แกะกล่องพรีวิว realme GT 7 สมาร์ตโฟน ‘The 2025 Flagship Killer ชิปเร็วแรง Dimensity 9400e แบตไททัน 7000mAh และ IceSense Design

โดย Shine
realme GT 7 Preview

มาประเดิมการเรียกน้ำย่อยของ realme GT 7 Series ทั้ง realme GT 7 และ realme GT 7T สมาร์ตโฟนที่ขนานนามว่าเป็น “The 2025 Flagship Killer” หรือนักฆ่าเรือธงแห่งปี 2025 ด้วยสเปคที่เร็วแรงขั้นสุดระดับท็อปของโลก ดีไซน์ IceSense ที่ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกในโลก รวมถึงพลังของแบตเตอรี่ไททัน 7000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็วถึง 120W SUPERVOOC อีกด้วย ซึ่งนี่เป็นเพียงบางส่วนของรุ่นนี้เท่านั้น และวันนี้เราก็จะพามาดูความเป็น Flagship Killer กันแบบพอหอมปากหอมคอครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง realme GT 7 Series มีอะไรบ้าง

กล่องของ realme GT 7 Series ทั้ง 2 รุ่นใช้เป็นกล่องสีดำ มีชื่อรุ่น GT 7 หรือ GT 7T ตรงกลางชัดเจน ส่วนด้านหลังจะมีสเปคหลักๆ ของรุ่นนี้ให้เราทราบทั้งหมด 4 อย่าง

realme GT 7 Preview

เปิดออกมาจะเจอกับกล่องสีดำที่ใส่อุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยจะมีเคสดำซิลิโคน เข็มเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น

realme GT 7 Preview

เปิดมาอีกชั้นจะเป็นตัวเครื่อง realme GT 7 พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่โรงงานแล้วครับ

realme GT 7 Preview

และท้ายสุดจะเป็นหัวชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC ที่ให้มาเลยแบบไม่ตองซื้อเพิ่ม พร้อมด้วยสาย USB Type-C และ Type-A

สรุปทั้งหมดที่ให้มาในกล่องมีดังนี้เลยครับ

  • ตัวเครื่อง realme GT 7 พร้อมติกฟิล์มกันรอย
  • เคสซิลิโคนสีดำ
  • หัวชาร์จ 120W SUPERVOOC
  • สาย USB Type-C
  • เข็มเปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ครั้งแรกของโลกในดีไซน์ IceSense Design

พามาดู realme GT 7 กันก่อนครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับการถูกขนานนามว่าเป็น “ครั้งแรก” ของอุตสาหกรรมอีกครั้ง ในรอบนี้เป็นการใช้ดีไซน์แบบ IceSense ที่มาด้วยกัน 2 สี คือ IceSense Black และ IceSense Blue ที่ให้เราได้สัมผัสถึงความเย็นและสบายมือที่ออกมาจากตัวเครื่องได้

IceSense Design

ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีฟ้า IceSense Blue สีสันเน้นโทนสดใส ฝาหลังเป็นแบบผิวเรียบลื่นๆ ข้อดีตรงนี้คือไม่เก็บรอยนิ้วมือเลย ทำให้ไม่ต้องมาคอยเช็ดตลอดเวลาครับ

IceSense Blue

ด้วยความที่เป็น IceSense Design ในรุ่นนี้ได้นำแผ่นระบายความร้อน Graphene ผสานกับไฟเบอร์กลาสที่เป็นฝาครอบแบตเตอรี่ครั้งแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถเห็นได้ทันทีเมื่อเปิดฝาหลังออกมาครับ ซึ่งตรงนี้จะช่วยในเรื่องการนำความร้อนได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าแบบปกติถึง 24 เท่า ขนาดของ Graphene ที่ถูกใส่เข้ามาอยู่ที่ 4,000 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่เพื่อให้เราใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพได้นานมากขึ้น

ระบายความร้อน Graphene

และอีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือ IceSense หากแปลตรงๆ ก็คือการสัมผัสได้ถึงความเย็น โดย realme GT 7 ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะเป็น “อุณหภูมิที่สัมผัสได้” เวลาใช้ในฤดูร้อนก็ไม่ได้ร้อนจัด หรือหากใช้งานในฤดูหนาวก็เป็นฝาหลังที่จับได้อย่างสบายมือสุดๆ และหากอยู่ในอุณหภูมิปกติ ฝาหลังก็จะสัมผัสได้ถึงความเย็นเล็กน้อยครับ

ในการจับถือ realme GT 7 ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเลย ขนาดตัวเครื่องไม่ดูใหญ่จนเกินไป และที่ขอบเครื่องจะมีความโค้งเบาๆ เพื่อให้รับกับอุ้งมือได้เป็นอย่างดี ทำให้ความรู้สึกในการใช้งานหรือจับถือไปนานๆ จะไม่รู้สึกหนักหรือเมื่อยมือ

ส่วน realme GT 7 T ที่อยู่ในมือเราก็จะเป็นสีฟ้า IceSense Blue แบบเดียวกัน ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อนหรือกราฟีนก็ถูกใส่เข้ามาในรุ่นนี้เหมือนกันครับ โดยจะมีความพิเศษคือ Vapor Chamber ได้ขนาดใหญ่ถึง 7,700 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้รุ่นนี้เล่นได้เต็มประสิทธิภาพแบบต่อเนื่องมากกว่าเดิม

ทนน้ำทนฝุ่นมาตรฐาน IP68/69

ความแข็งแกร่งในรุ่นนี้ยังมีมาให้เหมือนกันคือมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP68/69 ที่สามารถดำน้ำสะอาดได้ลึกมากถึง 1.5 เมตร นานสูงสุดถึง 30 นาทีครับ

IP68/69

หน้าจอจัดเต็ม Pro-Esports Display 120Hz

realme GT 7 จัดหน้าจอแสดงผลแบบเกมมิ่งมาให้เราใช้งานเลย ตั้งแต่การรองรับ Refresh Rate 120Hz พร้อม Sampling Rate 360Hz เอาใจสายเกมที่ต้องใช้การตอบสนองหน้าจอที่เร็วและเรียลไทม์ให้ได้มากที่สุด

Pro-Esports Display 120Hz

สีสันบนหน้าจอก็สวยงามขั้นสุด ไม่ว่าจะเป็นจอพาเนล AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความคมชัด 1.5K รองรับ HDR10+, Contrast Ratio 5000000:1, 100% DCI-P3, 1.07 พันล้านสี และขอบหน้าจอก็บางเฉียบมากๆ ช่วยให้มีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอมากถึง 93.9% นั่นเองครับ

AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว

พาชมรอบเครื่อง

พามาดูรอบเครื่องกันอีกสัหน่อยครับ รุ่นนี้ได้กล้องหน้า Punch Hole 32MP ที่ตรงกลางด้านบนตามปกติ พร้อมด้วยลำโพงสเตอริโอที่ขอบด้านบนครับ

realme GT 7 Punch Hole 32MP

ฝั่งขวาตัวเครื่องจะได้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมาให้ โดยปุ่ม Power จะอยู่ด้านล่างที่จะมีสีสันที่แตกต่างจากตัวเครื่อง ซึ่งตัดกันอย่างลงตัว

ที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB-C ลำโพงสเตอริโออีกตัวครับ

realme GT 7

ฝั่งด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 มาให้ พร้อมด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรดหรือ IR Blaster ครับ

realme GT 7

ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งจะมีกล้องหลังทั้ง 3 เลนส์และไฟแฟลช LED อยู่ในกรอบทั้งหมด โดยจะมีฐานยื่นออกมาเล็กน้อยพร้อมสัญลักษณ์ HYPERIMAGE+ และที่ขอบอีกฝั่งจะมีคำว่า “GRAPHENE” เพื่อระบุว่านี่คือสมาร์ตโฟนที่ใช้แผ่นระบายความร้อน Graphene ครับ

realme GT 7
realme GT 7

สำหรับ realme GT 7T ดีไซน์ที่ความคล้ายกันมากๆ เว้นเพียงกล้องหลังจะมี 2 เลนส์ครับ ส่วนฝั่งขวาจะมีเพียงไฟแฟลชมาให้เท่านั้น

ฟีเจอร์เด่นของ realme GT 7

MediaTek Dimensity 9400e รุ่นแรกของโลก

realme GT 7 ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9400e เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งเป็นชิปตัวท็อปสูงสุดอันดับ 3 ของโลกฝั่ง Android แล้วครับ ชิปตัวนี้ใช้ขนาดเล็กเพียง 4nm จาก TSMC พร้อมความเร็ว Clock สูงสุด 3.4GHz ทั้งยังมี GPU Arm Immortalis-G720 ซึ่งมีความแรงในการประมวลผลด้านกราฟิกขั้นสูง และเล่นได้ทุกเกมในสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ในรุ่น realme GT 7T นั้นใช้ชิป Dimensity 8400-MAX ที่เป็นสถาปัตยกรรมเดียวกันเป๊ะๆ มีความเร็ว Clock อยู่ที่ 3.25GHz ซึ่งมีความแรงระดับท็อป ทำให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดในกลุ่มราคาเดียวกันด้วยครับ

MediaTek Dimensity 9400e

แบตเตอรี่ไททัน 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC เป็นครั้งแรก

เป็น “ครั้งแรก” อีกครั้งในรุ่นนี้ครับ ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ไททันที่ให้ความจุสูงมากๆ อยู่ที่ 7000mAh ทำให้เราใช้งานทั่วไปได้ทั้งวันแน่นอน หรือเล่นเกมก็ได้มากกว่าครึ่งวันแน่นอน และยังเป็นรองรับการชาร์จเร็วขั้นสุด 120W SUPERVOOC ซึ่งนี่เป็นรุ่นแรกที่ได้แบตใหญ่ 7000mAh ที่ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC เรียกว่าได้แบตเยอะและชาร์จเร็วควบคู่กันไป

120W SUPERVOOC
120W SUPERVOOC

กล้อง AI Travel Snap จบหลังกล้อง พร้อมลูกเล่นใหม่

realme GT 7 ได้กล้องหลังมา 3 เลนส์ ซึ่งถ่ายได้สวยงามตามสไตล์ตัวท็อป ใช้เซ็นเซอร์เรือธงจาก Sony อย่าง IMX906 ถ่ายได้สวยงาม คมชัด 50MP ทั้งยังมีฟีเจอร์ Lightning Snap และ Travel Style ที่เป็นฟิลเตอร์สำหรับสายท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลย

realme GT 7 Camera

สรุปสเปค realme GT 7

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.42 × 76.13 × 8.30 มม.
  • น้ำหนัก : 206 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2780 x 1264 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 360Hz, 2160Hz PWM Dimming, Contrast Ratio 5000000:1 รองรับ HDR 10+, สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93.9%, 100% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และแสดงผล 1.07 พันล้านสี
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 9400e Octa-core ความเร็ว 3.4GHz
  • GPU : Arm Immortalis-G720
  • RAM : 12GB LPDDR5X
  • ROM : 256/512GB/1TB UFS 4.0
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ดังนี้
    • เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX906, 1/1.56″ รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Telephoto 2x 50MP รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ S5KJN5, 1/1.28″
    • เลนส์ Ultra-Wide 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา เซ็นเซอร์ OV08D10
  • กล้องหน้า 32MP รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ Sony IMX615
  • ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC 360 องศา และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ Titan ความจุ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC

สรุปสเปค realme GT 7T

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.42 × 75.97 × 8.25 มม.
  • น้ำหนัก : 202 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.80 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2800 x 1280 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 360Hz, Contrast Ratio 5000000:1 รองรับ HDR 10+, 100% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และแสดงผล 1.07 พันล้านสี
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 8400-MAX Octa-core ความเร็ว 3.25GHz
  • GPU : Mali-G720 MC7
  • RAM : 12GB LPDDR5X
  • ROM : 256/512GB UFS 4.0
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
    • เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX896, 1/1.56″ รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Ultra-Wide 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา เซ็นเซอร์ OV08D10
  • กล้องหน้า 32MP รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ Sony IMX615
  • ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 6.0, NFC 360 องศา และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ Titan ความจุ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC

บอกได้แค่ว่านี่คือส่วนเดียวของ realme GT 7 Series สมาร์ตโฟน “The 2025 Flagship Killer” เท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่จัดเต็มมากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเล่นเกมและตัวอย่างภาพถ่ายที่จะจัดเต็มมาให้ชมกันแน่นอนครับ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่รีวิวฉบับเต็มที่รอกันได้ในเร็วๆ นี้ผ่านเว็บไซต์ iphone-droid.net ครับ

realme GT 7 Preview

เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More