รีวิว vivo X90 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงที่อัดแน่นเทคโนโลยีกล้องโปรสุดทรงพลังในรูปแบบพกพาได้ ด้วยกล้อง ZEISS เซ็นเซอร์ 1″ | กล้อง Portrait 50MP | ชิป vivo V2

รีวิว vivo X90 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจาก vivo ที่อัดแน่นมาด้วยฮาร์ดแวร์กล้องระดับสูงพร้อมสโลแกน “Pro Photography in Pockect” ให้เราได้รู้สึกเหมือนยกเอากล้องโปรสุดทรงพลังมาติดกระเป๋าได้ตลอดเวลา แต่แค่เรื่องกล้องยังไม่พอเพราะเรือธงรุ่นนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจครบตั้งแต่ ชิปเซ็ต Dimensity 9200 ที่แรงและประหยัดพลังงานเป็นเลิศ หรือจะเป็นระบบชาร์จเร็ว Dual-Cell FlashCharge 120W ที่เข้ามาเปลี่ยนการชาร์จแบบเดิม ๆ ที่เราเคยรู้จัก!

เกริ่นมาขนาดนี้เชื่อว่าคงอยากรู้แล้วว่ารุ่นนี้จะตอบโจทย์เราได้แค่ไหน งั้นมาติดตามรีวิว vivo X90 Pro 5G รุ่นนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า บทความนี้บอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้แน่นอน!

สรุปสเปค vivo X90 Pro 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 164.07 x 74.53 x 9.34 มม.
• น้ำหนัก : 214.85 กรัม
• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″
• ความละเอียด : FHD+ (2800×1260 พิกเซล)
• refresh rate : 120Hz
• CPU : MediaTek Dimensity 9200 Octa-core 3.05GHz (4nm)
• GPU : Immortalis-G715 MC11
• RAM : 12GB (LPDDR5X)
• ROM : 256GB (UFS 4.0)
• แบตเตอรี่ : 4870mAh
• ระบบชาร์จไว : 120W Dual-Cell FlashCharge (แบบต่อสาย) 50W (แบบไร้สาย) 
• กล้องหน้า : 32MP f/2.45
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1″) f/1.75, OIS
  • กล้อง Wide angle 12MP (เซ็นเซอร์ IMX663) f/2.0
  • กล้อง Tele 2X 50MP (เซ็นเซอร์ IMX758) f/1.6, OIS
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย FunTouch OS 13
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.3 และพอร์ต USB Type-C
• สีที่วางจำหน่าย : Legendary Black

แกะกล่อง vivo X90 Pro 5G

ก่อนจะไปเริ่มรีวิวเต็ม ๆ เราขอแวะมาแกะกล่องเช็กอุปกรณ์และดูแพ็กเกจของ vivo X90 Pro 5G กันก่อนดีกว่าเนาะ รุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกล่องขนาดใหญ่ตามสไตล์เรือธงของ vivo เหมือนเดิมครับ สีกล่องใช้เป็นสีดำเพื่อความหรูหราด้วย Texture คล้ายหนัง ด้านหน้าก็ระบุชื่อรุ่นไว้พร้อมเหมือนเดิม

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง vivo X90 Pro 5G ที่อยู่ในซองอย่างเป็นระเบียบ และชั้นถัดไปก็จะมีอุปกรณ์เสริมที่ให้มาแบบครบทั้ง อะแดปเตอร์ชาร์จ, สายชาร์จ, หรือเคสซิลิโคนที่ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ตัดออกไปเนาะ

อะแดปเตอร์ชาร์จของ vivo X90 Pro 5G ก็ให้มาแบบ 120W Flash Charge เลยด้วย แถมหัวชาร์จยังเป็นแบบ USB-C อีก ชาร์จเร็วจัดเต็มแค่ไหนเดี๋ยวเราทดสอบให้ในหัวข้อแบตเตอรี่และการชาร์จอีกทีเนาะ

ส่วนเคสของ vivo X90 Pro 5G รอบนี้ให้มาแบบซิลิโคนใสธรรมดา แอบเสียดายอยู่ที่ไม่ใช่แบบเดียวกับฝาหลังเหมือนรุ่นก่อนแล้ว ลดความพรีเมี่ยมลงไปนิดหน่อย แต่ก็ได้การป้องกันที่ครอบคลุมตัวเครื่องมากขึ้นแทนครับ

เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ vivo X90 Pro 5G ก็ให้มาครบชุดพร้อมใช้งานเลยประกอบด้วย

• ตัวเครื่อง vivo X90 Pro 5G
• อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 120W Flash Charge
• สายชาร์จ USB-C to USB-C (3.2 Gen 1)
• เคสซิลิโคนใส
• เอกสารคู่มือ
• เข็มจิ้มถาดซิม

ดีไซน์ลึกซึ้งและทรงพลัง

ได้เวลายลโฉม vivo X90 Pro 5G แบบเต็ม ๆ กันแล้วครับ รอบนี้ vivo ใช้การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความเป็นคณิตศาสตร์เข้ากับสุนทรียศาสตร์ โดยวางโครงสร้างตามหลักสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ให้ความสำคัญกับความสมดุลและความสอดคล้องต่าง ๆ สร้างความโดดเด่นสะดุดตาด้วยกล้องหลังวงกลมขนาดใหญ่และฝาหลังหนังวีแกนสุดหรูหรา

vivo เผยว่าดีไซน์ของ vivo X90 Pro 5G ในรอบนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากพระอาทิตย์ขึ้น (Sunrise) โดยมีโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่เป็นเหมือนตัวแทนของพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า มีเลนส์กล้อง 3 ตัวที่รวมอยู่ในวงกลมเดียวเสมือนรวมอยู่ใน “Big Eye” สีดำสนิท ช่วยให้ภาพรวมดูเรียบง่ายแต่ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับสีสันของ vivo X90 Pro 5G จะมีให้เลือกสีเดียวเลยคือ Legendary Black หรือสีดำที่ดูดุดันพออยู่กับผิวสัมผัสแบบหนังวีแกนก็ยิ่งให้อารมณ์เหมือนกล้องโปรที่มักจะมีผิวสัมผัสคล้ายกับโทนสีแนวนี้ นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นแล้ว ถ้าเราได้จับสัมผัสเครื่องก็ยังถูกใจในความนุ่มละมุนของวัสดุอีกด้วยครับ

หน้าจอ AMOLED โค้งหรูหรา มอบสัมผัสลื่นไหล

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง vivo X90 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED โค้งขนาด 6.78″ ใหญ่เต็มตา มี Refresh rate 120Hz มอบความลื่นไหล อีกทั้งความโค้ง 2 ด้านช่วยมอบความหรูหราระดับเรือธงและยังช่วยให้เราสัมผัสได้อย่างละมุนนิ้วอีกด้วย

ในเรื่องการแสดงผล vivo X90 Pro 5G มีความละเอียดระดับ 1.5K (2800×1260 พิกเซล) สวยคมชัดมากบนขนาดหน้าจอระดับนี้ รองรับการแสดงสีสัน 10bit หรือ 1.07 พันล้านสี ตอบโจทย์คนที่ชอบความคมชัดและสีสันที่มากมายจริง ๆ ครับ

บนหน้าจอของ vivo X90 Pro 5G ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Optical ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แตะปุ๊บก็สแกนติดปั๊บได้แบบไม่ยากเย็น

รอบ ๆ ตัวเครื่อง สวยงามลงตัว

ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ยังคงมีคำว่า Professional Photography ระบุไว้เด่น ๆ อีกเช่นเคย เพื่อเป็นการเสริมให้รู้ว่ารุ่นนี้มีกล้องระดับมืออาชีพ พร้อมกันนี้ข้าง ๆ ก็ยังมี IR Infrared มาให้ด้วยนะ ตรงนี้สามารถใช้งานตัวเครื่องเป็นรีโมทสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลายเลย

ปุ่มกดต่าง ๆ ของ vivo X90 Pro 5G ก็วางไว้ในมุมขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด แตะกดได้ง่าย ใช้งานได้คล่องมือแม้จะถือใช้งานมือเดียว

ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟน, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และถาดใส่ซิมครับ ซึ่งถาดใส่ซิมของ vivo X90 Pro 5G จะเป็นแบบ Dual-SIM ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD หรือหน่วยความจำภายนอกได้ครับ

กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68

เห็นดีไซน์เป็นฝาหลังหนังแบบนี้แต่ vivo X90 Pro 5G ก็ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 มั่นใจได้เลยว่าหากเครื่องเปียกหรือเกิดอุบัติเหตุตกน้ำจริง ๆ ก็จะไม่เสียหายไปดื้อ ๆ อย่างแน่นอนครับ

โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ vivo X90 Pro 5G ก็ถือว่าออกแบบมาได้น่าสนใจทีเดียว ทั้งผิวสัมผัสของฝาหลังที่เป็นหนังวีแกนมอบความนุ่มนวลเวลาสัมผัสจับถือ ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องที่ไม่ได้มากเกินไปอยู่ที่ 214.85 กรัม ถือใช้งานทั่วไปหรือจะพกติดกระเป๋าก็ไม่เทอะทะ ดีไซน์กล้องหลังวงกลมแบบใหม่ก็เสริมความเป็นสมาร์ตโฟนกล้องเด่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รวม ๆ แล้วอีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบมาได้น่าประทับใจเลยล่ะครับ

กล้องหลัง 3 ตัวพัฒนาร่วมกับ ZEISS พร้อมอัปเกรดฮาร์ดแวร์ขั้นสุด

มาต่อกันที่เรื่องกล้องที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ vivo X90 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีการอัปเกรดสเปคกล้องหลักขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจรายละเอียดดังนี้

• 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1″) f/1.75, OIS
• 12MP กล้อง Wide angle (เซ็นเซอร์ IMX663) f/2.0
• 50MP กล้อง Tele 2X (เซ็นเซอร์ IMX758) f/1.6, OIS

จะเห็นว่ากล้องทั้ง 3 ตัวนี้มีสเปคระดับสูงและมีระยะตั้งแต่มุมกว้างพิเศษจนถึงซูมระดับกลาง แต่ไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้ก็คงหนีไม่พ้นกล้องหลักที่อัปเกรดมาใช้เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1″ เป็นครั้งแรกของ vivo ซึ่งตัวเลนส์เองก็ใช้เป็นเลนส์ ZEISS T* (ทีสตาร์) ที่มีการลดแสงสะท้อนในภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ZEISS Natural Tone เลือกโทนตามสไตล์ได้ง่าย ๆ

ด้วยการพัฒนาร่วมกับ ZEISS ระบบกล้องของ vivo X90 Pro 5G ก็ยังมีฟีเจอร์ ZEISS Natural Tone ให้เลือกปรับโทนสีได้ตามสไตล์ ถ้าเราอยากได้ภาพที่สีตรงเป็นธรรมชาติก็เลือกเปิดที่ไอคอน ZEISS ด้านบนได้เลย แต่ถ้าอยากได้การปรับแต่งสีเพิ่มเติมแบบที่พร้อมแชร์เลยก็ปิดแล้วให้ AI ของ vivo ปรับแต่งเพิ่มเติมความสว่าง, ความสดหรือพื้นผิวเพิ่มเติม

ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบระหว่างเปิด ZEISS Natural Tone กับ ปิด ZEISS Natural Tone

กล้องหลักเซ็นเซอร์ 1″ ครั้งแรกของ vivo

สำหรับเซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1″ ที่ vivo X90 Pro 5G ใช้ถือว่าเป็นเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมมือถือ ณ ตอนนี้ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสง ทำให้ภาพปกติและภาพกลางคืนสว่างคมชัดกว่าที่เคย นอกจากนี้อีกจุดเด่นก็คือสามารถละลายฉากหลังได้เบลอเป็นธรรมชาติมาก เรียกว่าเนียนตาอย่างกับใช้กล้องโปรจริง ๆ ซึ่งก็ตรงกับไฮไลท์ของรุ่นนี้ที่มอบประสบการณ์การถ่ายภาพได้ประหนึ่งกล้องอาชีพบนสมาร์ตโฟน

เท่าที่เราลองใช้จริงต้องบอกเลยว่ากล้องหลักเซ็นเซอร์ 1″ ตัวนี้ทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ในภาพแสงปกติก็คงไม่ต้องห่วงอยู่แล้วเซ็นเซอร์ระดับเรือธงนี้ช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัด ต้องบอกก่อนว่าภาพถ่ายตัวอย่างทั้งหมดนี้เราจะปิดฟีเจอร์ ZEISS Natural Tone เพื่อให้ได้ภาพที่ปรับแต่งแบบที่ vivo อยากนำเสนอให้เราจริง ๆ เนาะ สีสันและรายละเอียดเลยครบถ้วนเพราะได้ AI ปรับโทนสีและรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ การเบลอหลังจากเซ็นเซอร์ 1″ ที่เราบอกไปก็สวยเนียนเป็นธรรมชาติดีมาก เพราะคือการเบลอด้วยฮาร์ดแวร์จริง ๆ ไม่ใช่ใช้ซอฟต์แวร์ปรับความเบลอเข้าไป แต่ก็ยังมีจุดสังเกตอยู่บ้างคือด้วยความที่เซ็นเซอร์กล้องมีขนาดใหญ่มาก ระยะโฟกัสใกล้สุดของกล้องหลักก็แอบห่างกว่ากล้องทั่วไปนิดหน่อย หมายความว่าเราจะเข้าใกล้วัตถุได้ไม่เยอะหากใช้จากกล้องหลักนั่นเองครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

กล้อง Portrait คุณภาพเยี่ยมพร้อม Portrait Style จาก ZEISS

กล้องตัวต่อไปที่ vivo X90 Pro 5G ให้มาและโดดเด่นไม่แพ้กล้องหลักก็คือกล้อง Portrait หรือกล้อง Tele 2X ที่เข้ามาช่วยให้เราถ่ายภาพ Portrait ได้ในระยะครึ่งตัวอย่างเหมาะสม ภาพไม่บวมจนเกินไปหรือแคบจนครอปไปหมด และด้วยการพัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ในโหมด Portrait ก็ยังมีฟีเจอร์ Portrait Style ที่ให้เราเลือกใช้เอฟเฟกต์ละลายฉากหลังสวย ๆ กว่า 5 แบบประกอบด้วย

1. ZEISS Biotar Style Bokeh
2. ZEISS Cinematic Style Bokeh
3. ZEISS Sonnar Style Bokeh
4. ZEISS Planar Style Bokeh
5. ZEISS Distagon Style Bokeh

และตัวใหม่ล่าสุดอย่าง ZEISS Cine-Flare Portrait

ซึ่งเอฟเฟกต์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง ZEISS Cine-Flare Portrait ได้มีการเสริมแสงแฟลร์แบบกล้องมืออาชีพ โดยตัวซอฟต์แวร์จะสร้างแสงสะท้อนสวย ๆ ออกมาจากแหละกำเนิดแสงในภาพเช่นพระอาทิตย์ตกหรือแสงไฟยามค่ำคืนเรียกว่าเป็นอีกเอฟเฟกต์ที่ทำให้เราได้ภาพสวยระดับมืออาชีพแค่เพียงกดชัตเตอร์เท่านั้น!

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ส่วน Portrait Style อื่นก็ยังสร้างความตื่นตาให้เราในการถ่ายภาพคนได้อยู่ดี เพราะแต่ละเอฟเฟกต์ก็เหมือนยกเอาจุดเด่นจากเลนส์ ZEISS เทพ ๆ มาให้เราใช้งานจริงบน vivo X90 Pro 5G จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ZEISS Biotar ที่เปลี่ยน Bokeh ด้านหลังเป็นวง, ZEISS Sonnar ละลายฉากหลังแบบละมุนขึ้น, ZEISS Planar ที่ให้ Bokeh แบบ Classic สไตล์ ZEISS, ZEISS Distagon ที่จะเป็น Bokeh ทรงเหลี่ยมที่ชวนฝันมากขึ้น หรือจะเป็น ZEISS Cinematic ที่เป็นอัตราส่วนกว้างเหมือนภาพยนตร์นั่นเองครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

คุณภาพการซูมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

นอกจากจะใช้งานได้เด่นในโหมด Portrait แล้ว ถ้าเราอยากซูมเข้าใกล้วัตถุอีกหน่อยกล้องตัวนี้ที่มีระยะ Optical Zoom 2X ก็พอที่จะช่วยให้เราได้ภาพการซูมระดับกลางได้เป็นอย่างดี เพราะมีค่ารูรับแสงกว้างถึง f/1.6 ละลายฉากหลังสวยไม่แพ้กล้องหลัก ซึ่งเพียงพอมากกับการซูมทั้งแสงปกติและแสงน้อย ระยะซูมจริง ๆ ให้มา 2X ทำให้หากเราซูมไปไกลมาก ๆ ผลลัพธ์อาจจะไม่ถูกใจนัก เท่าที่เราลองใช้งานมากล้อง Tele ของ vivo X90 Pro 5G นั้นซูมได้น่าพอใจที่ระดับ 2X – 8X เรียกว่าสวยคมเลย แต่ถ้าจะซูมมากกว่านั้นไปถึง 10X – 15X ก็อาจจะต้องวัดดวงกันหน่อยว่า AI จะปรับภาพออกมาได้พอใจไหมนั่นเองครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

กล้อง Wide Angle กว้างกำลังดีและใช้เป็น macro ได้ด้วย

มาปิดท้ายกับกล้องตัวที่ 3 อย่าง กล้อง Wide angle บน vivo X90 Pro 5G ได้กล้องมุมกว้างความละเอียด 12MP อาจจะดูความละเอียดน้อยสุดใน 3 ตัวที่ว่ามา แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดของมุมกว้างได้ดีไม่น้อยครับ รายละเอียดของภาพก็ทำได้ดี สีสันก็มีความใกล้เคียงกับกล้องหลักด้วย ใครที่ชอบภาพมุมกว้างแบบที่โทนภาพสวย ๆ เหมือนกล้องหลักน่าจะถูกใจครับ

แถมกล้องตัวนี้ยังมีระบบ AF ช่วยให้เราใช้งานเป็นกล้อง macro ได้ด้วย ทำให้เราได้ถ่ายภาพในระยะใกล้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งซอฟต์แวร์ก็จะมี Auto macro ที่เมื่อเราเอากล้องไปส่องวัตถุอะไรใกล้ ๆ ตัวระบบจะสลับมาใช้กล้อง Wide angle ทันที สะดวกสำหรับสายส่องภาพใกล้ ๆ ทดแทนกล้องหลักที่อาจจะเข้าใกล้วัตถุได้ไม่เยอะอยู่นะ

โหมดใหม่ ZEISS Landscape & Architecture Mode / ZEISS Miniature Effect ปลดปล่อยจินตนาการแฟนตาซี

รอบนี้ vivo ยังมีโหมดใหม่ที่เรียกว่า ZEISS Landscape & Architecture Mode / ZEISS Miniature Effect ที่ให้เราเสริมสร้างจินตาการด้วยการเน้นเฉพาะจุดสร้างจุดเด่นในภาพแถมยังเสริมด้วยเอฟเฟกต์ในรูปแบบต่าง ๆ จาก ZEISS ทำให้เราได้ภาพที่โดดเด่นและแฟนตาซีไม่เหมือนใครไปอีก

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด ZEISS Miniature Effect

4K Ultra-Sensing Night Video วิดีโอกลางคืนสวยชัดระดับ 4K

เห็นได้ชัดว่าเรื่องภาพนิ่ง vivo X90 Pro 5G นั้นทำได้หายห่วงทั้งในเรื่อง Portrait ที่ถ่ายสวยพร้อมเอฟเฟกต์มากมาย ภาพกล้องหลักที่ถ่ายได้สวยละลายฉากหลังและแสงน้อยที่ยอดเยี่ยม ในการถ่ายวิดีโอก็เลยจัดเต็มไม่แพ้กันเพราะรุ่นนี้มาพร้อมโหมด 4K Ultra-Sensing Night Video ให้เราได้บันทึกวิดีโอกลางคืนได้สว่างกว่าที่เคย แถมยังคมชัดระดับ 4K อีกด้วย

ชิป vivo V2 เบื้องหลังความสำเร็จของภาพกลางคืน

ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอกลางคืนที่ยอดเยี่ยมนอกจากฮาร์ดแวร์ระดับท็อปแล้ว vivo ยังได้ชิป vivo V2 ที่เข้ามามีบทบาทในการประมวลผลภาพเพิ่มเติมด้วย AI ช่วยลด Noise ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอ จนทำให้ภาพและวิดีโอแสงน้อยนั้นดูโปรขึ้นอย่างที่เห็นนี่เลยครับ

กล้องหน้า 32MP เซลฟี่สวยระดับเรือธง

มาปิดท้ายที่กล้องหน้า vivo X90 Pro 5G ให้ความละเอียดมาที่ 32MP วางตำแหน่งกล้องหน้าไว้ตรงกลางเหมาะกับการเซลฟี่เหมือนรุ่นก่อน มีฟีเจอร์ AI Beauty รวมถึง Portrait มาให้ใช้ด้วย (ซึ่งสามารถใช้ ZEISS Portrait Style ได้ถึง 5 แบบเป็นครั้งแรกด้วยนะ) คุณภาพของไฟล์ก็สวยถูกใจสาว ๆ แน่นอน ผิวสวย ใบหน้าเนียน หรือจะการละลายฉากหลังก็โปรขึ้นไปอีกครับ ส่วนวิดีโอเหมือนเดิมที่รุ่นนี้ยังคงบันทึกได้สูงสุด 1080p/60fps อยู่ ถ้าได้สัก 4K น่าจะแจ่มกว่านี้แหละเนอะ

• 

• 

• 

สรุปแล้วในเรื่องกล้องของ vivo X90 Pro 5G ก็ถือว่าทำได้สมกับคำนิยาม Pro Photography in Pocket เพราะคุณภาพที่ถ่ายได้เหมือนยกเอากล้องมืออาชีพมาอยู่บนสมาร์ตโฟนจริง ๆ ทั้งฮาร์ดแวร์คุณภาพเยี่ยมที่ถ่ายได้สวยมีมิติและซอฟต์แวร์อันเก่งกาจ แต่จุดที่เราคิดว่ายังเป็นจุดสังเกตอยู่หน่อยคือเรื่องพลังซูมที่รุ่นนี้ให้มาแค่ Optical Zoom 2X เท่านั้น อาจจะแข่งเรื่องซูมไกลไม่ไหวนัก แต่ถ้าเน้นเรื่อง Portrait ถ่ายคนก็มีลูกเล่นเพียบจาก ZEISS ให้ใช้ ถ่ายระยะปกติก็ละลายหลังเทพ ๆ หรือมุมกว้างที่เก็บภาพวิวได้ดีเป็น macro ได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งเรือธงที่เราคิดว่ามีฟีเจอร์กล้องเป็นอันดับต้น ๆ ได้แบบไม่เกินจริง!

ประสิทธิภาพระดับสูงด้วย 2 ชิปประมวลผลแถวหน้า

มาต่อกันที่เรื่องประสิทธิภาพ vivo X90 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ตระดับแถวหน้าของวงการอย่าง Dimensity 9200 จาก MediaTek ที่ผลิตแบบ 4nm มอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหลไม่แพ้รุ่นไหน พร้อมกันนี้ยังมีชิป vivo V2 ที่นอกจากช่วยในเรื่องการถ่ายภาพแล้วยังเสริมในเรื่องการประมวลผลเรื่องการแสดงผลบนหน้าจอได้อีกหลายส่วนด้วย

ในเรื่องหน่วยความจำ vivo X90 Pro 5G ก็มีมาให้เลือกความจุเดียว 12GB + 256GB พร้อมอัปเกรดหน่วยความจำใหม่เป็น RAM แบบ LPDDR5X พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 ที่สามารถจำลอง RAM เพิ่มได้อีก 8GB รวมกันเป็น 20GB ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไร้กังวลแน่นอน

ผลทดสอบสูงสมใจเลยล่ะ!

สำหรับใครที่อยากรู้ตัวเลขผลทดสอบของ vivo X90 Pro 5G เราก็ลองทดสอบมาให้ด้วยครับ คะแนน AnTuTu Benchmark ออกมาสูงถึง 1,213,064 คะแนน

ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้ Single-Core ไปที่ 1,671 คะแนนและ Multi-Core ที่ 4,148 คะแนน เรียกว่าสูงสมใจสำหรับใครที่อยากเห็นตัวเลขเยอะ ๆ จาก vivo X90 Pro 5G แล้วล่ะครับ

ลองเล่นเกมดูหน่อยไหม

เห็นผลทดสอบไปเรียบร้อยต่อมาก็เป็นการลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมสักหน่อย อย่างที่เห็นคะแนนไปประสิทธิภาพระดับนี้ไม่ว่าเกมอะไรบน Play Store ก็เชื่อว่าเล่นได้อย่างลื่นไหลแน่นอน ซึ่งเกมที่เราจะใช้ทดสอบในรอบนี้มี 3 เกมคือ Asphalt 9, Call of Duty และ Genshin Impact นั่นเองครับ

เล่น Asphalt 9 บน vivo X90 Pro 5G

เริ่มที่เกมแข่งรถที่เราเล่นบ่อย ๆ สักหน่อย ถือเป็นเกมขึ้นชื่อเรื่องกราฟิกสวยอยู่แล้ว บน vivo X90 Pro 5G นั้นเราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality หรือสูงสุด ยังไม่สามารถเปิด 60fps ได้ในตอนนี้ คิดว่าคงต้องรออัปเดตเพิ่มเติมในภายหลัง แต่จากสเปคก็คงรันได้สบาย ๆ อยู่แล้วเหลือแค่แอปรองรับเท่านั้น เท่าที่ลองเล่นก็พบว่าเล่นได้อย่างลื่นไหลระดับ 30fps ภาพกราฟิกก็สวยสมกับระดับสูงสุดเลยครับ

เล่น Call of Duty บน vivo X90 Pro 5G

ส่วนเกม Call of Duty เกมยิงที่ไฟล์ใหญ่สุด ๆ เกมนี้เราปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้สูงสุด (Very High + Max) พร้อมเอฟเฟกต์อื่น ๆ ได้หมด เท่าที่เราเล่นก็เพลิดเพลินไปกับกราฟิกที่สวยงามและเฟรมเรตที่ลื่นไหลเป็นอย่างดี แถมมิติเสียงที่สำคัญสำหรับเกมแนวนี้รุ่นนี้ก็ได้ลำโพง Stereo มาช่วยให้เราเล่นได้สะใจขึ้นไปอีกด้วยครับ

เล่น Genshin Impact บน vivo X90 Pro 5G

ปิดท้ายที่ Genshin Impact เช่นเดียวกับ Call of Duty ตัวเกมให้เราปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้สูงสุดเช่นกัน ทำให้เราเล่นได้อย่างลื่นไหล และภาพกราฟิกก็สวยมาก ๆ ด้วย สมกับเป็นรุ่นท็อปที่สามารถเล่นเกมสุดโหดแบบนี้ได้อย่างราบรื่น แม้จะเล่นกันต่อเนื่องก็ไม่เจออาการกระตุกจนขัดใจเลยล่ะครับ

แบตเตอรี่ 4,870mAh พร้อมชาร์จเร็ว 120W

ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ vivo X90 Pro 5G ได้มาที่ 4,870mAh เท่าที่เราลองใช้งานจริงมาก็ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปตลอดทั้งวัน แต่หากมีการเล่นเกมหรือถ่ายรูปแบบหนัก ๆ จริงก็อาจจะต้องเผื่อเวลามาชาร์จเพิ่มกันนิดหน่อย แต่เรื่องการชาร์จก็คงไม่ต้องห่วงเพราะรุ่นนี้มีระบบชาร์จเร็ว 120W FlashCharge ที่ชาร์จจาก 0 – 50% ในเวลา 8 นาที 10 วินาที หรือชาร์จเต็มใน 29 นาทีเท่านั้น ใช้กันเต็มที่ขอแค่เวลาชาร์จสักครู่ก็กลับมาพร้อมอีกรอบแล้วล่ะครับ!

สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพ ก็ถือว่า vivo X90 Pro 5G ทำได้ดีหายห่วง ทั้งชิปตัวแรงที่ดึงประสิทธิภาพออกมาได้ดีเยี่ยม แถมจัดการพลังงานได้ดี มีแบตเตอรี่ใช้งานเพียงพอและระบบชาร์จเร็วสูงสุด ๆ ภายในยังมีการอัปเกรดระบบระบายความร้อน VC ใหม่เพิ่มขนาดขึ้นจากรุ่นก่อน (X80) ถึง 35% ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ

ซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหลด้วย FunTouch OS 13

มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์การใช้งานกันปิดท้าย vivo X90 Pro 5G ใช้ FunTouch OS 13 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ครอบทับอยู่บน Android 13 มีหน้าตา UI ที่ออกโทนสนุกสดใส ใช้งานได้ไม่ยากครับ มีลูกเล่นการปรับแต่งที่หลากหลายเลยด้วยครับ

มีการปรับแต่งอื่น ๆ ก็มีให้เลือกปรับเยอะตามสไตล์ vivo เลยทั้ง Dynamic effects ก็ยังมีให้เลือกอยู่ในนี้เราจะสามารถเลือกปรับแต่งได้หลายอย่างเลย อาทิ Amnient Light effect เวลามีแจ้งเตือนให้แสดงไฟที่ขอบจอ, ความเร็ว Transition ของอนิเมชั่นในการเปิดแอป, อนิเมชั่นการปลดล็อคหน้าจอ, อนิเมชั่นการชาร์จ และอีกเพียบ เรียกว่าใครชอบปรับแต่งให้เป็นสไตล์ตัวเองถูกใจแน่นอนครับ

ราคาและโปรโมชั่น

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับราคา vivo X90 Pro 5G รอบนี้มีให้เลือกสีเดียวเลยคือ Legendary Black และความจุเดียว 12GB + 256GB เปิดราคามาที่ 39,999 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นไป

สำหรับ vivo X90 Pro 5G จะวางจำหน่ายทาง vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ มีโปรโมชั่นรับของแถมเป็น

• E-VIP Card : ประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง + ประกันตัวเครื่อง 2 ปี มูลค่า 10,999 บาท
• แท่นชาร์จไร้สาย (vivo 50W Vertical Wireless Flash Charger) มูลค่า 2,999 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ตโฟนเรือธงที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีกล้องโปรสุดทรงพลังในรูปแบบพกพาได้”

สรุปแล้ว vivo X90 Pro 5G คือสมาร์ตโฟนเรือธงที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีกล้องโปรสุดทรงพลังในรูปแบบพกพาได้ตามสโลแกน “Pro Photography in Pocket” อย่างแท้จริง เพราะกล้องที่ให้มาทั้งฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์เรียกว่าเป็นเบอร์ต้นของวงการแบบไม่ผิดหนัง ถ่ายได้ดีงามตั้งแต่ภาพวิวทั่วไป ภาพ Portrait หรือจะเป็นวิดีโอทั้งกลางวันกลางคืน มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหมือนกล้องที่หรูหราและชวนสัมผัส สเปคที่อัดแน่นมาตั้งแต่หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ความละเอียดสูง ชิปเซ็ต Dimensity 9200 ที่เร็วแรงและจัดการพลังงานได้ดี มีระบบชาร์จเร็ว 120W ที่ทำให้การชาร์จเปลี่ยนไปจากที่เคย รวม ๆ แล้วก็เป็นเรือธงที่ครบเครื่องมาก ๆ อีกรุ่น ใครที่กำลังมองหาเรือธงสักรุ่นที่ครบในทุก ๆ ด้านเน้นกล้องเป็นพิเศษแล้วก็ชอบโทนภาพ Portrait สวย ๆ สไตล์ ZEISS อยู่แล้ว เราว่าไม่มีตัวเลือกไหนจะถูกใจคุณได้เท่า vivo X90 Pro 5G แล้วล่ะครับในนาที!