Vivo V20 SE สมาร์ทโฟนดีไซน์งาม กล้องหลัง AI Triple Camera คมชัดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าโฟกัสไว พร้อมถ่าย Super Night Selfie ได้สบายๆ

 

สรุปสเปค Vivo V20 SE

• ขนาดตัวเครื่อง : 161.0 ×74.08 × 7.83 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 171 กรัม
• หน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ชนิด AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9, 2,000,000:1 Contrast Ratio และความอิ่มตัวของสี 103% NTSC
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 665 Octa Core
• RAM 8 GB
• ROM 128 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 1TB
• ระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera แบ่งเป็น
  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่าย Macro ระยะโฟกัส 2.5 ซม.
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
•  รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4100mAh รองรับ 33W Vivo FlashCharge 2.0

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

Vivo V20 SE มาในตัวกล่องตามสไตล์ของ Vivo V20 Series ที่เล่นลวดลายตัว “V” แบบเงางามตามแสงสะท้อนเพิ่มความสวยงาม

 

ขณะที่ด้านหลังมีสเปกหลักๆ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องหน้า Super Night Selfie, 33W FlashCharge และ 48MP Rear Camera

 

อุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

• ตัวเครื่อง Vivo V20 SE พร้อมฟิล์มกันรอย
• อะแดปเตอร์ 33W Vivo FlashCharge 2.0
• สาย USB Type-C
• หูฟัง
• เคสโทรศัพท์
• อุปกรณ์เปิดถาดซิม
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและใบรับประกันสินค้า

 

Vivo V20 SE มาในดีไซน์ที่มีความงดงามเหมือนกับรุ่นอื่นในตระกูลครับ โดยสีที่เราได้มาเป็นสี Oxygen Blue ที่ออกสีฟ้าอ่อนๆ มีความนุ่มนวล สวยงาม และดูละมุนสุดๆ ขณะที่อีกสีจะเป็นสีดำ Gravity Black

 

ตัวเครื่องจับถือได้ถนัดมือมากๆ ด้วยความโค้งมนแบบ 3D ช่วยให้จับได้ถนัดมือ พร้อมกับ Sleek Design ที่มีความบางเพียง 7.83 มม. บวกกับความเบาเพียง 171 กรัมเท่านั้นครับ เวลาใช้งานหรือใส่กระเป๋ากางเกงก็ไม่รู้สึกถึงความหนักเกินไป

 

จัดเต็มด้านหน้าจอแสดงผลเหมือนกันสำหรับรุ่นนี้ที่มาแบบ Halo FullView Display พาเนล AMOLED ที่ให้ความสว่างและความสดใสของหน้าจอขั้นสูง ใครที่ชอบชมภาพยนตร์ต่างๆ ต้องชอบแน่นอน โดยหยดน้ำตรงกลางก็ไม่รู้สึกว่าเกะกะสายตาอะไรครับ

 

Vivo V20 SE มีความกว้างหน้าจอที่ 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมอัตราส่วน 20:9 ที่ใช้งานได้แบบเต็มตา

 

ด้านบนหน้าจอมาในรูปแบบหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลงไป โดยที่ด้านบนจะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่

 

ทางขวามีทั้งปุ่มเพิ่มและลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ส่วนทางขวาไม่มีอะไรครับ

 

ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้เหมือนเดิม, ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

 

ด้านบนตัวเครื่องมีทั้งช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM 2 ช่อง และมีไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวน

 

และที่ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์จัดเรียงอย่างโดดเด่นเป็นแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลช LED ที่อยู่ในกรอบด้วยเหมือนกัน

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

Vivo V20 SE แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11 รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเต็มที่ ไหลลื่น และมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมาให้เยอะเลยทีเดียวครับ

 

โหมดมืดใช้ได้ตลอดเวลา

แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นหน้าจอ AMOLED ทำให้ใช้งานโหมดมืดได้อย่างสบายตาสุดๆ ครับ สีดำเป็นดำจริงๆ แถมยังประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเราสามารถเปิดได้ง่ายผ่านทางแผงตั้งค่าด่วน

 

ระบบความปลอดภัย

เรื่องระบบคาวมปลอดภัยก็ให้มาแบบครบๆ ทั้งการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่ใช้งานได้เสถียรและตอบสนองได้เร็วครับ ซึ่งต้องทำการใส่รหัสผ่านแบบปกติก่อนเพื่อตั้งค่า

 

รวมไปถึงการสแกนใบหน้าที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน

 

ความความทรงจำให้กลับมาชัดด้วย Memory Recaller

เชื่อว่าทุกคนมีความทรงจำที่ถ่ายเก็บไว้ในสมัยก่อนที่เป็นภาพที่อาจจะยังไม่ค่อยคมชัดเท่าไหร่ แต่รุ่นนี้ก็สามารถทำให้ภาพเหล่านั้นชัดเจนขึ้นด้วย Memory Recaller เพียงแค่เราถ่ายรูปจากรูปต่างๆ แล้วทำการแก้ไขให้เป็นภาพ HD ระบบก็จะปรับแต่งสีสันและความสว่างให้ดูปัจจุบันมากที่สุด

ภาพต้นฉบับ / ใช้ Memory Recaller

 

บอกสถานะเครื่องได้ครบด้วย Always-on-Display

ปกติแล้วเวลาเราจะดูมีการแต้งเตือนอะไรบ้าง เราต้องปลดล็อกเครื่องเพื่อเข้าไปดู แต่ Always-on-Display ทำให้เราดูได้ทันทีในจอล็อกครับ ซึ่งบอกทั้งเวลา, วันที่, แบตเตอรี่คงเหลือ รวมถึงไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่มีการแจ้งเตือนทันที

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

Vivo V20 SE ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 Octa Core ที่มาในสถาปัตยกรรมขนาด 11 นาโนเมตรที่มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งยังมี RAM 8 GB พร้อมความจุถึง 128 GB ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น หรือจะโหลดแอปและถ่ายรูปเก็บภาพไว้เยอะๆ ก็ทำได้ไม่ต้องกลัวเต็ม

 

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 315 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,399

 

ฟีเจอร์ช่วยในการเล่นเกมและความเร็วอื่นๆ

Vivo V20 SE รองรับกับฟีเจอร์ Multi-Turbo เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ทำให้ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าปกติ เล่นเกมได้ไหลลื่นกว่าเดิม

 

พร้อมด้วย Ultra Game Mode ที่ปิดกั้นการแจ้งเตือนและข้อความขณะเล่นเกมไม่ให้มารบกวนได้ ทั้งยังมี E-Sport mode เพื่อรีดประสิทธิภาพทั้งหมดให้ใช้งานได้สบาย ซึ่งรองรับกับเกมดังๆ เช่น PUBG Mobile เป็นต้น

 

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

สำหรับ ROV สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับสูง, กราฟิกระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูงครับ ซึ่งจากการที่ใช้ชิป Snapdragon 665 เฟรมเรทก็วิ่งแบบนิ่งๆ ไม่มีเหวี่ยงทั้งช่วงเริ่มเกมไปจนถึงช่วงที่ใส่สกิลกันหนักๆ

 

PUBG Mobile

เกมแนว Battle Royale อย่าง PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้ไหลลื่น โดยตอนนี้สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับสมดุลและเฟรมเรทกลาง (มีการอัปเดทให้ปรับกราฟิกสูงขึ้นได้ในอนาคต) ภายในเกมก็เล่นได้สบายๆ ภาพไหลลื่น และการตอบสนองของหน้าจอก็ทำได้เป็นอย่างดี

 

แบตเตอรี่อึด พร้อมชาร์จไว 33W Vivo FlashCharge 2.0

ความจุแบตเตอรี่ของ Vivo V20 SE ให้มาถึง 4100mAh ใครที่ใช้งานทั่วไปอย่างเล่นโซเชียลก็อยู่รอดตลอดวันครับ แต่ถ้าใครที่แบตเตอรี่ใกล้หมดจริงๆ ก็รองรับ 33W Vivo FlashCharge 2.0 ที่ชาร์จได้เร็วมากๆ 30 นาที ชาร์จได้เร็วสุดถึง 50% และเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ

 

กล้องถ่ายรูป

Vivo V20 SE จัดได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับ Mid-Tier ที่มีการถ่ายภาพได้สวยงามมากๆ พร้อมถ่ายทุกสถานการณ์แบบ “48MP Multi-Scenario Photography” มีความคมชัดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ถ่ายได้ครบทุกระยะทั้ง Super-Wide Angle หรือ Macro และการถ่าย Portrait ก็เป็นตัวชูโรงด้วยเหมือนกัน

 

คมชัดขั้นสุด 48 ล้านพิกเซล

เลนส์หลักของ Vivo V20 SE ให้มาถึงความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ช่วยให้ได้ภาพทมี่มีความละเอียดสูง เห็นรายละเอียดต่างๆ ในภาพได้ชัดเจนแม้ในส่วนที่เล็กๆ ก็ตาม

 

มี AI ที่สุดฉลาด

ไม่ใช่แค่ความละเอียดสูงเท่านั้นครับ แต่ Vivo V20 SE ยังมาพร้อมกับ AI ที่มีความฉลาดอย่างมากในการรับรู้ถึงสถาการณ์ของแสง ณ ปัจจุบัน ทำให้ภาพออกมามีสีสันสวยงาม คมชัด และยิ่งถ่ายท้องฟ้าหรือย้อนแสงมากๆ ก็หมดกังวลเลยครับ เพราะเราจะเห็นฉากหลังได้แบบชัดเจนแน่นอน เพราะได้ HDR เข้ามาช่วยแบบเต็มๆ

 

AI Image matting ปรับแต่งภาพได้อย่างอิสระ

หนึ่งในลูกเล่นที่หาจากสมาร์ทโฟนรุ่นไหนไม่ได้ คือฟีเจอร์นี้ครับ โดยรุ่นนี้สามารถนำภาพที่เราถ่ายมาแยกองค์ประกอบว่าส่วนไหนคืออะไร แล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขได้ทันที เช่น เปลี่ยนท้องฟ้าตอนกลางวันเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หรือนำบุคคลไปอยู่ฉากหลังอื่นๆ เป็นต้น

 

Super Wide-Angle ถ่ายกว้างสุดถึง 120 องศา

Vivo V20 SE จัดเลนส์ถ่ายมุมมกว้างมาให้ถึง 120 องศา ทำให้เราได้ภาพครบทุกมุม ไม่มีขาดแน่นอน และไม่จำเป็นต้องถอยออกไปไกลๆ เพื่อให้เห็นครบทุกส่วนของภาพ

เลนส์หลัก / เลนส์ Super Wide-Angle

 

Super Macro ถ่ายได้ใกล้เพียง 2.5 ซม.

ความพิเศษของเลนส์ Super-Wide Angle ไม่ใช่แค่การถ่ายมุมกว้างๆ เท่านั้น แต่ยังใช้ถ่าย Super Macro ที่ถ่ายภาพในระยะได้ใกล้ๆ เช่นกัน ซึ่งจุดนี้ทำให้ได้เปรียบเรื่องความละเอียด สีสัน และความคมชัดมากกว่าที่เป็นเลนส์ Macro แยกออกมาต่างหาก

 

Portrait ถ่ายสวย ใบหน้าเนียน ละลายหลังได้สบาย

ฟีเจอร์ชูโรงของกล้องจาก Vivo ก็คือการถ่าย Portrait ครับ โดยรุ่นนี้ทำออกมาได้ตามสไตล์ของ Vivo ที่ให้ใบหน้าเนียนสวย ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ได้แต่งจนจัดจ้านเกินไป ทั้งยังมีการเบลอฉากหลังแบบมีมิติจากการไล่เลเยอร์ความเบลอได้แบบเนียนตา ซึ่งการถ่าย Portrait นี้ทำได้ดีทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าครับ

กล้องหลัง

 

กล้องหน้า

 

นอกจากนี้ ในการถ่ายภาพบุคคลก็ยังมีเอฟเฟ็กต์แสงภาพบุคคล หรือ Portrait Light Effect ที่เป็นลูกเล่นเข้ามาเพิ่มเติมเช่นกัน ได้แก่ ไฟสูตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และพื้นหลังขาวดำ

 

Super Night Mode ถ่ายกลางคืนก็แจ่ม คมชัด พร้อม HDR

การถ่ายภาพกลางคืนของ Vivo V20 SE ทำออกมาได้ดีมากๆ แทบไม่ต่างจากเรือธงเลยทีเดียว ภาพที่ได้มีความคมชัด แสงและสีมีความสวยงาม และการเกิด Noise ก็น้อยลงมากๆ แทบไม่มีให้เห็น ซึ่งตรงนี้ได้เลนส์หลักที่มีรูรับแสงกว้างที่ f/1.8 ทำให้รับได้ได้มากขึ้น และยังมี HDR ที่เห็นท้องฟ้าตอนกลางคืนได้แบบชัดเจน อย่างไรก็ตาม โหมดนี้ยังรองรับแค่เลนส์หลักเท่านั้นครับ

โหมดปกติ / Super Night Mode

 

กล้องหน้า Face Beauty สวยเนียนเป็นธรรมชาติ

นอกจากที่กล้องหน้าจะถ่าย Portrait ได้แล้วตามที่เห็นไปข้างต้น ในการถ่ายด้วยโหมดปกติก็ทำออกได้ดีเช่นกันครับ เห็นทั้งใบหน้าได้ครบ สวยงามแบบเนียนๆ แถมฉากหลังก็เก็บได้สวยงามแม้ย้อนแสง

 

เซลฟี่ที่มืดไม่ต้องกลัวด้วย Super Night Selfie + Selfie Softlight Band

สายเซลฟี่เมื่อเจอที่มืดก็ไม่ต้องเป็นกังวลเลยครับ เพราะมีให้ทั้งโหมดเซลฟี่กลางคืน พร้อมด้วยการเติมแสงแบบนุ่มๆ หรือ Selfie Softlight Band ที่ทำให้ได้ใบหน้าสว่างขึ้นแถมยังเห็นว่าแสงที่ได้ออกมาจากหน้าจอยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่อีกด้วย

โหมดปกติ / Super Night Selfie

 

วิดีโอก็ถ่ายได้แบบแจ่มๆ

จบกสารถ่ายภาพนิ่งไป การถ่ายวิดีโอก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดีครับ ตั้งแต่ Ultra stable Video ที่ได้เทคโนโลยีลดการสั่นไหวของภาพแบบ EIS ช่วยให้ช่วงของการเดินหรือวิ่งทำได้นิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

และยังมี Face Beauty Video ที่สามารถปรับแต่งใบหน้าได้อย่างสวยงามแบบอัตโนมัติ แม้ว่าจะเป็นการถ่ายวิดีโอก็ตามครับ ซึ่งตรงนี้จะใช้ได้แค่เฉพาะกล้องหน้าเท่านั้น

 

สรุปจุดเด่น

• กล้องหลัง 3 เลนส์ 48MP Multi-Scenario Photography ถ่ายคมชัดทุกสถานการณ์
• กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ได้คมชักทุกช็อต ทุกฟีเจอร์
• ดีไซน์สวยงาม เบาบาง พร้อมสวยงามทั้ง 2 สีสัน
• CPU Snapdragon 665 พร้อม RAM 8GB ใช้งานได้ไหลลื่น และ ROM 128GB เก็บได้จุใจ
• แบตเตอรี่อึด 4100mAh ชาร์จเร็วด้วย 33W vivo FlashCharge 2.0

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ตัวเครื่องไม่กันน้ำ