รีวิว Samsung Galaxy A54 5G และ A34 5G สมาร์ทโฟนสุด AWESOME ถ่ายวีดีโอ 4K Auto Focus คมชัดไม่มีผิดจุด จอสวย AMOLED 120Hz พร้อมครบ จบความบันเทิงในเครื่องเดียว

รีวิว Samsung Galaxy A54 5G และ A34 5G สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมความ “AWESOME” เต็มรูปแบบ ตั้งแต่เรื่องกล้องสุดคมชัด ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด UHD 4K พร้อมเทคโนโลยี All pixel Auto Focus พร้อมด้วยหน้าจอ Super AMOLED 120Hz, ขุมพลังในความแรงระดับท็อป และดีไซน์พรีเมียมเปรียบเสมือน Galaxy S Series ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันในบางจุด และเราจะพาไปดูกันทีละจุดครับ

สรุปสเปค Samsung Galaxy A54 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 158.2 x 76.7 x 8.2 มม.
• น้ำหนัก : 202 กรัม
• หน้าจอแสดงผล Infinity-O Display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
• หน่วยประมวลผล : Exynos 1380 Octa Core ความเร็ว 2.4GHz
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• รอบรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, NFC, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

สรุปสเปค Samsung Galaxy A34 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 161.3 x 78.1 x 8.2 มม.
• น้ำหนัก : 199 กรัม
• หน้าจอแสดงผล Infinity-U แบบ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 1080 Octa Core ความเร็ว 2.6GHz
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• รอบรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, NFC, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

ดีไซน์พรีเมียม ยกระดับ Galaxy A Series ได้สุด AWESOME

ในเรื่องของดีไซน์ Samsung ได้ทำการอัปเกรดให้ Galaxy A Seris ให้ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง S Series มากขึ้น ด้วยการตัด Contour Cut หรือกรอบเลนส์กล้องหลังออกไปทั้งหมด เหลือเพียงแต่เลนส์กล้องที่มีความโดดเด่นและใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าเท่านั้นครับ

ใน Galaxy A54 5G ได้ใช้วัสดุฝาหลังแบบกระจก Gorrilla Glass 5 ได้ความมันเงาที่ให้ความรู้สึกคล้ายตระกูล S Series มากๆ เลยครับ งานประกอบก็ทำได้เนี้ยบและแข็งแรง แถมที่ขอบด้านข้างก็ออกแแบบให้เกือบจะแบนเรียบ มีความโค้งเล็กๆ ที่โดยรวมแล้วดูพรีเมียมเลยทีเดียว

สีของรุ่นนี้ยังได้สีสันที่สดใส สวยงาม โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Graphite, Lime และม่วง Violet ซึ่งสีของฝาหลังจะล้อไปกับตัวขอบให้เป็นสีแบบเดียวกันทั้งหมด บอกเลยว่าถูกใจคนที่ชอบสีสันเยอะๆ แน่นอนครับ

ขณะที่ฝั่งของ Galaxy A34 5G จะได้เป็นดีไซน์แบบ Glasstic เคลือบเงากระจกที่มีการเล่นลวดลายแบบปริซึม (เฉพาะสีเงิน) เวลาสะท้อนกับแสงต่างๆ จะได้แสงสีรุ้งออกมาอย่างชัดเจน เพิ่มมิติและความน่าตื่นตาตื่นใจได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

สำหรับสีของ Galaxy A34 5G ก็จะมีให้เลือก 3 สีเช่นกัน ได้แก่ สีเงิน (Silver) ตามที่เห็นข้างต้น และอีก 2 สีจะเป็น Graphite และ Violet ครับ

เพิ่มความทนทานด้วยมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP67 ทั้ง 2 รุ่น

ทั้ง Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G มาพร้อมกับมาตรฐาน IP67 ที่สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้เป็นอย่างดี ที่จริงๆ สามารถกันน้ำสะอาดได้ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที แต่ไม่แนะนำให้จงใจลงไปใช้ในน้ำครับ เพราะมาตรฐานนี้เอาไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เผื่อเครื่องตกน้ำ สระน้ำทั่วไป หรือใช้ในตอนฝนตกหนักนะ

AWESOME Screen หน้าจอสดใสพาเนล Super AMOLED แบบ 120Hz

ในฝั่งของหน้าจอแสดงผลเรียกว่าจัดมาให้แบบ AWESOME เหมือนกัน ตั้งแต่ในรุ่น Galaxy A54 5G ที่จัดมาเป็น Infinity-O แบบ Super AMOLED ที่ได้สีสันสดใส สีดำเป็นดำ น่าจะถูกใจสายที่ชมซีรี่ย์หรือภาพยนตร์บนสตรีมต่างๆ แน่นอนครับ

ที่สำคัญขนาดหน้าจอยังให้มาใหญ่พอตัวที่ 6.4 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) พรัอมด้วยอัตราส่วน 20:9 ที่เป็นสัดส่วนพอเหมาะกับการรับชมภาพยนตร์สุดๆ

และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ Refresh Rate 120Hz ที่สามารถปรับได้อัตโนมัติตามเนื้อหาบนหน้าจอ และสัมผัสได้แบบติดนิ้วจนรู้สึกได้ว่าแตกต่างจากจอ 60Hz ปกติ

สำหรับหน้าจอแสดงผลของ Galaxy A34 5G ก็ไม่น้อยหน้าด้วยการใช้หน้าจอมาแบบ Infinity-U พาเนล Super AMOLED เหมือนกันครับ ซึ่งจะได้ความสดใสและสีสันไม่ต่างกันเลย รวมไปถึงยังรองรับ Refresh Rate 120Hz แบบอัตโนมัติ และยังได้ฝาหลังเคลือบกระจกเงาแบบ Glasstic อีกด้วยครับ ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วหน้าจอของ Galaxy A34 5G เป็นรุ่นที่ให้หน้าจอและดีไซน์มาดีที่สุดในราคาระดับเดียวกัน

อีกไฮไลท์หลักของหน้าจอใน 2 รุ่นนี้คือความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 1,000 นิต ที่สู้แสงแดดกลางแจ้งได้ดีมาก ใครที่ต้องใช้ทำงานกลางแจ้งตลอดวัน อย่างไรเดอร์หรือคนที่ค้าขายก็คงเหมาะไม่น้อยเลยครับ บอกเลยว่าใช้งานกลางแดดแล้วมองเห็นได้ชัดเจนจริงๆ ครับ

พาชมรอบเครื่อง

มาดูกันที่เหนือหน้าจอแสดงผลกันก่อนครับ ด้านบนของ Galaxy A54 5G จะมีกล้องหน้า Infinity-O พร้อมด้วยลำโพงตัวที่ 1 ที่แอบอยู่ทางด้านบนครับ ส่วน Galaxy A34 5G จะได้กล้องหน้าเป็น Infinity-U แต่ลำโพงจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันครับ

ด้านล่างของตัวเครื่องของทั้งคู่จะมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 2 มาให้ครับ

ทางด้านขวาจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power มาให้ตามปกติ

ส่วนไมโครโฟนตัวที่ 2 พร้อมช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM จะอยู่ทางด้านบน ซึ่งในช่องที่ 2 จะเป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ microSD Card สูงสุด 1TB ครับ

และที่ด้านหลังเครื่องก็มาในภาพรวมเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น โดยมีกล้องหลัง 3 เลนส์เรียงเป็นแนวตั้ง และไร้ Contour Cut เหมือนกัน ส่วนไฟแฟลช LED จะให้มา 1 ดวงอยู่ถัดไปทางขวาเล็กน้อยครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

ทั้ง Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแบรนด์ เป็น Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1 แล้วครับ ไม่ต้องรออัปเดทอะไรทั้งสิ้น ซึ่งฟีเจอร์และการใช้งานจัดว่าเสถียรมากๆ แล้วครับ

เสียงรอบข้างดังไม่ต้องกลัวด้วย Voice Focus ตัดเสียงรบกวนตอนโทรได้

เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาตอบโจทย์ในทุกสภานการณ์การใช้งานตอนคุยโทรศัพท์เลยทีเดียวสำหรับ Voice Focus ที่ให้มาครบทั้ง 2 รุ่นนี้เลยครับ ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายมากๆ เพียงในระหว่างที่กำลังโทรศัพท์ จะมีปุ่มสัญลักษณ์ไมโครโฟนเพื่อตัดเสียงที่ด้านบน ให้เรากดจนขึ้นเปิดโฟกัสเสียงก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

โดยการใช้งานจริงบอกเลยว่าทำงานได้ดีมาก ระบบรับรู้ได้ว่าเสียงไหนเป็นเสียงของเราที่คุยอยู่และเสียงไหนมาจากภายนอก ซึ่งระบบจะทำการตัดออกไปให้ค่อนข้างจะ 100% เลยครับ หรือหากเป็นไรเดอร์ส่งอาหารที่ต้องเจอเสียงลมระหว่างขับรถก็ยิ่งช่วยได้มากเลยทีเดียวครับ

ระบบความปลอดภัยใช้งานได้สะดวกมาก

Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่น Mid Range ที่ให้ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ในรุ่นเรือธงมาให้ด้วยทั้งคู่ครับ ซึ่งการใช้งานทำได้รวดเร็วและเสถียรมากๆ ยังไม่เจอข้อผิดพลาดในการใช้งานจริง

หรือหากช่วงไหนมือเราไม่ว่าง ก็สามารถลงทะเบียนใบหน้าเพื่อใช้สแกนได้เช่นกัน และก็ทำได้รวดเร็วไม่แพ้กันเลย

ระบบเสียงสเตอริโอด้วย Dolby Atmos

คู่หูทั้ง 2 รุ่นนี้ยังจัดลำโพงคู่สเตอริโอแบบ Dolby Atmos มาให้ด้วย ใครที่ชอบใช้งานด้าน Entertain จะบอกว่า “AWESOME” แน่นอน เสียงลำโพงค่อนข้างกระหึ่ม มีมิติ ชัดเจน และให้แยกฝั่งหรือทิศทางของเสียงได้ชัดเจนมาก

ได้จอ AMOLED จะขาด Always On Display ได้อย่างไร !!

Galaxy A54 5G และ A34 5G ด้วยความที่ได้หน้าจอ Super AMOLED มาแล้ว ก็แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ Always-On Display (AOD) เพื่อแสดงข้อมูลเวลา การแจ้งเตือน การเตือนความจำ หรือแบตเตอรี่ได้อย่างครบถ้วนครับ ซึ่งเราสามารถเลือกแสดงได้ 4 แบบ ได้แก่ แตะเพื่อแสดง, แสดงตลอดเวลา, แสดงตามกำหนดเวลา และแสดงเมื่อมีการแจ้งเตือนใหม่

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

AWESOME Performance ประสิทธิภาพความแรงที่มากกว่าเดิม

ในเรื่องประสิทธิภาพความแรงบอกเลยว่าเพิ่มขึ้นทั้งคู่เลย ตั้งแต่ฝั่งของ Galaxy A54 5G ที่ใช้ขุมพลัง Exynos 1380 รุ่นใหม่ที่มีความแรงมากกว่าชิป Exynos 1280 ที่ใช้ใน Galaxy A53 5G กว่าเดิมถึง 30% ซึ่งจากที่ใช้งาน ทั้งความแรงและความร้อนทำได้ดีขึ้นอย่างรู้สึกได้เลย

ขณะที่ในด้านของ Galaxy A34 5G นั้นอัปเกรดขึ้นมาแบบชัดเจนได้น้ำได้เนื้อเลยทีเดียว โดยขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Mediatek Dimensity 1080 ที่ให้ความแรงมากกว่า Exynos 1280 อยู่ 30% เช่นกัน หรือหากเทียบกับฝั่งของ Snapdragon 695 จะแรงมากกว่าเดิม 33% ซึ่งในเรื่องความร้อน ความไหลลื่น และการใช้งานทั่วไปทำได้ดีและเสถียรมากขึ้น โดยเฉพาะในการเล่นเกมครับ

สังเกตง่ายๆ Galaxy A34 5G จะให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการเป็นรุ่นระดับกลาง-บนมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ไหลลื่นมากขึ้น เปิดแอปพลิเคชั่นได้และทำงานในพื้นหลังได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะเห็นประโยชน์ได้ชัดเจนในการใช้งานสำหรับการตอบแชทหรือดูแผนที่ในแอปสั่งอาหารที่เวลาสลับไปมาจะไม่รีเฟรชแอปจนต้องกดเข้าใหม่นั่นเองครับ หรือจะเป็นการเล่นเกมก็ทำได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น เฟรมเรทคงที่ และเครื่องไม่ได้ร้อนจนเกินไป

มาพร้อม RAM Plus เพิ่ม RAM ให้มากขึ้นไปอีกแบบ 8+8GB

ทั้ง Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G รองรับฟีเจอร์ RAM Plus ที่สามารถเพิ่ม Visual RAM ได้มากขึ้นสูงสุดถึง 8GB และหากรวมจากพื้นฐานที่ให้มาเดิมๆ 8GB รวมเป็น 16GB ก็จะยิ่งช่วยทำให้ระบบมีความไหลลื่นและเปิดแอปพื้นหลังได้มากกว่าเดิมมากๆ ครับ

คะแนน AnTuTu และ Geekbench ของทั้ง 2 รุ่น

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 9.4.4 ของ Galaxy A34 5G ได้มาที่ 463,431 คะแนน
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 9.4.4 ของ Galaxy A54 5G ได้มาที่ 503,511 คะแนน

ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ของ Galaxy A34 5G ทำ Single-Core ไปที่ 1,019 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,477 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ของ Galaxy A54 5G ทำ Single-Core ไปที่ 992 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,651 คะแนน

มาทดสอบการเล่นเกมกัน

ในการทดสอบการเล่นเกมเราจะใช้ Galaxy A54 5G เป็นหลักครับ เพราะเทียบๆ แล้วประสิทธิภาพและความแรงทั้ง 2 รุ่นนั้นใกล้เคียงกันมาก โดยเกมที่เราจะทดสอบมีด้วยกัน 3 เกม ได้แก่ ROV, PUBG Mobile และ Asphalt 9: Legends

ROV

ในการเล่นเกม ROV เราสามารถเปิดภาพสูงสุดได้ทั้งหมด ยกเว้นการแสดงผลที่ปรับได้ “สูง” ครับ โดยเราได้ลองเล่นในโหมด 5 VS 5 ก็ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ ทั้งการกดที่ไม่หน่วง ไม่ดีเลย์ ภาพไหลลื่น เฟรมเรทนิ่งมากๆ และที่สำคัญคือเครื่องไม่ได้ร้อนมากด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

PUBG Mobile

ส่วนเกม PUBG Mobile สามารถเปิดภาพในระดับ HD และเฟรมเรทสูง ซึ่งการเล่นจริงๆ ก็ทำได้ไหลลื่น ไม่เจออาการสะดุดเวลาเคลื่อนไหวไปมาครับ และที่ชอบเลยคือได้ประโยชน์จากลำโพงคู่ Dolby Atmos ไปเต็มๆ ในการแยกเสียงซ้าย-ขวา

• 

• 

• 

Asphalt 9: Legends

ส่วน Asphalt 9: Legends เกมภาพแรงๆ สวยๆ ก็สามารถเปิดภาพระดับสูงได้เหมือนกัน ซึ่งระหว่างการเล่นและ Cut Scene ทำได้สวยงามมากทั้งแสงและเงา

• 

• 

• 

• 

แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานเต็มวัน พร้อมชาร์จเร็ว 25W

Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ให้มาเท่ากันที่ 5000mAh ซึ่งหากใช้งานทั่วไป ไม่ได้เล่นเกมมากนัก อยู่รอดได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นๆ เลยครับ ส่วนใครเน้นการดูวิดีโอหรือซีรี่ย์ก็สามารถดูได้ยาวๆ นานสุดถึง 21 ชั่วโมงเลยทีเดียว

และทั้ง 2 รุ่นยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charge เหมือนกันทั้งคู่อีกด้วย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็สามารถชาร์จจากแบตใกล้หมดจนเต็ม 100% ได้เลยครับ

ถ่ายวิดีโอได้สุด AWESOME คมชัดสูงสุด 4K 30fps พร้อมโฟกัสได้ไวแบบ 100% All Pixel Auto Focus

ไม่ใช่แค่ภาพยิ่งที่อัปเกรดให้กลายเป็นเรือธงย่อมๆ แล้วสำหรับ Galaxy A54 5G แต่ในด้านการถ่ายวิดีโอก็จัดมาแบบ AWESOME ขั้นสุด ด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาเพียบ ดังนี้

• การถ่ายวิดีโอคมชัดสูงสุดที่ระดับ UHD 4K@30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงการถ่ายในที่แสงน้อยก็ทำได้ดี ไม่เป็นวุ้น
• รองรับกันสั่น OIS ที่ดีขึ้น แก้ไขความผิดพลาดได้ถึง 1.5 องศา (จากเดิม 0.95 องศา) ผสานกับซอฟต์แวร์ที่ได้ VDIS ความถี่ 833Hz มากกว่าเดิมถึง 4.2เท่า (จากเดิม 200Hz เท่านั้น)
• ไมโครโฟนใช้งานได้ชัด ตัดเสียงรบกวนได้เยี่ยม เพราะให้ไมโครโฟนมาแบบ Dual
• การโฟกัสที่ทำได้ไวยิ่งขึ้นแบบ 100% All Pixel Auto Focus ช่วยให้โฟกัสได้แม่นยำ ไม่ผิดจุด จะสังเกตในวิดีด้านล่างนี้ได้ว่าหากเจาะไปที่วัตถุจะโฟกัสได้ตรง และเมื่อเริ่มเคลื่อนออกมาก็จะไปโฟกัสที่จุดอื่นต่อเลยทันที และยังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในรุ่นเรือธงที่ใส่เข้ามาใน Galaxy A54 5G สะด้วย

โดยความสามารถทั้งหมด รวมอยู่ในวิดีโอด้านล่างนี้แล้วครับ

กล้องสวย รองรับทุกฟีเจอร์ พร้อมวีดีโอ 4K ชัดระดับโปรแบบ AWESOME Camera

จริงๆ แล้ว ทั้ง Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G ให้กล้องที่ถ่ายได้สวยและคมชัดเหมือนกันทั้งคู่ ฟีเจอร์ต่างๆ ก็ถ่ายได้ชัดและสวยงามเหมือนกันทุกโหมด แต่หลักๆ หากเป็นเรื่องกล้อง Galaxy A54 5G จะได้การถ่ายวิดีโอที่เป็นหลักพร้อมด้วยฟังก์ชันแบบจัดเต็มมากขึ้นครับ ซึ่งในจุดนี้เราจะเน้นไปที่ Galaxy A54 5G แล้วกันเนาะ

กล้องคมชัดสูงสุด 50MP

ใน Galaxy A54 5G เราจะได้กล้องหลังที่มาพร้อมความคมชัดสูงสุดถึง 50MP ซึ่งเป็นความละเอียดที่สูงแล้วหากต้องการครอปภาพหรือซูมให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากภาพที่เราถ่ายมา ทั้งยังใช้เวลาประมวลผลเหมือนกับตอนถ่ายโหมดปกติเลยครับ

• 

• 

มาพร้อม AI HDR ถ่ายสวย จบได้ไม่ต้องแต่งในคลิกเดียว

ในการถ่ายโหมดปกติที่ต้องใช้กันเป็นประจำอยู่แล้วจะได้เทคโนโลยี AI หรือ Scene Optimizer เพื่อปรับแต่งสีสัน แสง และเงาของแต่ละฉากให้เหมาะสมมากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่กดถ่าย AI ก็จะทำการปรับแต่งให้อัตโนมัติทันทีครับ ซึ่งนอกจากจะมี AI แล้ว ก็ยังได้ Auto HDR เพื่อถ่ายย้อนแสงได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะถ่ายแล้วจะเห็นแบบด้านหน้ามืดหลังสว่างเกินไปแน่นอนครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Ultra-Wide Angle เก็บครบจบทุกมุม

ด้วยเลนส์ Ultra-Wide Angle ที่ให้มาถึง 123 องศา ก็เป็นมุมมองที่กว้างเพียงพอให้เราได้เก็บองค์ประกอบในภาพได้ครบถ้วนแล้วโดยที่เราไม่ต้องถอยออกมาไกลเพื่อให้ได้ภาพเลยด้วยครับ และไฮไลท์อีกอย่างเมื่อใช้เลนส์นี้คือการรองรับ HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้เหมือนกันครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ถ่าย Portrait ได้เนียนตา ปรับความเบลอพร้อมความบิวตี้ได้ทั้งหมด

หนึ่งในฟีเจอร์กล้องเด็ดๆ คือการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ที่ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งเราสามารถปรับระดับความเข้มของการละลายฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ และปรับความบิวตี้บนใบหน้าได้สูงสุด 8 ระดับครับ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Macro ถ่ายได้ชัดด้วยความละเอียด 5MP

สิ่งที่ชอบในเลนส์ Macro ของทั้ง 2 รุ่นที่ให้มาคือความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ถือว่าให้ความละเอียดมากสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ปกติจะเจออยู่ที่ 2MP เท่านั้นครับ ซึ่งสิ่งที่ถ่ายได้ในเลนส์ Macro นี้คือความสวยงามของภาพ สีสันที่สดใสและการโฟกัสที่ทำได้ดีมากๆ รวมไปถึงรายละเอียดของวัตถุที่สามารถซูมก็ยังเห็นถึงความชัดเจนได้อยู่เหมือนเดิม

• 

• 

• 

• 

Night Mode ยังคงทำได้ยอดเยี่ยมสมชื่อ A AWESOME

ในโหมดภาพถ่ายที่ Galaxy A Series ทั้ง 2 รุ่นนี้ทำได้ดีมากๆ เลยคือการถ่ายโหมดกลางคืนที่ได้ยอดเยี่ยมสมราคา รายละเอียดของวัตถุยังคงเห็นได้ชัดเจน เกิด Noise ได้น้อยลง ใช้เวลาในการประมวลผลไม่นาน แค่ 2-3 วินาทีก็ได้ภาพสวยๆ ตอนกลางคืนออกมาแล้ว และยังใช้งานได้ทั้งเลนส์หลักและ Ultra-Wide เลยด้วย

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

เซลฟี่สวย คมชัดสูงสุด 32MP

ใน Galaxy A54 5G เราจะได้กล้องหน้ามาที่ความคมชัดถึง 32MP ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับรุ่นราคาใกล้เคียงกันในตลาดครับ ซึ่งในการถ่ายกล้องหน้าก็แทบไม่ต่างจากกล้องหลังเลยครับ เพราะรองรับทั้งการปรับเอฟเฟ็ต์ความเบลอหลังและความบิวตี้ได้เหมือนกันเป๊ะๆ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

สรุปแล้ว Galaxy A54 5G l A34 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ AWESOME สุดคุ้มค่า

จากที่ได้ลองใช้งานมาเต็มๆ ทั้ง Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy A Series ที่ให้ความยอดเยี่ยมสมชื่อ “AWESOME” ของจริง และแม้ว่าจะโดดเด่นกันไปคนละเรื่องแต่ฟังก์ชันการใช้งานทั่วไปแทบไม่ต่างกันมากมายและมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันมากครับ โดยใน Galaxy A54 5G จะมีไฮไลท์เด่นๆ ไปที่ดีไซน์ที่มีการปรับโฉมใหม่ให้เหมือนรุ่นพี่เรือธงอย่าง S Series, ได้กล้องหลังถ่ายวิดีโอ 4K ระดับโปร และหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED 120Hz ที่ให้มาแบบขั้นสุดในราคาระดับเดียวกัน

ส่วน Galaxy A34 5G จะได้ประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นมาแบบก้าวกระโดดด้วยการใช้ขุมพลัง Dimensity 1080 พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED 120Hz พร้อมความสว่างสูงสุด 1,000 นิตเหมือนกัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP67 ที่หาในราคานี้ไม่ได้อีกแล้วครับ

ราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

สำหรับ Samsung Galaxy A34 5G วางจำหน่ายในราคาเพียง 11,999 บาท ส่วน Galaxy A54 5G พร้อมวางจำหน่ายในราคา 13,999 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วที่ Samsung Experience Store, samsung.com หรือร้านค้าที่ร่วมรายการ

ทั้งนี้ ยัง Samsung ยังจัดโปรโมชั่นเปิดขาย Samsung Galaxy A54 5G รับโปรแรงฟรี 2 ต่อ !! ลำโพง JBL Go2 พร้อมกระเป๋า มูลค่า 1,890 บาท ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม 2566 – 6 เมษายน 2566 อย่ารอช้า รีบพุ่งตัวไปจับจองด่วนที่ samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ