Connect with us

Featured

รีวิว OPPO Reno8 Z 5G สมาร์ทโฟน 5G “The Portrait Expert” ที่ถ่ายคนได้สวย เป็นธรรมชาติที่สุด

Published

on

รีวิว OPPO Reno8 Z 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายคนได้สวย เป็นธรรมชาติที่สุด! น้องใหม่จาก OPPO Reno8 Series ที่สานต่อ “The Portrait Expert” ด้วยฟีเจอร์กล้องสุดโดดเด่นทั้ง AI Portrait Retouching, Bokeh Flare Portrait, Selfie HDR นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่นด้วยวัสดุที่อัปเกรดและสีใหม่อย่าง Dawnlight Gold อีกด้วย!

หลังจากที่เราได้ลองใช้งานมาจริง ๆ กว่า 1 สัปดาห์ก็จะมารีวิวให้ชมแบบเต็ม ๆ ว่ารุ่นนี้สมกับที่เป็น “สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายคนได้สวย เป็นธรรมชาติที่สุด” รึเปล่า!? พร้อมแล้วติดตามครับ

สรุปสเปค OPPO Reno8 Z 5G

  • หน้าจอ : Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4″
  • Refresh rate : 60Hz
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
  • RAM : 8GB (+ 5GB RAM Expansion)
  • ROM : 128GB
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh
  • ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 64MP AI Portrait Camera
    • กล้อง Depth 2MP
    • กล้อง macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1
  • สีสัน : Dawnlight Gold, Starlight Black
รีวิว OPPO Reno8

AI 3 กล้องหลัง ความละเอียด 64MP อันทรงพลัง

ขอเริ่มที่เรื่องไฮไลท์ของรุ่นนี้กับเรื่องกล้องก่อนเลยละกันครับ OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวอันทรงพลัง พร้อมกล้องหน้า 1 ตัวมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย

  • กล้องหลัก 64MP AI Portrait Camera
  • กล้อง Depth 2MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า 16MP
รีวิว OPPO Reno8

The Portrait Expert ถ่ายคนสวย เป็นธรรมชาติ

OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมสโลแกน “The Portrait Expert” แบบนี้ เรื่องกล้องที่เน้นที่สุดก็หนีไม่พ้นโหมด Portrait ครับ ในการถ่ายภาพ Portrait จากกล้องหลังก็มีโหมด Portrait ที่ช่วยจัดการภาพใบหน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติพร้อมการละลายฉากหลังที่เนียนตามาให้เลือกเหมือนเดิม และครั้งนี้ก็มีการปรับปรุงในเรื่องซอฟต์แวร์ให้ถ่ายออกมาได้สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นไปอีกด้วย

รีวิว OPPO Reno8

AI Portrait Retouching หน้าเนียนเป็นธรรมชาติ

ในเรื่องความเนียนใสของใบหน้า OPPO จัดให้เป็นส่วนสำคัญ จึงมาพร้อมฟีเจอร์ AI Portrait Retouching ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าและโทนสีผิวหน้าได้อย่างชาญฉลาดประหนึ่งเราแต่งหน้ามาแบบเนียน ๆ (ลิปสติกและบลัชออน) แต่ความเนียนนี้ก็ยังให้มาแบบพอดิบพอดีไม่เว่อจนเกินไป เรียกว่าสวยเนียนเป็นธรรมชาติจริง ๆ ครับ

รีวิว OPPO Reno8

Bokeh Flare Portrait ละลายฉากหลังสวยเสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR

ต่อมาคือ Bokeh Flare Portrait นั่นเองครับ ฟิลเตอร์นี้จะช่วยให้เราได้ภาพ Portrait ที่มีดวงไฟ Bokeh สวย ๆ ของฉากหลังได้อย่างเนียนตา ดึงความระยิบระยับของฉากหลังให้ตัวแบบเด่นขึ้น ขับเน้นอารมณ์โรแมนติก ชวนฝันราวกับอยู่ในภาพยนตร์

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

ซึ่งความเก่งของโหมด Bokeh Flare Portrait นี้ก็คือเราสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าเลย จะเซลฟี่เองหรือให้คนอื่นถ่ายให้ก็ออกมาสวยเป็นโทนภาพชวนฝันละลายหลังอย่างเนียนทั้งคู่ครับ

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

Selfie HDR มอบภาพชัดแม้ย้อนแสงหรือแสงน้อย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราเห็นความเก่งของกล้องหน้า OPPO Reno8 Z 5G ก็คือ Selfie HDR ที่ตัวกล้องจะเสริม Dynamic Range ของภาพให้แม้เราจะถ่ายในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง ก็จะได้ทั้งใบหน้าที่คมชัดและฉากหลังที่ไม่จ้าโอเว่อเกินไป

รีวิว OPPO Reno8

กล้องหลักถ่ายสวย มี AI Scene Enhancement คอยปรับแต่ง

ไม่ใช่ว่าเด่นแค่ Portrait อย่างเดียว กล้องหลักของ OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมความละเอียด 64MP เพียงพอต่อการถ่ายภาพวิว วัตถุ หรืออาหารได้อย่างสวยงาม เพราะมี AI Scene Enhancement เข้ามาปรับแต่งสีสัน ความคมชัดของภาพให้สวยงามขึ้น และยังมี Auto HDR ที่จัดการภาพย้อนแสงได้อย่างชาญฉลาด เท่าที่ลองใช้งานก็ต้องบอกเลยว่าไฟล์ภาพจะออกมาสวยและโทน Rich ขึ้นจริง ๆ ครับ

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

Macro เข้าใกล้วัตถุได้ใกล้สุด 4 ซม.

และปิดท้ายที่กล้องตัวสุดท้ายกับกล้อง macro ที่มีความละเอียด 2MP ให้เราได้เก็บภาพในระยะใกล้สุดที่ 4 ซม. ได้อย่างชัดเจน แต่ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าจำเป็นต้องมีแสงเพียงพอต่อการถ่ายนิดหน่อยเพื่อความคมชัดของภาพครับ

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

มี Night Mode ถ่ายกลางคืนสวย

สำหรับภาพถ่ายกลางคืนบน OPPO Reno8 Z 5G ก็มีโหมด Night mode มาให้ใช้งานด้วย ใช้การรวมแสงด้วยการเก็บภาพหลาย ๆ ภาพมาประมวลผลร่วมกัน ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นออกมาสวยขึ้น ทั้งความคมชัด ความสว่าง และสีสันของภาพ นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกเพิ่มสีสันของภาพกลางคืนได้อีกหลายแบบด้วย

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

โดยรวมแล้วเรื่องกล้องของ OPPO Reno8 Z 5G ก็ทำได้ประทับใจ สานต่อความเป็น The Portrait Expert ได้อย่างเต็มที่ ด้วยฟีเจอร์กล้องไม่ว่าจะ Bokeh Flare Portrait, AI Portrait Retouching และ Selfie HDR อีก ให้ได้ภาพ Portrait สวยสมใจ รวมถึงโหมด Auto ปกติก็เก่งด้วย AI Scene Enhancement ที่ไว้ใจได้ให้เราได้ภาพสวยโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มอีกเยอะ

รีวิว OPPO Reno8

ฝาหลังกระจกพร้อม OPPO Glow Design สะกดทุกสายตา

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ OPPO Reno8 Z 5G ก็คือดีไซน์ครับ รอบนี้ยังมอบความโดดเด่นของดีไซน์ได้น่าสนใจเหมือนเดิม วัสดุของฝาหลังก็อัปเกรดขึ้นด้วยกระจก anti-glare 0.5 มม. เพิ่มความพรีเมี่ยมให้สัมผัสด้านหลังผสานรวมกับ OPPO Glow Design ที่ฝาหลังสร้างโดยการแกะสลักกระจกด้วยพื้นผิว 2 เลเยอร์และกระบวนการเคลือบชั้นเดียว

รีวิว OPPO Reno8

มอบพื้นผิวด้านที่เรียบลื่นเป็นมัมวาว โดดเด่น สะกดทุกสายตา และยังทนต่อรอยนิ้วมืออีกด้วย OPPO Reno8 Z 5G วางจำหน่ายใน 2 สีใหม่สุดทันสมัยคือ สีทอง Dawnlight Gold และ สีดำ Starlight Black

รีวิว OPPO Reno8

โดยสีที่เราได้มารีวิวคือสีทอง Dawnlight Gold สีใหม่ที่มอบความสดชื่นและโดดเด่น มาพร้อมการไล่เฉดสีที่หลากหลาย ด้วยเอฟเฟกต์เคลือบแบบไล่ระดับที่ผสมผสานกับหมึกสีเหลืองอบอุ่นบริเวณด้านหลังอย่างลงตัว สร้างแสงสีม่วง สีฟ้า สีทอง และสีชมพูที่จะเปลี่ยนไปตามการหักเหของแสงจากมุมต่าง ๆ ดั่งแสงอรุณรุ่งตกกระทบกับมหาสมุทรที่มีสีสันที่แตกต่างกันไปตามชั้นของเมฆ

รีวิว OPPO Reno8

ตัวเอฟเฟกต์ OPPO Glow Design ยังขยายกระบวนการผิวทรายที่ส่องประกายของฝาหลังไปยังกรอบ ปุ่ม ฐานกล้อง มอบเอฟเฟกต์ที่กลมกลืนขึ้นในดีไซน์โดยรวมอีกด้วย

รีวิว OPPO Reno8

Dual Orbit Lights ไฟแจ้งเตือนเอกลักษณ์

ดีไซน์สุดโดดเด่นของ OPPO Reno8 Z 5G ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะบริเวณกล้องยังมีไฟแจ้งเตือนแบบใหม่ที่ OPPO เรียกว่า Dual Orbit Lights โดยภายในจะประกอบด้วยแผ่นแสงปริซึมรูปวงแหวน พร้อมฟิล์มนำแสงสูง และฟิล์มบังเงา เพื่อมอบสีเข้มและสม่ำเสมอโดยไม่ทำให้เกิดแสงจ้า ซึ่งสีที่จะติดขึ้นมาจะมีทั้งสี น้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู และพอมาอยู่บนกล้องคู่แบบนี้ก็เสริมความเป็นเลข 8 ให้เข้ากับเลขรุ่นของ OPPO Reno8 Z 5G ได้อย่างลงตัวมาก ๆ อีกด้วย

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

Ultra Slim Retro Design ขอบเหลี่ยมบางเฉียบน่าสัมผัส

OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมดีไซน์ขอบเหลี่ยมหรือ Ultra Slim Retro Design ที่เป็นเอกลักษณ์ชวนให้สัมผัสได้อย่างดี มาพร้อมความบางเพียง 7.66 มม. และเบาแค่ 181 กรัม เรียกว่าเพรียวบางน่าสัมผัสจริง ๆ ครับ

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display คุณภาพสูง ดื่มด่ำได้เต็มอรรถรส

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมหน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4″ ใช้พื้นที่หน้าจอไปได้มากถึง 90.8% มีขอบจอเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย ถือว่าเป็นดีไซน์ที่สวยงามน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

รีวิว OPPO Reno8

ในเรื่องการแสดงผลก็ทำได้ยอดเยี่ยมตามสไตล์หน้าจอ AMOLED เอามาดูหนัง ดูวิดีโอหรือคลิปจาก YouTube ก็ถูกใจแน่นอน หรือจะเป็น Netflix, Amazon Prime Video ก็รองรับแบบ HD ด้วยครับ

รีวิว OPPO Reno8

และแน่นอนว่าด้วยหน้าจอแบบ AMOLED แบบนี้ก็จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอด้วย ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ใช้งานคู่กันด้วย ตามสะดวกเลย

รีวิว OPPO Reno8

หน้าจอของ OPPO Reno8 Z 5G ก็ถือว่าให้มายอดเยี่ยม สีสันสวยงาม แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่บ้างก็คือ Refresh rate จอยังเป็น 60Hz

รีวิว OPPO Reno8

ปุ่มกดวางได้ดี พอร์ตการเชื่อมต่อให้มาครบ

ส่วนเรื่องตำแหน่งปุ่มกดของตัวเครื่องก็วางไว้ในมุมมาตรฐานของ OPPO เลยครับ ด้านซ้ายมือเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวามือ

รีวิว OPPO Reno8
รีวิว OPPO Reno8

พอร์ตการเชื่อมต่อของ OPPO Reno8 Z 5G จะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง พอร์ตหลักเป็น USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม.รุ่นนี้ก็ยังมีมาด้วยนะ

ส่วนด้านบนจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน มีจุดเดียว นอกนั้นก็ทิ้งไว้เรียบ ๆ เลยครับ

ช่องใส่ซิมการ์ดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง ซึ่งถาดซิมจะเป็นแบบ Hybrid Slot คือใส่ได้ 2 ซิม แต่หากจะใส่ micro-SD ก็ต้องเลือกใส่ในช่องซิม 2 แทนนั่นเองครับ

รีวิว OPPO Reno8

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Reno8 Z 5G ก็ถือว่ายอดเยี่ยมสมกับเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นไปในเรื่องความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งฝาหลังกระจก anti-glare 0.5 มม. ที่มีความหรูหราอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อน เพิ่มความระยิบระยับแบบ OPPO Glow ที่ช่วยสะกดทุกสายตา หรือจะเป็นไฟแจ้งเตือนแบบ Dual Orbit Lights ก็ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

รีวิว OPPO Reno8

ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ทรงพลัง

สำหรับสเปคของ OPPO Reno8 Z 5G ก็จัดเต็มมาด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ขนาด 6nm ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานทั่วไป ใช้งานกราฟิกไปจนถึงการประมวลผลหนัก ๆ ผ่านการเล่นเกม แถมยังประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

RAM Expansion ขยายได้สูงสุด 5GB

ความจุภายในตัวเครื่องให้มาเป็น 8GB + 128GB ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ถ้าไม่พอจริง ๆ ก็ยังสามารถเพิ่ม micro-SD ได้อย่างที่บอกไป ส่วนแรมก็มีฟีเจอร์ RAM Expansion ที่จะมาขยายให้เราใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ตรงนี้เราสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 5GB เลย รวมกับที่ให้มาก็เป็น 13GB กันเลยล่ะครับ

ผลทดสอบสูงใช่ย่อย บอกแล้วว่าแรง!

เห็นคุยเรื่องสเปคว่าทรงพลังขนาดนั้น เราเลยขอมาทดสอบประสิทธิภาพให้เห็นภาพคร่าว ๆ กันด้วย 2 แอป Benchmark อย่าง AnTuTu Benchmark และ Geekbench 5 กันสักหน่อย โดยคะแนนของ AnTuTu ก็ออกมาที่ 393877 คะแนนเลยทีเดียว อยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่น่าสนใจครับ

ส่วนฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 687 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 1920 คะแนน ถือว่ามีพลังการประมวลผล CPU ที่อยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว

ลองเล่นเกมกันหน่อยดีกว่า

ต่อมาก็เป็นคิวการลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันสักหน่อย เกมที่เราจะใช้ทดสอบ OPPO Reno8 Z 5G จะมี 2 เกมฮิตอย่าง ROV และ Apex Legends Mobile ครับ

เล่น ROV บน OPPO Reno8 Z 5G

สำหรับ ROV เราสามารถปรับ HD Display ได้ที่ระดับ 3 (Extreme) , Display Quality ที่ระดับ 4 รวมถึงเปิดเฟรมเรตสูงได้ด้วย ทำให้เราสามารถเล่นได้ที่ความลื่นระดับ 60fps และด้วยสเปคระดับนี้ เท่าที่เราลองเล่นก็ทำได้ลื่นไหลครับ เฟรมเรตในเกมรันที่ 59 – 61fps ตลอดทั้งเกม ไม่เจออาการกระตุกให้ขัดใจเลย แถมกราฟิกก็ปรับได้เกือบสูงสุดแบบนี้ ถือว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ

เล่น Apex Legends บน OPPO Reno8 Z 5G

ส่วน Apex Legends เกม Battle Royale ภาพสวยล่าสุด ตัวเกมให้เราปรับตั้งค่ากราฟิกได้สูงสุดที่ UltraHD พร้อมเฟรมเรตระดับ High ถือว่าเป็นระดับสูงทีเดียว ซึ่งระดับนี้จะเล่นได้ลื่น ๆ ที่ 40fps เท่าที่เราเล่นแบบจริงจัง ก็ได้เฟรมเรตที่นิ่ง 40fps แทบทั้งเกม แม้จะมีจังหวะที่ยิงกันนัวมาก ๆ เอฟเฟกต์เยอะ ๆ เฟรมเรตก็ไม่ตกเลยครับ

ในเรื่องประสิทธิภาพ OPPO Reno8 Z 5G ก็ทำได้อย่างดี ใครที่ชอบเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ก็หายห่วงได้ ชิปเซ็ต Snapdragon 695 คู่กับแรม 8GB (+ 5GB RAM Expansion) ถือว่าทำได้ดีเลย ไม่เจอปัญหาการใช้งานว่ากระตุกหรือค้างให้หงุดหงิดแน่นอนครับ

ชาร์จไว ใช้งานได้นาน

OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh ใช้งานได้ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับสเปคที่ให้มา และขนาดตัวเครื่องที่บางเฉียบระดับนี้ เท่าที่เราลองใช้งานมาจริง ๆ ก็ถือว่าอึดใช้ได้เลย จะใช้งานถ่ายรูปต่อเนื่อง หรือเล่นเกมบ้าง ดูคลิปบน YouTube หน่อยก็เหลือ ๆ อยู่ได้ 1 วันสบาย ๆ ครับ

ส่วนระบบชาร์จ OPPO Reno8 Z 5G ก็มาพร้อมระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่ชาร์จ 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 63 นาทีเท่านั้น หรือถ้ามีเวลาไม่มากนักแต่ต้องใช้งาน OPPO เคลมว่าชาร์จ 5 นาทีก็สามารถคุยโทรศัพท์ได้ถึง 3.4 ชั่วโมงด้วยนะครับ

ซอฟต์แวร์ตัวล่าสุด ColorOS 12.1

ปิดท้ายที่เรื่องซอฟต์แวร์ รีวิว OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 เวอร์ชั่นล่าสุดของ OPPO เลยก็ว่าได้ครับ UI เรียบหรูน่าใช้งาน รวมถึงการปรับแต่งต่าง ๆ ก็ให้มาเยอะใช้ได้

อย่างฟีเจอร์ Wallpaper color picking ที่จะปรับสีของระบบให้เข้ากับ Wallpaper ที่เราใช้ ช่วยให้ UI ของเครื่องมีความเข้ากันมากขึ้น หรือจะเป็นการปรับแต่งอื่น ๆ มากมายทั้ง Theme, Icon, Wallpaper ให้เราได้เลือกปรับได้ตามใจเราอีกเยอะทีเดียว

เปิดจองแล้ววันนี้ พร้อมของสมนาคุณเพียบ!

สำหรับราคาค่าตัวของ OPPO Reno8 Z 5G ก็เปิดมาที่ 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีทอง Dawnlight Gold กับสีดำ Starlight Black

เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันนี้ – 18 สิงหาคม โดยจะได้รับของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 7,499 บาท แบ่งเป็น E-VIP Card มูลค่า 5,000 บาท (รับประกันจอแตกและรับประกันตัวเครื่อง) และ Reno Backpack มูลค่า 2,499 บาทไปด้วยอีกใบ

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวย และเป็นธรรมชาติที่สุดในงบหมื่นต้น”

สรุปแล้ว OPPO Reno8 Z 5G ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวย และเป็นธรรมชาติที่สุดเก่งในเรื่องในกลุ่มราคาหมื่นต้น ๆ ตามที่โปรโมทจริงครับ! ด้วยฟีเจอร์เจ๋ง ๆ AI Portrait Retouching ที่ปรับแต่งใบหน้าให้เนียนสวย, Bokeh Flare Portrait ช่วยเปลี่ยนภาพถ่ายคนให้สวยประหนึ่งกล้อง DSLR แบบที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนเรตราคานี้ หรือจะเป็นฟีเจอร์ ก็เข้ามาเสริมให้ใช้งานได้ดีขึ้น อีกทั้งสเปคที่ให้มายังครอบคลุมการใช้งานครบ ทั้ง หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4″ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform มีความจุ 8GB + 128GB แบตเตอรี่เยอะ 4500mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC และที่สำคัญยังได้ดีไซน์ทรง Ultra Slim Design ที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีใหม่ Dawnlight Gold อีก ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปพอร์ตเทรตสวย ๆ ในงบที่ไม่สูงจนเกินไป OPPO Reno8 Z 5G ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในตอนนี้เลยล่ะครับ

จุดเด่น

  • กล้องทั้งหน้า-หลังถ่ายพอร์ตเทรตดีมาก
  • สี Dawnlight Gold ใหม่ สวยสะกดทุกสายตาจริง ๆ
  • Ultra Slim Retro Design ดีไซน์ขอบเหลี่ยม ชวนให้สัมผัส
  • ไฟแจ้งเตือน Dual Orbit Lights เพิ่มความโดดเด่น
  • หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display แสดงผลได้ดี
  • แบตเตอรี่ 4500mAh ใช้งานได้นาน พร้อมชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  • มีช่องหูฟัง 3.5 มม.

จุดสังเกต

  • หน้าจอยังเป็น Refresh rate 60Hz

กำลังฮอต

Featured3 วัน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News4 สัปดาห์ ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Android News4 สัปดาห์ ago

5 เหตุผลที่ Galaxy Z Flip5 ยังคงเป็นมือถือจอพับที่น่าใช้สุด ๆ

Galaxy Z Flip5 จัดว่...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก