Android News
เปรียบเทียบสเปค Galaxy Note8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ศึกเดือดกล้องคู่ และหน้าจอใหญ่ไร้ขอบ
เมื่อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ 2 ค่ายใหญ่เปิดตัวในทุกปี ต่างก็นำเทคโนโลยีใหม่ๆ และนำเสนอฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นต่างๆ มากมาย มาดูกันว่า Galaxy Note8, iPhone 8 Plus และ iPhone X มีสเปคที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลสเปค Galaxy Note8, iPhone X และ iPhone 8 Plus
Galaxy Note8 | iPhone X | iPhone 8 Plus | |
ราคา | เริ่มต้น ฿33,900 | เริ่มต้น 40,500 | เริ่มต้น 32,500 |
เครือข่าย | GSM / HSPA / LTE-A | GSM / CDMA / HSPA / EVDO / LTE-A | GSM / CDMA / HSPA / EVDO / LTE-A |
ขนาดตัวเครื่อง | 162.5 x 74.8 x 8.6 มม. | 143.6 x 70.9 x 7.7 มม. | 158.4 x 78.1 x 7.5 มม. |
น้ำหนัก | 195 ก. | 148 ก. | 202 ก. |
วัสดุ | กระจกขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบโลหะมันเงา | กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบสแตนเลสสตีลมันเงา | กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบอะลูมิเนียม |
มาตรฐาน | - กันน้ำกันฝุ่น IP68 - S Pen - Samsung Pay | - กันน้ำกันฝุ่น IP67 - Apple Pay | - กันน้ำกันฝุ่น IP67 - Apple Pay |
หน้าจอ | - 6.3 นิ้ว Super AMOLED - ขอบจอโค้ง 2 ข้าง - 1440 x 2960 พิกเซล - HDR10 - 3D Touch (ปุ่มโฮม) - Always-on display | - 5.8 นิ้ว Super Retina - 1125 x 2436 พิกเซล - HDR10 - True-tone display - 3D Touch - Display Zoom | - 5.5 นิ้ว Retina HD - 1080 x 1920 พิกเซล - HDR10 - True-tone display - 3D Touch - Display Zoom |
ระบบปฏิบัติการ | Android 7.1.1 (Nougat) | iOS 11 | iOS 11 |
ชิปเซ็ต | Exynos 8895 Octa Quad-core 2.3 GHz + Quad-core 1.7 GHz | A11 Bionic 64-bit Neural engine โปรเซสเซอร์ร่วม M11 สำหรับ ประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว | A11 Bionic 64-bit Neural engine โปรเซสเซอร์ร่วม M11 สำหรับ ประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว |
หน่วยความจำ | ความจุ 64/128/256 GB แรม 6GB MicroSD card สูงสุด 256GB | 64GB/256 GB แรม ไม่ระบุ | 64GB/256 GB แรม 3GB |
กล้องหลัง | เลนส์คู่แนวนอน 12 MP (26mm, f/1.7 และ 52mm, f/2.4), OIS, 2x Optical Zoom, Dual-LED (dual tone) flash Live Focus Dual Capture | เลนส์คู่แนวตั้ง 12 MP (28mm, f/1.8 และ 56mm, f/2.4), OIS, 2x Optical Zoom, Quad-LED flash Portrait mode Portrait Lighting (beta) | เลนส์คู่แนวนอน 12 MP (28mm, f/1.8 และ 56mm, f/2.8), OIS, 2x Optical Zoom, Quad-LED flash Portrait mode Portrait Lighting (beta) |
บันทึกวิดีโอ | - ระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps - HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps - วิดีโอสโลว์โมชั่น ความละเอียด 720p ที่ 240 fps | - ระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps - HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps - วิดีโอสโลว์โมชั่น ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps | - ระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps - HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps - วิดีโอสโลว์โมชั่น ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps |
กล้องหน้า | 8 MP, f/1.7 Autofocus ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.6" ขนาดพิกเซล 1.22 ไมครอน บันทึกวิดีโอ 1440p@30fps Dual Video call Auto HDR | 7 MP, f/2.2 Retina Flash Portrait mode Portrait Lighting (beta) Animoji | 7 MP, f/2.2 Retina Flash |
ฟีเจอร์เสียง | ลำโพงเดี่ยว - 32-bit/384kHz audio - AKG - ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน | Stereo Speakers - ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน | Stereo Speakers - ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน |
WLAN | Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อม MIMO | Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อม MIMO | Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อม MIMO |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 | Bluetooth 5.0 | Bluetooth 5.0 |
GPS | GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS | GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS | GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS |
NFC | พร้อมโหมดตัวอ่าน | พร้อมโหมดตัวอ่าน | พร้อมโหมดตัวอ่าน |
Infrared port | |||
USB | 3.0, Type-C 1.0 reversible connector | 3.0, reversible connector | 3.0, reversible connector |
เซ็นเซอร์ไบโอเมตริก | Iris Scanner สแกนม่านตา และ Fingerprint เซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง | Face ID เปิดใช้งานด้วยกล้อง TrueDepth เพื่อการรู้จำใบหน้า | Touch ID เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือรุ่นที่ 2 ติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮม |
ฟีเจอร์อื่นๆ | - Bixby (ไม่รองรับภาษาไทย) - Samsung Cloud - Samsung DeX - รองรับ ANT+ | - Siri (รับภาษาไทย) - iCloud | - Siri (รองรับภาษาไทย) - iCloud |
แบตเตอรี่ | Li-Ion 3300 mAh การชาร์จแบบไร้สาย (Qi/PMA) ชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 | ไม่ระบุความจุ การชาร์จแบบไร้สาย (ใช้ร่วมกับแท่นชาร์จ Qi) ชาร์จเร็ว | Li-Ion 2691 mAh การชาร์จแบบไร้สาย (ใช้ร่วมกับแท่นชาร์จ Qi) ชาร์จเร็ว |
เริ่มกันที่ขนาดตัวเครื่องของ Galaxy Note8 ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า iPhone X และ iPhone 8 Plus ที่มีดีไซน์กระจกขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบโลหะมันเงา แต่มีน้ำหนักเบากว่า iPhone 8 Plus เล็กน้อย ซึ่ง iPhone รุ่นใหม่ก็เลือกใช้วัสดุฝาหลังเป็นกระจกแล้ว โดยเป็นกรอบอะลูมิเนียมในรุ่น iPhone 8 Plus และกรอบสแตนเลสสตีลในรุ่น iPhone X
หน้าจอแสดงผลเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ โดย Galaxy Note8 มีขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดในระดับ 2K ซึ่งมีความคมชัดมากกว่าหน้าจอของ iPhone X ที่มีขนาด 5.8 นิ้ว ที่เป็นหน้าจอ Super AMOLED เช่นเดียวกัน แต่ Apple ใช้ชื่อเรียกว่า Super Retina ในขณะที่หน้าจอของ iPhone 8 Plus ความละเอียด Full HD 1080p และยังคงมีดีไซน์เหมือนเดิมกับ iPhone 7 Plus
ในส่วนของประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอด้านสีสีนและความบันเทิง Galaxy Note8 รองรับการแสดงผลในรูปแบบ HDR10 ช่วยให้วิดีโอมีความคมชัดสูง เพิ่มความแม่นยำในการเก็บรายละเอียดของวัตถุ เงา และให้มิติของแสงเงาที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สนับสนุนค่าความกว้างของสีแบบ Wide Color Gamut ที่ช่วยให้สีดูสดใสมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ Apple ก็เคลมว่าหน้าจอ True Tone ของ iPhone รุ่นใหม่ก็สามารถปรับไวท์บาลานซ์ของหน้าจอให้ตรงกับแสงรอบๆ ข้าง และให้สีสันระดับมาตรฐานเทียบเท่ากับภาพยนตร์ดิจิตอล ซึ่งเป็นหน้าจอแบบเดียวกับ iPad Pro นั่นเอง
สิ่งที่ iPhone 8 Plus และ iPhone X แตกต่างจาก Galaxy Note8 ชัดเจน คือ ปากกา S Pen ที่มีฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย และใช้งานง่าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดของซีรีส์ Galaxy Note แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Apple จะเริ่มนำ Apple Pencil มาใช้งานกับ iPhone เมื่อใด เพราะดูจากรุ่นล่าสุดอย่าง iPhone X ก็เริ่มมีหน้าจอใหญ่มากขึ้นหรือใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี iPhone มา เพียงแต่ขนาดตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่ตามเท่านั้นเอง
ในเรื่องของการกันน้ำ Galaxy Note8 ก็ได้มาตรฐานที่เหนือว่าคือมาตรฐาน IP68 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตรนานสูงสุด 30 นาที เขียนบนหน้าจอได้แม้หน้าจอเปียกด้วยปากกา S Pen ในขณะที่ iPhone X และ iPhone 8 Plus ได้มาตรฐาน IP67 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตรนานสูงสุด 30 นาที
ด้านการประมวลผล Galaxy Note8 ใช้ชิปเซ็ต Exynos 8895 Octa (Quad-core 2.3 GHz + Quad-core 1.7 GHz) รุ่นที่วางขายในไทย ในขณะที่ iPhone รุ่นใหม่ใช้ชิปเซ็ต A11 Bionic 64-bit ที่มีชิป Neural engine เพื่อประมวลผล Face ID โดยเฉพาะ และโปรเซสเซอร์ร่วม M11 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว
หน่วยความจำแรมเป็นเรื่องที่ Apple ไม่เคยพูดถึงว่ามีขนาดเท่าไหร่ ในขณะที่ Galaxy Note8 มีแรมขนาด 6GB ส่วนหน่วยความจำภายในตัวเครื่องหรือความจุนั้นมีขนาดสูงสุดให้เลือก 256GB แต่ Galaxy Note8 สามารถเลือกรุ่น 64GB แล้วใส่เมมเพิ่มได้หากต้องการ โดย iPhone จะไม่มีช่องใส่เมม
รอบนี้ Apple เปิดศึกกล้องคู่ท้าชนทั้งกล้องคู่แนวตั้งในรุ่น iPhone X และกล้องคู่แนวนอนในรุ่น iPhne 8 Plus โดยเลนส์หลักจะเป็นเลนส์มุมกว้างสำหรับถ่ายภาพปกติทั่วไป และอีกเลนส์จะเป็นเทเลโฟโต้สำหรับการซูม ซึ่งสามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2 เท่า และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 10 เท่า ในขณะที่ Galaxy Note8 มีเลนส์กล้องคู่แนวนอน และเป็นเลนส์เลนส์มุมกว้างสำหรับถ่ายภาพปกติทั่วไป และอีกเลนส์จะเป็นเทเลโฟโต้สำหรับการซูม ซึ่งสามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2 เท่า และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 10 เท่าเช่นกัน
โหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอในรุ่น Galaxy Note8 มีชื่อว่า Live Focus ที่เป็นการดึงความสามารถของเลนส์กล้องคู่เข้ามาเบลอฉากหลัง สามารถปรับความเบลอฉากหลังได้ทั้งขณะถ่ายภาพและหลังจากถ่ายแล้วก็สามารถปรับความเบลอได้เช่นกัน ส่วน iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นมีโหมดที่เรียกว่า Portrait Lighting (Beta) ทำเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกชัดตื่นได้ดีมากขึ้น รองรับการถ่ายภาพ Contour Light, Natural Light, Stage Light, Stage Light Mono และ Studio Light ที่จะให้แสงเงาและมิติของภาพออกมาเป็นธรรมชาติจากรูปแบบลูกเล่นของแสงเงา
ด้านระบบเสียง Galaxy Note8 เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง 32-bit/384kHz หากเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันส่วนใหญ่จะรองรับ 32-bit/192kHz จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนชอบฟังเพลงและหูเทพน่าจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอน แต่ลำโพงตัวเครื่องยังไม่เป็นสเตอริโอ ในขณะที่ iPhone X และ iPhone 8 Plus มีเสียงจากลำโพงตัวเครื่องเป็นแบบสเตอริโอ
เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย Galaxy Note8 มีทั้ง Iris Scanner สแกนม่านตา และ Fingerprint เซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง ส่วน iPhone X จะมี Face ID เปิดใช้งานด้วยกล้อง TrueDepth เพื่อการรู้จำใบหน้า และ iPhone 8 Plus ยังคงใช้ Touch ID เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือรุ่นที่ 2 ติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮม
แบตเตอรี่ของ Galaxy Note8 เป็นชนิด Li-Ion ขนาดความจุ 3300 mAh รองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Qi/PMA) และชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 ในขณะที่ iPhone X ยังไม่มีข้อมูลขนาดแบตเตอรี่และ iPhone 8 Plus มีแบตเตอรี่ 2691 mAh รองรับการชาร์จไร้สายแล้ว
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลเปรียบเทียบสเปค Galaxy Note8, iPhone X และ iPhone 8 Plus น่าจะเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้เห็นความแตกต่างกันชัดเจนมากขึ้น อย่าลืมแชร์บอกเพื่อนด้วยนะจะได้ตัดสินใจกันได้ง่ายมากขึ้นว่าชอบแบบใดมากกว่ากัน