10 มือถือ ราคาไม่เกิน 15,000 บาท น่าซื้อ น่าใช้ ปี 2023

ในปัจจุบัน มือถือมีราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับเรือธง สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด มือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้อย่างครบครัน ทั้งการถ่ายภาพ การทำงาน และความบันเทิง

มือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท ในปี 2023 มีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละคน ดังนั้นให้เลือกมือถือที่ตรงกับความต้องการและการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

10 มือถือ ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ปี 2023

Samsung Galaxy A54 5G

Galaxy A54 5G หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต ใช้ชิปเซ็ต Exynos 1380 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ด้านการถ่ายรูปมีกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอที่ทำได้สูงสุด UHD 4K Auto Focus พร้อมด้วยระบบกันสั่นไหว OIS + เทคโนโลยีกันสั่น VDIS และกล้องหน้าเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่าย Vlog ชัดทั้งหน้าทั้งเสียง

• หน้าจอ: 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Exynos 1380
• GPU: Mali-G68 MP5
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A34 5G

Galaxy A34 5G มือถือ Samsung มาพร้อมหน้าจอ Infinity-U แบบ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz เหมือนกัน Galaxy A54 5G ภายในใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ตัวเครื่องการันตีคุณภาพให้รองรับการอัปเกรด OS ได้ถึง 4 เจเนอเรชัน รวมไปถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยสูงได้ถึง 5 ปี ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงทุกการอัปเดตเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

OPPO Reno10 5G

OPPO Reno10 5G มือถือระดับกลางรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ถึง 2 เท่า โดยทางยาวโฟกัสจะทำให้บีบอัดระยะของบุคคลในภาพและพื้นที่ภายในภาพ เพื่อทำให้ตัวแบบใกล้ขึ้นและโดดเด่นยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ RGBW IMX709 ขนาดใหญ่จับภาพที่มีความละเอียดสูงสุด เท่าที่เคยมีมาในกลุ่มราคานี้

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1
• ชิปเซ็ต: Mediatek Dimensity 7050
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Telephoto 32 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

vivo V29 5G

vivo V29 5G มีกล้องหลังความละเอียด 50MP รองรับฟีเจอร์ Aura Light Portrait 2.0 ปรับอุณหภูมิสีของแสงให้กลมกลืนกับทุกสภาพแวดล้อม มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G กับ RAM 12GB เทคโนโลยี Memory Booster รองรับ Extended RAM ขยายได้สูงสุดถึง 8GB

นอกจากนี้ก็ใช้งานต่อเนื่องไม่มีสะดุด ด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 80W อัปเกรดใหม่ แบตเตอรี่ขนาด 4600mAh พร้อมหน้าจอความละเอียดสูง 1.5K AMOLED 3D Curved Screen ขนาด 6.78” รองรับรีเฟรชเรท 120Hz อีกด้วย

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260 x 2800 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 778G 5G
• GPU: Adreno 642L
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4600mAh ชาร์จเร็ว 80W

vivo V29e 5G

vivo V29e ใช้ดีไซน์แบบ Artistic ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสานกับผิวสัมผัสแบบผิวด้าน Glossy Matte Splicing ที่สามารถดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี มีหน้าจอโค้ง 120Hz 3D Curved มุม 57.7 องศา แบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว รองรับ Refresh Rate 120Hz และแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 44W FlashCharge

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 695 5G
• GPU: Adreno 619
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4800mAh ชาร์จเร็ว 44W

realme 11 Pro 5G

 realme 11 Pro Series 5G มาพร้อมดีไซน์ที่ปรับโฉมใหม่ให้พรีเมียมมากขึ้น เป็นวัสดุหนังวีแกนในสี Sunrise Beige และ Oasis Green หรือผิวด้านสวยงามแบบสีดำ Astral Black ก็ได้ความสวยงามที่ต่างอารมณ์กัน ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบ รวมไปถึงการได้หน้าจอโค้ง Curved Vision แบบ 120Hz แสดงผลสี 10-bit และชิปประมวลผลยังได้เป็น Dimensity 7050 ที่ประสิทธิภาพสูง เล่นเกมได้สบายๆ ปรับสุดได้อีกด้วย

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล, AMOLED, 1 พันล้านสี, HDR10+, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7050
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 100 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

POCO X5 Pro 5G

POCO X5 Pro 5G มือถือ Xiaomi มาพร้อมหน้าจอ Flow AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว โดยนับเป็นรุ่นแรกสำหรับสมาร์ทโฟน POCO X series ที่ใช้หน้าจอนี้ และมีอัตราการรีเฟรชระดับเรือธง 120Hz โดยกล้องหลักมีความละเอียด 108MP และแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รองรับการชาร์จแบบเทอร์โบ 67W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14 for POCO
• หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 778G 5G
• GPU: Adreno 642L
• RAM: 6GB/8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

Redmi Note 12 Pro+ 5G

Redmi Note 12 Pro+ 5G เป็นรุ่นที่น่จะเป็นคำตอบสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจ Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผลสีสันสดใส 120Hz AMOLED กล้องคมชัดสูงสุดถึง 200MP เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการพร้อมระบบกันสั่น OIS โดยในรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 5G รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos ส่วนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ไฮเปอร์ชาร์จอัจฉริยะ 120W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W

Infinix Zero 30 5G

Infinix Zero 30 5G โดดเด่นด้วยกล้องหน้า 4K 60fps เพื่อการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอ Vlog แบบคมชัด และเอาใจคนหนุ่มสาวที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอกับกล้องหน้าความละเอียด 50M ใช้ชิปเซ็ต 5G MediaTek Dimensity 8020 ขนาด 6 นาโนเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ 3D Curved AMOLED อัตราการรีเฟรช 144Hz เพื่อรองรับทุกการใช้งานและเติมเต็มอรรถรสด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 144Hz, HDR10
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 8020
• GPU: Mali-G77 MC9
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• microSD card: ไม่ระบุ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Ultra-wide 13 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 68W

Honor 90 5G

Honor 90 5G มาพร้อมกล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.9 และโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait mode) ที่รองรับการซูม 2 เท่าให้ภาพบุคคลคมชัดและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอีกด้วย เอาใจสายเซลฟี่ด้วยความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 5000 mAh ที่รองรับนวัตกรรมชาร์จไว 66W และ AI Power Saving ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1200 x 2664 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MagicOS 7.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Accelerated Edition
• GPU: Adreno 644
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่ระบุ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 66W

วิธีเลือกซื้อมือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท

• ระบบปฏิบัติการ: ในปัจจุบัน มือถือส่วนใหญ่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีการปรับแต่งอินเตอร์เฟซให้แตกต่างและมีชื่อเรียกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
• ขนาดหน้าจอ: ขนาดหน้าจอมีความสำคัญต่อการใช้งาน เช่น ผู้ที่ชื่นชอบการดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ ควรเลือกมือถือที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งจะได้มุมมองที่ใหญ่เต็มตาและได้ประสบการณ์บนหน้าจอที่ดีกว่า
• ชิปประมวลผล: ชิปประมวลผลเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของมือถือ มือถือที่มีชิปประมวลผลแรง จะทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด
• หน่วยความจำ: หน่วยความจำมีความสำคัญต่อการเก็บข้อมูล เช่น รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์งาน หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ควรเลือกมือถือที่มีหน่วยความจำเพียงพอกับการใช้งาน โดยปัจจุบันควรมีความจุอย่างน้อย 128GB ขึ้นไป ในขณะที่หน่วยความจำ RAM ก็ควรมี 8GB ขึ้นไป เพื่อการทำงานที่ไหลลื่น
• กล้อง: มือถือสมัยใหม่มีกล้องหลังและกล้องหน้าหลายเลนส์ สามารถเลือกมือถือที่มีกล้องที่ตรงกับความต้องการ เช่น ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ควรเลือกมือถือที่มีกล้องหลังความละเอียดสูง หรือถ้าเป็นสายคอนเสิร์ตก็ควรเลือกรุ่นที่มีกล้อง Telephoto สำหรับช่วยซูมในระยะไกล
• แบตเตอรี่: แบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้มือถือใช้งานได้ยาวนาน ควรเลือกมือถือที่มีแบตเตอรี่ความจุสูง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการรองรับระบบชาร์จไว จะได้ไม่ต้องรอนานเวลาเสียบชาร์จ

มือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ได้ฟีเจอร์ตรงกับความต้องการและการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ