Connect with us

Featured

รีวิว realme Buds Air 2 และ Buds Air 2 Neo หูฟัง TWS ตัดเสียงเทพ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,299 บาท

Published

on

realme เปิดตัว realme Buds Air 2 และ realme Buds Air 2 Neo มาเสริมทัพหูฟัง TWS ของแบรนด์ แต่ที่น่าสนใจก็คือ 2 รุ่นนี้มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ในราคาเป็นมิตรมาก ๆ เริ่มต้นเพียง 1,299 บาทเท่านั้น แถมดีไซน์ยังโดดเด่นและฟีเจอร์การใช้งานเพียบ ๆ อีกด้วย

วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net เลยขอมารีวิวหูฟัง 2 รุ่นใหม่ realme Buds Air 2 Neo และ realme Buds Air 2 ให้ชมกันสักหน่อย น่าสนใจแค่ไหนมาติดตามกันเลยครับ

realme Buds Air 2 Neo

เริ่มต้นที่ realme Buds Air 2 Neo กันก่อนเลย รุ่นนี้มาพร้อมกล่องสีเหลืองมาตรฐานของ realme ที่หน้ากล่องจะมีชื่อรุ่นพร้อมภาพประกอบตัวหูฟังโชว์อยู่เด่น ๆ แต่…ภาพที่หน้ากล่องจะโชว์เป็นสีดำทั้งหมด ไม่ว่าตัวหูฟังภายในจะเป็นสีอะไรก็ตามนะครับ

วิธีสังเกตสีที่อยู่ภายในกล่องจริง ๆ ให้ดูจากที่สติกเกอร์ด้านหลังกล่องจะมีระบุไว้ครับ realme Buds Air 2 Neo จะมีให้เลือก 2 สีคือ Active Black และ Calm Gray ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวคือสี Calm Gray ครับผม

อุปกรณ์ภายในกล่องของ realme Buds Air 2 Neo จะให้มา 4 อย่างประกอบด้วย

  • ตัวหูฟัง realme Buds Air 2 Neo
  • สายชาร์จ USB type-C
  • เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
  • จุกหูฟังไซส์ S และ L

ดีไซน์ Futuristic

แกะกล่องเรียบร้อยทีนี้เรามาดูดีไซน์ของ realme Buds Air 2 Neo กันหน่อย รุ่นนี้ใช้ดีไซน์แบบ Futuristic หรือความเป็นโลกอนาคต ให้ความรู้สึกที่ทันสมัย ตัวเคสชาร์จมีขนาดที่เล็กกะทัดรัดคล้ายก้อนหินทรงอนาคต พกพาได้สะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 45 กรัม

เปิดฝาออกมาเราจะเจอกับตัวหูฟังที่มีดีไซน์ล้ำเข้าไปอีกใช้ผิวสัมผัสตัดกันโดยตัวหูฟังจะเป็น Matte Process ผิวด้านสัมผัสได้ดี และส่วนบนจะมีความแวววาวใช้เทคนิค Lamination Process ใช้ฟิล์มพลาสติกที่ผ่านกระบวนการลามิเนตหลาย ๆ ชั้นมาเคลือบติดเข้าด้วยกันเป็นฟิล์มแผ่นเดียว

ตัว Buds ก็ยังมีความโค้งมน ช่วยให้จับถือหรือสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบาย โดยบริเวณด้านบนของตัว Buds จะมีความโค้ง 48 องศา และบริเวณส่วนล่างของตัว Buds มีความโค้ง 72 องศา Buds 1 ข้างนั้น จะมีน้ำหนักเพียง 4.5 กรัมสวมใส่ได้สบายไม่หนักหูครับ

การสวมใส่ถือว่าทำได้ดีครับ แม้จะเป็นแบบ In-Ear แต่ตัวจุกหูฟังนั้นนุ่มกำลังดีไม่อึดอัด แต่อาจจะต้องเลือกไซส์ของจุกหูฟังให้เหมาะกับหูของเราด้วย ตอนแกะกล่องหูฟังจะใส่ไซส์ M มาให้ ซึ่งถ้าลองใส่แล้วไม่แน่นมากนักหรือหลุดง่ายก็อาจจะลองเปลี่ยนดูครับ ถ้าได้ไซส์ที่พอดีกับหูแล้วจะแน่นหนามากใส่ใช้งานยังไงก็ไม่หลุดเลยล่ะครับ

ที่ตัวเคสของ realme Buds Air 2 Neo จะใช้พอร์ต USB type-C ในการชาร์จ ก็ถือว่ามาตรฐานดีไม่ต้องหาสายชาร์จเพิ่มเติมเนาะ

การเชื่อมต่อและฟีเจอร์การใช้งาน

ได้เวลาเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว realme Buds Air 2 Neo สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นได้ผ่านระบบ Bluetooth แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนของทาง realme หรือสมาร์ทโฟน Android เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไปก็จะง่ายหน่อยเพียงแค่เปิดฝาเคสแล้วนำมาใกล้ ๆ กับสมาร์ทโฟนก็จะมี Pop Up แจ้งเตือนขึ้นมาให้เราเชื่อมต่อได้ทันทีเลยครับ

realme Buds Air 2 Neo จะทำงานร่วมกับแอป realme Link เพื่อการตั้งค่าเพิ่มเติม ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดบน Play Store ครับ แต่ถ้าใช้สมาร์ทโฟนของ realme ก็จะมีติดเครื่องอยู่แล้วสามารถกดเข้าไปเชื่อมต่อกันได้เลย

ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อกันแล้วในแอปก็จะมีตัวเลือกการตั้งค่าให้เราปรับหลายอย่างเลย ทั้งระบบ Noise Control ที่เราสามารถเลือกได้จากตรงนี้ 3 โหมด

  • Noise Cancelling (ยกเลิกเสียงรบกวน)
  • Normal (ปกติ)
  • Transparency (ความโปร่งใส)

รวมถึง Sound Effect เราก็ยังเลือกปรับได้จากตรงนี้เลยมีให้เลือก 3 แบบเช่นกันประกอบด้วย

  • Bass Boost+
  • Dynamic
  • Bright (สดใส)

นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าเรื่องการควบคุมด้วยการสัมผัสได้จากในแอป realme Link นี้ด้วย โดยเราสามารถควบคุมได้ 3 แบบคือ แตะ 2 ครั้ง, แตะ 3 ครั้ง, แตะแล้วกดค้าง ซึ่งสามารถเลือกการควบคุมได้หลากหลายดังนี้ครับ

  • เล่น/หยุด
  • เพลงถัดไป
  • เพลงก่อนหน้า
  • ระบบสั่งการด้วยเสียง
  • สลับโหมด
  • โหมดเกม

เซ็ตค่าทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลามาทดลองฟังกันแล้วครับ realme Buds Air 2 Neo มาพร้อมไดรเวอร์ Bass Boost ขนาด 10 มม. พร้อมด้วยอัลกอริธึมคอมโพสิตใหม่กับ realme เบส ที่จะช่วยปรับเสียงเบส ทำให้เสียงเบสมีความลึกและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AAC HightQuality Audio ซึ่งเป็นอัลกอริธึมการเข้ารหัสที่มีอัตราการบีบอัดสูงซึ่งมีการพัฒนาโดย Dolby Laboratories  อีกด้วย

realme Buds Air 2 Neo มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation อย่างที่บอกไป ช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างดี สูงสุดถึง 25 dB และตรวจสอบเสียงรบกวนภายนอกผ่านไมโครโฟนฟีดฟอร์เวิร์ดทำให้เอียร์บัดส่งเสียงป้องกันเสียงรบกวนย้อนกลับเพื่อยกเลิกเสียงรบกวนดังกล่าวออก เท่าที่ลองฟังมาจริง ๆ คือให้เสียงที่ดีมาก เราแทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนภายนอกเลย ใช้เดินทางผ่านรถไฟฟ้านี่เงียบกริบไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเลยจริง ๆ ครับ

นอกจากนี้ยังรองรับโหมด Transparency หรือโหมดฟังเสียงภายนอกด้วย ช่วยให้เราใช้งานหูฟังได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องเอาหูฟังออกเวลาจะสนทนาเพราะตัวไมโครโฟนจะเก็บเสียงภายนอกเข้ามาให้เราได้ยินอย่างชัดเจนครับ

Dual Mic Noise Cancellation ส่วนเรื่องการคุยโทรศัพท์ realme Buds Air 2 Neo ก็มีไมโครโฟนคู่ พร้อมกับอัลกอริธึมการตัดเสียงรบกวนสภาพแวดล้อมภายนอก จะช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมากในระหว่างการโทร ใช้คุยโทรศัพท์ได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

มี Game mode ลดความหน่วงด้วย realme Buds Air 2 Neo นั้นมี Game mode ที่เราสามารถเปิดได้จากแอป realme Link ตรงนี้จะช่วยให้ความหน่วงต่ำมากเพียง 88ms เท่านั้นเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมแล้วก็ว่าได้ ทำให้เราสามารถใส่หูฟังตัวนี้เล่นเกมได้อย่างไม่ติดขัด เสียงกับภาพนั้นตามกันมาติด ๆ

แบตเตอรี่และการชาร์จ

ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ realme Buds Air 2 Neo สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 28 ชม. เมื่อปิดโหมด ANC และชาร์จผ่านเคสชาร์จ หรือหากเปิดโหมด ANC ก็ยังใช้ได้กว่า 20 ชม. ถือว่าใช้งานได้ยาวนานเลยล่ะ ถ้าวันหนึ่งเราใช้งานราว ๆ 4 ชม. ก็จะได้ 5 วันพอดี แถมรุ่นนี้ยังมีระบบชาร์จไว ชาร์จเพียงแค่ 10 นาทีก็สามารถฟังต่อเนื่องได้กว่า 3 ชม. แล้วครับ

สรุปแล้ว realme Buds Air 2 Neo

สรุปแล้ว realme Buds Air 2 Neo ก็ถือว่าเป็นหูฟัง TWS ราคาเบา ๆ ที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามดูดี การสวมใส่และพกพาที่พอเหมาะพอเจาะ คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม เบสแน่น Latency ต่ำ และทีเด็ดคือลูกเล่นอย่าง Active Noise Cancellation ที่หาได้ยากในหูฟังราคานี้ รวม ๆ แล้วลงตัวมาก จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างก็ตรงที่ตัวเคสนั้นมีรูปทรงโค้งไปหน่อยวางบนพื้นราบแล้วจะไม่นิ่งกับเรื่องเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่ไม่ได้ให้มาด้วย ถ้าไม่ติด 2 เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในราคาพันนิด ๆ แบบนี้ครับ

realme Buds Air 2 Neo ราคา 1,299 บาท

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ E-Commerce เท่านั้น

realme Buds Air 2

มาต่อกันที่รุ่นพี่อย่าง realme Buds Air 2 รุ่นนี้จะอัปเกรดความสามารถขึ้นมาอีก มาในกล่องสีเหลืองเหมือนกันที่หน้ากล่องมีชื่อรุ่นและภาพประกอบชัดเจน และเช่นกันครับภาพประกอบด้านหน้าจะโชว์สีดำอย่างเดียว โดยรุ่นนี้จะมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Closer Black และสีขาว Closer White ครับ

ตัวสีจะระบุอยู่ที่ด้านล่างของตัวกล่องและสีที่เราได้มารีวิวเป็นสีขาว Closer White นั่นเองครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องของ realme Buds Air 2 จะให้มาทั้งหมด 4 อย่างประกอบด้วย

  • ตัวหูฟัง realme Buds Air 2
  • สายชาร์จ USB type-C
  • เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
  • จุกหูฟังไซส์ S และ L

ดีไซน์นำเทรนด์

ดีไซน์ของ realme Buds Air 2 จะมาในทรงเรียบหรู ตัวเคสใส่ผิวสัมผัสแบบมันวาวขนาดกำลังเหมาะมือ รวมตัวหูฟังภายในด้วยแล้วก็จะหนักแค่ 42.7 กรัมเท่านั้น ใครที่เน้นการพกพาที่สะดวกน่าจะชอบครับ ตัวนี้พกพาได้ง่ายดี แต่แอบมีจุดสังเกตอยู่บ้างตรงตัวเคสชาร์จนั้นเป็นรอยค่อนข้างง่าย ต้องใช้งานระมัดระวังกันหน่อยเนาะ

ตัวเคสนั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกตัวฝาเคสเปิดออกได้ง่าย แม้จะใช้งานมือเดียวก็เปิดได้ แม่เหล็กของฝาก็แข็งแรงเปิดและปิดได้อย่างมั่นคง

ดีไซน์ของหูฟังก็ออกแบบมาได้น่าสนใจ เป็นทรง In-Ear ที่มีก้านยาวออกมากำลังดี ใช้ดีไซน์แบบ Two-Tone เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์และพรีเมี่ยม โดยสีขาว Closer ที่ตัวหูฟังจะเป็นสีขาวแต่ก้านจะเป็นสีเงิน โดยด้านบนของชุดหูฟัง ได้ออกแบบให้มีความเปล่งประกายคล้ายอัญมณีและนำไดอะแฟรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ จะช่วยให้สวมใส่ได้อย่างมีสไตล์มากยิ่งขึ้น

ในเรื่องการสวมใส่หูฟังสวมใส่ได้ง่ายและจับถือได้อย่างดีเพราะมีก้านให้เราได้จับตอนสวมก็ใส่เข้าไปแบบปกติ ความแน่นทำได้ดี จะสะบัดหัวแรง ๆ ก็ไม่หลุด น้ำหนักของตัวหูฟังก็เบาข้างละ 4.1 มม. เท่านั้น ทำให้เราใส่ฟังเพลงได้นาน ๆ โดยไม่ปวดหูครับ

ที่ตัวเคสชาร์จจะมีปุ่มกดเพื่อรีเซ็ตสัญญาณให้ด้วย เผื่อเราอยากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นก็สามารถกดค้างที่ปุ่มด้านข้างนี้ได้เลย ไฟสถานะด้านหน้าจะเป็นสีขาวกระพริบ ๆ ครับ

ส่วนพอร์ตชาร์จของ realme Buds Air 2 ก็เป็นแบบ USB type-C เหมือนกัน ง่ายต่อการชาร์จเพราะใช้ของสมาร์ทโฟนได้เลย

การเชื่อมต่อและฟีเจอร์การใช้งาน

ในเรื่องการเชื่อมต่อเหมือนกันครับเราสามารถเปิดฝาเคสและนำมาใกล้ ๆ กับสมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อผ่านฟีเจอร์ Google Fast Pair ได้เลย จะมี Pop-Up แสดงขึ้นมาถามให้เราเชื่อมต่อได้อย่างทันที ง่ายและสะดวกมาก นอกจากนี้ realme Buds Air 2 ยังมาพร้อมกับ R2 Chip ผสานประสิทธิภาพอันทรงพลังเข้ากับการใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษเพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียรและประสบการณ์ไร้สายแบบใหม่

ในการตั้งค่าเพิ่มเติมเราใช้แอป realme Link ได้เลยภายในนี้จะมีเรื่องการตั้งค่าพวกโหมด Noise Control ได้ 3 แบบ

  • Noise Cancelling (ยกเลิกเสียงรบกวน)
  • Normal (ปกติ)
  • Transparency (ความโปร่งใส)

Sound Effect อีก 3 แบบ

  • Bass Boost+
  • Dynamic
  • Bright (สดใส)

แต่จุดที่ realme Buds Air 2 มีเพิ่มจาก realme Buds Air 2 Neo คือระบบการตรวจจับหูฟัง ช่วยให้เวลาเราเอาหูฟังออกจากหูแล้วคอนเทนต์ที่เราดูอยู่นั้นหยุดชั่วคราวได้ครับ

ในเรื่องการควบคุมผ่านตัวหูฟัง realme Buds Air 2 ทำได้เช่นกัน ควบคุมที่ตัวก้านหูฟังทำงานได้ 3 แบบคือ แตะ 2 ครั้ง, แตะ 3 ครั้ง, แตะแล้วกดค้าง การควบคุมก็ปรับได้หลากหลายเช่นกันผ่านแอป realme Link เลยครับ

ในเรื่องเสียง realme Buds Air 2 นั้นทได้ยอดเยี่ยม รุ่นนี้ได้ The Chainsmokers มาช่วยปรับเสียงให้ด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงในการฟังเพลงเลย ตัวหูฟังมาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. พร้อมเคลือบสารคาร์บอนคล้ายเพชร ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับฟังของเสียง เหมือนคุณได้รับฟังในสตูดิโอ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการอัปเกรดโหมด Bass Boost + แบบใหม่ โดยได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่าง realme Music Studio และ The Chainsmokers เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ใช้พลังของไดนามิกคอยล์ขนาดใหญ่และไดอะแฟรม DLC อย่างเต็มที่ ให้ได้รับเสียงเบสที่มีชีวิตชีวา แต่กับ realme Buds Air 2 คุณสามารถเพิ่มเสียงเบสสำหรับการบันทึกดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ร็อคและเสียงอื่น ๆ ที่ชื่นชอบได้

ระบบตัดเสียงรบกวนก็ขั้นเทพด้วย Active Noise Cancellation ที่ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 25dB สามารถกรองเสียงรบกวนความถี่ต่ำ แม้กระทั่งเสียงเครื่องบิน เสียงรถไฟใต้ดินและเครื่องมือการขนส่งอื่น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยตัดเสียงของสิ่งรบกวนภายในบ้าน เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับเพลงหรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

realme Buds Air 2 ยังรองรับ Transparency Mode หรือโหมดฟังเสียงภายนอกโดยเมื่อเปิดใช้งาน เราจะยังได้ยินการสนทนารอบตัวผ่านไมโครโฟน ทำให้เราสามารถสนทนากับคนอื่นได้แบบที่ไม่ต้องถอดหูฟังออกมาเลยล่ะครับ

realme Buds Air 2 ได้รับอัปเกรดโหมดเกม ที่มีความหน่วงต่ำเพียง 88ms ซึ่งเป็นระดับความหน่วงที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยลดลงถึง 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แน่นอนว่าใช้เล่นเกมนี่ไม่มีหน่วงเลย เสียงกับภาพนี่ตรงกันเล่นเกมได้คุณภาพเสียงเทพ ๆ เลยล่ะครับ

แบตเตอรี่และการชาร์จ

ปิดท้ายที่แบตเตอรี่เหมือนกัน realme Buds Air 2 สามารถใช้งานได้ยาวนาน 25 ชม. เมื่อปิดโหมด ANC และ 22.5 ชม. เมื่อปิดโหมด ANC ส่วนเรื่องการชาร์จก็ชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 1 ชม. เท่านั้น หรือถ้ามีเวลาไม่เยอะชาร์จ 10 นาทีเราก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้กว่า 2 ชม. ด้วยครับ

สรุป realme Buds Air 2

สรุปแล้ว realme Buds Air 2 ก็เป็นอีกหนึ่งหูฟัง TWS ที่น่าสนใจมาก เพราะได้ฟีเจอร์หลายอย่างมาครบไม่ต่างจากหูฟัง TWS ระดับพรีเมี่ยม ได้ The Chainsmokers มาปรับเสียงให้ ทั้งโหมด ANC ตัดเสียงรบกวนอย่างเทพ ระบบเสียง Bass Boost+ ที่เก่งขึ้นมอบประสบการณ์การฟังเพลงระดับสตูดิโอ ทั้งหมดนี้อยู่ในกลุ่มราคาไม่ถึง 2,500 บาท เรียกว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ จุดสังเกตที่เราเจอก็มีอยู่บ้างคือเรื่องรอยขีดข่วนที่พบได้ง่ายบนตัวเคส แต่ถ้าไม่ได้ติดใจตรงนั้นก็ไม่อยากให้พลาดหูฟังตัวนี้ realme Buds Air 2 เลยล่ะครับ สุดคุ้มจริง ๆ

realme Buds Air 2 ราคา 2,499 บาท

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ realme Brand Shop และร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ

สรุปแล้ว “นี่คือหูฟัง TWS ตัดเสียงเทพ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้”

สรุปรวมให้อีกที หูฟัง realme Buds Air 2 Neo และ realme Buds Air 2 ก็ถือเป็นหูฟัง TWS ราคาดีที่ไม่อยากให้พลาดเลยล่ะครับ ราคาเริ่มต้นแค่ 1,299 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ตัดเสียง ANC และคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมขนาดนี้ หาได้ยากนะ ใครที่กำลังมองหาหูฟัง TWS ดี ๆ สักตัวมาใช้งานแบบที่งบสบายกระเป๋า เราว่า 2 รุ่นนี้คือตัวเลือกแรก ๆ ที่ควรมองเลยล่ะ

กำลังฮอต

Featured1 สัปดาห์ ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News1 เดือน ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก