Connect with us

Featured

รีวิว POCO X3 NFC สมาร์ทโฟนเพื่อคอเกม จอไหลลื่น 120Hz มาพร้อม Snapdragon 732G และระบบระบายความร้อนขั้นสูง

Published

on

POCO X3 NFC สมาร์ทโฟนเพื่อเกมเมอร์ในระดับสูง ใช้งานได้ไหลลื่นด้วยจอ Refresh Rate 120Hz ควบคู่ขุมพลัง Snapdragon 732G, แบตเตอรี่สุดอึด 5160mAh และเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ LiquidCool Technology 1.0 Plus

 

สรุปสเปค POCO X3 NFC

  • ขนาดตัวเครื่อง : 165.3 × 76.8 × 9.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 215 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล DotDisplay ชนิด LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, DCI-P3 87.4%, Contrast ratio: 1,500:1 พร้อมด้วยรับรองแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland และ HDR10
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 732G Octa Core ความเร็ว 2.3GHz
  • GPU : Adreno 618
  • RAM 6 GB LPDDR4X
  • ROM 64/128 GB UFS 2.1 เพิ่ม MicroSD สูงสุด 256GB
  • ระบบปฎิบัติการ MIUI 12 for POCO บนพื้นฐาน Android 10
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 เซ็นเซอร์ Sony IMX682
    • เลนส์ Ultra Wide-Angle 119 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi a/b/g/n/ac (Wi-Fi 5), Bluetooth 5.1, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5160mAh รองรับ 33W Fast Charge

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

ตัวกล่อง POCO X3 NFC มาในสีดำเข้ม ตัดด้วยสีเหลืองประจำของแบรนด์ด้วยชื่อรุ่น X3 NFC ตรงกลางครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง POCO X3 NFC พร้อมติดฟิล์มกันรอยเรียบร้อย
  • อะแดปเตอร์ 33W Fast Charge
  • สาย USB Type-C
  • เคส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งาน
  • ใบรับประกันสินค้า

 

ดีไซน์ของ POCO X3 NFC ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ ด้วยการใช้วัสดุด้านหลังเป็นพลาสติก Polycarbonate ที่มีความโค้งมนเพื่อให้รองรับกับอุ้มมือผู้ใช้งาน ช่วยให้ถือได้นาน ไม่รู้สึกเจ็บมือเวลาถือนานๆ ขณะที่ด้านหน้าได้ใช้เป็นวัสดุกระจก 2.5D ที่มีความโค้งเล็กน้อย

 

สีสันก็ทำออกมาได้อย่างโดดเด่น โดยสีที่เราได้มาเป็นสีน้ำเงิน Cobalt Blue ที่มีการเล่นแถบดำทึบพร้อมเส้นลวดลายตรงกลาง และมีโลโก้ POCO อยู่ตรงกลางด้วย ส่วนอีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีเทา Shadow Gray

 

ทั้งนี้ POCO X3 NFC ยังออกมาแบบให้ป้องกันละอองน้ำได้ในมาตรฐาน IP53 ใครที่ใช้งานช่วงฝนตกปรอยๆ ก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ

 

ด้านหน้าจอแสดงผลจัดมาให้ใช้งานกันแบบเต็มตาที่เรียกว่า DotDisplay มีความกว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) พร้อมอัตราส่วน 20:9 แถมยังได้รับการรองรับแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland อีกด้วย ที่สำคัญความแข็งแรงของหน้าจอก็มาแบบทนทานด้วยการครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5

 

ความพิเศษด้านหน้าจอของ POCO X3 NFC อยู่ที่ตรงนี้ครับ เพราะรองรับ Refresh Rate 120Hz ควบคู่กับ 240Hz sampling rate ทำให้ใช้งานได้อย่างไหลลื่นทุการใช้งานแน่นอน ซึ่งปกติมักจะใช้อยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธง ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ DynamicSwitch ที่ปรับ Refresh Rate ตามการใช้งานระหว่าง 50, 60, 90 และ 120Hz เพื่อประหยัดพลังงานด้วย

 

เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีลำโพงสเตอริโอที่ใช้สำหรับสนทนาได้ด้วย ถัดลงมาจะเป็นกล้องหน้าที่ฝังในหน้าจอ

 

ฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 เป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่าง nano-SIM หรือ microSD

 

ด้านขวาจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ที่สามารถใช้เป็นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย

 

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้, พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟนตัวที่ 1 และลำโพงตัวที่ 1

 

ขณะที่ด้านบนมีทั้งไมโครโฟนตัวที่ 2 และเซ็นเซอร์อินฟราเรดมาให้

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้องมีโมดูลแนวนอน มีเลนส์หลักอยู่ตรงกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยกล้องอีก 3 เลนส์ใน 3 มุม และไฟแฟลชที่อยู่มุมซ้ายบน

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

POCO X3 NFC แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ MIUI 12 for POCO บนพื้นฐาน Android 10 หรือเรียกแบบสั้นๆ ว่า POCO LAUNCHER 2.0 ครับ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ ทั้งการทำงานพื้นหลังและความเร็วให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

 

หน้าตา UI : MIUI 12 for POCO

 

ระบบความปลอดภัย

POCO X3 NFC ให้เราสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ทันทีที่ปุ่ม Power ครับ ซึ่งมีความสะดวกสบายอย่างมาก เพียงหยิบขึ้นมาแล้วนิ้วที่ลงทะเบียนไว้ลงล็อก ระบบก็ปลดล็อกให้ใช้งานทันทีอย่างรวดเร็วครับ

 

หรือใครอยากใช้งานแบบสแกนใบหน้าทั่วไปก็ทำได้เช่นกันครับ

 

ลำโพงคู่ ระบบเสียงกระหึ่ม เพื่ออรรถรสการใช้งาน

POCO X3 NFC ก็มาพร้อมกับลำโพงเสียงสเตอริโอแบบคู่ ทำให้ใช้งานได้ 2 ลำโพงแยกกันอย่างชัดเจนครับ จะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์ต่างๆ ก็เติมเต็มอรรถรสในการรับความบันเทิงแน่นอน

 

Dark Mode

Dark Mode ถือเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะชอบด้วยความที่สบายตาในการใช้งานครับ ซึ่งรุ่นนี้ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน สามารถปรับเองหรือให้เปิดอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งค่าไว้ก็ได้

 

พื้นที่ทับซ้อน

ฟีเจอร์นี้จะเป็นการใช้พื้นที่แยกออกจากพื้นหลักในเครื่อง โดยจะนับเป็นพื้นที่ที่ 2 ซึ่งเราอาจเปิดใช้งานและนำแอปพลิเคชั่นที่ต้องการความปลอดภัยสูงมาอยู่ในพื้นที่นี้ได้ ทั้งนี้ รหัสผ่านต่างๆ เพื่อเข้าถึงพื้นที่ทับซ้อนจะเป็นคนละชุดกับที่ใช้ในพื้นที่ปกติครับ

พื้นที่ทับซ้อน

พื้นที่ปกติ

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

POCO X3 NFC ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 732G เป็นรุ่นแรกของโลก โดยมีขนาดเล็กเพียง 8 นาโนเมตร ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งยังมี GPU Adreno 618 เพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้สวยงามอีกด้วย

 

สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 274,906 คะแนน

 

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 564 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,780

 

เพิ่มความแรงสายเกมด้วย Game Turbo 3.0

POCO X3 NFC ก็มาพร้อมเทคโนโลยี Game Turbo 3.0 ช่วยให้เฟรมเรทลื่นขึ้น 37.9% และมีประสิทธิภาพการสัมผัสและความแม่นยำเพิ่มขึ้นถึง 100% ใครที่เล่นเกมบ่อยๆ จะต้องชอบแน่นอนครับ และเมื่อเข้าเล่นเกมก็จะมีบอกว่า CPU และ GPU ใช้งานไปกี่ % และบอกถึงเฟรมเรทแบบเรียลไทม์ด้วย

 

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

เริ่มกันด้วยเกมมหาชนอย่าง ROV ก็สามารถเปิดทุกอย่างได้สูงสุดทั้งหมด ยกเว้นการแสดงผลในระดับสูง รวมถึงเฟรมเรทระดับสูงด้วย ทดสอบการเล่นโหมด 5 VS 5 ตามปกติก็เล่นได้ไหลลื่นตามคาด เฟรมเรทคงที่ ไม่มีอาการเฟรมเรทดรอปให้เห็นครับ

 

PUBG Mobile

ต่อมาเป็นเกม Battle Royal อย่าง PUBG Mobile ก็เปิดกราฟิกได้ในระดับ HD ควบคู่เฟรมเรทระดับสูง ซึ่งเราลองเล่นในแผนที่ขนาดต่างๆ ของเกม ก็เล่นได้แบบไหลลื่น และเรื่องการสัมผัสหน้าจอก็ทำได้ดีแบบเห็นได้ชัดเลยด้วย

 

Asphalt 9: Legends

และสุดท้ายกับเกมแข่งรถกราฟิกสวยๆ ก็สามารถเปิดภาพในระดับสูงได้ครับ ทำให้ภาพและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ระหว่างแข่งรถทำได้ดียิ่งขึ้น และเฟรมเรทก็วิ่งแบบคงที่ด้วย

 

เล่นนานๆ เครื่องก็ไม่ร้อนเกินไปด้วย LiquidCool Technology 1.0 Plus

หนึ่งในสิ่งที่ช่วยไม่ให้เฟรมเรทระหว่างเล่นเกมดรอปลงไป คือ เทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus ครับ ซึ่งในตัว POCO X3 NFC ได้ใช้แผ่นทองแดง Copper heat pipe ควบคู่กับ Graphite เพื่อระบายความร้อนถึง 2 ชั้น พร้อมระบายความร้อนดีขึ้น 20% ทำให้เวลาเล่นเกมไปนานๆ ก็รู้สึกว่าเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป

 

แบตเตอรี่สุดอึด เล่นเกมได้เกินครึ่งวันแบบไม่มีพัก

แบตเตอรี่ที่ให้มามีถึง 5160mAh มากกว่าเรือธงหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว ซึ่งใช้งานได้นานแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปที่อยู่ได้ครบวัน หรือถ้าเล่นเกมก็จัดให้เต็มๆ ที่เกินครึ่งวันครับ นอกจากนี้ ใครที่เล่นจนแบตหมดก็ชาร์จได้ไวด้วย 33W Super Fast Charging โดยเราลองชาร์จจาก 25% ถึง 100% ได้ในเวลาประมาณ 70 นาทีเท่านั้น

 

กล้องถ่ายรูป

ไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพด้านเกมเท่านั้น แต่รุ่นนี้ก็จัดให้เรื่องกล้องมาแบบจัดเต็มด้วยเหมือนกันถึง 4 เลนส์ที่ด้านหลัง และอีก 1 กล้องหน้า ซึ่งมีฟีเจอร์เยอะๆ และใหม่ๆ เยอะพอตัวครับ

 

คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

POCO X3 NFC จัดเลนส์หลักความที่ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซลครับ ช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมามีรายละเอียดที่ชัดเจน เห็นสิ่งเล็กๆ ในภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อซูมเข้าไป

 

AI อัจฉริยะ

ส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะได้ใช้การถ่ายโหมดปกติครับ ซึ่งจะได้ AI เข้ามาประมวลผลแยกแยะหมวดหมู่ในภาพให้อย่างแม่นยำเลยทีเดียว จะมีการบ่งบอกหมวดหมู่เมื่อเราเปิด AI ให้เป็นสีส้ม จากนั้นระบบจะเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ต่างๆ ทันที เช่น อาหาร หรือสุนัข เป็นต้น ส่วนเรื่องของสีสันก็ถือว่าสดกว่าปกติที่ตาเห็นครับ

 

Ultra-Wide Angle มุมมองกว้าง เก็บได้ครบทุกมุม

เลนส์ Ultra-Wide Angle ของรุ่นนี้ทำได้กว้างถึง 119 องศา ซึ่งเป็นมุมมองที่กว้างมากๆ สามารถเก็บบรรยากาศได้ครบแน่นอนครับ โดยเฉดสีต่างๆ แทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลยด้วย


เลนส์ Ultra-Wide Angle / เลนส์หลัก

 

เบลอหลังเนียนตาด้วย Portrait พร้อมปรับระดับได้ตามใจชอบ

ในการถ่าย Portrait ก็ทำออกมาได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวครับ การตัดขอบรอบตัวบุคคลทำได้เนียน ซึ่งเราสามาถปรับระดับการเบลอได้ตั้งแต่ f/1.0 – f/16 (f ยิ่งน้อยยิ่งเบลอ) ทั้งนี้ก็ยังได้ความบิวตี้ที่สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมครับ

กล้องหลัง

 

กล้องหน้า

 

นอกจากนี้ โหมด Portrait ยังมีลูกเล่นเพิ่มเติมอย่างแสงสตูดิโอที่เพิ่มความสนุกในถ่ายถ่ายยิ่งขึ้น มีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ, ไฟเวที, ภาพยนตร์, รุ้ง, ผ้าม่าน, จุด และแสงใบไม้

 

ลูกเล่นใหม่ ถ่ายแบบแยกร่างได้ด้วยฟีเจอร์ ‘โคลน’

ฟีเจอร์นี้จะเป็นการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ที่สามารถแยกตัวบุคคล 1 คนออกมาได้ด้วยการถ่ายหลายช็อต โดยเราต้องถือกล้องให้นิ่งๆ (แนะนำใช้ขาตั้งกล้อง) และให้คนเดินหน้าไปแล้วทำท่าโพสต์เรื่อยๆ ซึ่งเราจะได้ภาพที่มีความคิดสร้างสรรค์ออกมาไปเพียบ!

 

ถ่ายกลางคืนก็สว่างพร้อมความคมชัดในโหมด Night

ในการถ่ายภาพกลางคืนเรียกว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ครับ ให้ความคมชัดและความสว่างในตอนกลางคืนได้เป็นอย่างสวยงาม วัตถุในภาพแสดงผลได้ชัดเจน และสีสันต่างๆ ก็ดูธรรมชาติด้วย


Auto Mode / Night Mode

 

ถ่าย Macro ได้ใกล้สุด 4 เซนติเมตร

ในเลนส์ Macro เราสามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตรเลยทีเดียว การโฟกัสก็ทำได้ไว และภาพถ่ายก็ดูคมชัดและเรื่องสีอาจจะดรอปลงเล็กน้อยแต่ยังคงสวยงาม

 

กล้องหน้า AI

ด้านกล้องหน้าของ POCO X3 NFC ถือว่าทำได้ธรรมชาติครับ ใบหน้าของผู้หญิงและผู้ชายจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการปรับบิวตี้ ซึ่งมีการทำให้เหมาะสมกับแต่ละเพศ

 

ถ่าย Vlog สั้นๆ ไม่ต้องตัดต่อเอง

นอกจากนี้ ในเรื่องถ่ายวิดีโอในยุคนี้ก็เน้นเรื่อง Vlog แน่นอน ซึ่ง POCO X3 NFC ก็จัดฟีเจอร์นี้มาให้โดยผู้ใช้งานไม่ต้องนำไปตัดต่อให้เสียเวลา ซึ่งเราต้องถ่ายออกมาเป็นซีนๆ จากนั้นระบบก็จะตัดต่อทั้งเสียงเพลงและการเปลี่ยนฉาก (Transition) ให้อัตโนมัติ

 

สรุปจุดเด่น

  • ตัวเครื่องสามารถป้องกันละอองน้ำได้ในมาตรฐาน IP53
  • ดีไซน์สวยงาม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Cobalt Blue และสีเทา Shadow Gray
  • ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 732G ที่มีขนาดเล็ก ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ไหลลื่นทั้งเล่นเกมหรือทั่วไป
  • หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว แบบ DotDisplay แถมใช้ได้ลื่นๆ ด้วยๅ Refresh Rate 120Hz
  • แบตเตอรี่ให้มาแบบอึดๆ ถึง 5160mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging
  • ตัวเครื่องร้อนน้อยลงด้วยเทคโนโลยี LiquidCool Technology 1.0 Plus
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชัน พร้อมโหมดวิดีโอ Vlog ที่หลายคนต้องชอบ

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่มีหูฟังภายในกล่อง

 

POCO X3 NFC มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Shadow Grey และสี Cobalt Blue สนนราคารุ่นความจุ 6GB + 64GB ที่ 6,999 บาท และความจุ 6GB + 128GB ในราคา 7,999 บาท โดยจะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน JD CENTRAL ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้

กำลังฮอต

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured2 เดือน ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก