Connect with us

Featured

รีวิว Redmi 12 สมาร์ทโฟนดีไซน์กระจกพรีเมียม พร้อมพลังที่มากขึ้นด้วย Helio G88 l จอ 90Hz AdaptiveSync l กล้องหลัง 3 เลนส์ AI

Published

on

Redmi 12 สมาร์ทโฟนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ภายนอกด้วยดีไซน์ที่ใช้ฝาหลังแบบระจกที่หาได้ยากในระดับเดียวกัน พร้อมด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.79 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ แบบ 90Hz AdaptiveSync Refresh Rate พร้อมใช้ขุมพลัง Helio G88 ได้แบตฯ 5000mAh ชาร์จเร็ว 18W และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เท่านั้นครับ โดยทั้งหมดจะมีอะไรบ้าง ทีมงาน iphone-droid.net จัดมาให้แล้วครับ

สรุปสเปค Redmi 12

  • ขนาดตัวเครื่อง : 168.60 × 76.28 × 8.17 มม.
  • น้ำหนัก : 198.5 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลหลัก DotDisplay ชนิด LCD ขนาด 6.79 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล), 396PPI รองรับ 90Hz AdaptiveSync Refresh Rate, 1500:1 Contrast Ratio และความสว่างสูงสุด 550 นิต
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G88 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
  • GPU : ARM Mali-G52 MC2
  • RAM : 8GB LPDDR4X
  • ROM : 128GB eMMC 5.1 รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.1
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.3 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 18W Fast Charging

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ในกล่องให้มาครบ

ตัวกล่องของ Redmi 12 มาในสีขาวสะอาดตา พร้อมมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ด้านหน้าและหลังให้ชมกันอย่างชัดเจน

เมื่อเปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่อง Redmi 12 ที่ติดฟิล์มกันรอยให้เรียบร้อย ซึ่งจะวางบนอุปกรณ์เสริมต่างๆ ตั้งแต่เคสใสแบบขุ่น คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และเข็มเปิดถาดซิมครับ

ส่วนที่ด้านล่างสุดในตัวกล่องจะมีอะแดปเตอร์ 18W Fast Charging มาให้ คู่กับสาย USB Type-C ครับ

ดีไซน์ระดับพรีเมียม เบาและบาง ขอบเรียบจับได้ถนัดมือ

Redmi 12 เป็นอีกรุ่นในตระกูล Redmi จาก Xiaomi ที่ใส่ใจในเรื่องของดีไซน์ที่ใช้เป็นวัสดุกระจกมาให้เลยทีเดียว งานประกอบแข็งแรงและทนทานดูเกินราคาไปมาก

สีที่เราได้มาเป็นสีฟ้า Sky Blue ที่จะออกเป็นสีฟ้าเข้มๆ และอ่อนๆ ในบางมุมที่ขึ้นอยู่กับแสงที่ตกกระทบลงมม และไม่มีการไล่เฉด ซึ่งจะให้ความเหมาะสมเวลานำไปใช้งานได้ทุกสถานการณ์ โดยที่ขอบตัวเครื่องจะมีความเข้มขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย ทำให้ทุกส่วนของตัวเครื่องดูกลมกลืนกันไปหมดครับ

ซึ่งอีกอย่างที่ชอบเลยคือการที่ Redmi 12 ใช้กล้องหลังไร้ขอบแบบใหม่ ได้ความสวยงามที่สะดุดกว่าเดิม ช่วยให้ดูโมดูกล้องหลังไม่ใหญ่เกินไปและใช้พื้นที่ได้อย่างเหมาะสมครับ

ส่วนความบางและการใช้งานตัวเครื่อง ที่แม้ว่าจะได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.79 นิ้ว แต่ความบางตัวเครื่องยังอยู่ที่ 8.17 มม. ซึ่งบางกว่ารุ่นเดิมเกือบๆ 10% มือของผู้หญิงสามารถถือใช้งานได้สะดวกแน่นอนครับ และน้ำหนักก็อยู่ที่ 198.5 กรัมที่ไม่ได้หนักจนเกินไป

พร้อมใช้ทุกสถานการณ์กันน้ำ-ฝุ่น IP53

อย่างที่บอกไปว่างานประกอบ Redmi 12 นั้นใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP53 ซึ่งเป็นมาตรฐานการป้องกันการกระเซ็นของน้ำได้แบบสบายๆ ครับ เวลาสะบัดน้ำไปโดนหรือทำน้ำสะอาดหกใส่ก็หมดห่วงได้เลย เพียงแค่หยิบขึ้นมาเช็ดให้แห้งก็ใช้งานต่อได้เลย

หน้าจอ DotDisplay ใช้งานไหลลื่นแบบ 90Hz AdaptiveSync

ใครที่ชอบใช้หน้าจอแบบไหลลื่นในราคาที่สบายกระเป๋า Redmi 12 คือรุ่นที่ตอบโจทย์สุดๆ ในตอนนี้ครับ ด้วยการมาพร้อมหน้าจอ DotDisplay ขนาดใหญ่ถึง 6.79 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ซึ่งเป็นหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในซีรีส์นี้ ทำให้เราใช้รับชมวิดีโอหรือซีรี่ส์ได้แบบเต็มตาแน่นอน

ทั้งยังได้หน้าจอ 90Hz AdaptiveSync Refresh Rate ที่จะเป็นการปรับค่ารีเฟรชเรทตามเนื้อหาบนหน้าจอแบบไดนามิกเพื่อให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

และการใช้งานหน้าจอกลางแจ้งก็ถือว่ายังทำได้ดี เห็นได้ชัดเจนอยู่ด้วยความสว่างสูงสุด 550 นิตครับ ใช้งานได้แบบสบายตาด้วยการรองรับมาตรฐาน SGS Low Blue Light เพื่อลดแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาเราได้อีกด้วย

พาชมรอบเครื่อง

เหนือหน้าจอแสดงผลจะเป็นกล้องหน้าแบบ DotDisplay หรือเจาะรูกล้องหน้าตรงกลาง ถัดขึ้นไปเล็กน้อยก็จะมีลำโพงสำหรับการสนทนาอยู่ครับ

ด้านซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่องครับ แต่ช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD ที่จุได้สูงสุด 1TB

ส่วนทางขวาจะมีปุ่มเพิ่มและลดเสียงอยู่ ถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือลงไปด้วย โดยที่ชอบเลยคือปุ่ม Power ไม่ได้บุ๋มลงไปในขอบตัวเครื่อง แต่จะเป็นแบบเหมือนปุ่มในลักษณะทั่วไป ทำให้ตัวเครื่องดูสมบูรณ์มากขึ้น

ที่ด้านล่างจะมีไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

ที่ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และเซ็นเซอร์อินฟราเรด IR เพื่อเปลี่ยนใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้ด้วยครับ

และที่ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์ เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม มีไฟแฟลช LED ที่ด้านมุมขวาบน และสัญลักษณ์ AI ที่ฝั่งขวาล่างสุดครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด

Redmi 12 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 ที่ครอบทับด้วย MIUI 14 ซึ่งเป็น OS รุ่นใหม่จาก Xiaomi ได้คาวมเสถียร ประหยัดพลังงาน และความไหลลื่นก็ช่วยให้เราใช้งานได้แบบไม่ขัดใจเลย

ปลดล็อกสะดวกด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้าง

ในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง สะดวกมากๆ เวลาจะถือเครื่องขึ้นมาใช้งาน จะเป็นมือขวาก็ใช้นิ้วโป้งหรือจะเป็นมือซ้ายก็ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางได้ครับ

ส่วนเวลามือไม่ว่างก็ใช้ระบบสแกนใบหน้าที่ทำได้แม่นยำและรวดเร็วมากๆ เหมือนกัน

Reading Mode 3.0 ได้ทั้งตัดแสงสีฟ้าและโหมดกระดาษ

ในโหมดการอ่าน 3.0 (Reading Mode 3.0) รุ่นนี้จะมี 2 รูปแบบ แบบแรกจะเป็นแบบทั่วไปที่จะตัดแสงสีฟ้าที่เราสามารถเลือกคาวมเข้มของแสงได้

ส่วนอีกแบบจะเป็นโหมดกระดาษที่จะได้ทั้งความอุ่นของหน้าจอและเพิ่มพื้นผิวของกระดาษเข้าไปเพื่อให้เหมือนเราอ่านหนังสือเพื่อความสะบายดวงตามากขึ้นด้วยครับ

ลำโพงอันทรงพลัง ฟังเสียงได้แบบจุใจ

แม้ว่า Redmi 12 จะเป็นลำโพงโมโนแต่เรื่องความดังสะใจนั้นทำได้ดีมากๆ มีความกระหึ่ม ฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ก็ให้เสียงดังใช้ได้เลย

เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นรีโมทคอนโทรลด้วย IR Blaster

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนจาก Xiaomi ที่ให้ IR Blaster เข้ามาเพื่อให้ใช้งานเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านได้ครบถ้วนผ่านแอพฯ “รีโมท Mi” ไม่ว่าจะเป็นทีวี, แอร์, กล่องสัญญาณ, พัดลมอัจฉริยะ, เครื่องเล่น DVD หรือกล้อง โดยที่การควบคุมก็ตอบสนองได้ไวเหมือนกับการใช้รีโมทจริงๆ ด้วย ส่วนเรื่องของฟังก์ชันอาจจะไม่ครบเท่ารีโมทจริงๆ แต่ถือว่าให้มาก็ยอดเยี่ยมแล้วครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปเซ็ตเกมมิ่งรุ่นประหยัด MediaTek Helio G88

Redmi 12 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G88 ที่มาแบบ 8 คอร์ (Octa Core) มีความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.0GHz ทั้งยังได้ RAM ถึง 8GB ช่วยให้เปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้รวดเร็วและใช้งานพื้นหลังได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวโดยทีไม่ต้องรีเฟรชแอพใหม่ ขณะที่ ROM ให้มาถึง 128GB รองรับการใส่ MicroSD สูงสุดอีก 1TB จะโหลดแอพฯ หรือถ่ายรูปได้ไม่ต้องกลัวเต็ม

มาพร้อมส่วนขยาย RAM ได้อีก 5GB

อย่างที่บอกไปข้างบนว่ารุ่นนี้ให้ RAM มาที่ 8GB อยู่แล้ว และยังรองรับการเพิ่มส่วนขยาย RAM ขึ้นไปอีกตั้งแต่ 2GB / 3GB / 5GB ซึ่งหากใครที่เปิด 5GB จะทำให้เครื่องมี RAM ถึง 13GB ใช้งานได้เต็มที่ขึ้นไปอีก

ผลคะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.0.3 ได้มาที่ 272,757 คะแนน

ส่วนผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 330 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,105 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

ในเกม ROV เราสามารถเปิดกราฟิกการแสดงผลได้ในระดับสูง ส่วนอื่นๆ และเฟรมเรทจะเปิดได้สูงสุดทั้งหมดครับ จากการเล่นเกมก็พบว่าทำได้ดีมากๆ เฟรมเรทวิ่งสูงสุดไปที่ 61fps และลงมาต่ำสุดที่ 58fps เท่านั้น ถือว่านิ่งดี ไม่ได้เหวี่ยงมาก

PUBG Mobile

และในเกม PUBG Mobile เปิดกราฟิกได้ที่ HD และเฟรมเรทสูง สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น ภาพสวยงาม การกดปุ่มต่างๆ ทำได้ติดนิ้วและตอบสนองได้ไวครับ

แบตฯ พลังอึด 5000mAh ใช้งานได้เต็มวัน

Redmi 12 จัดพลังแบตเตอรี่มาให้ถึง 5000mAh สามารถสแตนด์บายได้ถึง 23 วัน, ฟังเพลงได้ 133 ชั่วโมง, อ่านหนังสือออนไลน์ได้ 26 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอได้ 16 ชั่วโมง เรียกได้ว่าส่วนใหญ่ใช้งานได้เต็มวันแล้วครับ ทั้งยังรองรับการชาร์จด่วน 18W Fast Charging ที่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีในการชาร์จจากประมาณ 30% – 100%

กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อม AI HDR

Redmi 12 จัดเต็มในเรื่องกล้องให้เราได้ใช้งานกันหลายฟีเจอร์ที่ต้องการ ทั้งเลนส์หลักที่คมชัดสูงสุดถึง 50MP รองรับทั้ง AI และ HDR รวมถึงได้เลนส์ Ultra-Wide Angle ถ่ายได้สนุกมากขึ้น และ Macro ที่ทำให้เราถ่ายภาพในสิ่งที่ตามองไม่เห็นครับ โดยที่ภาพจะสวยงามขนาดไหนมาชมกันครับ

โหมด 50MP ถ่ายคมชัดได้สูงสุด

ด้วยการที่เลนส์หลักให้ความคมชัดสูงสุด 50MP ก็สามารถถ่ายความละเอียดสูงได้ครับ ช่วยให้เราครอปภาพหรือนำไปใช้งานเป็นภาพขนาดใหญ่หรือโปสเตอร์ได้ต่ออีกครับ

เสริมความฉลาดด้วย AI และ Auto HDR

ส่วนในโหมดหลักแบบปกติก็ยังมาพร้อม AI ที่ช่วยปรับค่าแสงและสีสันให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว ภาพที่ได้มีความสีสด (แต่ไม่สดจนเกินไป), สว่าง และยังเก็บรายละเอียดของวัตถุได้ชัดเจน เพียงแค่ยกขึ้นมาถ่ายก็เรียบร้อยและใช้เวลาประมวลผลไม่นานเลย ที่สำคัญยังเปิด Auto HDR ให้ใช้งานในการถ่ายย้อนแสงได้แบบสบายๆ ครับ

เลนส์ Ultra-Wide กว้าง 120 องศา

เลนส์ Ultra-Wide Angle หรือเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้างที่กว้างถึง 120 องศา เป็นมุมมองที่กำลังพอดี ไม่กว้างจนเกินไปจนทำให้วัตถุโค้งหรือเสียรูปทรงไป แถมยังรองรับ Auto HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้เหมือนกัน

ถ่าย Portrait ตัดขอบได้เนียนตา

ในการถ่ายภาพบุคคลก็จัดอยู่ในระดับที่สวยงาม ละลายฉากหลังได้เนียนตามากครับ ยิ่งได้แสงดวงไฟยิ่งเสริมให้สวยงามขึ้นไปด้วย ทั้งยังมาปรับค่าความเบลอหลังหรือรูรับแสง (ค่า f) ได้ในภายหลังด้วย (กว้างสุดที่ f/1.0 และแคบสุดที่ f/16) แต่จะไม่สามารถปรับบิวตี้ในโหมดนี้ครับ

เพิ่มความแปลกใหม่ด้วยฟิลเตอร์กล้องภาพยนตร์ยอดนิยม

Redmi 12 เป็นรุ่นแรกในตระกูลนี้ที่ได้ใช้งานเป็นครั้งแรก โดยแบบเฉพาะจะมีทั้งหมด 7 แบบ ได้แก่ KC64, V-250, H-400, KP160, FC400, C-50D และ KG200

เปลี่ยนภาพกลางคืนให้สว่างและคมชัดขึ้นด้วย Night Mode

ในการถ่ายภาพกลางคืน Redmi 12 ก็ยังทำได้เก่งสำหรับตระกูลรุ่นประหยัดครับ ภาพในตอนกลางคืนจะมีความสว่างมากขึ้น ไฮไลท์ของแสงไม่จัดเกินไป แสงไม่ฟุ้ง และรายละเอียดในที่แสงน้อยหรือที่มืดก็สว่างขึ้นมาในระดับที่พอดี โดยที่ Noise เกิดได้น้อยมากๆ เมื่อใช้ในที่ยังมีแสงอยู่บ้างครับ

ถ่ายภาพ Macro เจาะรายละเอียดได้ใกล้ 4 ซม.
และเลนส์สุดท้ายที่รุ่นนี้จัดมาให้เป็นเลนส์ Macro ที่มาในระยะโฟกัสที่ 4 เซนติเมตร โดยเป็นระยะที่สายตามนุษย์โฟกัสไม่ได้แล้ว แต่รุ่นนี้ทำให้เราได้เห็นวัตถุในระยะที่ใกล้มากๆ ซึ่งแนะนำให้ถ่ายในที่แสงกลางแจ้งจะช่วยให้ภาพมีสีสันที่ยังคงสวยงามและสดใสมากๆ ครับ

เซลฟี่ได้สวยพร้อมรับค่ารูรับแสงได้ตามใจชอบ

ในกล้องหน้าของ Redmi 12 ให้มาที่ 8MP ซึ่งเป็นความละเอียดที่ให้ภาพคมชัดได้พอดีมากๆ ครับ ซึ่งในโหมด Portrait กล้องหน้าก็ทำได้ดีและตัดขอบรอบใบหน้าหรือเส้นผมได้เนียนเลยทีเดียว และหากเราต้องการให้ฉากหลังละลายหรือเบลอน้อยลงก็สามารถปรับได้ที่แอพคลังภาพเหมือนกล้องหลังเลยครับ

สรุปการใช้งาน Redmi 12

สรุปแล้ว Redmi 12 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่ครบเครื่องมากๆ หน้าจอใหญ่ 6.79 นิ้ว แบบ FHD+ 120Hz ใช้งานได้ไหลลื่น เล่นเกมทั่วไปได้แบบสบายๆ ด้วยชิปเซ็ต Helio G88 คู่กับ RAM 8GB + 5GB ได้แบตขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้เต็มวันแน่นอน และกล้องหลัง 3 เลนส์แบบ AI ถ่ายภาพได้หลายฟังก์ชัน รวมถึงสิ่งที่ชอบเลยคือดีไซน์ฝาหลังที่ใช้เป็นกระจกเสริมความพรีเมียมให้กับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี

ราคาและวันวางจำหน่าย

Redmi 12 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Sky Blue และ Polar Silver โดยสนนราคาเดียวในรุ่น 8+128GB ที 5,299 บาท เริ่มวางจำน่ายอย่างเป็นทางการวันนี้ ผ่านทาง Xiaomi Store, Xiaomi Zone, ร้านค้าที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์

กำลังฮอต

Featured2 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured5 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก