Buying Guides
มือถือกล้องเทพ 10 อันดับ จาก DXOMARK ปี 2023
มือถือกล้องเทพ 10 อันดับ จาก DXOMARK ที่สามารถทำคะแนนสูงสุดในปี 2023 อัปเดทข้อมูลล่าสุดเฉพาะรุ่นที่เปิดตัวในปีนี้ ต้องบอกเลยว่าวันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมรุ่นที่เข้ามาวางจำหน่ายในไทยแล้ว เพื่อให้ทุกคนไม่พลาดรุ่นที่มีกล้องถ่ายรูปสวย แต่จะมีรุ่นใดบ้างนั้น ไปดูกันเลย

หัวข้อเนื้อหาในบทความนี้
- DXOMARK คืออะไร
- DXOMARK Label คืออะไร
- 10 มือถือกล้องเทพ DXOMARK ปี 2023
- 1. HUAWEI P60 Pro ทำได้ 156 คะแนน
- 2. OPPO Find X6 Pro ทำได้ 153 คะแนน
- 3. HONOR Magic5 Pro ทำได้ 152 คะแนน
- 4. OPPO Find X6 ทำได้ 150 คะแนน
- 5. Samsung Galaxy S23 Ultra ทำได้ 140 คะแนน
- 6. Google Pixel 7a ทำได้ 133 คะแนน
- 7. Samsung Galaxy S23+ ทำได้ 133 คะแนน
- 8. Samsung Galaxy S23 ทำได้ 133 คะแนน
- 9. Motorola Edge 40 Pro ทำได้ 130 คะแนน
- 10. OnePlus 11 ทำได้ ทำได้ 127 คะแนน
- 11. Redmi Note 12 Pro+ 5G ทำได้ 113 คะแนน
- วิธีเลือกซื้อ มือถือกล้องเทพ ปี 2023
DXOMARK คืออะไร

DXOMARK เป็นเว็บไซต์เชิงพาณิชย์ที่ให้มาตรฐานอิสระในการประเมินกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนและกล้องทางวิทยาศาสตร์ โดยผลการประเมินจะออกมาเป็นตัวเลขและข้อมูลฉบับเต็มของการทดสอบเพื่ออธิบายการวัดผล
หากคุณกำลังสนใจกล้องหรือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเกี่ยวกับ DXOMARK เพราะเว็บไซต์นี้เป็นแหล่งที่เชื่อถือได้สำหรับบทวิจารณ์เชิงลึกและการให้คะแนนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านคุณภาพและประสิทธิภาพในการวัดผล จึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ต้องการอัปเกรดเทคโนโลยี
เรียกได้ว่า DXOMARK มีความสำคัญต่อผู้ที่ชื่นชอบกล้องด้วยรายละเอียดข้อมูลที่วิเคราะห์ประสิทธิภาพของกล้องและสมาร์ทโฟนอย่างละเอียดและมีวัตถุประสงค์ การให้คะแนนคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพของภาพ โฟกัสอัตโนมัติ และความสามารถของวิดีโอ ทำให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของอุปกรณ์ ทำให้ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับช่างภาพและช่างวิดีโอที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์สำหรับอาชีพหรืองานอดิเรก บทวิจารณ์ของ DXOMARK สามารถช่วยให้หลายคนตัดสินใจในการเลือกกล้องหรือสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่เหมาะกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
DXOMARK Label คืออะไร

เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ DXOMARK ให้บริการฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการประเมินอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคในรูปแบบของคะแนน ด้วยจุดประสงค์ในการทำให้ข้อมูลนั้นเข้าถึงได้มากขึ้น ตอนนี้บริษัทกำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการแนะนำ Label ทำให้ทุกคนสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางเทคนิค
ในการให้รางวัล DXOMARK Label จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกการทดสอบ ได้แก่ กล้องหลัก, จอแสดงผล, แบตเตอรี่, เสียง, กล้องเซลฟี่สำหรับสมาร์ทโฟน เช่นเดียวกับลำโพงไร้สาย อีกทั้งการไล่ระดับสีช่วยให้ผู้ใช้อ่านง่าย
ฉลากที่แสดงด้วยชื่อ Gold, Silver และ Bronze เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด ซึ่งกำหนดขึ้นโดยทีมวิศวกรของ DXOMARK และอิงตามระบบการให้คะแนนที่มีมาอย่างยาวนานและเป็นที่ยอมรับจาก 16 ห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย
สำหรับการกำหนดคุณภาพทั้งสามนี้ จะมีการกำหนดเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติทุกปี โดยคำนึงถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยี นวัตกรรม และการปรับปรุงคุณภาพอย่างเต็มที่
10 มือถือกล้องเทพ DXOMARK ปี 2023
1. HUAWEI P60 Pro ทำได้ 156 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 48MP เซ็นเซอร์ RYYB, ระยะ 24.5 มม., รูรับแสงปรับได้ f/1.4 – f/4.0, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 13MP, ระยะ 13 มม., f/2.2, AF
- กล้อง Tele: ความละเอียด 48MP, ระยะ 90 มม , f/2.1
คะแนน 156 ของ HUAWEI P60 Pro กลายเป็น มือถือกล้องเทพ ทิ้งห่างแชมป์เก่า OPPO Find X6 Pro เดิมที่ทำไว้ 153 ไปถึง 3 คะแนนเลยทีเดียว และแน่นอนว่ารุ่นนี้ได้ตราทอง Gold Label 2023 การันตีความเทพเข้าไปอีกหนึ่งด้วย ส่วนคะแนนในแต่ละหมวดก็จะได้ไปดังนี้เลยครับ
- ภาพนิ่ง 159 คะแนน
- โบเก้ 80 คะแนน
- พรีวิว 75 คะแนน
- ซูม 158 คะแนน
- วิดีโอที่ 147 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง HUAWEI P60 Pro ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- ช่วงไดนามิกกว้างในภาพวิวและภาพคน พร้อมคอนทราสต์ที่ดีในทุกสภาพแสง
- สีสวยและสดใสสําหรับทุกสภาพแสงที่ทดสอบในภาพถ่าย สีวิดีโอที่ดีในสภาพกลางแจ้งและในร่ม
- โฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยําในโหมดภาพถ่าย
- ระยะชัดลึกที่มีความคมชัดดีในทุกใบหน้าในภาพหมู่
- รายละเอียดระดับสูงและควบคุม Noise ได้ดีในภาพถ่าย วิดีโอ และการซูม
- เอฟเฟกต์เบลอที่ดีและการแยกวัตถุที่แม่นยําในโหมด Portrait
จุดด้อย
- โทนสีผิวที่ผิดธรรมชาติในวิดีโอที่มีแสงน้อย
- การแสดงรายละเอียดที่ผิดธรรมชาติบางครั้งในสภาวะที่ยากลําบาก
- โฟกัสการก้าวระหว่างการเปลี่ยนฉากของวิดีโอ
- แสงสะท้อนในภาพ
2. OPPO Find X6 Pro ทำได้ 153 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1″, ระยะ 23 มม., f/1.8, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 50MP, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, ระยะ 15 มม., f/2.2
- กล้อง Tele: ความละเอียด 50MP, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, ระยะ 65 มม , f/2.6
- วิดีโอ: สูงสุด 4K/60fps
OPPO Find X6 Pro เฉือนชนะแชมป์เก่าอย่าง HONOR Magic 5 Pro ไป 1 คะแนน (153 vs 152) แถมยังได้ตราทอง Gold Label จากทาง DXOMARK ไปด้วย ส่วนคะแนนในแต่ละหมวดก็จะได้ไปดังนี้เลยครับ
- ภาพนิ่ง 153 คะแนน
- โบเก้ 80 คะแนน
- พรีวิว 72 คะแนน
- ซูม 154 คะแนน
- วิดีโอที่ 148 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง OPPO Find X6 Pro ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- ให้รายละเอียดที่ยอดเยี่ยมทั้งในภาพถ่าย การซูม และวิดีโอ แม้ในที่แสงน้อย
- สัญญาณรบกวนของภาพอยู่ภายใต้การควบคุมในทุกสภาวะ
- โฟกัสอัตโนมัติที่เชื่อถือได้และรวดเร็วในภาพถ่ายและวิดีโอ
- เอฟเฟกต์โบเก้ที่สวยงามพร้อมรายละเอียดของวัตถุที่ดี
- การกันสั่นวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ
จุดด้อย
- ขาดคอนทราสในภาพถ่ายบุคคลเวลาย้อนแสง
- ความไม่แน่นอนของการเปิดรับแสงในภาพถ่ายและวิดีโอ
- การละลายฉากหลังที่มากเกินไป หากต้องการถ่ายภาพกลุ่มอาจต้องใช้การถ่ายระยะไกลเพื่อให้ทุกคนอยู่ในโฟกัส
- สีผิวที่ไม่เป็นธรรมชาติในบางสภาวะ
- ความแตกต่างของช่วงไดนามิกระหว่างการจับภาพและการแสดงภาพตัวอย่าง
3. HONOR Magic5 Pro ทำได้ 152 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.12″, f/1.6, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 50MP, f/2.0 , มุมกว้าง 122º
- กล้อง Tele: ความละเอียด 50MP, f/3.0, OIS, Optical Zoom 3.5x
- วิดีโอ: สูงสุด 4K/60fps
นอกจากนี้ยังได้ตราทอง Gold Label ด้วยคะแนน 152 ถือว่าทิ้งห่างจากแชมป์เก่า HUAWEI Mate50 Pro (ปี 2022) ไป 3 คะแนนเลยทีเดียวครับ ซึ่งคะแนนนี้ก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 154 คะแนน
- โบเก้ 80 คะแนน
- พรีวิว 74 คะแนน
- ซูม 156 คะแนน
- วิดีโอที่ 144 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง HONOR Magic5 Pro ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- การซูมที่ยอดเยี่ยม
- ช่วงไดนามิกกว้าง
- รายละเอียดดีและ Noise ต่ำ
- ออโต้โฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยํา
- สีที่แม่นยําและการเปิดรับแสงที่ดีในช็อตกลางคืน
- การตัดขอบตัวแบบที่ดีมากในโหมด Portrait
จุดด้อย
- ระยะชัดลึกที่จํากัดสําหรับการถ่ายภาพหมู่และฉากที่ซับซ้อน
- การแสดงพื้นผิวที่ไม่พึงประสงค์เป็นครั้งคราวบนใบหน้า
- โฟกัสไม่เสถียรในโหมด Portrait
- สีผิวผิดธรรมชาติเป็นครั้งคราว
- ช่วงไดนามิกที่จํากัดในภาพตัวอย่างเมื่อเทียบกับการจับภาพ
4. OPPO Find X6 ทำได้ 150 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, ระยะ 24mm, f/1.88, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8″, ระยะ 15mm, f/2.05, AF
- กล้อง Tele: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, ระยะ 65mm, f/2.6, AF, OIS
OPPO Find X6 ถ้าเทียบกับรุ่น Pro ก็มีการปรับเปลี่ยนจากรุ่นพี่เล็กน้อยด้วยการใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว รองรับ Refresh rate 40-120Hz ทั้งนี้ในกล้องหลังจะได้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลเหมือนกันทั้งหมด แต่ในเลนส์หลักจะใช้เซ็นเซอร์ IMX890 รวมถึงในเลนส์ Ultra-Wide จะใช้เป็น JN1 ซึ่งยังคงรองรับ Macro อยู่ครับ ส่วนเลนส์ Periscope ยังคงเหมือนกับรุ่น Pro ซึ่งคะแนนนี้ก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 152 คะแนน
- โบเก้ 80 คะแนน
- พรีวิว 77 คะแนน
- ซูม 148 คะแนน
- วิดีโอที่ 143 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง OPPO Find X6 ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- รายละเอียดดีและสัญญาณรบกวนต่ำในภาพถ่ายและวิดีโอ
- โฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำ
- การเปิดรับแสงที่ดีและช่วงไดนามิกกว้างพอสมควรสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอ
- โทนสีผิวทั่วไปดี
- ระยะความลึกที่แม่นยำในโหมดโบเก้
- การเปิดรับแสงและสีที่แม่นยำในการถ่ายวิดีโอ
จุดด้อย
- สมดุลสีขาวผิดปกติเป็นครั้งคราวในการถ่ายแสงกลางวัน
- ปัญหาในเรื่องของการคอนทราสต์ต่ำในรูปภาพ HDR ที่ถ่ายในที่แสงจ้า
- สีโทนร้อนที่ดูไม่ค่อยอิ่มตัวเล็กน้อยในวิดีโอที่มีแสงน้อย
- ภาพวิดีโอเป็นคลื่นๆ เล็กน้อยในการบันทึกบนขาตั้งกล้อง
5. Samsung Galaxy S23 Ultra ทำได้ 140 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 200MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3″, f/1.7, PDAF, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55″, f/2.2 , PDAF, AF, OIS
- กล้อง Tele 1: ความละเอียด 10MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.52″, f/2.4 , PDAF, OIS, Optical Zoom 3x
- กล้อง Tele 2: ความละเอียด 10MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.52″, f/4.9 , PDAF, OIS, Optical Zoom 10x
Galaxy S23 Ultra มือถือกล้องเทพ จาก Samsung อยู่ในอันดับร่วมกับรุ่นที่เปิดตัวในปี 2022 หลายรุ่น ได้แก่ vivo X90 Pro+ และ Pixel 7 โดยในด้านคะแนนยังคงเป็นรอง iPhone 14 Pro Max หรือ HUAWEI Mate 50 Pro
โดยคะแนน 140 นี้แบ่งออกเป็น 5 หมวดดังนี้ครับ
- ภาพนิ่ง 139 คะแนน
- โบเก้ 70 คะแนน
- พรีวิว 73 คะแนน
- ซูม 141 คะแนน
- วิดีโอที่ 137 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Galaxy S23 Ultra ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- รายละเอียดดีมาก
- Dynamic Range ค่อนข้างกว้างในทุกสภาวะแสง
- รายละเอียดที่ดีในการซูมส่วนใหญ่
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหววิดีโอที่มีประสิทธิภาพมาก
- ออโต้โฟกัสที่แม่นยําทั้งในภาพถ่ายและวิดีโอ
จุดด้อย
- คอนทราสต์ต่ำในฉากย้อนแสง
- Noise ในที่แสงน้อยและในร่ม
- การสูญเสียรายละเอียดบนใบหน้าในท้องถิ่นเป็นครั้งคราว
- White Balance เพี้ยนเล็กน้อย
- การเปิดรับแสงน้อยเกินไปในวิดีโอที่มีแสงน้อย
6. Google Pixel 7a ทำได้ 133 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 64MP เซ็นเซอร์ 1/1.3″, ขนาดพิกเซล 1.0μm, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 12MP, ขนาดพิกเซล 1.25 μm, ระยะ 14มม. f/2.2
คะแนน 133 นี้ถ้านับเป็นอันดับของทั้งหมดจะอยู่ที่อันดับ 27 ร่วมกับ iPhone 14 Plus, iPhone 14, Galaxy S23+ และ Galaxy S23 ครับ ส่วนถ้าเทียบในกลุ่มราคา High-End (ราคา $400 – $600) ก็ถือว่าอยู่สูงถึงอันดับ 2 เป็นรองแค่รุ่นพี่ Pixel 7 เท่านั้น แบ่งเป็นหมวด ๆ จะได้ดังนี้เลยครับ
- ภาพนิ่ง 138 คะแนน
- โบเก้ 70 คะแนน
- พรีวิว 69 คะแนน
- ซูม 105 คะแนน
- วิดีโอที่ 133 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Pixel 7a ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- สีธรรมชาติและสมดุลสีขาวที่ดีในภาพถ่าย
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหววิดีโอที่มีประสิทธิภาพ
- การเปิดรับแสงที่ดีทั้งในภาพถ่ายและวิดีโอ
- ออโต้โฟกัสที่รวดเร็วและเสถียร
- การประมาณความลึกที่แม่นยําในโหมดโบเก้
- มุมมองที่กว้างในกล้อง Ultra Wide
จุดด้อย
- สูญเสียรายละเอียดในวิดีโอ
- วิดีโอที่เปิดรับแสงน้อยเกินไปในการถ่ายบุคคล
- Noise ในที่แสงน้อย
- ระยะชัดลึกจํากัด
- สมดุลสีขาวที่ไม่เสถียรในแสงจ้าและวิดีโอในร่ม
- ขอบฟุ้งในวิดีโอ และขอบม่วงในภาพถ่าย
7. Samsung Galaxy S23+ ทำได้ 133 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, f/1.8, PDAF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55″, f/2.2, Super Steady Video
- กล้อง Tele: ความละเอียด 10MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.94″, f/2.4, PDAF, OIS
Samsung Galaxy S23+ และ Galaxy S23 ใช้สเปคกล้องหลังที่เหมือนกัน รวมถึงชิปเซ็ตเดียวกัน ดังนั้นตามที่คาดไว้ ผลลัพธ์ของกล้องทั้ง 2 รุ่นนั้นเหมือนกันทุกประการ ซึ่งคะแนน 133 นี้ก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 129 คะแนน
- โบเก้ 70 คะแนน
- พรีวิว 72 คะแนน
- ซูม 126 คะแนน
- วิดีโอที่ 137 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Galaxy S23+ ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- ช่วงไดนามิกค่อนข้างกว้าง
- การแสดงสีที่แม่นยำในทุกสภาวะ
- รักษารายละเอียดได้ดีในทุกสภาวะ
- การรักษารายละเอียดที่ดีในระยะใกล้และระยะกลางในสภาพกลางแจ้งและในร่ม
- ความสามารถในการติดตามโฟกัสที่ดีในการถ่ายวิดีโอ
จุดด้อย
- โฟกัสอัตโนมัติผอดพลาดในสภาพแสงน้อยและในที่ร่ม
- เสียรายละเอียดเฉพาะจุดในสภาพกลางแจ้ง
- สัญญาณรบกวนเห็นได้ในทุกสภาวะ
- การเรนเดอร์ใบหน้าในทุกสภาวะ
- ถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยยังเปิดรับแสงได้ไม่ดี
8. Samsung Galaxy S23 ทำได้ 133 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, f/1.8, PDAF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55″, f/2.2, Super Steady Video
- กล้อง Tele: ความละเอียด 10MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.94″, f/2.4, PDAF, OIS
คะแนนกล้องของรุ่นนี้ 133 คะแนนเท่ากับ Samsung Galaxy S23+ ด้วยชุดเลนส์กล้องเดียวกันนั่นเอง ซึ่งก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการทดสอบของ DXOMARK เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่หลากหลาย สามารถถ่ายภาพคุณภาพสูงได้ในสภาพแสงส่วนใหญ่ รวมถึงภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน ซึ่งคะแนนก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 129 คะแนน
- โบเก้ 70 คะแนน
- พรีวิว 72 คะแนน
- ซูม 126 คะแนน
- วิดีโอที่ 137 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Galaxy S23 ที่ DXOMARK รีวิวไว้ก็จะมีดังนี้เลยครับ
จุดเด่น
- ช่วงไดนามิกค่อนข้างกว้าง
- การแสดงสีที่แม่นยำในทุกสภาวะ
- รักษารายละเอียดได้ดีในทุกสภาวะ
- การรักษารายละเอียดที่ดีในระยะใกล้และระยะกลางในสภาพกลางแจ้งและในร่ม
- ความสามารถในการติดตามโฟกัสที่ดีในการถ่ายวิดีโอ
จุดด้อย
- โฟกัสอัตโนมัติผอดพลาดในสภาพแสงน้อยและในที่ร่ม
- เสียรายละเอียดเฉพาะจุดในสภาพกลางแจ้ง
- สัญญาณรบกวนเห็นได้ในทุกสภาวะ
- การเรนเดอร์ใบหน้าในทุกสภาวะ
- ถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยยังเปิดรับแสงได้ไม่ดี
9. Motorola Edge 40 Pro ทำได้ 130 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.5″, f/1.88, AF, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8″, f/2.2
- กล้อง Tele: ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.93″, f/1.6, AF
Motorola Edge 40 Pro เป็นอีกหนึ่ง มือถือกล้องเทพ ที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีในการทดสอบคุณภาพของภาพส่วนใหญ่ของ DXOMARK เมื่อถ่ายภาพนิ่ง การเปิดรับแสงของวัตถุและสมดุลแสงขาวทำได้ดีในสภาพการทดสอบส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะแสงน้อยและภาพกลางคืน โฟกัสอัตโนมัติทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำในสภาพแสงจ้า
- ภาพนิ่ง 133 คะแนน
- โบเก้ 70 คะแนน
- พรีวิว 70 คะแนน
- ซูม 95 คะแนน
- วิดีโอที่ 135 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Motorola Edge 40 Pro ก็จะมีดังนี้เลย
จุดเด่น
- การเปิดรับแสงโดยทั่วไปดี โดยเฉพาะในที่ร่มและในที่แสงน้อยและภาพกลางคืน
- สมดุลสีขาวเป็นธรรมชาติ
- รายละเอียดดีในที่แสงจ้า
- ตัดฉากละลายหลังได้ดีในโหมดโบเก้
จุดด้อย
- สัญญาณรบกวนในการถ่ายสภาพแสงจ้า โดยเฉพาะในท้องฟ้าสีคราม
- คอนทราสต์ที่ผิดธรรมชาติบนใบหน้าในฉากที่มีคอนทราสต์สูง
- โฟกัสช้า
- สีเพี้ยนบริเวณขอบภาพ
10. OnePlus 11 ทำได้ ทำได้ 127 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP Sony IMX709 RGBW เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56”, ระยะ 24mm, f/1.8, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 48MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.0″
- กล้อง Tele: ความละเอียด 32MP, f/2.74
OnePlus 11 ทำได้โดดเด่นในภาพนิ่งที่มีการเปิดรับแสงและรายละเอียดที่ดี รวมทั้งมีสัญญาณรบกวนต่ำ ช่วงไดนามิกกว้างช่วยให้มั่นใจได้ถึงรายละเอียดที่ดีทั้งในส่วนไฮไลต์และส่วนเงาของเฟรม ซึ่งคะแนนก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 134 คะแนน
- โบเก้ 65 คะแนน
- พรีวิว 60 คะแนน
- ซูม 103 คะแนน
- วิดีโอที่ 121 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง OnePlus 11 ก็จะมีดังนี้เลย
จุดเด่น
- เปิดรับแสงได้ดี
- ช่วงไดนามิกกว้าง
- รายละเอียดดีและสัญญาณรบกวนต่ำในภาพถ่ายและวิดีโอ
- แยกฉากละลายหลังได้ดีในโหมดโบเก้
จุดด้อย
- HDR ยังทำได้ไม่ค่อยดี
- ความไม่เสถียรของสมดุลแสงขาวและการแสดงสีที่ไม่ถูกต้องในภาพถ่ายและวิดีโอ
- การเพิ่มความคมชัดมากเกินไปทำให้เกิด halo artifacts
11. Redmi Note 12 Pro+ 5G ทำได้ 113 คะแนน

- กล้องหลัก: ความละเอียด 200MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4″, f/1.65, OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 8MP, f/2.2
- กล้อง Macro: ความละเอียด 2MP, f/2.4
- วิดีโอ: สูงสุด 4K/30fps
Redmi Note 12 Pro+ 5G ถือว่าทำคะแนนออกมาได้ดีในกลุ่มระดับไฮเอนด์ในการทดสอบกล้อง DXOMARK โดเด่นในเรื่องสมดุลสีขาวที่แม่นยำ การเรนเดอร์ภาพถ่ายทำได้ดีเป็นพิเศษในที่แสงน้อย แต่ออโต้โฟกัสมีปัญหาในสภาพแสงน้อยมากๆ ซึ่งคะแนนก็จะแบ่งเป็นหมวด ๆ ดังนี้
- ภาพนิ่ง 117 คะแนน
- โบเก้ 55 คะแนน
- พรีวิว 62 คะแนน
- ซูม 77 คะแนน
- วิดีโอที่ 117 คะแนน
สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของกล้อง Redmi Note 12 Pro+ 5G ก็จะมีดังนี้เลย
จุดเด่น
- เปิดรับแสงได้ดี
- ช่วงไดนามิกกว้างและสมดุลสีขาวที่เหมาะสมในที่แสงน้อย
- รายละเอียดค่อนข้างดีในภาพถ่ายที่มีแสงจ้า
- สัญญาณรบกวนต่ำในที่แสงจ้า
- ออโต้โฟกัสวิดีโอที่แม่นยำและรวดเร็ว
จุดด้อย
- การเปิดรับแสงในวิดีโอ
- ความคมชัดมากเกินไปและการสูญเสียรายละเอียดในวิดีโอ
- การบิดเบือนเล็กน้อยและความคลาดเคลื่อนของสีในภาพถ่ายมุมกว้างพิเศษ
- รายละเอียดภาพยังทำได้ไม่ดีเมื่อถ่ายในอาคาร
- โฟกัสช้า โดยเฉพาะในฉากที่มีคอนทราสต์สูง ในที่ร่มและในที่แสงน้อย
- ความเสถียรของวิดีโอถือว่าทำได้ดี แต่การเคลื่อนไหวยังทำได้ไม่ดี
วิธีเลือกซื้อ มือถือกล้องเทพ ปี 2023
- กล้องถ่ายรูป: สิ่งที่ขนาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนเลยก็คือเรื่องกล้องถ่ายรูป นอกจากจะต้องมีความละเอียดสูงสุดในระดับ 4K มีเลนส์ครบทุกตัวแล้ว ระบบกันสั่น OIS ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องมี เพื่อให้การถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอนั้นคมชัด ไม่เบลอ
- ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานได้ได้อย่างไม่ติดขัด ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกม ก็ควรเลือกมือถือที่มี 8GB ขึ้นไป เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
- หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป เล่นโซเชียล ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยแผงหน้าจอ AMOLED หรือ OLED ก็จะมีสันสันที่สวยงาม ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูง
- กราฟิกและเกม: สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ออกมาเพื่อการเล่นเกมทั่วไปได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ก็อาจมองหาชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์ ซึ่งทุกรุ่นในบทความนี้ก็มาพร้อมชิปเรือธงอยู่แล้ว รวมไปถึงหน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ขึ้นไปก็จะทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความลื่นไหลมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอก็จะเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
- ตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการกันน้ำ และการเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ ก็จะทำให้การจับถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อยด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็น มือถือกล้องเทพ ที่มีกล้องดีที่สุดจากการทดสอบ DXOMARK (เว็บไซต์ทางการ) เฉพาะรุ่นที่เปิดตัวในปี 2023 ถูกใจรุ่นไหน และเพื่อนๆ ใช้งานรุ่นไหนกันอยู่บ้าง อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ