Connect with us

Android News

แกะกล่องพรีวิว vivo X200 Series สมาร์ตโฟนเรือธง “ซูมชัด ทุกเรื่องราว” ไปกับกล้อง ZEISS APO Telephoto | หน้าจอ Micro Quad-Curved Screen

Published

on

vivo X200 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในประเทศไทย! มีให้เลือก 2 รุ่นคือ vivo X200 และ vivo X200 Pro หลายคนคงได้เห็นความเทพของตัวกล้องชุดใหม่ไปบ้างแล้ว วันนี้เราก็เลยจะขอมาแกะกล่องพรีวิวตัวเครื่องและไฮไลท์สเปคให้ชมกันก่อนรีวิวฉบับเต็มอีกสักหน่อย เชื่อว่าหลายคนคงอยากทราบข้อมูลด้านอื่นบ้างเช่นกัน เพราะรุ่นนี้ก็มีดีอีกหลายอย่างนอกจากกล้องด้วย

ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามพรีวิว vivo X200 และ vivo X200 Pro ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ!

@iphone_droid

แกะกล่อง vivo X200 Series สมาร์ตโฟนเรือธง “ซูมชัด ทุกเรื่องราว” #iphonedroid #vivoX200Series #ซูมชัดทุกเรื่องราว #zoomtopia

♬ original sound – iphone-droid.net – iphone-droid.net

แกะกล่อง vivo X200 Series

ก่อนอื่นมาดูตัวกล่องกันก่อน ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยกล่องขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกของรุ่นเรือธงที่พรีเมี่ยมตั้งแต่แพ็กเกจเลย ที่ด้านหน้ามีชื่อรุ่นระบุไว้ชัดเจนว่า X200 และ X200 Pro พร้อม Co-engineered with ZEISS ที่บ่งบอกถึงการร่วมมือกันกับแบรนด์กล้องระดับโลก

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับถาดชั้นแรกที่มีตัวเครื่องอยู่ในซองอย่างเรียบร้อย ซึ่งรอบนี้เราได้ตัวเครื่อง vivo X200 มาใน 2 สีคือสีเขียว Aurora Green และสีดำ Midnight Black ส่วน vivo X200 Pro ได้มาในสี Titanium ที่เดี๋ยวเราพาไปชมเต็ม ๆ อีกที

เปิดถาดชั้นบนขึ้นมาจะเจอกับกล่องอุปกรณ์เสริม 2 กล่อง กล่องแรกซ้ายมือจะมี เคสซิลิโคน เอกสารคู่มือ และเข้มจิ้มถาดซิมครับ

ซึ่งเคสที่แถมมาจะมี 2 แบบตามสีเครื่องครับ อย่างเครื่องสีดำจะได้เคสเป็นแบบทึบสีดำไปเลย ส่วนเครื่องสีเขียวกับสีไทเทเนียมจะเป็นเคสใสนั่นเองครับ

ส่วนกล่องขวาจะมีสายชาร์จแบบ USB-A to C และอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 90W FlashCharge ซึ่งทั้ง vivo X200 และ X200 Pro ได้ที่ชาร์จแบบเดียวกันมาเลยเนาะ

ทั้งหมดก็ให้มาครบถ้วนพร้อมใช้งานเลยครับ อ๊ะ…ที่ตัวเครื่องก็มีฟิล์มกันรอยติดมาให้ตั้งแต่โรงงานแล้วด้วยนะ เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาในกล่องจะมีทั้งหมด 6 อย่างประกอบด้วย

  • ตัวเครื่อง vivo X200 | vivo X200 Pro
  • เคสซิลิโคน
  • เอกสารคู่มือ
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • สายชาร์จ USB-A to C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 90W FlashCharge

ดีไซน์ vivo X200 Series

ได้เวลามาชมดีไซน์ของ vivo X200 Series กันแล้วครับ ปีนี้ทั้งคู่ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องกล้องหลังวงแหวนวงกลมสุดทรงพลังเหมือนเดิม มองแว้บแรกก็รู้ได้ทันทีว่ากล้องนั้นถึงใจแน่นอน

แต่รอบนี้จะปรับตำแหน่งของวงแหวนสีเงินรอบ ๆ ให้เป็นตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 รุ่นแล้ว X200 ไม่ได้เน้นมุมขวามือตามแรงบันดาลใจจันทร์เสี้ยวแล้วครับ ซึ่งเราว่าแบบนี้ดูสมมาตรลงตัวเลย

สำหรับสีสันอย่างที่บอกไปว่าเราได้ vivo X200 มากับ 2 สีคือ สีเขียว Aurora Green เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้เลย มีสีเขียวโทนพาสเทลที่ละมุนกำลังดี ผิวสัมผัสฝาหลังเป็นแบบด้านไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเท่าไหร่ กรอบเครื่องมันวาวเล็กน้อยพองาม ซึ่งสีนี้ตอนเปิดตัวที่จีนไม่มีด้วยนะ

ส่วนอีกสีจะเป็นสีดำ Midnight Black แน่นอนว่าเป็นสีคลาสสิคที่เข้าถึงได้ง่ายและดูเรียบหรู ฝาหลังจะมีผิวทรายที่มี Texture เล็ก ๆ เวลาสัมผัส กรอบเครื่องก็เป็นแบบด้านไปเลย ฟินมือไปอีกแบบครับ

นอกจากนี้ X200 ก็ยังมีสีน้ำเงิน Ocean Blue ที่มีลวดลายฝาหลังสวย ๆ ให้เลือกด้วยนะ รอบนี้ vivo ไทยเอาใจแฟน ๆ ที่ชมสีนี้ตอนเปิดตัวในจีนแบบเต็ม ๆ เลยล่ะ

ด้าน vivo X200 Pro เราก็ได้สีไฮไลท์อย่างสี Titanium Gray มาเลย ดูหรูอลังการแบบทางการขึ้นมาอีกหน่อย โทนจะออกทองอ่อน ๆ ที่ไม่ฉูดฉาดนัก ผิวสัมผัสก็เป็นแบบด้านไปทั้งหมดตั้งแต่ฝาหลังไปจนถึงกรอบเครื่องเลย

หรือถ้าอยากได้สีเข้ม ๆ สีดำ Midnight Black ก็มีให้เลือกเหมือนกับ vivo X200 ด้วยครับ

ทรวงทรงของ vivo X200 Series นั้นจะถูกปรับให้เข้าไม้เข้ามือกว่าเดิมด้วยการเพิ่มความโค้งมนเข้ามาในทุกมุมของตัวเครื่อง ทั้งหน้าจอฝาหลังและกรอบเครื่องให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและละมุนขึ้นเมื่อถือบนมืออย่างมาก

ด้านน้ำหนักก็ทำได้ดีขึ้น ในรุ่น vivo X200 นั้นกระจายน้ำหนักดีมาก ไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่มากกว่าในส่วนบนเลย Weight Balance ดีทีเดียว ส่วนรุ่น Pro ก็ยังรู้สึกอยู่บ้าง เพราะชุดกล้องที่ให้มาจัดเต็มจริง ๆ แต่ก็ถือว่าปรับให้ลงตัวกว่าเดิมครับ

พลิกมาดูที่หน้าจอกันบ้าง vivo X200 Series ใช้กระจกหน้าจอแบบโค้ง 4 ด้าน (Micro Quad-Curved Screen) เหมือนกัน เพิ่มความโค้งมนให้การสัมผัสอย่างมาก แต่ตัวจอจริง ๆ ยังเป็นแบบแบน ทำให้การแสดงผลคมชัด ขนาดหน้าจอรอบนี้ปรับให้แตกต่างกันคือ X200 ขนาด 6.67″ ส่วน X200 Pro ขนาด 6.78″ แบ่งเป็นจอใหญ่และจอใหญ่กว่านั่นเอง

แต่ด้านสเปคจอของทั้งคู่ถ้าไม่นับขนาด จะได้มาเหมือนกันแทบทั้งหมดเลยคือ ความละเอียด 2800×1260 พิกเซล, Refresh rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits ครับผม เรียกว่าเป็นจอเกรดสูฃที่มอบมิติของภาพได้อย่างจัดเต็มทีเดียว

กรอบเครื่องของ vivo X200 Series มีการปรับให้เข้ามือมากขึ้นอีก อย่างที่บอกว่าทั้งคู่ปรับมาใช้กระจกจอแบบโค้ง 4 ด้าน ซึ่งตัวจอไม่ได้โค้งจริง ๆ ทำให้ไม่กินพื้นที่ไปถึงกรอบเครื่องเหมือนรุ่นก่อน ๆ กรอบเครื่องจึงมีพื้นที่มากขึ้น เวลาจับถือจะได้ความรู้สึกที่เต็มมือกว่าเดิมนั่นเองครับ

ตำแหน่งปุ่มกดก็จะอยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power พอพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ตัวปุ่มก็ขยายได้มากกว่าเดิม กดง่ายเลยรอบนี้

ด้านบนตัวเครื่องรอบนี้ปรับให้เรียบง่ายกว่าเดิม ไม่มีสโลแกน Professional Photography แบบที่แล้ว ๆ มาและทิ้งพื้นที่ให้ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแทน ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C ลำโพงหลักของตัวเครื่อง ไมโครโฟนสนทนาและช่องใส่ซิม

ซึ่งตัวถาดใส่ซิมจะเป็นแบบ Dual-Slot คือใส่ได้ 2 nano-SIM นั่นเองครับ เพิ่ม microSD ไม่ได้อยู่แล้วเนาะ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ vivo X200 Series ก็ถือว่าคงความดีงามของรุ่นก่อนไว้ครบถ้วน ทั้งกล้องหลังพร้อมวงแหวนโดดเด่น สีสันที่เรียบหรู งานประกอบที่แน่นหนา แต่ปรับบางอย่างให้ดูทันสมัยและใช้งานได้จริงขึ้นอีก ด้วยหน้าจอกระจกโค้ง 4 ด้านตามสมัยนิยม กรอบเครื่องที่มีพื้นที่มากขึ้น หรือจะเป็น Weight Balance ที่ทำได้ดีกว่าเดิมมากด้วย!

กล้อง vivo X200 Series

เข้าเรื่องกล้องสักนิดละกันเนอะ แม้จะบอกว่าเป็นแค่แกะกล่องพรีวิว แต่จุดเด่นของ vivo X200 Series ก็คือกล้องนี่นา ทั้ง 2 รุ่นได้กล้องหลังมา 3 ตัวเคลือบเลนส์ ZEISS T* Coating เท่ากัน แต่จะมีสเปคที่แตกต่างกันอยู่เราสรุปคร่าว ๆ ไว้ดังนี้ละกันเนาะ

สเปคกล้อง vivo X200

  • 50MP กล้องหลัก VCS True Color (เซ็นเซอร์ IMX921 ขนาด 1/1.56″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide-angle (เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 50MP กล้อง ZEISS Telephoto Camera 3x (เซ็นเซอร์​ IMX882 ขนาด 1/2″) f/2.57

สเปคกล้อง vivo X200 Pro

  • 50MP กล้องหลัก ZEISS True Color (เซ็นเซอร์ LYT-818 ขนาด 1/1.28″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide-angle (เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 200MP กล้อง ZEISS APO Telephoto Camera 3.7x (เซ็นเซอร์​ ISOCELL HP9 ขนาด 1/1.4″) f/2.67

อย่างที่เห็นว่าทั้งคู่ได้ระยะของกล้องมาครบทั้ง Ultra Wide, Wide, Tele แต่จุดที่ต่างกันจริง ๆ คือกล้องหลักและกล้อง Telephoto (Periscope) ในรุ่น X200 จะได้ระยะ 3x เซ็นเซอร์พอเหมาะ แต่ X200 Pro จะได้ระยะ 3.7x เซ็นเซอร์ใหญ่เบิ้มความละเอียด 200MP กันเลย

ด้านโหมดการถ่ายภาพก็มีโหมดใหม่ ๆ อย่าง Super Landscape ที่เข้ามาเติมเต็มการถ่ายภาพวิวได้หลากหลายและง่ายดายกว่าเดิม มีทั้ง “Atmosphere” และ “Soft” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวิวที่สวยงามและมิติได้ง่าย ๆ เพียงแค่แตะเปลี่ยนโหมด

หรือจะเป็นโหมดถ่ายคน รอบนี้ vivo X200 Series ก็มี ZEISS Multifocal Portrait มาให้เลือกหลายระยะ และเพิ่มตัวเลือก 85มม. กับ 135 มม.เข้ามาให้เราเก็บภาพ Portrait ได้มืออาชีพยิ่งขึ้นอีกด้วย

ซึ่งคุณภาพที่ได้แอบบอกเลยว่ายอดเยี่ยมทั้งคู่ครับ การประมวลผลต่าง ๆ มีความเป็น vivo และ ZEISS สูงมาก ถ่ายสวยจบ ครบทุกระยะจริง ๆ เอาน้ำจิ้มมาฝากกันนิดหน่อยที่ด้านล่างนี้เลย

สเปค vivo X200 Series

มาดูเรื่องสเปคกันบ้าง vivo X200 Series ก็จัดสเปคมาน่าสนใจมากด้วยชิปเซ็ต Dimensity 9400 ตัวล่าสุดจาก MediaTek ที่อัปเกรดมาใช้กระบวนการผลิตแบบ TSMC 3nm แล้ว เคลมว่า CPU เร็วขึ้น 28% GPU แรงขึ้น 41% และยังประหยัดพลังงานลงสูงสุด 44% อีกด้วยนะ

ด้านความจุรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะมีรุ่นละความจุเลยคือ vivo X200 ความจุ 12GB+256GB ส่วน vivo X200 Pro ความจุ 16GB+512GB ครับ

vivo X200 Series มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนครับ โดย X200 จะได้มาถึง 5800mAh ส่วนรุ่น X200 Pro จะได้มา 6000mAh ทั้งคู่ใช้แบตเตอรี่แบบ Silicone-Carbon จึงไม่ทำให้เครื่องหนาเตอะตะ แถมระบบชาร์จเร็วยังรองรับถึง 90W FlashCharge ทั้งคู่ด้วยนะ

ซอฟต์แวร์ vivo X200 Series

เรื่องซอฟต์แวร์ vivo X200 Series ใช้ FunTouchOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเลย รอบนี้ vivo ปรับโฉมให้ใกล้เคียงกับ OriginOS ของฝั่งจีนมากขึ้น ทันสมัยและดูน่าใช้ยิ่งขึ้น บวกกับฟีเจอร์ AI บางอย่างที่เพิ่มเข้ามาด้วย

ราคาและโปรโมชั่น

ปิดท้ายที่ราคาหน่อยละกันเนาะ vivo X200 Series เปิดตัวในไทยด้วยกัน 2 รุ่นคือ vivo X200 และ vivo X200 Pro อย่างที่บอกไป มีความจุ ตัวเลือกสีและราคาดังนี้

vivo X200 (12GB+256GB) ราคา 29,999 บาท

วางจำหน่าย 3 สี เขียว Aurora Green, ดำ Midnight Black, น้ำเงิน Ocean Blue

vivo X200 Pro (16GB+512GB) ราคา 39,999 บาท

วางจำหน่าย 2 สี เทา Titanium Gray, ดำ Midnight Black

vivo X200 Series วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป ที่ร้านค้า Official Shop ทั่วประเทศ

โปรโมชั่น ! เมื่อซื้อสินค้าทั้งสองรุ่น รับฟรี

  • หูฟัง vivo TWS 3e มูลค่า 1,799 บาท
  • vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง (มูลค่า 10,999.-)
  • Premium Case (มูลค่า 890.-)
  • สิทธิ์แลกซื้อ vivo Watch 3 ในราคาส่วนลด 50%
  • โปรเครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่ จากราคาประเมินสูงสุด 8,000 บาท

สรุปสเปค vivo X200

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.67″, อัตราส่วน 20:9
  • ความละเอียด : FHD+ (2800 x 1260 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • Refresh rate : 120Hz
  • ชิปเซ็ต : Dimensity 9400 Octa-core 3.626GHz (3nm)
  • RAM : 12GB (LPDDR5X)
  • storage : 256GB (UFS 4.0)
  • แบตเตอรี่ : 5800mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว : 90W FlashCharge
  • กล้องหน้า : 32MP f/2.0
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ IMX921 ขนาด 1/1.56″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide Angle (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 50MP กล้อง Periscope 3x (เซ็นเซอร์​ IMX882 ขนาด 1/2″) f/2.57
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Wi-Fi Display, 2 x 2 MIMO, MU-MIMO, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB-C (USB 2.0)
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68 & IP69
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 15 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 15)
  • สีสัน : Aurora Green, Midnight Black, Ocean Blue

สรุปสเปค vivo X200 Pro

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″, อัตราส่วน 20:9
  • ความละเอียด : FHD+ (2800 x 1260 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • Refresh rate : 120Hz
  • ชิปเซ็ต : Dimensity 9400 Octa-core 3.626GHz (3nm)
  • RAM : 16GB (LPDDR5X)
  • storage : 512GB (UFS 4.0)
  • แบตเตอรี่ : 6000mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว : 90W FlashCharge
  • กล้องหน้า : 32MP f/2.0
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ LYT-818 ขนาด 1/1.28″) f/1.57
  • 50MP กล้อง Ultra Wide Angle (เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ขนาด 1/2.76″) f/2.0
  • 200MP กล้อง Periscope 3.7x (เซ็นเซอร์​ ISOCELL HP9 ขนาด 1/1.4″) f/2.67
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Wi-Fi Display, 2 x 2 MIMO, MU-MIMO, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB-C (USB 3.2)
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68 & IP69
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 15 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 15)
  • สีสัน : Titanium Grey, Midnight Black

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแกะกล่องพรีวิวของ vivo X200 Series ก่อนเท่านั้นเนาะ ยังมีอีกหลายการใช้งานที่เราขอไปลองจริง ๆ จัง ๆ ก่อน อย่างกล้องก็ขอไปซูม ไปถ่าย Portrait มาให้จุใจ ลองเล่นเกมว่าชิปตัวใหม่นี้แรงถึงใจจริง ๆ ไหม แบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะ ๆ พอใช้งานจริงรึเปล่า แล้วพบกันอีกทีในรีวิวฉบับเต็มอีกที ไม่นานเกินรอแน่นอนครับ!

Advertisement
ข่าวประชาสัมพันธ์11 ชั่วโมง ago

Spotify เปิดตัว “Spotify Wrapped” ที่ทุกคนรอคอยพร้อมสรุปพฤติกรรมการฟังของผู้ใช้ตลอดปี 2024

แคมเปญ Spotify ...

Smart Review22 ชั่วโมง ago

รีวิว vivo X200 Series สมาร์ตโฟนเรือธงทรงพลังรอบด้าน จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9400 | ซูมชัดทุกเรื่องราวด้วยกล้อง ZEISS APO Telephoto 200MP!

รีวิว vivo X200 และ ...

IT News1 วัน ago

ต้องจ่าย ! OpenAI เตรียมเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT สำหรับผู้ใช้งานแบบฟรี

ChatGPT แชทบอทยอดนิย...

Android News1 วัน ago

จัดเต็ม ! จอมแม่นเผยข้อมูลกล้อง Xiaomi 15 Ultra มี 4 เลนส์ สูงสุด 200MP

Xiaomi 15 Series ยัง...

Android News1 วัน ago

หลุดสเปคเต็ม OnePlus 13R ได้จอ AMOLED 6.78″ 120Hz l SD 8 Gen 3 l แบต 6000mAh + 80W

หลังจากที่ OnePlus 1...

Smart Review1 วัน ago

รีวิว Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 แท่นชาร์จไร้สายพร้อม MagSafe 15W ชาร์จ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้

รีวิว Belkin BoostCh...

Xiaomi 14T Series workshop Xiaomi 14T Series workshop
ข่าวประชาสัมพันธ์1 วัน ago

Xiaomi จัดเวิร์คช้อปถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน Xiaomi 14T Series

เสียวหมี่จัดกิจกรรมเ...

ข่าวประชาสัมพันธ์1 วัน ago

HwaCom Systems เปิดตัว Fiber Monitor โซลูชันใหม่สำหรับการจัดการเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก

HwaCom Systems Inc. ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก