เนื่องในโอกาสวันแม่ใกล้จะเข้ามาถึงแล้ว มีฟีเจอร์ดีๆ บน iPhone และ Apple Watch ที่เป็นประโยชน์ให้แก่คุณแม่ รวมถึงคุณลูกเพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันครับ

แนะนำฟีเจอร์เจ๋งๆ บน iPhone และ  Apple Watch สำหรับคุณแม่

จุดเด่นของ iPhone คือการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และครอบคลุมกับความต้องการของคนทุกเพศ ทุกวัย สำหรับวันแม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ เรารวบรวมฟีเจอร์เด่นๆ ที่คาดว่าจะมีประโยชน์สำหรับคุณแม่มาให้ได้ลองใช้งานกัน 

เริ่มต้นจากการตั้งค่าหน้าจอและตัวอักษรบน iPhone คุณสามารถปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ รวมทั้งปรับคอนทราส เพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น โดยเข้าไปที่ Settings > Accessibility > Display & Text Size จากนั้นก็สามารถปรับการแสดงผลได้ตามที่ต้องการ 

Medical ID

หลังจากเปิดใช้งาน iPhone แล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ควรเข้าไปตั้งค่าคือ ID ทางการแพทย์ ที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่สำคัญของคุณจากหน้าจอล็อคได้โดยไม่ต้องใช้รหัส โดยสามารถดูข้อมูล เช่น อาการแพ้และอาการเจ็บป่วยต่างๆ รวมถึงบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Family Sharing 

การแชร์กันในครอบครัว ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวสูงสุดหกคนสามารถแชร์การซื้อใน App Store และการสมัครสมาชิกของ Apple รวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องแชร์ Apple ID แต่อย่างใด มาพร้อมความสามารถในการตั้งค่า Apple ID ให้กับเด็กๆ ตั้งค่าการอนุญาตจากระยะไกลด้วยเวลาหน้าจอ และอนุมัติการใช้จ่ายและการดาวน์โหลดจากอุปกรณ์ของผู้ปกครอง ที่สำคัญคือ ครอบครัวของคุณสามารถแชร์อัลบั้มรูปภาพ ปฏิทินสำหรับครอบครัว หรือแม้กระทั่งช่วยกันค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ที่สูญหายของแต่ละคนได้อีกด้วย 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Magnifier

เมื่ออายุมากขึ้น อาจทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเคย บน iPhone มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Magnifier หรือแว่นขยายอยู่ โดยสามารถเปิดใช้งานที่ Settings > Accessibility > Magnifier เมื่อคุณเปิดแว่นขยายอยู่ คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ เช่น ปรับใช้ฟิลเตอร์สีหรือบันทึกวัตถุที่ขยายเป็นภาพ ได้ คุณสามารถใช้ไฟฉายบนอุปกรณ์ของคุณเพื่อเพิ่มแสงให้กับวัตถุที่คุณต้องการขยายได้ และคุณยังสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติเพื่อปรับความสว่างของแว่นขยายตามสภาพแสงโดยรอบได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Hearing  

iPhone สามารถช่วยให้การสนทนาง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ Hearing ที่จะช่วยให้คุณพูดคุยในที่ที่มีเสียงดังได้ดียิ่งขึ้น สามารถช่วยลดเสียงรบกวน และดูแลสุขภาพการได้ยิน ด้วยการแสดงระดับเดซิเบลของเสียงรอบๆ ตัว เพื่อแจ้งเตือนเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียงรอบข้างดัง และอาจทำลายหูของคุณได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Photo

บนแอพรูปภาพ สามารถแก้ไข ปรับสี รวมถึงทำเครื่องหมายต่างๆ ให้แก่ภาพและวิดีโอได้อย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติม อาทิ การครอปหรือหมุนภาพ ปรับความสว่าง หรือใส่ฟิลเตอร์ ฯลฯ ใน iOS 13 มีการใช้ AI ที่ช่วยจัดการการแสดงผลรูปภาพต่างๆบนเครื่อง โดยดึงภาพที่ดีที่สุดมาเป็นไฮไลต์, ซ่อนรูปภาพที่ซ้ำ รวมไปถึงการจัดเรียงภาพตามเหตุกาณ์สำคัญของแต่ละวันให้ได้อีกด้วย นอกจากนี้บนแอพรูปภาพ ยังมีช่องค้นหา ให้คุณสามารถป้อนคำ อาทิ ทะเล สุนัข ฯลฯ เพื่อช่วยค้นหาภาพที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ที่สำคัญคุณสามารถมั่นใจได้ว่ารูปภาพของคุณจะเป็นของคุณคนเดียวเท่านั้นด้วยนโยบายความเป็นส่วนตัว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Reminder

ตัวช่วยในการจัดการสิ่งที่ต้องทำต่างๆ ในแต่ละวัน แอพ Reminder สามารถปรับแต่งแก้ไขได้ครอบคลุมความต้องการต่างๆ อาทิ แนบเอกสาร กำหนดระยะเวลา ใส่ตำแหน่งที่ตั้ง เพิ่มโน้ตหรือ URL จัดหมวดหมู่สิ่งที่ต้องทำ หรือติดธง ทำเครื่องหมายรายการสำหรับกิจกรรมสำคัญก็ได้เช่นกัน และเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ก็สามารถแตะเสร็จสิ้นและย้ายไปไว้ยังลิสต์อื่นที่ต้องการได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Screen Time 

เหมาะสำหรับใครก็ตามที่อยากทำความเข้าใจและบริหารจัดการเวลาในการใช้อุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการใช้งานที่มากไป โดย Screen Time นั้น สามารถกำหนดช่วงเวลาในการใช้งานอุปกรณ์และแอพต่างๆ พร้อมทั้ง Activity Reports ที่สรุปข้อมูลการใช้งานให้คุณได้ 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Apple Watch คืออุปกรณ์ที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คุณสามารถใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดียิ่งขึ้นได้อย่างง่ายดาย คอยจับตาดูหัวใจของคุณ และบอกให้รู้หากมีบางอย่างผิดปกติ พร้อมด้วยฟีเจอร์เด่นๆ มากมายที่ช่วยให้คุณสามารถทำได้ทุกอย่างทั้งหมดจากข้อมือ 

Connectivity

ด้วยระบบเซลลูลาร์ ทำให้คุณเคลื่อนไหวได้คล่องตัวยิ่งขึ้น แม้ไม่มี iPhone อยู่กับตัว แต่ยังสามารถคุยโทรศัพท์ รับข้อความ และเชื่อมต่อกับเรื่องราวและรับข้อมูลสำคัญมาแสดงให้เห็นตรงหน้าเสมอ ทำให้ไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หลายชิ้นตลอดเวลา 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Activity Ring

ติดตามกิจกรรมประจำวันได้ง่ายๆ ด้วยวงแหวนกิจกรรม ที่จะเก็บข้อมูลการลุกขึ้นยืน การเคลื่อนไหว และการออกกำลังกายของคุณตลอดทั้งวัน โดยระบบจะแสดงข้อมูลแนวโน้มในแต่ละวันในรูปแบบของวงแหวนหลากสี ให้ง่ายการต่อการเปรียบเทียบ อีกทั้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณดำเนินชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Heart Rate 

อัตราการเต้นของหัวใจปกติจะอยู่ที่ 70-90 ครั้งต่อนาที  บน Apple Watch มีตัวช่วยที่ให้คุณสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจของคุณได้ตลอดเวลา ที่สำคัญคุณสามารถเปิดการแจ้งเตือนได้ เพื่อให้รู้ว่าคุณมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำกว่าอัตราการเต้นต่อนาทีที่เลือกไว้ ทำให้รู้ตัวหากหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ เร็ว หรือช้าเกินไป ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Fall Detection

บรรดาลูกๆ สามารถวางใจได้เมื่อต้องอยู่ไกลกับคุณแม่ ด้วย Apple Watch ตั้งแต่ Series 4 ขึ้นไป มาพร้อมกับฟีเจอร์การตรวจจับการล้ม เมื่อผู้สวมใส่ Apple Watch เกิดการล้มอย่างรุนแรง นาฬิกาจะติดต่อกับบริการฉุกเฉิน และส่งข้อความไปยังรายชื่อติดต่อฉุกเฉินให้กับคุณโดยอัตโนมัติ 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Siri

ผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมช่วยคุณทำสิ่งต่างๆ Siri สามารถส่งข้อความโทรออก ค้นหาเส้นทาง และอื่นๆ ได้ผ่านคำสั่งเสียง ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายกว่าเดิมเพียงยกข้อมือแล้วสั่งงาน หรือแม้แต่จะชวนคุยเรื่องทั่วไปก็สามารถทำได้เช่นกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Breath App

แอพหายใจ ช่วยให้คุณผ่อนคลายและทำสมาธิได้ โดยแอพจะแนะนำวิธีการหายใจลึกๆ และเตือนให้คุณฝึกการหายใจทุกวัน ซึ่งสามารถเลือกระยะเวลาที่ต้องการฝึก โดยจะมีภาพเคลื่อนไหวและการสะกิดเบาๆ ช่วยให้คุณจดจ่อ 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ยังคงโชว์ความสามารถในการถ่ายวิดีโอออกมาเรื่อยๆ สำหรับ Apple ที่ได้นำ Damien Chazelle ผู้กำกับ La La Land ภาพยนตร์ชื่อดังที่ชนะรางวัลออสก้ามากำกับในคลิป ‘Shot on iPhone’ ตัวล่าสุดด้วย

การถ่ายทำครั้งนี้มีความแตกต่างจากเดิมเพราะเป็นการถ่ายในแนวตั้งด้วย iPhone 11 Pro ทั้งหมด ซึ่ง Apple ยังได้โชว์เบื้องหลังของการถ่ายทำด้วยเช่นกัน

iPhone 11 Pro นั้นถูกใช้งานในหลายฟีเจอร์ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Dynamic range, ระบบกันสั่นไหว, เลนส์ Ultra-Wide Angle และอื่นๆ เพียบ

ที่มา : macrumors

LADY GAGA เปิดตัว “GAGA RADIO” บน APPLE MUSIC รายการตอนเปิดตัวจะประกอบด้วยการพูดคุยแบบเป็นส่วนตัวกับ BloodPop® เพื่อนสนิทและโปรดิวเซอร์อัลบั้ม Chromatica รับฟังตอนแรกได้ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 1:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย บน Apple Music ที่ apple.co/_GagaRadio

แรงบันดาลใจเบื้องหลัง Chromatica อั้ลบั้มอันดับหนึ่งที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวานั้นเกิดจากสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง ซึ่งก็คือแดนซ์ฟลอร์นั่นเอง ทุกวันเสาร์ในรายการ GAGA RADIO บน Apple Music นักร้องชื่อดังผู้นี้จะได้เผยแพร่เพลงแนวแดนซ์ยอดฮิตผ่านการพูดคุยกับเหล่าดีเจ ดีว่า และโปรดิวเซอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเธอและมีส่วนช่วยให้อัลบั้ม Chromatica ประสบความสำเร็จ โดยแต่ละตอนจะมีการมิกซ์เพลงสุดพิเศษจากดีเจที่เป็นแขกรับเชิญของ Gaga นับว่าเป็นการร่วมสนุกเพลงแดนซ์ที่เราอยากเห็นมากที่สุดในช่วงนี้

“ตลอดเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันคิดหาวิธีต่างๆ ที่บ้านว่าจะทำอะไรให้กับสังคมโลกได้บ้าง สิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ฉันเชื่อว่าพิเศษ และต้องเป็นสิ่งที่คนอื่นๆ เชื่อว่าพิเศษด้วย” Gaga กล่าว “ฉันก็เลยคิดหาวิธีต่างๆ มากมายว่าจะช่วยสังคมและโลกนี้ได้อย่างไร ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้จัดรายการนี้ และได้มีโอกาสเล่นเพลงต่างๆ ทุกสัปดาห์…”

สำหรับรายการตอนแรกที่จะเผยแพร่ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ Gaga จะมาพูดคุยกับ BloodPop® เพื่อนและโปรดิวเซอร์อัลบั้ม พวกเขาทั้งสองคนจะพูดเรื่องการทำอัลบั้มและความท้าทายที่มีมาตลอดการทำงาน รวมถึงภาวะซึมเศร้าและความไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ความรู้สึกขอบคุณและมิตรภาพคือสิ่งที่ทำให้อัลบั้ม Chromatica สำเร็จได้

เตรียมพร้อมฟัง “Gaga Radio” ตอนแรกบน Apple Music ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 1:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่ apple.co/_GagaRadio

ในช่วงก่อนออกอากาศ สามารถฟังเพลงและรายการต่างๆ ของ Lady Gaga บน Apple Music ที่นี่ รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่เปิดเผยเรื่องราวๆ ต่างๆ อันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับ Zane Lowe

คลิปตัวอย่าง: Lady Gaga พูดเรื่องความรู้สึกโล่งใจเมื่อได้เปิดตัวอัลบั้ม ‘Chromatica’

Lady Gaga: ฉันรู้สึกโล่งใจมากกับอัลบั้มนั้นเพราะฉันรู้ว่าถึงเวลาต้องร่ำลามันแล้ว มันเป็นทั้งความรักและการร่ำลา ทุกอย่างที่ฉันใส่ลงไปในอัลบั้มนั้น ทั้งแนวคิด ทั้งดนตรี ทุกอย่างที่ฉันได้ทิ้งไว้ ฉันอยากให้อัลบั้มนี้ถูกเผยแพร่ให้ทั้งโลกได้ฟัง ความรู้สึกและทุกสิ่งที่ใส่ลงไปจะได้ไม่ต้องหวนกลับมาหาฉันอีก

BloodPop®: จริงเลย ผมว่าบางทีมันก็รู้สึกเหมือนการไล่ผีนะ

Lady Gaga: สำหรับฉันแล้ว Chromatica เหมือนกับประตูมิติที่พวกเราเปิดไว้ในสตูดิโอ เราเปิดประตูนั้นแล้วฉันก็เข้าไปแล้วก็คิดว่า “ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ เสียงจากเบื้องบน นิมิตจากเบื้องบน จะลงมาสถิตอยู่ข้างในตัวฉัน แล้วชี้แนะฉันว่าควรพูดหรือทำอะไร” ส่วนมากแล้วก็ตรงกับที่ฉันรู้สึกจริงๆ เลยล่ะ มีสองสิ่งที่ในช่วงนั้นที่อาจเกิดขึ้นวันไหนก็ได้ ฉันอาจแต่งเพลงแล้วคุณก็มาช่วยอัดเสียง หรือไม่ฉันก็ไปเดินอยู่ตรงระเบียงด้านบนแล้วก็ไม่แต่งเพลงเลย สิ่งที่ฉันทำมีอย่างเดียวคือเหม่อมองท้องฟ้า ดูดบุหรี่ต่อเนื่องกันหลายมวน แล้วก็ร้องไห้ (เงียบ)

ตัวอย่างคลิป: Lady Gaga และ BloodPop พูดถึงความทรงจำโปรด

Lady Gaga: คุณชอบตอนไหนที่สุดระหว่างทำอัลบั้ม Chromatica กับฉัน นี่ฉันยังรู้สึกเหมือนเรายังทำงานกันอยู่เลย

BloodPop®: ผมว่าเป็นตอนที่เราเล่นเพลง Rain On Me ที่มีเบสไลน์ใหม่เป็นครั้งแรก ตอนนั้นคุณอยู่ในจุดที่ว่า “อัลบั้มนี้ชื่อ Chromatica นะ ฉันจะทำมันให้สำเร็จ ฉันจะทำนู่น ฉันจะทำนี่” แล้วคุณก็ดูพร้อมที่จะไป Chromatica แบบเต็มยศมาก แต่แล้วเราก็ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราไม่แน่ใจว่าคุณจะรู้สึกยังไง เพราะมันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่…

Lady Gaga: มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ

BloodPop®: ผมจำได้แค่ว่าคุณเล่นเพลงนั้นเสียงดังลั่นแล้วก็พูดว่า “เบสไลน์นั่นน่ะ เบสไลน์” วันนั้นเป็นวันที่ดี คุณกับ Ari กำลังตัดต่อ Rain On Me แล้วคุณก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าเราใส่การเต้นลงไปในเทคนี้จะดีไหม เธอก็แบบ “อะไรนะ“

Lady Gaga: เธอก็พูดว่า “โอ้วมายกอด โอ้วมายกอด โอ้วมายกอด Gaga, Gaga, Gaga โอ้วมายกอด Gaga”

BloodPop®: นั่นก็เจ๋งเหมือนกัน