Connect with us

Featured

รีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวย ฟีเจอร์ครบ วัดออกซิเจนในเลือด พร้อมใช้ได้สูงสุด 14 วัน

Published

on

มาตามสัญญาสำหรับรีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์สุดแจ่มของ realme ที่หลังจากเราได้แกะกล่องกันไปแล้ว วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะพาไปดูฟีเจอร์เต็มๆ กันดีกว่าครับว่ารุ่นนี้มีฟีเจอร์อะไรเจ๋งๆ บ้าง และใช้งานอย่างไร

สรุปสเปค realme Watch S Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 257.6 x 46 x 11.1 (รวมสายนาฬิกา)
  • น้ำหนัก : 63.5 กรัม (รวมสายนาฬิกา)
  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล, 326 PPI
  • ระบบเซ็นเซอร์
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหว
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุน
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
  • ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 รองรับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 หรือ iOS 9.0 ขึ้นไป
  • กันน้ำระดับ 5ATM กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร
  • แบตเตอรี่ความจุ 420 mAh ใช้งานได้สูงสุด 14 วัน

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเรือน realme Watch
  • แท่นชาร์จ
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ดีไซน์

สำหรับ realme Watch S Pro มาพร้อมกับวัสดุตัวเรือนที่ให้ความหรูหราในการใส่พอตัวเลยทีเดียว โดยมาพร้อมตัวเรือนทรงกลม ใช้วัสดุสแตนเลสสตีลSUS316L ที่มีความทนทาน แข็งแรง และมีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไป

ทั้งนี้ บริเวณด้านหน้าและด้านข้างมีความมันเงา ส่วนด้านหลังมาแบบผิวด้าน เวลามีเหงื่อหรือน้ำติดอยู่ก็สามารถเช็ดออกได้ง่ายมากๆ ครับ

สำหรับสายนาฬิกาก็มีหลากหลายสีและหลายวัดุให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบวายซิลิโคน (สีน้ำเงิน/สีเขียว/สีส้ม), หนังวีแกน (สีน้ำเงิน/สีเขียว/สีน้ำตาล) และสีในรีวิวนี้ที่เป็นสแตนเลสสตีลที่มีเฉพาะแค่สีดำเท่านั้น

หน้าจอ

หน้าจอแสดงผลแสดงของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้จัดหนักด้วยพาเนลแบบ AMOLED ให้ความสว่างและสีสันที่คมชัดและสวยงาม พร้อมด้วยขนาดหน้าจออยู่ที่ 454 x 454 พิกเซล มีความสว่างสูงสุดถึง 450 nits, 326 PPI และมี Contrast Ratio อยู่ที่ 100,000:1

ทั้งนี้ realme Watch S Pro ยังครอบทับด้วยกระจกกันรอย 2.5D Corning Gorilla Glass ที่มีความโค้งพร้อมความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วน

หนึ่งในฟีเจอร์หลักๆ ของ realme Watch S Pro คือการรองรับ Always-On Display (AOD) ที่เป็นการแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเรายกมือขึ้นมาดูก็จะแสดงผลเป็นหน้าปัดแบบเต็มๆ ส่วนเมื่อวางมือลงก็จะมีจอ AOD เป็นแบบสีขาว-ดำที่บอกเป็นเวลาแบบอนาล็อก เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องยกมือขึ้นมาดูครับ เพียงแค่ชำเลืองก็รู้เวลาได้แล้ว

การเชื่อมต่อ

เมื่อเราลองเชื่อมต่อ realme Watch S Pro กับแอปพลิเคชั่น realme Link ที่ใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์สุดสะดวกได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น เช่น Messenger, IG หรืออื่นๆ รวมถึง SMS ก็แจ้งเตือนได้ตรงกับสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ และการใช้สมาร์ทวอทช์

ทั้งนี้ ในอนาคต realme Watch S Pro จะมีการอัปเดทผ่าน OTA เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ AIoT ระยะไกลได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดสมาร์ทโฟนอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ realme กำลังพัฒนาอย่างเต็มกำลังอยู่ครับ

ที่สำคัญ เรายังสามารถเลือกหน้าปัดนาฬกา (Face Gallery) ก็มีให้เลือกหลาย 100 แบบเลยทีเดียวครับ ใครชอบแบบไหนก็มีให้เลือกได้เลย หรือหากใครจะใช้ภาพของตัวเองก็สามารถอัปโหลดขึ้นมาใช้ได้ทันที

ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สำหรับ realme Watch S Pro ยังมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งยังมีเซ็นเซอร์แบบ PPG ที่ให้ความแม่นยำสูงในการใช้งานแบบเรียลไทม์ตลอดวัน ทั้งนี้เรายังตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนได้ทันทีหากอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป

วัดระดับออกซิเจนในเลือด

นอกจากจะวัดอัตราการเน้นของหัวใจได้แล้ว ก็ยังวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้เช่นกัน ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ในระดับ 95% – 100% ครับ ถ้าต่ำกว่านี้อาจมีภาวะได้รับออกซิเจนได้ไม่เพียงพอ ทั้งนี้เมื่อวัดค่าต่างๆ แล้ว เราก็สามารถดูย้อนหลังได้ในแอป realme Link

รายงานสถานะการนอนหลับ

ในเรื่องการวัดคุณภาพการนอนหลับก็ยังวัดค่าได้เช่นกันครับ โดยเราจำเป็นต้องใส่นอนไปด้วย โดยผลสรุปจะบอกระยะเวลาการนอนหลับทั้งหมด และภาวะการนอนหลับในหลายช่วงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่เรานอน ได้แก่ เวลาตื่นนอน, งีบหลับ,หลับสนิท และ REM (หลับฝัน)

ทั้งนี้ในการดูสรุปย้อนหลังก็สามารถดูได้ในแอป realme Link ครับ โดยจะมีการบอกสถานะการนอนหลับทั้งหมด และอัตราการเต้นของหัวใจตลอดช่วงการนอนครับ

ฟีเจอร์ด้านออกกำลังกาย

โหมดกีฬามีมากถึง 15 ประเภท

realme Watch S Pro รองรับโหมดการออกกำลังกายในตัวถึง 15 โหมด ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, การเดินทางไกลด้วยเท้า, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ, เครื่องออกกำลังกายกรรเชียงบก, เครื่องเดินวงรี, คริกเก็ต, การฝึกความแข็งแรง และ Free Workout ซึ่งระหว่างการออกกำลังกายจะมีการบอกหลายหมวดต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดกีฬาครับ โดยหลักๆ จะมีอัตราการเต้นของหัวใจ, แคลอรี่ หรือเวลา เป็นต้น

realme Watch S Pro ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี GPS Dual-Satellite เป็นครั้งแรกของแบรนด์เพื่อให้ตำแหน่งมีความแม่นยำสูงระหว่างการออกกำลังกาย ทั้งยังใช้งานพลังงานต่ำเพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น

ว่ายน้ำได้สบายเพราะกันน้ำระดับ 5ATM

ในการออกกำลังกายยังใช้ว่ายน้ำได้แบบสบายๆ เพราะมีมาตรฐานกันน้ำ 5ATM หรือกันน้ำลึกสูงสุดถึง 50 เมตร โดยระบบยังคงเก็บข้อมูลระหว่างการว่ายน้ำได้ ไม่ว่าจะเป็น SWOLF, แคลอรี่, ระยะทาง และอื่นๆ

ฟีเจอร์อื่นๆ

realme Watch S Pro ยังสามารถตรวจจับการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน, การเปิดแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ, ลุกขึ้นยืน และฝึกลมหายใจ

แบตเตอรี่ใช้ได้สูงสุด 14 วัน!

พูดถึงฟีเจอร์ต่างๆ ไปแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ โดย realme Watch S Pro มาพร้อมแบต 420mAh ซึ่งตามที่เคลมไว้จะอยู่ที่ใช้งานได้สูงสุดที่ 14 วัน ซึ่งจากที่เราลองใช้งานจริงๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ก็ชาร์จเพียงแค่ตอนแกะกล่องรอบเดียวเท่านั้นเองครับ

ทั้งนี้ในการชาร์จด้วยแท่นก็สามาราถชาร์จจาก 0% – 100% ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

สรุปการใช้งาน

สำหรับ realme Watch S Pro จริงๆ ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ทำออกได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ดีไซน์ที่ให้ความพรีเมี่ยม มีความคลาสสิกในตัว ซึ่งขนาดตัวเรือนจะเหมาะกับผู้ชายมากกว่า แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนชอบนาฬิกาจอใหญ่เห็นได้ชัดๆ จะเลือกใส่ก็ไม่ว่ากันครับ โดยการใช้งานหลายฟีเจอร์ถือว่ามีความแม่นยำมากๆ เซ็นเซอร์ตรวจจับได้ดี แล้ว UI ก็ใช้งานง่าย และแบตเตอรี่ที่บอกว่าอึด ก็คืออึดมากๆ ใช้งานได้หลายวันกว่าจะชาร์จอีกครั้งครับ

สำหรับ realme Watch S Pro พร้อมขายในราคา 4,999 บาท โดยจะมี Flash Sale สุดพิเศษในวันที่ 11, 16 และ 19 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านทาง Lazada, Shopee และ This Shop เหลือเพียง 3,999 บาทเท่านั้น ส่วนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะอยู่ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ณ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

กำลังฮอต

Featured4 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured7 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News2 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Android News18 ชั่วโมง ago

ผล Geeekbench ยืนยัน OnePlus Nord 4 ใช้ชิป SD 7+ Gen 3 พร้อม RAM 12GB และใช้ Android 14

มีข่าวลือเรื่องสเปคไ...

IT News19 ชั่วโมง ago

Xiaomi จับมือ PADI ยกทีมเสียวหมี่แฟนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลทำความสะอาดหาดบางแสน

เสียวหมี่ ประเทศไทย ...

IT News19 ชั่วโมง ago

วันทรัพย์สินทางปัญญาโลก: OPPO ยังคงรักษาอันดับ IP จากทั่วโลก ไว้ที่ 10 อันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 5

29 เมษายน ...

IT News20 ชั่วโมง ago

ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9

ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์...

Smart Review20 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook OLED S 16 (S5606) โน้ตบุ๊คดีไซน์โดดเด่น สเปคแรงบน Intel Core Ultra เพิ่มความสวยด้วยไฟ RGB บนคีย์บอร์ด และจอ 16″ 3.2K แบบ 120Hz

ASUS Vivobook OLED S...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก