Connect with us

IT News

eSIM คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

Published

on

เมื่อไม่นานมานี้ Apple และ Google ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับ eSIM ได้แก่ Apple Watch Series 3, Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL แล้วเจ้าซิมการ์ดตัวนี้มันคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มาหาคำตอบกันครับ

eSIM เป็นซิมการ์ดแบบใหม่ที่ฝังมากับอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าและปลอดภัยยิ่งขึ้น เนื่องจากแกะถอดออกมาไม่ได้ รวมไปถึงเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือได้มีช่องทางในการทำตลาดใหม่ๆ และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นใหม่ทั้งหมดได้รวดเร็ว ง่ายดายยิ่งขึ้น

เริ่มจากที่รู้จักกันดีอย่าง SIM card หรือ Subscriber Identity Module เป็นแผงวงจรที่ใช้ในการระบุและรับรองความถูกต้องในการใช้งานบนอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่มีลักษณะเป็นชิปติดอยู่บนแผ่นพลาสติก ซึ่งในช่วงแรกจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก และมีการพัฒนาให้เล็กลงเรื่อยๆ ที่รู้จักกันในชื่อ Nano SIM ในปัจจุบัน

เนื่องจากผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์พยายามที่จะพัฒนาให้อุปกรณ์ของตนเองมีขนาดเล็กและบางลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำช่องหูฟัง 3.5mm ออกไป แล้วหันมาใช้ร่วมกับพอร์ต USB Type-C เพื่อลดพื้นที่ใช้งาน อย่างที่ได้เห็นในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ และล่าสุด Apple Watch Series 3, Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL ก็มาพร้อมกับ eSIM นี้ด้วย

eSIM คืออะไร

ซิมการ์ดแบบ eSIM หรือ embedded SIM เป็นซิมที่มีขนาดเล็กมาก มีความยาวเพียง 5 มิลลิเมตร และกว้างเพียง 5 มิลลิเมตร ในขณะที่ Nano SIM มีความยาว 12.30 มิลลิเมตร และกว้าง 8.80 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าขนาดของ eSIM เล็กลงไปมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว โดยจะฝังอยู่ในตัวอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต ไม่สามารถแกะถอดได้ แต่ทำงานได้เหมือนกับซิมการ์ดที่ถอดได้ทุกอย่าง ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นมาตรฐานที่ถูกนำมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อย่างแพร่หลายในเร็วๆ นี้

eSIM มีความสามารถ M2M หรือ Machine to Machine ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันเองได้ และ Remote Provisioning สำหรับเปิดใช้อุปกรณ์ใหม่ เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ สายรัดข้อมือสำหรับออกกำลังกาย สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ได้จากระยะไกล สามารถเลือกผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ แพ็กเกจการใช้งานได้ตามต้องการ ตามมาตรฐานที่เป็นข้อกำหนดของ GSMA

ภาพจาก Deutsche Telekom AG

นอกจาก eSIM จะเน้นไปที่สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแล้ว สิ่งหนึ่งที่กำลังถูกพูดถึงนั่นก็คืออุปกรณ์ IoT ทั้งหมดหรือ Internet of Things ที่จะใช้ประโยชน์จากซิมการ์ดรูปแบบใหม่นี้ ด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์หลายอย่างที่มีขนาดเล็กและไม่ต้องไปวุ่นวายกับการถอดใส่ซิมการ์ด ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในไม่กี่ปีต่อจากนี้ อุปกรณ์ IoT จะกลายเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมต่อกันมากที่สุด แซงโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News7 วัน ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก