ท้าวงการสมาร์ตโฟนคอนเสิร์ต! 27 พ.ย. นี้ เตรียมซูมให้สุดกับ vivo X300 Series แค่คลิก ซูมชิดติดเวที

โดย Surin Khiewsart (Editor)

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศลงสนามสานต่อความสำเร็จสมาร์ตโฟนถ่ายคอนเสิร์ตอีกครั้ง 27 พฤศจิกายนนี้ เตรียมพร้อมส่งเรือธงแห่งปี vivo X300 Series เปิดตัวในตลาดประเทศไทย 2 รุ่น ได้แก่ vivo X300 และ vivo X300 Pro ชูจุดเด่นอันเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีกล้องและชุดเลนส์เสริมที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่าง ZEISS ให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้ปลดล็อกช็อตคอนเสิร์ตที่ดีที่สุด ราวกับได้สัมผัสบรรยากาศของตั๋ว VIP แบบชิดขอบเวทีจากเพียงคลิกเดียว

งานนี้ vivo จัดใหญ่! ท้าทุกคนมาพิสูจน์ประสบการณ์ซูมที่เหนือกว่าผ่านมินิคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบภายในงาน พร้อมดึงไลน์อัปศิลปินสุดฮอตมาร่วมสร้างสีสัน นำโดย vivo Stage Ambassador คนล่าสุด วี-วิโอเลต วอเทียร์ นักร้องสาวสวยกับน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ เสริมทัพด้วยแขกรับเชิญคุณภาพอย่าง วงดนตรีอินดี้เจ้าของเพลงฮิตแห่งยุค Fellow Fellow และสองนักแสดงหนุ่มมาแรง เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย – น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง แฟน ๆ ห้ามพลาดร่วมรับชมไลฟ์สตรีมมิงสุดเอ็กซ์คลูซีฟพร้อมกันได้ตั้งแต่เวลา [17.00 น.] เป็นต้นไป ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้:

  • ช่วงงานเปิดตัว และไฮไลต์ผลิตภัณฑ์: เฟซบุ๊กเพจ vivo ประเทศไทย และ TikTok vivo ประเทศไทย
  • ช่วงมินิคอนเสิร์ต: X ออฟฟิเชียล vivo ประเทศไทย

ติดตามการเปิดลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้าร่วมงาน ZOOMSHPERE Concert พร้อมสิทธิ์ซูมชิดติดเวทีได้ฟรี ผ่าน 2 ช่องทาง เฟซบุ๊ก vivo Thailand และ X ออฟฟิเซียล โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนและเข้างานฟรีผ่านลิงก์ที่กำหนดในวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568

vivo X300 Series ถูกออกแบบมาเพื่อสานต่อความเป็นผู้นำด้าน ‘สมาร์ตโฟนสำหรับสายคอนเสิร์ต’ อย่างแท้จริง โดยเรือธง vivo X300 Pro การันตี 6 ความเป็นที่สุดในอุตสาหกรรมถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนด้วยกล้องเทเลโฟโต้ ZEISS APO ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ผสานพลังกับชิปประมวลผลภาพขั้นสูง ในขณะที่ vivo X300 ก็ได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพที่เหนือระดับไม่แพ้กัน ด้วยกล้องหลัก ZEISS ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ที่พร้อมเก็บทุกรายละเอียดอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ vivo ยังจุดกระแสความตื่นเต้นด้วยการเตรียมเปิดตัว ชุดเลนส์เสริมกำลังขยาย 2.35 เท่าvivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการซูมของสมาร์ตโฟนให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของอุตสาหกรรมในทุกมิติ แค่คลิกเดียว ทุกภาพก็คมชัดราวกับได้ยืนชิดขอบเวทีเก็บทุกรายละเอียดด้วยตาตัวเอง

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งาน vivo X300 Series เปิดตัวพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ OriginOS 6 ที่พลิกโฉมดีไซน์ UI ให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์เทรนด์ผู้ใช้งานยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้ทุกสัมผัสมีความสะดวกสบายตาและเป็นธรรมชาติ ตลอดจนอัปเกรด AI Integration เต็มรูปแบบเพื่อยกระดับตั้งแต่ฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะต่าง ๆ ไปจนถึงการจัดการพลังงานและหน่วยความจำ ให้การทำงานรวดเร็วและลื่นไหลยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

ไม่เพียงแต่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยเท่านั้น แต่ vivo X300 Series ยังมาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมียมที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการขึ้นรูปฝาหลังแบบ Unibody 3D ที่เชื่อมต่อโมดูลกล้องและฝาหลังเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เทคนิคฝาหลัง Coral Velvet Glass ที่มอบสัมผัสเนียนนุ่มยิ่งขึ้น พร้อมคุณสมบัติป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ หรือขอบหน้าจอที่บางเฉียบสมมาตรทุกด้าน โดย

  • vivo X300 มาพร้อมหน้าจอขนาดคอมแพกต์ 6.31 นิ้ว จับถือสะดวกสบายแม้ใช้งานมือเดียว เตรียมวางจำหน่ายใน 3 ตัวเลือกสี ได้แก่ สีชมพู Halo Pink สีม่วง Iris Purple และ สีดำ Phantom Black
  • vivo X300 Pro มอบประสบการณ์ความบันเทิงเต็มอิ่มด้วยหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว โดดเด่นด้วยสัมผัสพรีเมียมรอบด้านและการแกะสลักลวดลาย ‘ซันเบิร์สท์’ บริเวณด้านข้างเลนส์ ราวกับเลนส์กล้องระดับโปร นำเสนอใน 3 สีสัน ได้แก่ สีน้ำตาลทะเลทราย Dune Brown สีฟ้า Mist Blue, และ สีดำ Phantom Black

สำหรับแฟน ๆ ที่สนใจ vivo X300 Series เปิดให้จับจองล่วงหน้าในรอบ Blind Booking ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 – 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมสิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 14,998 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงติดตามกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคา และกิจกรรมอื่น ๆ จาก vivo ได้ที่เว็บไซต์ https://vivo.com/th/ และเฟซบุ๊ก vivo Thailand

#vivoX300Series #vivoX300 #vivoX300Pro #ZEISSImageGoFurther #ซูมชัด200MPด้วยกล้องZEISS

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More