Connect with us

Featured

รีวิว vivo V25 Pro 5G l vivo TWS Air สมาร์ตโฟนฝาหลังเปลี่ยนสีได้ พร้อมจอ 3D Curved และหูฟัง True Wireless ตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยม

Published

on

รีวิว vivo V25 Pro 5G สมาร์ตโฟน “พอร์ตเทรตทุกคืนพิเศษของคุณ” ที่ถ่ายภาพได้สวยครบทุกสภาพแสงพร้อมให้ใช้งานแบบจบหลังกล้องได้ทันทีเพียงคลิกเดียว ทั้งยังมาพร้อมสเปคระดับเรือธงให้ใช้งานได้ไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโค้ง AMOLED 3D Curved แบบ 120Hz, ขุมพลัง Dimensity 1300, เทคโนโลยี 66W FlashCharge และอื่นๆ อีก ทั้งยังมี vivo TWS Air หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ น้ำหนักเบา เสียงดี ตัดเสียงรบกวนได้ขั้นสุด และสเปคอื่นๆ ที่พร้อมให้ใช้งานได้เต็มที่ ในวันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวจัดเต็มกันครับ โดยขอเริ่มจาก vivo V25 Pro 5G กันก่อนเลย !!

สรุปสเปค vivo V25 Pro 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 158.9 × 73.52 × 8.62 มม.
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล AMOLED 3D Curved ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376 × 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 300Hz และ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 1300 Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.0GHz
  • RAM : 12GB LPDDR4X + 8GB Extended RAM
  • ROM : 256GB UFS 3.1
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89
    • เลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
  • รองรับ 5G SA/NSA
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4830mAh ชาร์จ 66W FlashCharge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง vivo V25 Pro 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์ 44W FlashCharge
  • สาย USB Type-C
  • เคสใส
  • สายแปลง USB Type-C เป็นช่อง 3.5 มม.
  • หูฟังพอร์ต 3.5 มม.
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและบัตรรับประกัน

ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ Color Changing Glass สวยงามไม่เหมือนใคร

vivo V25 Pro 5G ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่ดีไซน์ได้อย่างสวยงามเกินราคาไปมากครับ ด้วยวัสดุที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีโฟโตโคมิก สามารถเปลี่ยนสีได้หลายรูปแบบตามแหล่งกำเนิดแสงอัลตราไวโอเลตหรือเวลาที่โดนแสงแดด โดยสีที่เปลี่ยนได้จะเป็นสีฟ้า Surfing Blue ที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ทำให้รุ่นนี้มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนสมาร์ตโฟนรุ่นไหนแน่นอน

สีหลังเปลี่ยน / สีก่อนเปลี่ยน (สีฟ้าปกติ)

ทั้งนี้สีตัวเครื่องที่สามารถเปลี่ยนได้มีเพียงสีน้ำเงิน Surfing Blue เท่านั้นครับ (สีดำไม่สามารถเปลี่ยนได้) โดยที่ให้ความรู้สึกคล้ายท้องทะเลสีครามและสายลมในช่วงระหว่างเล่นกระดานโต้คลื่นไปตามชายหาด ใครที่ชอบสีที่มีความพรีเมียมชอบเลยสีนี้ตอบโจทย์ความต้องการเป็นอย่างดีเลย

และหากใครที่มองไม่ออกว่าสีที่เปลี่ยนไปจะเปลี่ยนไปอย่าง เราก็ได้ลองนำวัตถุมาบังตอนที่โดยแสงแดดให้ดูกันเลย ซึ่งเราจะเห็นเลยว่าบริวเณที่โดดนแสงแดดจะเปลี่ยนสีไปอย่างชัดเจนเป็นน้ำเงินเข้ม

ใช้งานได้ถนัดมือด้วยวัสดุกระจก Fluorite AG Glass

นอกจากสีสันที่จะสวยงามแล้ว ด้านประสบการณ์ใช้งานของ vivo V25 Pro 5G ก็ทำได้ยอดเยี่ยมครับ ด้วยการใช้วัสดุ Fluorite AG Glass ที่เป็นพื้นผิวกระจกแบบด้านแต่ยังคงให้สีสันเปล่งประกายได้เต็มที่ตามสภาพแสงที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลา แถมเรื่องการจับถือก็ทำได้ถนัดมือ ป้องกันร้อยนิ้วมือได้ดีมากๆ และมีความโค้งตามอุ้งมือด้วย

หน้าจอระดับท็อป AMOLED 3D Curved 120Hz

vivo V25 Pro 5G ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลให้ระดับเรือธงด้วยความโค้งไร้รอยต่อแบบ 3D Curved ให้ความรู้สึกที่พรีเมียม โดยยังมีจอใหญ่ 6.56 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ และรองรับมารฐาน HDR10+ ทำให้ใช้งานแบบเต็มที่ สีสันสดใสและเต็มตาขั้นสุด ถูกใจสายที่รับชมความบันเทิงแน่นอน

และที่ขาดไม่ได้เลยคือการมาพร้อม Refresh Rate 120Hz พร้อม 300Hz Touch Sampling Rate ช่วยให้ใช้งานได้ไหลลื่น ติดนิ้ว และยิ่งเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อเล่นเกม

เท่านั้นยังไม่พอเพราะสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐาน SGS Low Blue Light Certification เพื่อช่วยลดแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาลง ทำให้เราใช้งานได้นานมากขึ้น และไม่รู้สึกเมื่อยล้าดวงตาเกินไป

พาชมรอบเครื่อง

ส่วนด้านบนหน้าจอจะมีกล้องหน้า 32MP Eye AF Selfie และลำโพงสำหรับการสนทนา

ด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ครับ

ที่ล่างตัวเครื่องจะให้มาทั้งช่องใส่ nanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้า-หลัง, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

ขณะที่ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 มาให้ด้วย

และที่ฝาหลังจะมีโมดูลขนาดใหญ่ที่มีกล้องให้ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED โดยยังมีชื่อแบรนด์ vivo สลักที่มุมซ้ายด้วย

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

vivo V25 Pro 5G แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 พร้อมด้วย Funtouch OS 12 ซึ่งเป็น OS ที่ใช้งานได้ไหลลื่นและเสถียร รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่พัฒนามาให้ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้อย่างเต็มครับ

มาพร้อม 5G Dual-Mode

ด้วยความที่เป็นสมาร์ตโฟน 5G ของ vivo V25 Pro 5G ก็รองรับเทคโนโลยี 5G Dual-Mode ที่ใช้งานได้ทั้งแบบ SA และ NSA เพื่อให้เราใช้งานเครือข่าย 5G ได้ตลอดเวลาแน่นอนครับ ที่สำคัญ เรื่องการจับสัญญาณของเสาอากาศก็ทำได้ดีเลยครับ

ใช้งาน Always-on Display และปรับแต่งได้อย่างอิสระ

ด้วยความที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ก็ต้องมาคู่กับฟีเจอร์นี้ครับ โดย AOD จะเป็นการที่แสดงข้อมูลแบบย่อๆ ของระบบรวมถึงการแจ้งเตือนที่แสดงเป็นไอคอนของแอปครับ

ทั้งนี้ เราก็ยังปรับแต่งรูปแบบของ AOD ได้ตามความชอบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์คลาสสิกที่เป็นภาพนิ่ง และรูปแบบที่มีการปรับแต่งที่จะเป็นแอนิเมชั่นเคลื่อนไหว ซึ่งแต่ละแบบเราก็สามารถเลือกสีของตัวอักษรได้เลยด้วย

ระบบความปลอดภัยจัดมาให้ครบถ้วน

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งตำแหน่งของตัวสแกนนิ้วก็อยู่แบบเหมาะมือมากๆ ไม่สูงหรือต่ำมากเกินครับ และการใช้งานจริงก็ยังไม่เจอข้อผิดพลาดเลยครับ หากเราวางตรงตำแหน่งก็สแกนได้เร็วและแม่นยำ

นอกจากนี้ ก็ยังมาพร้อมการสแกนใบหน้าที่จดจำใบหน้าได้ไวมากๆ แต่ก็ยังคงมีความแม่นยำสูงอยู่

คุณภาพลำโพงยอดเยี่ยมด้วยมาตรฐาน Hi-Res Certification

แม้ว่า vivo V25 Pro 5G จะรองรับลำโพงแบบ Mono แต่การใช้งานเมื่อรับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงในแอปต่างๆ ก็ทำได้น่าประทับใจมากครับ คุณภาพเสียงที่เปล่งออกมามีมิติมากๆ เสียงใส และกระหึ่มกำลังดีเลย ใครที่เป็นสายเน้นความบันเทิงน่าจะได้ดื่มด่ำระบบเสียงของรุ่นนี้ได้แน่นอน

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

MediaTek Dimensity 1300 เป็นชิปเซ็ตที่เข้ามาขับเคลื่อนใน vivo V25 Pro 5G รุ่นนี้ครับ โดยเป็นชิปที่ 8 คอร์ (Octa-Core) พร้อมขนาดเล็กเพียง 6 นาโนเมตร และมีความเร็ว Clock ที่ 3.0GHz บอกเลนว่าชิปรุ่นนี้เป็นชิประดับกลาง-ท็อปที่ไม่ธรรมดาเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความร้อนทำได้ดีมาก แต่ยังคงได้ความเร็วและความไหลลื่นของการใช้งานตลอดวันครับ

12GB + 8GB Extended RAM รวม 20GB !!

RAM พื้นฐานของ vivo V25 Pro 5G มีให้มาทั้งหมด 12GB อยู่แล้วครับ ซึ่งเป็น RAM ที่เทียบเท่าระดับเรือธงเลยทีเดียว แต่ยังรองรับฟีเจอร์ 8GB Extended RAM ทำให้รวมได้เป็น 20GB เลยครับ ทำให้เราใช้งานได้อย่างไหลลื่น สลับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ไม่มีสะดุดแน่นอน

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu ได้มาที่ 710,456 คะแนน

Game Boost Mode พร้อม Ultra Game Mode เล่นเกมได้ไหลลื่นขั้นสุด

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยี Ultra Game Mode ที่ช่วยให้เราได้ประสบการณ์เล่นเกมดีขึ้น ทั้งการปิดแจ้งเตือน, ระบบสั่น 4 มิติ รวมถึงการปรับเฟรมเรทได้คงที่ตลอดเวลา และเมื่อเข้าไปในเกมแล้วก็ยังเปิด Game Boost Mode จากแถบด้านข้างเพื่อเปิดใช้โหมด Boost ได้ด้วยครับ ซึ่งจะให้ระบบใช้งาน GPU เต็มที่เพื่อเน้นกราฟิกสวยงามและยังคงได้ความไหลลื่นจากชิปที่ทำงานเต็มประสิทธิภาพเช่นกัน

ทดสอบการเล่นเกม

Dead By Daylight Mobile

มาเริ่มทดสอบกันด้วยเกม Dead By Daylight Mobile สามารถเปิดกราฟิก Ultra ได้และเฟรมเรท 60fps ซึ่งในเกมทำได้ลื่นๆ เลยครับ แถมหน้าจอก็ตอบสนองได้ติดนิ้วเช่นกัน โดยนี่ก็เป็นหนึ่งในประโยชน์ของหน้าจอ 120Hz ครับ

ROV

ต่อด้วย ROV สามารถปรับได้สูงสุดทั้งหมดครับ ทั้งภาพและเฟรมเรท และเมื่อเล่นโหมดปกติไป 5 VS 5 ก็เล่นได้ไหลลื่นตลอดทั้งเกมจริงครับ โดยเฟรมเรทจะวิ่งที่ 59-60fps ตลอดทั้งเกม แทบไม่หลุดไปจากนี้เลยครับ

APEX Legends Mobile

และสุดท้ายกับเกมใหม่อีกเกมอย่าง APEX Legends Mobile ก็เปิดกราฟิก ExtremeHD และเฟรมเรทสูงมากได้ครับ ซึ่งใครที่เล่นเกมแนวนี้อยู่ก็ตอบโจทย์เรื่องคาวมคุ้มค่าได้จริงๆ ครับ

จัดเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 66W FlashCharge พร้อมชาร์จได้อย่างปลอดภัย

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 4830mAh หากใครที่ใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ใช่งานหนักมาก อย่างเช่นเกมหรือถ่ายภาพนานๆ ก็อยู่ได้เช้าถึงเย็นๆ ค่ำๆ เลยครับ และที่ชอบสุดๆ เลยคือการมาพร้อมเทคโนโลยี 66W FlashCharge ช่วยให้ชาร์จได้เร็วแบบสุดๆ ซึ่งจากที่เราทดสอบจาก 19% – 100% ใช้เวลาไปเพียง 48 นาทีเท่านั้นครับ

และหากใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัย vivo V25 Pro 5G ก็มาพร้อม Smart Charging Engine ที่ช่วยคงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เมื่อเรากำลังชาร์จ ทั้งการควบคุมความร้อนระหว่างการชาร์จ การเสื่อมของแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ทำได้นานขึ้นด้วย

กล้อง 64MP OIS Ultra-Sensing ถ่ายคมชัดแม้ในที่แสงน้อย

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องหลังที่จัดเต็มที่ทุกโหมดการถ่ายไม่ต่างจากรุ่นเรือธง ซึ่งรุ่นนี้มีกล้องมาให้รวม 4 เลนส์ แบ่งเป็นกล้องหลัง

  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

และกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

กล้อง 64MP OIS Ultra-Sensing ถ่ายชัดทุกสถาการณ์

กล้องหลักเลนส์หลักของ vivo V25 Pro 5G จัดสเปคมาให้ใช้งานแบบเรือธงเลยทีเดียว ด้วยการรองรับระบบกันสั่นไหว OIS รุ่นใหม่ล่าสุด ช่วยให้ถ่ายได้คมชัดและภาพไม่สั่นไหวได้ดีมากๆ ทั้งยังรองรับการถ่ายภาพทั้ง Auto HDR และ AI เพื่อช่วยปรับแต่งแสงและสีสันต่างๆ ได้อย่างสวยงาม มีความสดใส และเน้นค่าสีที่เข้มมากขึ้น ช่วยให้ดูภาพสวยสดทุกภาพแน่นอนครับ

Super-Wide Angle กว้าง 120 องศา ถ่ายครบทุกมุมมอง

เลนส์หลักที่ 2 ของ vivo V25 Pro 5G จะเป็นเลนส์ Super-Wide Angle ที่สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้มากถึง 120 องศาครับ ซึ่งเป็นมุมมองภาพที่ช่วยให้ถ่ายองค์ประกอบที่ต้องได้การครบถ้วนแน่นอน ไม่ต้องเดินถอยไปไกลๆ ให้เสียเวลา แถมยังได้ภาพที่สีสันใส สวยงาม เก็บแสงและเงาได้ดีครับ และยังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีด้วยเช่นกัน

Natural Portrait ถ่ายภาพบุคคลเป็นธรรมชาติ

ฟีเจอร์กล้องตัวชูโรงของ vivo V25 Pro 5G คงไม่พ้นการถ่าย Portrait ที่ช่วยให้ถ่ายชัด สวยงามเป็นธรรมชาติแบบ Natural Portrait ที่เป็นการถ่ายผ่านฟิลเตอร์ที่ถูกปรับแต่งมาให้ดูสวยงามเหมือนไม่ใช่ฟิลเตอร์

Bokeh Flare Portrait สร้างเอฟเฟ็กต์เสมือนถ่ายด้วยกลล้อง DSLR

ฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ยังคงมีมาให้ในรุ่นนี้ครับ โดยจะเป็นการเบลอฉากหลังให้มากขึ้นกว่าปกติ เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวบุคคล และฉากหลังถ้าได้ดวงไฟโบเก้ก็ยิ่งเพิ่มความมีมิติให้ภาพรวมทั้งหมดเหมือนกับการด้วยกล้อง DSLR ขนาดใหญ่เลยทีเดียวครับ

สร้างสรรค์ภาพได้มากขึ้นด้วย Multi-Style Portrait

Multi-Style Portrait ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ใช้ใน vivo V25 Pro 5G ได้เหมือน โดยจะเป็นสไตล์ของภาพถ่ายที่มีการตกแต่งอย่างหลากหลายสไตล์ให้ไม่มีความน่าเบื่อ ทั้งยังมีการแสดงผลก่อนถ่ายได้แบบเรียลไทม์เพื่อให้เราปรับได้อย่างเหมาะสมก่อนที่จะได้ภาพจริงออกมา

ถ่ายกลางคืนคมชัดด้วย Super Night Mode

ใครที่ชอบถ่ายภาพกลางคืนก็มาพร้อมโหมด Super Night ที่ให้ถ่ายภาพกลางคืนจากทั้งเลนส์หลักหรือ Super-Wie Angle ได้ตามใจชอบ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี Real-Time Extreme Night Vision ช่วยให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น คมชัดและสีสันเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นครับ

เพิ่มมิติถ่ายภาพกลางคืนได้ด้วยเปิดรับแสงนาน

ฟีเจอร์เปิดรับแสงนานหรือการใช้งาน Long Exposure จะเป็นลูกเล่นในการถ่ายภาพกลางคืนให้ดูสวยงามากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องไปตั้งค่าในโหมดโปรให้วุ่นวาย แต่ AI จะช่วยประมวลผลให้ทั้งหมด เหลือเพียงแค่เราเลือกโหมดรับแสงนานและกดถ่ายค้างเอาไว้ไม่กี่วินาทีเท่านั้นครับ

Super Night Filter ใส่ฟิลเตอร์กลางได้อย่างสวยงาม

สำหรับโหมดกลางคืนที่ถ่ายเมื่อครู่ก็สามารถใส่ฟิลเตอร์เพิ่มเพื่อความสนุกและความสวยงามได้อีกขั้นครับ โดยมีให้เลือกกันเพียบ ได้แก่ ดำและทอง, ไซเบอร์พังก์, สปอตไลท์, พื้นผิวสีขาว, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว, สีแดงเข้ม, สีส้มฟ้า และสีส้มเทา

ถ่าย Macro ได้ใกล้สุด 4 ซม.

เลนส์กล้องสุดท้ายของ vivo V25 Pro 5G เป็นเลนส์ Macro ครับ โดยสามารถถ่ายได้คมชัดสูงสุด 4 เซนติเมตร ซึ่งแนะนำให้ถ่ายในที่แสงปกติหรือแสงกลางแจ้งครับ จะได้ภาพที่สวยงามในมุมมองที่ใกล้มากๆ ได้

เซลฟี่คมชัด 32MP Eye AF Selfie

กล้องหน้าของ vivo V25 Pro 5G มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับเทคโนโลยี Eye Autofocus สามารถโฟกัสดวงตาได้อัตโนมัติ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ภาพไม่เบลอแม้ว่าจะขยับไปมาตลอดก็ตามครับ

ถ่ายวิดีโอได้คมชัดด้วยพลังของ OIS

นอกจากพลังการถ่ายภาพนิ่งแล้ว vivo V25 Pro 5G ยังถ่ายวิดีโอได้ไม่แพ้กันเลยครับ ซึ่งการถ่ายวิดีโอเราจะได้ใช้งานระบบกันสั่นไหว OIS แบบเต็มที่แน่นอน ทั้งยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bokeh Portrait Video ที่ช่วยการเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายวิดีโอบุคคลและทำออกมาได้ดีมีมิติมากๆ, HDR Video ช่วยถ่ายภาพย้อนแสงได้สบายๆ และ Vlog Movie ช่วยสร้างวิดีโอสั้นให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องเสียเวลาตัดต่อ

สรุปการใช้งาน vivo V25 Pro 5G

vivo V25 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนในราคาจับต้องได้ที่ใช้งานได้แบบครบถ้วนทุกฟีเจอร์ที่ต้องการแน่นอนไม่มีขาด ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังที่ชูโรงด้วยความละเอียสูงสุด 64MP OIS Ultra-Sensing ใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์ โดยเฉพาะกับการถ่าย Portrait ที่มีลูกเล่นจัดเต็ม ถ่ายชัดสวยงามเป็นธรรมชาติมากๆ หรือจะเป็นกล้องหน้า 32MP Eye AF Selfie ที่ยังคงมีเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อตรวจจับดวงได้แบบไม่มีหลุดโฟกัสแน่นอนครับ ทั้งนี้ สเปคที่อัดแน่นในรุ่นนี้ก็ให้มาแบบขั้นสุด ทั้งหน้าจอ AMOLED 3D Curved ขนาด 6.56 นิ้ว แบบ FHD+ 120Hz, ขุมพลัง Dimensity 1300 รองรับการใช้งาน 5G และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ครบวันด้วยความจุ 4830mAh ที่รองรับ 66W FlashCharge

vivo TWS Air

มาต่อกันด้วย vivo TWS Air หูฟัง True Wireless ที่มาในสโลแกน So Light. So Delightful เพลินกว่า กับดีไซน์ที่เบากว่า โดยการใช้งานถือว่าจัดเต็มเพิลดเพลินไปกับเสียงเพลงและความบันเทิงได้แบบเต็มที่จริงๆ ครับ

สรุปสเปค vivo TWS Air

  • ขนาดตัวเคส : 56 × 52 × 24 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเคส : 38.04 กรัม
  • ขนาดหูฟัง (ข้างละ) : 30.09 × 18.54 × 16.52 กรัม
  • น้ำหนักหูฟัง (ข้างละ) : 3.5 กรัม
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
  • ระยะการเชื่อมต่อ : สูงสุด 10 เมตร
  • ขนาดไดเวอร์ไดนามิก : 14.2 มม.
  • คลื่นส่งสัญญาณ : AAC/SBC
  • คลื่นความถี่ : 20Hz – 20,000Hz
  • กันน้ำ/ฝุ่น (หูฟัง) : IP54
  • แบตเตอรี่ (หูฟังข้างละ) : 29mAh
  • แบตเตอรี่ (เคส) : 430mAh
  • การชาร์จ (เคส) : USB Type-C

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • เคสพร้อมหูฟัง vivo TWS Air
  • สาย USB Type-A to Type-C
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

ดีไซน์เคสกะทัดรัด พกพาได้ทุกที่

ตัวเคสของ vivo TWS Air มาในรูปทรงที่มีความกะทัดรัดมากๆ มีความโค้งมนในทุกด้านอย่างสวยงามเลยครับ โดยสีที่เราได้มาเป็นสีน้ำเงินเข้ม Pebble Blue ผิวแบบด้านที่มีการเคลือบผิวแบบ 3 ชั้น และสามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้อย่างสุดยอดเลยครับ

โดยตัวเคสจะมีไฟแสดงสถานะที่ด้านหน้า

ขณะที่ด้านหลังจะมีปุ่มฟังก์ชัน และล่างมีพอร์ต USB Type-C เพื่อชาร์จตัวเคสครับ

ดีไซน์หูฟังสวมใส่สบายพร้อมก้านที่สั้นลง

ตัวหูฟังไร้สายของ vivo TWS Air ใช้การออกแบบตามการวิจัยจากผู้ใช้งานจริงตามความต้องการเลยครับ โดยการสวมใส่นั้นใส่ได้สบายตลอดวันแน่นอน ไม่ปวดหู และยังคงมีคาวมแน่นหนาในการใส่เดินหรือวิ่งครับ

ทั้งนี้ จะสังเกตได้ว่าบริเวณก้านนั้นสั้นลงถึง 44 มิลลิเมตร เพื่อให้ใช้งานได้ถนัดขึ้น และป้องกันการที่มือปัดไปโดนจนหลุดครับ

น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย

อีกหนึ่งในความพิเศษของหูฟังไร้สาย vivo TWS Air คือน้ำหนักที่เบามากๆ ซึ่งเป็นรุ่นที่เบาที่สุดของ vivo เลยทีเดียว โดยแต่ละข้างจะหนักเพียง 3.5 กรัมเท่านั้นครับ

พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP54

vivo TWS Air มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำที่ IP54 ทำให้ใช้งานได้จริงแบบต่อเนื่องตลอดวัน ไม่ว่าจะโดนเหงื่อหรือฝนปอยก็ยังคงใส่ได้ต่อครับ

เชื่อมต่อง่าย รองรับ Google Fast Pair

ในการเชื่อมต่อถือว่าง่ายมากๆ ครับ หากใครที่ใช้สมาร์ตโฟน vivo อยู่แล้ว จะมีการเด้ง Pop-Up ขึ้นมาเพื่อให้กดเชื่อมต่อได้ทันที ซึ่งก่อนการใช้งานเราต้องโหลดแอปพลิเคชั่น vivo TWS เพื่อปรับแต่งการฟังหรือบอกสถานะแบตเตอรี่ vivo TWS Air ได้ครับ ทั้งนี้ หากใครที่ใช้รุ่นอื่นๆ ที่มี Android 6.0 ขึ้นไป ก็สามารถจับคู่ได้ง่ายเหมือนกันครับ

วิธีการควบคุมหูฟังไร้สาย

ในส่วนของก้านหูฟัง vivo TWS Air ยังรองรับการแตะเพื่อควบคุมอย่างง่ายๆ และตอบสนองได้แบบไม่เจอกีเลย์เลยครับ ซึ่งการควบคุมหลักๆ มีดังนี้

แตะ 2 ครั้ง

  • เพลง : เล่น / หยุดชั่วคราว
  • โทร : รัยสาย / วางสาย

กดค้างไว้

  • โทร : ปฏิเสธสายเรียกเข้า

ระบบเสียงสุดกระหึ่มพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 14.2 มม.

vivo TWS Air เป็นหูฟังไร้สายรุ่นแรกของแบรนด์อีกครั้งที่มาพร้อมกับไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ถึง 14.2 มม. ช่วยให้เสียงที่เปล่าออกมามีความกระหึ่มมากๆ เสียงจะมีมิติ สมจริง รวมถึงได้ความคมชัดอีกด้วยครับ ที่สำคัญยังมาพร้อมวอยซ์คอยล์ทองแดงจาก Daikoku ช่วยให้เพิ่มเสียงเบสให้มีความนุ่มลึก หนักแน่น ให้ฟังเพลงได้เต็มอรรถรสมากขึ้น

จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี DeepX 2.0 ในระดับมืออาชีพ

หูฟังไร้สาย vivo TWS Air มาพร้อมกับคุณภาพชิปเสียง Hi-Fi พร้อมระบบเอฟเฟกต์เสียงระดับมืออาชีพที่ให้ผู้ใช้งานได้ปรับแต่งเสียงที่ต่างกันได้ตามสไตล์ได้ลงตัวสุดๆ ดังนี้

  • เสียงชัด (Clear Voice) ที่จะให้รายละเอียดของเสียงก้องกังวานในรูปแบบของเพลงที่มีคาวมสดใส เช่นเพลง Pop หรือเพลงแนวโรแมนติก เป็นต้น
  • เบสหนัก (Mega Bass) จะให้เสียงเบสที่หนักแน่นและกระหึ่ม ใครที่ฟังเพลงแนว Rock, R&B หรือเพลงที่มีบีทหนักๆ จะต้องชอบแน่นอน
  • เสียงสูงคมชัด (Clear High Pitch) ในโหมดนี้จะเพิ่มความถี่ระดับสูง ทำให้เสียงในย่านความสูงได้เสียงที่ใสและคมชัดมากขึ้น

พูดคุยได้ชัดเจนด้วยระบบอัจฉริยะ AI Dual-Mic ตัดเสียงรบกวนได้ครบถ้วน

vivo TWS Air มีเทคโนโลยี AI Dual-Mic ที่ใช้ความฉลาดของ AI ควบคู่กับไมโครโฟน 2 ตัวในการตัดเสียงรบกวนภายนอกสูงสุดถึง 45% ซึ่งเสียงของเราที่ใช้ vivo TWS Air จะทำให้ปลายสายได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากขึ้นครับ ยิ่งหากใครที่ต้องเดินทางไปด้วย จะช่วยตัดเสียงรถยนต์หรือเสียงลมออกไปได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ

หูฟังหายไม่ต้องกลัวด้วยฟีเจอร์ Find My TWS

หากใครที่ทำหูฟังไร้สาย vivo TWS Air หายไปข้างใดข้างหนึ่งก็จะมาพร้อมฟีเจอร์ Find My TWS ให้เราสามารถค้นหาตำแหน่งของหูฟังแต่ละข้างได้จากการส่งเสียงออกมาเมื่อเราเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่านบลูทูธครับ

ใช้งานได้นานสุดกว่า 25 ชั่วโมง

ในการชาร์จ 1 ครั้งของ vivo TWS Air สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 4.5 ชั่วโมง หรือหากใช้เคสชาร์จร่วมด้วยก็สามารถใช้งานได้นานสุดถึง 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เมื่อแบตเตอรี่หูฟังเหลือน้อยก็สามารถชาร์จผ่านเคสได้แบบชาร์จเร็ว ซึ่งเพียง 10 นาทีก็สามารถฟังเพลงต่อได้นานถึง 1.5 ชั่วโมง

ระยะเวลาในการชาร์จ

  • หูฟัง : ประมาณ 60 นาที
  • เคส + หูฟัง : ประมาณ 140 นาที

สรุปการใช้งาน vivo TWS Air

สำหรับ vivo TWS Air เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless ที่ให้ฟีเจอร์มาคุ้มค่ามากๆ และเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาดูใช้งานได้เกินราคาแน่นอนครับ ใครที่ใช้งานเพื่อรับชมความบันเทิง อย่างฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ผ่านสตรีมมิ่งก็ใช้งานได้เต็มที่แน่นอนครับ เสียงคมชัด มีมิติ ได้ระบบเสียงที่ Surround กระหึ่มสะใจมากๆ ครับ และที่ชอบมากๆ เลยคือดีไซน์ที่สวมใส่ง่ายสุดๆ ใครที่ไม่ชอบใช้หูฟังแบบ In-Ear เพราะใส่แล้วชอบหลุดก็หมดปัญหานี้ได้แบบหมดจดเลยครับ

ราคาและช่องทางการจำหน่าย

vivo V25 Pro 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Surfing Blue และสีดำ Starlight Black สนนราคาอยู่ที่ 19,999 บาท เริ่มพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 24 – 28 กันยายนนี้ และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กันยายนนี้เป็นต้นไป

ส่วน vivo TWS Air เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 1,999 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Bubble White และน้ำเงินเข้ม Pebble Blue

กำลังฮอต

Featured3 วัน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News4 สัปดาห์ ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Android News4 สัปดาห์ ago

5 เหตุผลที่ Galaxy Z Flip5 ยังคงเป็นมือถือจอพับที่น่าใช้สุด ๆ

Galaxy Z Flip5 จัดว่...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก