พรีวิวแรกสัมผัส Xiaomi 14 Ultra เรือธงกล้อง Leica ที่เทพที่สุด มาไทยเสียทีนะ!

Xiaomi 14 Series เตรียมเปิดตัวทางการในประเทศไทยวันที่ 13 มีนาคมนี้แล้ว รอบนี้มาด้วยกัน 2 รุ่นคือ Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Ultra ในบมความนี้เราขอมาพรีวิวที่ Xiaomi 14 Ultra ให้ชมกันสักหน่อยหลังจากลองสัมผัสมาคร่าว ๆ เป็นอีกเรือธงที่เราว่าสายถ่ายภาพไม่ควรพลาดเลยล่ะ พร้อมแล้วติดตามครับ!

ดีไซน์ Xiaomi 14 Ultra

Xiaomi 14 Ultra จะมาพร้อมดีไซน์ทรงเอกลักษณ์ของรุ่น Ultra จาก Xiaomi คือมีกล้องหลังวงกลมโดดเด่น ฝาหลังเป็นหนังวีแกนที่เพิ่มความพรีเมี่ยมและหรูหราได้อารมณ์เหมือนกล้องโปรจาก Leica ได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

ที่โมดูลกล้องหลังของ Xiaomi 14 Ultra จะมาในทรงวงกลมใหญ่เบิ้มอย่างที่บอกไป ตัวกล้องภายในจะมีด้วยกัน 4 ตัว พร้อมคำว่า Leica และเลขสเปคเบื้องต้นของกล้องที่ให้มาระบุไว้ด้วย

ที่ตัวกรอบเลนส์จะยกสูงขึ้นจากฝาหลังอยู่พอสมควร รอบ ๆ จะเป็นกรอบสีทองที่มีลวดลายซ่อนอยู่ ให้ความรู้สึกหรูหราขึ้น คล้ายวงแหวนของเลนส์ราคาแพง ๆ อยู่เหมือนกันเนาะ

พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้า Xiaomi 14 Ultra ต้องบอกเลยว่าทำถึง! เพราะใช้หน้าจอแบบแบนแต่ก็เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยการใช้กระจกโค้ง 3D แบบ 4 ด้านเข้ามาคลุมหน้าจอ เพิ่มความลื่นไหลในการสัมผัสได้เป็นอย่างดีเลย

ส่วนตัวหน้าจอก็จะเป็นจอ AMOLED ขนาด 6.73″ ใหญ่เต็มตา ความละเอียดระดับ QHD+ สวยคมชัดมาก มีความสว่างสูงสุด 3000nits และยังได้ Refresh rate แบบ LTPO ที่ปรับขึ้น-ลงได้ตั้งแต่ 1-120Hz อีกด้วย

กรอบตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียมผิวด้านที่มีขอบเหลี่ยมทำให้จับได้พอดีและเต็มมือ ตัวปุ่มกดจะอยู่ด้านขวามือทั้งหมด แบ่งเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงปุ่มเรียบยาว ๆ ส่วนปุ่ม Power มีลวดลายเพชรเล็ก ๆ เพิ่มลูกเล่นให้อีกหน่อยครับ

ด้านบนตัวเครื่องจะมีลำโพงและไมโครโฟน ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C ลำโพงหลักของตัวเครื่องและช่องใส่ซิมการ์ดครับ

สำหรับสีสันของ Xiaomi 14 Ultra ที่มีวางจำหน่ายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 2 สีคือ สีดำและสีขาว เป็นโทนคลาสสิคแต่ก็ลงตัวทั้งคู่ครับ วัสดุฝาหลังก็เป็นหนังวีแกนเหมือนกันเลย ต่างกันที่โทนคมเข้มหรือสว่างแค่นั้นเอง

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ Xiaomi 14 Ultra ก็ถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมสมกับที่ชูเรื่องกล้องเป็นจุดเด่นจริง ๆ เพราะทั้งการออกแบบที่พรีเมี่ยมของฝาหลังหนังวีแกน กล้องที่อลังการ การจับถือในแนวนอนที่ได้ฟิลลิ่งเหมือนกล้องโปรสักตัว แต่ได้หน้าจอที่เต็มตากว่า เซ็กซี่กว่า เรียกว่าพรีเมี่ยมและลงตัวเอามาก ๆ ครับ!

กล้อง Xiaomi 14 Ultra

แน่นอนว่าขั้นชื่อว่า Ultra ก็ต้องมาพร้อมกล้องที่ทรงพลังที่สุด รอบนี้ได้กล้องหลังมา 4 ตัวสเปคสุดจัดทั้งหมด แถมได้การพัฒนาตัวชิ้นเลนส์จาก Leica เป็นเลนส์ Leica SUMMILUX ซะด้วย มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

• 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ LYT-900 ขนาด 1″) f/1.63 – f/4.0, OIS
• 50MP กล้อง Ultra Wide (เซ็นเซอร์ IMX858) f/1.8
• 50MP กล้อง Tele 3.2x (เซ็นเซอร์ IMX858) f/1.8, OIS
• 50MP กล้อง Periscope 5x (เซ็นเซอร์ IMX858) f/2.5, OIS

อย่างที่เห็นกล้องของ Xiaomi 14 Ultra นั้นให้มาที่ 50MP หมดทุกตัว มีกล้องหลักที่โดดเด่นอย่าง Sony LYT-900 ขนาด 1″ แถมยังสามารถปรับรูรับแสงได้อัตโนมัติตั้งแต่ f/1.63 – f/4.0 กว่า 14 stop ทำให้ถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์กว่าที่เคย ส่วนกล้องเสริมอีก 3 ตัวก็ให้มาแบบจัดเต็มใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ IMX858 ทั้งหมดและที่สำคัญสังเกตจากตัวเลข f/stop ยังกว้างมากอีกด้วยนี่แหละ Leica SUMMILUX ของแท้!

ส่วนเรื่องซูม Xiaomi 14 Ultra ก็ทำได้ถึงใจด้วยการให้กล้องซูมมา 2 ตัวคือ 3.2x (75มม.) และ 5x (120มม.) อย่างที่เห็นว่าเซ็นเซอร์เป็นระดับสูง ทำให้การถ่ายภาพระยะไกลหวังผลได้แน่นอน ซึ่ง Xiaomi ก็เคลมเลยว่าด้วยกล้องชุดใหม่นี้ทำให้รุ่นนี้มีช่วงที่ได้แบบจัดเต็มถึง 6 ระยะตั้งแต่ 0.6x>1x>2x>3.2x>5x>10x

แต่ทีเด็ดอีกอย่างของ Xiaomi 14 Ultra ก็คือชุด Photography Kit หรืออุปกรณ์เสริมที่จะมาเปลี่ยนตัวเครื่องให้เป็นกล้องจริง ๆ ไปซะเลย ภายในชุดนี้จะประกอบไปด้วยเคสทรงกล้องที่เข้ากับดีไซน์ตัวเครื่องมาก, Grip ที่มีแบตเตอรี่ 1500mAh ในตัวพร้อมปุ่มกด, อะแดปเตอร์สำหรับฟิลเตอร์ขนาด 67 มม.และวงแหวนสำหรับตกแต่งหน้าเลนส์

เรียกว่าพอรวมร่างกันแล้วจะเปลี่ยนร่าง Xiaomi 14 Ultra ให้กลายเป็นกล้องโปรไปเลยครับ ตัว Grip ที่ให้มาต้องบอกว่าใช้งานได้จริงและมีประโยชน์มาก เพราะนอกจากจะทำให้เราจับเครื่องได้ถนัดพร้อมถ่ายภาพแล้ว ยังมีปุ่มกดจริง ๆ มาให้ใช้งานทั้ง ปุ่มชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะ, ปุ่มบันทึกวิดีโอ, ปุ่มเลื่อนซูม หรือตัวเลื่อนที่สามารถตั้งค่าได้ว่าจะทำงานอะไร

อย่างในที่นี้เราลองตั้งเป็นปรับค่ารูรับแสงดูก็ถือว่าให้อารมณ์เหมือนกล้องจริง ๆ มากขึ้น ด้วยความที่กล้องหลักของ Xiaomi 14 Ultra สามารถปรับรูรับแสงได้จริงถึง 14 ระดับอย่างที่บอกไปน่ะเนาะ ถ้าปกติไม่ได้ใช้ Grip เราก็ต้องไปแตะที่หน้าจอเพื่อเปลี่ยนเองแบบ Manual แต่พอมาแบบนี้สะดวกขึ้นเยอะ!

ถือว่าเป็นชุดอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจมาก สำหรับสายถ่ายภาพจากที่ลองมาคร่าว ๆ ก็ต้องบอกว่าน่าประทับใจจริง ๆ รวมร่างกันแล้วแบบจบจริง ทั้งความหล่อเท่ที่เห็นภายนอก และการใช้งานจริงในฟีเจอร์กล้องต่าง ๆ เนาะ

สเปค Xiaomi 14 Ultra

ปิดท้ายที่เรื่องสเปค Xiaomi 14 Ultra จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) เช่นเดียวกับเรือธงประจำปีนี้ ความจุรุ่นที่ขายในไทยจะมีให้เลือกสูงสุดที่ 16GB + 512GB ครับผม

ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้มาที่ 5000mAh ตรงนี้จะแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในประเทศจีนนิดหน่อย (เวอร์ชั้นที่ขายจีนได้มา 5300mAh) แต่ระบบชาร์จเร็วยังได้มาแบบสาย 90W และไร้สายถึง 80W เหมือนกัน ระบบปฏิบัติการจะใช้เป็น HyperOS ตัวล่าสุดจาก Xiaomi ด้วยครับ

สรุปสเปค Xiaomi 14 Ultra

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.73″
• ความละเอียดหน้าจอ : WQHD+ (3200 x 1440 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 3000nits
• Refresh rate : 1-120Hz (LTPO)
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 8 Gen 3 Octa-Core (4nm)
• RAM : 16GB (LPDDR5X)
• ความจุ : 512GB (UFS 4.0)
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จไว : 90W HyperCharge (แบบสาย) | 80W HyperCharge (ไร้สาย)
• กล้องหน้า : 32MP f/2.0
• กล้องหลัง : 3 ตัว LEICA VARIO-SUMMILUX
  • 50MP กล้องหลัก (LYT-900) f/1.63 – f/4.0, OIS
  • 50MP กล้อง Ultra Wide (IMX858) f/1.8
  • 50MP กล้อง Tele 3.2x (IMX858) f/1.8, OIS
  • 50MP กล้อง Periscope 5x (IMX858) f/2.5, OIS
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 (HyperOS)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแรกสัมผัสของ Xiaomi 14 Ultra เท่านั้นเนาะ เพราะเราได้ลองจับในเวลาสั้น ๆ แต่ก็ได้ความรู้สึกที่ชัดเจนในเรื่องดีไซน์ตัวเครื่อง และอุปกรณ์เสริมอย่าง Photography Kit ที่บอกสั้น ๆ เลยว่า “น่าใช้มากกก” เป็นการมาไทยของรุ่น Ultra ที่สมการรอคอยแน่นอน ส่วนเรื่องคุณภาพกล้องรวมถึงประสิทธิภาพด้านอื่น ๆ อันนี้คงต้องรอเครื่องมารีวิวอีกที ไว้เราจัดเต็มให้แน่นอน ส่วนบทความนี้คงต้องฝากไว้เท่านี้ก่อน แล้วพบกันในรีวิวฉบับเต็มอีกทีเนาะ!