด 8 ชม. (เปิด NC) 12 ชม. (ปิด NC)
  • เวลาการชาร์จ : 2 ชม.

แกะกล่อง Sony WF-1000XM5

ก่อนจะไปดูดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์การใช้งาน เรามาดูแพ็กเกจและเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาสักนิดดีกว่า WF-1000XM5 มาพร้อมกล่องกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด ที่ด้านหน้ามีแถบคาดที่ระบุชื่อรุ่นและภาพประกอบอยู่ ซึ่งภาพตรงนี้ก็จะระบุสีสันด้วย และสีที่เราได้มาคือสี Silver ครับ

แพ็กเกจกล่องเป็นกระดาษรีไซเคิลมีความรักษ์โลกมากขึ้น ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีทีเดียว อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาก็จะปรับกอบด้วย 5 อย่างหลัก ๆ ดังนี้

  • ตัวหูฟัง Sony WF-1000XM5
  • EarTip ขนาด SS, S และ L
  • สายชาร์จ USB-C to A
  • เอกสารคู่มือ
  • โค้ดทดลองใช้งานบริการ 360 Reality Audio

ดีไซน์ใหม่ เล็กลง 25% เบาลง 20%

อะ…ได้เวลาชมดีไซน์กันแล้ว อย่างที่บอกว่า WF-1000XM5 นั้นมีขนาดที่เล็กลงถึง 25% เรียกว่าถูกใจเรามาก เพราะสามารถพกติดกระเป๋าไปได้ง่ายกว่าเดิม มองแว้บแรกก็รู้ได้เลยว่านี่คือขนาดที่พอเหมาะพอเจาะจริง ๆ ครับ

เห็นตัวเลขอย่างเดียวคงไม่พองั้นเราเอาภาพเปรียบเทียบระหว่าง WF-1000XM4 (สีดำ) กับ WF-1000XM5 (สีเงิน) มาวางคู่กันชัด ๆ เลยละกัน จะเห็นว่าขนาดนั้นเล็กลงชัดเจน

เปรียบเทียบขนาดกับรุ่นก่อนไปแล้ว เราขอเจาะในเรื่องของดีไซน์เพิ่มเติมอีกหน่อยดีกว่า ตัวเคสชาร์จของ WF-1000XM5 นั้นมาพร้อมวัสดุพลาสติกรีไซเคิลผิวด้านที่มอบสัมผัสได้ดีเวลาจับถือ ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและไม่เลอะง่ายดีครับ ที่ด้านหน้าเคสชาร์จจะมีไฟ LED บอกสถานะแบตเตอรี่ที่รอบนี้ปรับเป็นแบบจุดเล็ก ๆ แทน ตรงนี้เราขอตินิดหนึ่งเพราะในรุ่นก่อนทำมาเท่มาก ๆ ด้วยแถบไฟขนาดใหญ่ แต่มารุ่นนี้กลับไปใช้แบบมาตรฐานลดความโดดเด่นไปเยอะเลยนะ

ส่วนด้านหลังของเคสชาร์จจะมีพอร์ตชาร์จแบบ USB-C และปุ่ม Reconnect อยู่ด้วย สะดวกต่อการใช้งานและรูปลักษณ์ทั่วไปก็สวยเพราะทุกอย่างจะวางไว้ที่ด้านหลังหมดแบบนี้เลย

ผิวสัมผัสแบบใหม่ในตัวหูฟัง

ตัวหูฟังของ WF-1000XM5 นั้นเปลี่ยนรูปแบบผิวสัมผัสใหม่ให้ตัวหูฟังโดยรวมเป็นผิวมันวาว ในขณะที่ยังทิ้งส่วน Touch Panel เป็นแบบด้านแทน ตรงนี้เราว่าเป็นดีไซน์ที่สวยดีเวลามองเพราะมีความหรูหราอยู่ไม่น้อย แต่…ในการใช้งานจริงเราแอบติดใจอยู่นิดหน่อยตรงที่พอเป็นผิวมันเวลาจะหยิบออกจากเคสจะแอบลื่นไม่น้อยเลย ทำให้ดึงตัวหูฟังออกมาได้ยากกว่าแบบก่อนพอควร ถ้ายิ่งนิ้วมันหน่อยนี่ดึงกันหลายทีเลยล่ะ

หูฟังเบาลง 20%

เอาล่ะ! มองข้ามเรื่องการหยิบหูฟังไปก่อนเพราะบางคนอาจไม่เจอปัญหานี้ มาดูเรื่องที่เราชอบกันบ้าง นั่นก็คือขนาดและน้ำหนักครับ เพราะรอบนี้ทำได้เล็กและเบาลงอีก 20% (7.3 กรัม vs 5.8 กรัม) ทำให้สวมใส่ได้สบายขึ้นเวลาอยู่ในหูก็ไม่หนักเท่าเดิม แถมยังมีการปรับขนาดให้พอดีกับหูมากขึ้น เวลาใส่จะรู้สึกได้เลยว่าไม่เทอะทะเท่ารุ่นก่อนครับ

ตัวจุกหูฟังรอบนี้จะใช้เป็นโฟมโพลิยูริเธนที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทำให้เวลาเราสวมใส่เข้าไปในหูจะกระชับมากขึ้น ผิวสัมผัสให้ความนุ่มไม่ระคายหู และยังทำให้มีความแน่นกันเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดีอีกต่างหากครับ

แต่ตรงนี้ต้องบอกว่าหูของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันเนาะ เพราะฉะนั้น Sony จึงมีตัวเลือกของ EarTip มาให้เราเลือกเปลี่ยนถึง 4 ขนาด ก่อนใช้งานจริงแนะนำว่าเราอาจจะต้องลองให้ครบก่อนว่าขนาดไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด อย่างที่ติดมาในกล่องเลยจะเป็นไซซ์ M ครับ ถ้าใส่แล้วอึดอัดไปหน่อยก็อาจจะลองกลับมาใช้เป็น S หรือ SS อีกทีได้ครับ

กันน้ำมาตรฐาน IPX4

เช่นเดียวกับรุ่นก่อน WF-1000XM5 นั้นมาพร้อมความสามารถกันน้ำระดับ IPX4 คือกันพวกละอองน้ำได้ หมายความว่าเราสามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยครับ จะใส่วิ่ง ใส่เดิน ปั่นจักรยาน ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องเหงื่อไปโดนตัวหูฟัง หรือช่วงน่าฝนแบบนี้ อาจจะต้องลุยฝนกันบ้าง ก็มั่นใจได้ว่าหูฟังรุ่นนี้ทนได้แน่นอนครับ

โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ Sony WF-1000XM5 ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องขนาดและน้ำหนักที่ปรับให้พอเหมาะพอเจาะกว่าเดิม ตัวเคสก็เล็กลงพกพาสะดวกขึ้นไปอีก ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านหยิบจับได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือ ตัวหูฟังก็เล็กและเบาลงทำให้สามารถใส่ในหูได้แบบไม่เทอะทะ แต่ก็ยังมีจุดสังเกตอยู่เหมือนกันคือเรื่องไฟสถานะที่ลดความเท่ลงกับตัวผิวสัมผัสของหูฟังที่มันวาวไปหน่อยอาจจะหยิบออกจากเคสได้ยาก แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่สามารถปรับตัวกันได้ไม่ยากครับ

เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth 5.3 มีแอปตั้งค่าเพิ่มเติม

Sony WF-1000XM5 สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้ผ่านระบบ Bluetooth 5.3 โดยในครั้งแรกที่เปิดฝาเคสชาร์จถ้าเป็นสมาร์ทโฟน Android ก็จะมีฟีเจอร์ Google Fast Pair คอยแจ้งเตือนการจับคู่ให้เราได้เชื่อมต่อได้ทันทีครับ

สำหรับแอปที่จะใช้งานร่วมกันระหว่าง WF-1000XM5 กับสมาร์ทโฟนจะเป็นแอป Sony Headphones ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS และ Android ครับ ในแอปนี้จะมีสถานะของตัวหูฟังบอกทั้งแบตเตอรี่ เพลงที่ฟังอยู่ รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหลัก ๆ คือ

  1. Adaptive Sound Control : โหมดปรับ NC และ Ambient Sound ตามสถานการณ์ต่าง ๆ
  2. Speak to Chat : เปิด-ปิดฟีเจอร์ พูดเพื่อสลับไปใช้ Ambient Sound อัตโนมัติ
  3. Equalizer : ปรับรูปแบบเสียงสำหรับฟังเพลง
  4. 360 Reality Audio : ตั้งค่าฟีเจอร์ 360 Reality Audio
  5. DSEE Extreme : เปิด-ปิดฟีเจอร์อัปสเกลคุณภาพเสียง

Adaptive Sound Control ปรับรูปแบบเสียงตามสถานการณ์

อย่าง Adaptive Sound Control หรือสถานะการใช้งานหูฟังในขณะนั้น เช่นเดียวกับรุ่นก่อน ๆ WF-1000XM5 จะมีโหมดสถานการณ์ใช้งานแยกย่อยมา 4 โหมดและการตั้งค่าเริ่มต้นดังนี้

  • Staying > เปิด Noise Canceling ใช้งานอยู่นิ่ง ๆ อยู่กับที่โหมดนี้จะเปิดตัว NC ไว้ให้ แต่ยังพอได้ยินเสียงการประกาศต่าง ๆ ได้อยู่ครับ 
  • Walking > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะเดินตรงนี้จะเปิดเป็น Ambient Sound ให้เราได้รับเสียงภายนอกเข้ามาด้วย 
  • Running > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะวิ่ง เปิดรับเสียงภายนอกสูงสุดเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยครับ
  • Transport > เปิด Noise Canceling สำหรับการใช้งานตอนเดินทาง เปิด NC แบบครบถ้วนเพื่อให้ได้อรรถรสในการฟังมากที่สุดครับ

ซึ่งค่าเริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างดีแล้ว เราแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลย แต่ถ้าอยากปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราก็เข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Sony Headphones นี้แหละครับ

ชิปคู่ V2 + QN2e อัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นทุกด้าน

สำหรับประสิทธิภาพของ WF-1000XM5 นั้นเรียกว่าอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนอยู่หลายจุดเลย อย่างแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือชิปเซ็ตภายใน รอบนี้ Sony ให้ชิปมาถึง 2 ตัวคือ V2 และ QN2e เข้ามาช่วยประมวลผลร่วมกันในหลายด้านทั้ง การตัดเสียงรบกวน, คุณภาพเสียง, การเชื่อมต่อ Bluetooth และการประหยัดพลังงานเลยทีเดียว

ระบบตัดเสียง Noise Canceling ที่ดีที่สุด

หากพูดถึงจุดเด่นของหูฟังซีรีส์ 1000X เชื่อว่าทุกคนคงนึกถึงระบบตัดเสียงรบกวนเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นการกลับมาของเทพตัดเสียงรบกวนอีกครั้ง เพราะด้วยการประมวลผลของชิปใหม่ 2 ตัว พร้อมไมโครโฟนไมโครโฟนความถี่ต่ำ 2 ตัวช่วยแยกเสียงรบกวนได้ดีขึ้น พร้อมทั้งตัวโฟมโพลิยูริเธนก็ยังช่วยให้กระชับพอดีหู ทำให้ WF-1000XM5 รุ่นนี้สามารถตัดเสียงได้เงียบกว่ารุ่นก่อนถึง 20% เลยทีเดียว สมกับเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนเทพจริง ๆ

คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม

แน่นอนว่าเรื่องก็เป็นอีกจุดเด่นของ WF-1000XM5 เพราะรุ่นนี้ขนทุกเทคโนโลยีด้านเสียงมาให้หมดแล้ว ตั้งแต่ไดรเวอร์แบบโดมขนาด 8.4 มม.ที่ให้มิติเสียงครอบคลุมในทุกย่านเสียง และยังมีชิป QN2e ที่เช้ามาประมวลผลเพิ่มทำให้คุณภาพเสียงสูงและไม่มีผิดเพี้ยน และช่วยให้สามารถประมวลผล LDAC codec ได้อีกด้วย

ฟีเจอร์ DSEE อัปเกรดเสียง

นอกจากนี้หูฟัง WF-1000XM5 ยังมีฟีเจอร์ Digital Sound Enhancement Engine (DSEE) ที่จะช่วยคืนค่าองค์ประกอบความถี่สูงซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มรายละเอียดและความสมบูรณ์ของเพลงให้เที่ยงตรงเพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกต้นฉบับมากที่สุดอีกด้วย

ซึ่งเท่าที่เราลองใช้งานจริงก็ต้องบอกเลยว่าเบสทุ้มลึกราบรื่นขึ้น ความลึกของเบสดีมากให้เสียงและพลังที่สมจริง รวมถึงมิติเสียงกับตำแหน่งดนตรียังแม่นยำ เสมือนนั่งฟังอยู่ในสถานที่จริงยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ

คุณภาพเสียงระดับนี้ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยมอย่างที่บอกไป การดูหนังก็ยังไม่ธรรมดาเช่นกัน เสียงชั้นยอดมอบประสบการณ์การดูหนังได้อย่างมีมิติ การซิงค์เสียงก็แม่นยำได้อรรถรสอย่างครบถ้วนครับ

คุยโทรศัพท์ก็ยอดเยี่ยม

เรื่องคุยโทรศัพ์ก็ยังเป็นจุดเด่นของ WF-1000XM5 เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับเสียงอันแม่นยำที่ควบคุมไมโครโฟนทั้งภายในและภายนอกหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเซนเซอร์ Bone-conduction ที่ตรวจจับการสั่นสะเทือนของกระดูกเพื่อรับเสียงพูดเท่านั้น ทำให้การสนทนานั้นชัดเจน แถมยังมีอัลกอริธึมจาก AI ที่ใช้ตัวอย่างเสียงมากกว่า 500 ล้านตัวอย่าง เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างและดึงเสียงของเราออกมาอย่างชัดเจนที่สุด

ฟีเจอร์ Speak to Chat คุยได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

หรือถ้าจะใช้งานพูดคุยแบบตัวต่อตัว WF-1000XM5 ก็มีฟีเจอร์ Speak to Chat มาให้ด้วย โดยตัวหูฟังจะมีฟีเจอร์ตรวจจับการพูดของเรา หากมีการพูดออกมาระบบจะปรับโหมดอัตโนมัติเป็น Ambient Sound รับเสียงภายนอกเข้ามาทำให้เราพูดคุยกับคนอื่นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแตะที่ตัวหูฟังเลย และเมื่อเราหยุดพูดระบบก็จะตัดสลับมาที่ Noise Canceling ให้ ส่วนเวลาในการเปิดรับเสียงก็สามารถตั้งค่าได้จากในแอป Sony Headphones เลยครับว่าจะกี่วินาทีตัดกลับไป-มา

แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 24 ชม.

ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ WF-1000XM5 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานเช่นเดียวกับรุ่นก่อน แม้ขนาดจะเล็กและบางลงก็ตาม คือตัวหูฟังเองสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชม.แล้ว (แบบเปิด Noise Canceling ด้วยนะ) และบวกกับเคสชาร์จที่สามารถชาร์จกลับได้อีก 2 รอบ ก็เท่ากับว่าใช้งานรวมได้ถึง 24 ชม. เลยทีเดียวครับ

และแน่นอน WF-1000XM5 ก็มีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 3 นาทีก็สามารถฟังต่อเนื่องได้อีก 1 ชม.ด้วยครับ ตัวเครื่องรองรับทั้งระบบชาร์จผ่านสาย USB-C และชาร์จแบบไร้สายผ่านแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi ด้วย สะดวกสุด ๆ

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ราคา 10,990 บาท

Sony WF-1000XM5 เปิดราคามาที่ 10,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีเงิน (สีที่รีวิว) มีโปรโมชั่นรับของแถมเป็นเคสหนัง For The Music 1 ชิ้น (มูลค่า 790 บาท)และรับเพิ่มลำโพงไร้สาย XB13 (มูลค่า 2,390 บาท) เมื่อลงทะเบียน My Sony ภายในเดือนตุลาคมนี้ครับผม

สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังไร้สายที่ตัดเสียงได้ดีที่สุดแห่งวงการ”

สรุปแล้ว Sony WF-1000XM5 รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุดรุ่นใหม่ก็ว่าได้ กลับมายึดบัลลังก์ด้านนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการอัปเกรดทั้งชิปคู่ประมวลผลเชื่อม, ไดรเวอร์ตัวใหม่ ตัดเสียงได้ดีขึ้นอีก 20% จากรุ่นก่อน (ซึ่งเคยทำไว้ดีมาก ๆ แล้ว) แถมยังปรับดีไซน์ให้มีขนาดเล็กลงได้ 25% และเบาลงได้อีก 20% ทำให้พกพาได้สะดวกขึ้นแถมสวมใส่ได้สบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด เรื่องคุณภาพเสียงก็ไม่ต้องห่วง Sony ซะอย่าง เสียงดีระดับเทพ เบสนุ่มลึก ก็ถือว่าเป็นหูฟังรุ่นท็อปสุดที่ใครอยากได้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ จัดมาให้ครบทั้งตัดเสียงรบกวนเทพ, เสียงเทพ, ฟีเจอร์เทพ ๆ ถ้าใครกำลังอยากได้หูฟังรุ่นท็อปสุดแบบตัวจบเราว่า WF-1000XM5 รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ!

กำลังฮอต

Featured2 วัน ago

รีวิว iQOO Z9 5G และ Z9x 5G ขุมพลังไร้ขีดจำกัด ด้วยแบต 6000mAh l ชิปเซ็ต Snapdragon l ขยาย RAM 12GB + 12GB

รีวิว iQOO Z9 5G และ...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured3 สัปดาห์ ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News4 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured2 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Apple News25 นาที ago

ยังงอได้อยู่!? iPad Pro ชิป M4 ถูกทดสอบงอตัวเครื่อง พบยังงอจากแรงดัดได้ แต่แข็งแรงขึ้นมากแล้ว(มีคลิป)

iPad Pro ชิป M4 เปิด...

Apple News2 ชั่วโมง ago

ใครเป็นบ้าง !? iOS 17.5 เกิดบัคแสดงรูปภาพเก่าที่ถูกลบไปแล้ว

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ...

Android News3 ชั่วโมง ago

อุ้ย! จอมหลุดปล่อยภาพเรนเดอร์ OPPO Reno12 Series ครบทุกสี ยืนยันฝาหลังสวยงามแตกต่างกันไป | หน้าจอขอบโค้ง 4 ด้าน

OPPO Reno12 Series เ...

Android News3 ชั่วโมง ago

รุ่นกลางแต่งามมาก ! เผยทีเซอร์ vivo Y200 Pro 5G พร้อมจอโค้ง เตรียมเปิดตัวทางการในอินเดียเร็วๆ นี้

vivo เตรียมเปิดตัวสม...

Android News4 ชั่วโมง ago

ทำได้ไหม !? Samsung ตั้งเป้าให้ Exynos 2500 ขนาด 3nm ประหยัดพลังงานเท่าชิปเรือธง Snapdragon

ชิป Exynos จาก Samsu...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก