Buying Guides
มือถือเล่นเกม สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง รวมรุ่นใหม่ ที่ดีที่สุด 2023
มือถือเล่นเกม สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องสเปคเทพ เร็วแรงทุกด้าน หน้าจอลื่น ภาพสวยคมชัด มุมมองกว้างเห็นเต็มตา ซื้อรุ่นไหนดี วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวมรุ่นใหม่ ที่ดีที่สุด 2023 มาไว้ให้แล้ว ไปดูกันเลย

รวม มือถือเล่นเกม สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง
ในปี 2023 บรรดามือถือสำหรับเล่นเกม บางรุ่นหลายคนน่าจะคุ้นชื่อกันอยู่แล้วเพราะเป็นรุ่นระดับเรือธงจากค่ายใหญ่อย่าง Apple หรือ Samsung ด้วยชิปที่ดีที่สุดของแต่ละค่าย การตอบสนองที่รวดเร็วในเสี้ยววินาที รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่ด้วย
นอกจากสเปคที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับการเล่นเกมบางอย่างก็ยัวมีรุ่นที่เน้นไปที่ฟีเจอร์เฉพาะไม่เหมือนใคร เช่น ปุ่มทริกเกอร์ การระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงให้เหนือกว่า และซอฟต์แวร์ที่ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงรูปลักษณ์ที่ไซน์ที่สื่อถึงความเร็วแรงก็เป็นตัวเลือกที่หลายคนนำมาตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของ
ASUS ROG Phone 6 Diablo Immortal Edition

ROG Phone 6 Diablo Immortal Edition เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ROG Phone 6 รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น พร้อมอุปกรณ์เสริมโดยการออกแบบในธีม Diablo อันเป็นเอกลักษณ์จึงเป็นไอเท็มที่แฟนตัวยงของจักวาล Diablo ต้องมีไว้ครอบครอง
ภายใน ROG Phone 6 Diablo Immortal Edition นั้นเหมือนกับ ROG Phone 6 ชิปตัวระดับพรีเมียมที่ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon 8+ Gen 1 พร้อม RAM 16GB LPDDR5 และความจุตัวเครื่อง 512GB UFS3.1
- หน้าจอแสดงผล: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2448 พิกเซล, AMOLED, 1 พันล้านสี, 165Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12
- หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
- GPU: Adreno 730
- RAM: 16GB
- ความจุเครื่อง: 512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.0
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W
ASUS ROG Phone 6D Ultimate

ROG Phone 6D Ultimate เกมมิ่งโฟนที่มาพร้อมชิปเซ็ตระดับเรือธงใหม่ล่าสุด MediaTek Dimensity 9000+ มาพร้อมกับ AeroActive Portal เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยช่องรับอากาศทางด้านหลังของตัวเครื่องที่จะเปิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อติดตั้ง AeroActive Cooler 6
มีหน้าจอ 6.78 นิ้ว AMOLED อัตรา Refresh Rate หน้าจอ 165 Hz, Touch Sampling 720 Hz, touch latency 23 ms ถือว่าเป็นหน้าจอสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด กับ RAM 16GB LPDDR5X ความจุเครื่อง 512GB และแบตเตอรี่ 6000mAh
- หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2448 พิกเซล, AMOLED, 1 พันล้านสี, 165Hz, HDR10+
- จอด้านหลัง: 2 นิ้ว OLED
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12
- ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 9000+
- GPU: Mali-G710 MC10
- RAM: 16GB
- ความจุเครื่อง: 512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W
Samsung Galaxy S23 Ultra

Galaxy S23 Ultra แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับลิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ที่ปรับแต่งเองสำหรับ Galaxy โดยเฉพาะ และการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียด 200MP
ฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอก็น่าสนใจ อย่างการมีโหมดวิดีโอ Astro Hyperlapse หรือการปรับปรุงความเสถียรของวิดีโอให้ดีขึ้นกว่ากล้องหลัก 108MP ตัวเก่าด้วยฟีเจอร์ Adaptive VDIS รวมไปถึงแบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
- หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB/12GB
- ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 4 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
- กล้อง Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Xiaomi 13 Pro

Xiaomi 13 Pro ใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2 ด้วยการออกแบบ CPU แบบฟิวชั่น 1+4+3 แบบใหม่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น รองรับระบบชาร์จไวสูงสุดระดับ 120W HyperCharge ที่เร็วมาก ๆ และจากการใช้งานจริงของทีมงานที่จะไม่ชมเลยไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องการจัดการพลังงานและความร้อนที่ทำได้ดีขั้นสุด เพราะนอกจากจะไม่ร้อนมากแล้วยังให้แบตที่อึดทนกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังคงชูจุดเด่นเรื่องกล้องเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพัฒนากล้องร่วมกับ Leica ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการอีกครั้ง และหน้าจอ E6 AMOLED ที่มีความคมชัดและสีสันสูง รองรับ Pro HDR, HDR 10, HDR 10+, Dolby Vision และ HLG ด้วย มอบประสบการณ์การดูคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยม
- หน้าจอ: 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล LTPO AMOLED, 1B colors, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 12GB
- ความจุเครื่อง: 512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50.3 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 4820mAh ชาร์จเร็ว 120W
OnePlus 11 5G

OnePlus 11 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 รองรับการเปิดใช้งานฮาร์ดแวร์แบบเรียลไทม์ หรือ Ray Tracing รวมถึงมีการสร้างวอลเปเปอร์แบบไดนามิคสามมิติ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับเอฟเฟกต์เงา การสะท้อน การหักเหแสงที่สดใสและสมจริง
นอกจากนี้ ยังมากับจอแสดงผล Super Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว 2K 120Hz พร้อมแรม LPDDR5X 16GB และเทคโนโลยี RAM-Vita ทำให้ใช้งานพร้อมกันได้ถึง 44 แอปพลิเคชัน พร้อมมีระบบ 100W SUPERVOOC ให้การชาร์จอันรวดเร็ว ควบคู่กับแบตเตอรี่เซลล์คู่ขนาด 5000mAh
- หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3216 พิกเซล LTPO3 Fluid AMOLED, 1B colors, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย OxygenOS 13
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB/16GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 100W
iPhone 14 Pro Max

iPhone 14 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซ็ต A16 Bionic รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากกว่ารุ่นก่อน และฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวมไปถึงรอยบากที่มีดีไซน์ใหม่บนหน้าจอที่เรียกว่า Dynamic Island ที่ไม่มีเคยมีมาก่อน และจอภาพสามารถปรับอัตรารีเฟรชจาก 1Hz ถึง 120Hz ได้ แต่ใครจะไปคาดคิดว่า Apple จะใช้ประโยชน์ของฟีเจอร์นี้ได้อย่างเต็มที่ด้วยการใส่มากับฟีเจอร์ Always-On Display ด้วย
นอกจากนี้แล้ว ถือเป็นครั้งแรกของ iPhone ที่มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 48MP ใหม่ ที่มีเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ซึ่งจะปรับการทำงานเข้ากับภาพที่ถ่าย เป็นการรวมพิกเซลทุก 4 จุด ให้กลายเป็น 1 ควอดพิกเซลขนาดใหญ่ ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีมากขึ้น
- หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1290 x 2796 พิกเซล LTPO Super Retina XDR OLED, 120Hz, HDR10, Dolby Vision
- ระบบปฏิบัติการ: iOS 16
- ชิปเซ็ต: Apple A16 Bionic
- GPU: Apple GPU
- RAM: 6GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB/1TB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.8
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- LiDAR Scanner
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/1.9
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ Lightning
- แบตเตอรี่: 4323mAh ชาร์จเร็ว
วิธีเลือก สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง มือถือเล่นเกม ที่ดีที่สุด
ต้องบอกว่าการเลือกมือถือไว้ใช้งานสักเครื่องก็เหมือนกับเวลาที่เราเลือกซื้อสิ่งของอื่นๆ โดยมือถือสำหรับเล่นเกมที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ก็เลือกพิจารณาจากชิปเซ็ตระดับท็อป โดยเฉพาะ Snapdragon 8-series ซึ่งล่าสุดก็คือ Snpdragon 8 Gen 2 ที่อยู่ในสมาร์ทโฟน Android รุ่นเรือธงหลายรุ่น หรือถ้าเป็นค่าย Apple ก็ต้องเป็น Apple A16 Bionic ที่อยู่ใน iPhone 14 Pro และ Pro Max
อัตรารีเฟรชเรท คือสิ่งที่ลืมไม่ได้เลย แม้ว่าหน้าจอ 90Hz ขึ้นไปก็ให้การเลื่อนที่ราบรื่นและกราฟิกโดยรวมก็เพียงพอต่อการเล่นเกมแล้ว แต่สำหรับบางเกมที่รองรับกราฟิกขั้นสูงและผู้ใช้งานที่จริงจังมากๆ การเลือกหน้าจอ 120Hz ขึ้นไป ก็จะการสัมผัสที่ลื่นไหลทุกการปัด การแตะ และการตอบสนองที่รวดเร็ว ยิ่งถ้าเป็นการแข่งขันเพื่อชัยชนะแล้วละก็ อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นจะทำให้ไม่พลาดทุกสถานการณ์ที่สำคัญตลอดการเล่นแน่นอน
อีกหนึ่งอย่างที่ควรพิจารณาคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ เพราะจะเป็นส่วนสำคัญในการเล่นเกม เนื่องจากเกมจะมีการใช้พลังงานที่มากกกว่าการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว การชาร์จแบบไร้สาย การกันน้ำ หรือระบบระบายความร้อนที่ดี ก็เป็นสิ่งควรต้องมีเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล มือถือเล่นเกม สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง ในปี 2023 แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบและเหมาะกับการใช้งานของเราจะดีที่สุด อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ