สรุปสิ่งที่จะได้เห็นในงานคืนนี้ iPhone 8, iPhone X, Apple Watch 3 และ AirPods 2

ในค่ำคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย Apple ประกาศจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone ที่หลายคนรอคอยกันมานานนับปี มาดูกันว่าในปีนี้คาดว่าจะได้เห็นอะไรกันบ้าง

iPhone X

iPhone X หรือ iPhone Edition รุ่นพรีเมียมที่จะเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 10 ของการเปิดตัว iPhone ด้วยดีไซน์หน้าจอ OLED ที่ล้ำสมัยเกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้า เหลือพื้นที่เป็นรอยบากบริเวณส่วนบนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับเลนส์กล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีปุ่มกดแบบเดิมที่หลายคนคุ้นเคยอีกต่อไปแล้ว

ตามรายงานก่อนหน้านี้เชื่อว่า iPhone X จะมีตัวเครื่องเป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อรองรับการชาร์จไร้สาย โดยกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะที่มีความมันเงาสูง และนำเทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามาใช้ยืนยันตัวตนบุคคลแทนการใช้ลายนิ้วมือ ซึ่ง Touch ID ก็จะไม่มีในรุ่นนี้

ด้านการประมวลผลจะมาพร้อมชิปเซ็ต A11 ที่มีซีพียู Hexa-core หรือ 6-core โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core ในชื่อ Monsoon สำหรับการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Quad-core ในชื่อ Mistral สำหรับการประมวลผลในการทำงานทั่วไป เน้นการประหยัดพลังงาน ซึ่งรุ่นพรีเมียมนี้จะมีแรมขนาด 3GB และความจุเริ่มต้น 64GB

สำหรับกล้องถ่ายรูปด้านหลังจะเป็นเลนส์คู่แนวตั้ง ที่มีการปรับปรุงให้ถ่ายภาพออกมาได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโหมด Portrait ที่มีการพบโค้ดฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Portrait Lighting คาดว่าจะเป็นส่วนเสริมในการช่วยถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอของ Portrait Mode เดิมที่มีอยู่ใน iPhone 7 Plus ทำเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกชัดตื่นได้ดีมากขึ้น ละลายฉากหลังได้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

ก่อนหน้านี้เชื่อกันว่า iPhone รุ่นใหม่จะมาในชื่อ iPhone 7s และ iPhone 7s Plus ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดต่อจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ของปีที่แล้ว แต่จากข้อมูลโค้ดที่นักพัฒนาพบในระบบปฏิบัติการ iOS 11 มีการอ้างอิงถึงชื่อ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

สำหรับดีไซน์ของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังคงคล้ายกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้วตามลำดับ แต่อัปเกรดด้านประสิทธิภาพการทำงาน คือมาพร้อมชิปเซ็ต A11

iOS 11 และ ARKit

กำหนดปล่อย iOS 11 GM ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ในคืนวันที่ 12 กันยายน ก็จะได้ติดตั้งกัน โดยจะเป็นตัวสุดท้ายที่ Apple จะปล่อยให้นักพัฒนาได้ติดตั้ง ซึ่งปกติจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ปล่อยจริงอย่างเป็นทางการทื่ทุกคนติดตั้งได้ผ่าน OTA

อีกหนึ่งความก้าวหน้าของ Apple คือ ARKit API จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพ AR หรือ Augemented Reality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริง และโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาผสานเข้าด้วยกันผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ โดยอุปกรณ์ iOS รุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ iPhone 6s, iPhone SE ขึ้นไป จะรองรับการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ

Apple Watch Series 3

คาดกันว่าในปีนี้จะได้เห็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ด้วย Apple Watch Series 3 ที่อัปเกรดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งมีข่าวว่าจะมาพร้อมช่องซิมการ์ดทำให้รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE นั่นหมายความว่านาฬิการุ่นใหม่นี้จะทำงานได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone ตลอดเวลาอีกต่อไปแล้ว และคาดว่าจะสามารถใช้งานการโทรเข้าหรือรับสายได้ด้วย

HomePod

ลำโพงอัจฉริยะที่สามารถสั่งงาน Siri ได้ด้วยคำสั่งเสียง ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในงาน WWDC 2017 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีกำหนดการวางขายใดๆ ในขณะนี้ ซึ่งในงานนี้น่าจะมีรายละเอียดการวางขายลำโพงตัวนี้

HomePod มีลำโพงทั้งหมด 7 ตัว ซับวูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว และใช้ชิปเซ็ต A8 ในการประมวลผล ซึ่งตัวลำโพงมีความฉลาดที่จะรับรู้พื้นที่โดยรอบแล้วปรับเสียงให้เข้ากับพื้นที่นั้นโดยอัตโนมัติ และสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงเพราะว่าในตัวลำโพงมี Siri อยู่ด้วย

สำหรับไมโครโฟนที่มีรอบลำโพงมากถึง 6 ตัว ก็เพื่อให้สั่งงานกับ Siri ได้จากทุกทิศทาง เพื่อสั่งให้เล่นเพลง หาข้อมูลเพลง และทุกฟีเจอร์ที่สามารถสั่งงานได้บน iPhone ก็สามารถสั่งงานที่ตัวลำโพงนี้ได้ โดยจะมีแสงไฟที่เป็นคลื่นเสียงของ Siri อยู่บริเวณด้านบนของตัวลำโพง

Apple TV 4K

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หลายคนรอคอยที่จะได้เห็นกันมานานหลายปี และคาดว่าในปีนี้จะได้เห็นกันจริงๆ เสียที นั่นก็คือ Apple TV ที่รองรับการแสดงผลในระดับความคมชัดสูง 4K เพื่อรองรับการแสดงผลบนหน้าจอทีวีในปัจจุบันที่ขยับขึ้นไปเป็น 4K กันแล้ว

AirPods 2

มีการพบโค้ดชื่อรุ่น AirPods 1,2 ในระบบปฏิบัติการ iOS 11 ซึ่งก็น่าจะเป็น AirPods 2 รุ่นสานต่อความสำเร็จของหูฟังไร้สายรุ่นแรก และน่าจะทำอะไรได้มากกว่าการฟังเพลง พูดคุยโทรศัพท์ หรือสั่งงาน Siri เพราะก่อนหน้านี้พบว่า Apple ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเซ็นเซอร์ไบโอเมตริกซ์ที่จะช่วยให้ AirPods รุ่นใหม่สามารถติดตามการออกกำลังกายได้ และอาจจะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย เพื่อช่วยในการคำนวณหาอัตราการเต้นของหัวใจ และให้ข้อมูลนักออกกำลังกายว่าขณะนั้นอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายในแต่ละประเภท

คืนนี้รอติดตามไปพร้อมๆ กันได้ เพื่อไม่ให้พลาดการอัปเดทต่างๆ เพื่อนๆ สามารถติดตามได้ทุกช่องทางต่างๆ ของเว็บไซต์ iphone-droid.net ทั้งหน้าเพจ iphone-droid.net, Twitter @iphone_droid ได้เช่นกันครับ