Connect with us

Featured

รีวิว OPPO Reno8 T 5G รุ่นใหม่ สมาร์ทโฟน The Portrait Expert ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวย คมชัดที่สุด ด้วย 108MP Portrait Camera

Published

on

รีวิว OPPO Reno8 T 5G สมาร์ทโฟน The Portrait Expert รุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO ที่มาต่อยอดความปังในเรื่องของการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดกว่าที่เคยด้วย 108MP Portrait Camera แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะจุดเด่นเรื่องดีไซน์, หน้าจอ รวมถึงสเปคก็ยังคงติดมากับรุ่นนี้เช่นกัน

ซึ่งการมาของ OPPO Reno8 T 5G นี้ก็เหมือนเปิดศักราชใหม่ให้กับซีรีส์ The Portrait Expert ในปีนี้ ว่ากันว่านี่คือ OPPO Reno รุ่นถัดไปที่หลายคนรอคอยก็คงไม่ผิดนักครับ การใช้งานจะเป็นอย่างไรกล้องที่ว่าคมชัดจะสุดขึ้นแค่ไหน รีวิวนี้บอกหมด ติดตามครับ!

สรุปสเปค OPPO Reno8 T 5G

  • หน้าจอ : Dual Micro-Curved Display AMOLED ขนาด 6.7″
  • ความละเอียด : FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล) แสดงผลที่ 10bit (1.07 พันล้านสี)
  • Refresh rate : 120Hz
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
  • RAM : 8GB (+ 8GB RAM Expansion)
  • ROM : 128GB/256GB
  • microSD : รองรับสูงสุด 1TB
  • แบตเตอรี่ : 4,800mAh
  • ระบบชาร์​จ : ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
  • กล้องหน้า : 32MP
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 108MP Portrait Camera
    • กล้อง Depth 2MP
    • กล้อง 40x Microlens
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13
  • สีสัน : Sunrise Gold, Midnight Black

แกะกล่อง OPPO Reno8 T 5G

ก่อนอื่นเราขอมาแกะกล่องแบบเร็ว ๆ กันก่อน OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกล่องดีไซน์ใหม่ด้วยสีขาว ตัดกับสีเงินและตัวอักษรสีดำ ขื่อรุ่นยังเด่น ๆ ที่หน้ากล่องและมีข้อมูลความจุระบุไว้ที่มุมขวาบนของกล่องเหมือนเดิม ซึ่งรุ่นนี้จะมีให้เลือก 2 รุ่นความจุคือ 8GB + 128GB และ 8GB + 256GB ครับผม ซึ่งรุ่นที่เราได้มาก็คือ 8GB + 128GB อย่างที่เห็น

เปิดกล่องชั้นออกเราจะเจอกับกล่องสีดำอยู่ที่มีโลโก้ OPPO ภายในเหมือนทุกที ในนี้จะมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ และถัดลงไปก็จะเป็นตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมอีกชุด รวมแล้วก็มีทั้งสิ้น 6 อย่างดังนี้ครับ

  1. ตัวเครื่อง OPPO Reno8 T 5G
  2. เคสซิลิโคนใส
  3. สายชาร์จ USB type-A to type-C
  4. อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
  5. เอกสารคู่มือ
  6. เข็มจิ้มถาดซิม

The Portrait Expert ใหม่! มอบความสวยคมชัดกว่าที่เคย

ขอเริ่มที่เรื่องไฮไลท์ของรุ่นนี้กับเรื่องกล้องก่อนเลยละกันครับ OPPO Reno8 T 5G ยังคงมาพร้อมสโลแกน The Portrait Expert ชูความสามารถในการถ่ายภาพ Portrait อย่างเซียน แต่รอบนี้ไม่ใช่แค่ถ่ายได้สวย แต่ยังคมชัดยิ่งขึ้น เพราะว่ามาพร้อมกล้องหลักตัวใหม่ 108MP Portrait Camera

แต่นอกจากกล้องหลัก 108MP Portrait Camera แล้ว OPPO Reno8 T 5G ก็ยังมีกล้องเสริมมาให้อีก 2 ตัวคือกล้อง Depth และกล้อง Microlens รวมแล้วก็ได้กล้องหลังมา 3 ตัว กล้องหน้า 1 ตัวสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลยครับ

  • กล้องหลัก 108MP Portrait Camera
  • กล้อง Depth 2MP
  • กล้อง 40x Microlens
  • กล้องหน้า 32MP

108MP Portrait Camera ถ่ายพอร์ตเทรตคมชัดกว่าครั้งไหน

อย่างที่บอกไปว่ารอบนี้ OPPO ยกระดับกล้องหลักเป็น 108MP Portrait Camera ด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นแบบนี้ ก็เหมาะกับการถ่ายภาพที่คมชัดสูงสุด เราสามารถเปิดตัวเลือกนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยการเข้าไปตั้งค่าที่ แอปกล้อง > โหมด Photo ปกติ (ไม่ต้องกดโหมด Portrait) > กดจุดสามจุดด้านขวาบน > เลือก Hi-res ให้ ON เท่านี้เวลาเราถ่ายภาพก็จะได้ไฟล์เต็มแบบ 108MP มาแล้วครับ ทีเด็ดของ OPPO Reno8 T 5G ก็คือตัวกล้องยังสามารถใช้งานร่วมกับ AI ในการปรับจูนสีได้ด้วย

ซึ่งผลลัพธ์จึงออกมาสวยงามไม่ต่างจากโหมด Auto ปกติแต่เราได้ความละเอียดที่เต็มขนาดเซ็นเซอร์ถึง 108MP กันเลย แล้วถามว่าจะเอาไฟล์ใหญ่ขนาดนี้ไปทำไมล่ะ ? คำตอบก็คือเราสามารถนำมาครอปภาพต่อให้เกิดภาพหลาย ๆ ภาพด้วยการถ่ายเพียงครั้งเดียวได้ไงครับ! อย่างเช่นเราถ่ายภาพแนวนอนมาแต่ก็อยากจะครอปเป็นแนวตั้งให้เน้นเด่นเฉพาะคนก็ทำได้ หรือถ่ายภาพกลุ่มมาแต่ก็อยากได้แยกเป็นคน ๆ ไปก็เลือกครอปเข้าไปได้โดยที่ความคมชัดยังสูงอยู่นั่นเอง

Portrait mode ก็ยังเยี่ยม ตัดขอบเนียน หน้าชัด-หลังเบลอเป๊ะ

แต่สำหรับใครที่ไม่ได้อยากได้ไฟล์เต็มระดับ 108MP แต่อยากได้ Portrait mode ที่ละลายฉากหลังเนียน ๆ ใบหน้าขอแบบสวยเป็นธรรมชาติ OPPO Reno8 T 5G ก็มีมาให้ใช้งานเช่นกัน ในโหมดนี้เราสามารถเลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้เองหลายระดับ ให้อารมณ์เหมือนกล้อง DSLR มือโปร อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์รวมถึงฟิลเตอร์ในการละลายฉากหลังให้เลือกหลากหลายอย่าง Bokeh Flare Portrait เป็นต้น

ซึ่งผลลัพธ์ก็ยังยอดเยี่ยมสมกับที่เป็น The Portrait Expert เพราะทั้งการเสริมใบหน้าของแบบให้สวยเป็นธรรมชาติ รวมถึงการละลายฉากหลังที่ดูมีมิติและไม่หลอกตา เพิ่ม Bokeh สวย ๆ เข้ามา มี Auto HDR เข้ามาจัดการให้ภาพย้อนแสงได้สวยงาม อีกทั้งยังได้กล้อง 108MP Portrait Camera ตัวใหม่ยิ่งทำให้ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวย คมชัดที่สุดสมชื่อจริง ๆ ครับ

AI Portrait Retouching หน้าเนียนเป็นธรรมชาติ

ไม่ใช่แค่กล้องหลังที่ถ่าย Portrait ได้ยอดเยี่ยม เพราะกล้องหน้าของ OPPO Reno8 T 5G ก็มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 32MP มีฟีเจอร์ AI Portrait Retouching ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าและโทนสีผิวหน้าได้อย่างชาญฉลาดประหนึ่งเราแต่งหน้ามาแบบเนียน ๆ (ลิปสติกและบลัชออน)ใช้คุณสมบัติใบหน้าที่แตกต่างกัน 373 จุดผ่านอัลกอริธึมการจดจำใบหน้าของ OPPO เพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์การรีทัชอย่างละเอียดแบบเรียลไทม์

Selfie HDR มอบภาพชัดแม้ย้อนแสง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราเห็นความเก่งของกล้องหน้า OPPO Reno8 T 5G ก็คือ Selfie HDR ที่ตัวกล้องจะเสริม Dynamic Range ของภาพให้แม้เราจะถ่ายในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง ก็จะได้ทั้งใบหน้าที่คมชัดและฉากหลังที่ไม่จ้าโอเว่อเกินไป เรียกว่าจะเซลฟี่สู้แดดก็ไม่หวั่นครับ

ถ่ายวิวก็สวยมาก มี AI Scene Enhancement คอยปรับแต่ง

ไม่ใช่ว่าเด่นแค่ Portrait อย่างเดียว กล้องหลักของ OPPO Reno8 T 5G 108MP Portrait Camera ยังช่วยให้การถ่ายภาพวิว วัตถุ หรืออาหารได้อย่างสวยงาม เพราะมี AI Scene Enhancement เข้ามาปรับแต่งสีสัน ความคมชัดของภาพให้สวยงามขึ้น และยังมี Auto HDR ที่จัดการภาพย้อนแสงได้อย่างชาญฉลาด เท่าที่ลองใช้งานก็ต้องบอกเลยว่าไฟล์ภาพจะออกมาสวยโทนดูดีแบบที่จบหลังกล้องได้เลย ไม่ต้องปรับแต่งต่อแล้วครับ

ซูมได้ 3x ก็ชัดแม้ไม่มีเลนส์ซูม

และอีกจุดเด่นของกล้อง 108MP Portrait Camera ใหม่ก็คือความสามารถในการซูม ด้วยความที่เซ็นเซอร์มีความละเอียดสูงขึ้น ในโหมด Photo จะมีตัวเลือกให้เราซูมจาก 1x ไป 3x ให้ด้วย ใครที่อยากได้ระยะที่เข้าใกล้อีกหน่อย กล้องหลักตัวนี้ก็ช่วยเสริมให้ได้ครับ

40x Microlens พบมุมมองใหม่ในโลกขนาดเล็ก

และปิดท้ายที่เลนส์เสริม 40x Microlens หรือกล้องจุลทรรศ์ ที่ให้เราได้ถ่ายภาพด้วยกำลังขยาย 20 เท่าและ 40 เท่ามอบมุมมองใหม่ในโลกขนาดเล็ก ตัวกล้องจะใช้งานร่วมกับไฟแฟลชเพื่อให้ภาพที่คมชัดขึ้น

ตรงนี้หากใครยังจำได้ตอน OPPO Find X3 Pro เคยมีกล้องตัวนี้ติดมาให้ด้วย ซึ่งรอบนี้บน OPPO Reno8 T 5G ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กันครับ

โดยรวมในเรื่องของพอร์ตเทรต OPPO Reno8 T 5G ก็ยังสร้างความประทับใจให้เราเหมือนเคย ด้วยกล้องตัวใหม่ 108MP Portrait Camera ที่เข้ามาเติมเต็มในเรื่องของภาพบุคคลความละเอียดสูงรวมไปถึงภาพวิว ภาพทั่วไปที่ต้องการความคมชัดอีกระดับ ในโหมด Portrait หรือ Selfie ก็ยังคงมีลูกเล่นเสริม ปรับแต่งได้อย่างชาญฉลาดและเชื่อว่าใครที่ได้ลองคงต้องติดใจ ถือเป็นอีกรุ่นที่สมกับคำนิยาม The Portrait Expert จริง ๆ ครับ

ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ทรงพลัง

สำหรับสเปคของ OPPO Reno8 T 5G ก็จัดเต็มมาด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ขนาด 6nm ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานทั่วไป ใช้งานกราฟิกไปจนถึงการประมวลผลหนัก ๆ ผ่านการเล่นเกม แถมยังประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

RAM Expansion ขยายได้สูงสุด 8GB

แต่ไฮไลท์ในเรื่องสเปคที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องความจุที่รุ่นนี้มี RAM มาให้ 8GB แต่ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Expansion RAM ขยายเพิ่มได้สูงสุดถึง 8GB (8GB + 8GB เป็น 16GB แล้ว) ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลไม่มีสะดุดแน่นอน จะใช้งานสลับแอปไป-มาก็ตอบสนองไวสุด ๆ ส่วน Storage ของตัวเครื่องก็มีให้เลือก 2 ความจุคือ 128GB และ 256GB แต่ถ้ายังคิดว่าน้อยไป ก็ยังสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุดอีก 1TB กันไปเลย

แบตเตอรี่ 4,800mAh ใช้งานจุใจ

เห็นเครื่องบาง ๆ แบบนี้แต่ภายในก็ใส่แบตเตอรี่มาให้จุใจถึง 4,800mAh เลยนะ เยอะแบบนี้ไม่ต้องกังวลในการใช้งานเลย และเท่าที่เราลองใช้งานจริงบอกเลยว่าไว้ใจได้ครับ ถ่ายรูปหนัก ๆ เล่นโซเชี่ยล เล่นเกมบ้างก็อยู่ครบวันสบาย ๆ

ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC อัปเกรดใหม่!

ส่วนระบบชาร์จก็เป็นอีกจุดขายของ OPPO Reno8 T 5G เช่นกันเพราะรุ่นนี้ได้ระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC มาเลย OPPO เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 100% ใน 44 นาทีเท่านั้น หรือหากมีเวลาจำกัดจริง ๆ ชาร์จเพียง 5 นาทีก็เพียงพอสำหรับการคุยโทรศัพท์ 5.59 ชั่วโมงหรือดูวิดีโอได้นาน 3.56 ชั่วโมงแล้วครับ เรียกว่าชาร์จไวไม่แพ้รุ่นแฟล็กชิปแล้ว!

ผลทดสอบสูงเลยนะ แรง!

เห็นคุยเรื่องสเปคว่าทรงพลังขนาดนั้น เราเลยขอมาทดสอบประสิทธิภาพให้เห็นภาพคร่าว ๆ กันด้วย 2 แอป Benchmark อย่าง AnTuTu Benchmark และ Geekbench 5 กันสักหน่อย โดยคะแนนของ AnTuTu ก็ออกมาที่ 404560 คะแนนเลยทีเดียว อยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่น่าสนใจครับ

ส่วนฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 675 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 2003 คะแนน ถือว่ามีพลังการประมวลผล CPU ที่อยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว

ลองเล่นเกมกันหน่อยดีกว่า

ต่อมาก็เป็นคิวการลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันสักหน่อย เกมที่เราจะใช้ทดสอบ OPPO Reno8 T 5G จะมี 2 เกมฮิตอย่าง Asphalt 9 และ PUBG Mobile ครับ

เล่น Asphalt 9 บน OPPO Reno8 T 5G

เริ่มที่ Asphalt 9 กันก่อน บน OPPO Reno8 T 5G เราสามารถปรับระดับกราฟิกไปได้ที่ High Quality หรือสูงสุดแล้ว ตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหล ภาพกราฟิกก็สวยงามอลังการ ยิ่งได้หน้าจอใหญ่เต็มตาของรุ่นนี้ก็ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่ครับ ความลื่นไหลก็ทำได้ดี ไม่เจอจังหวะเกมกระตุกให้เสียอารมณ์ครับ

เล่น PUBG บน OPPO Reno8 T 5G

ต่อมาเป็น PUBG เกมนี้ก็ถือว่าใช้สเปคสูงเหมือนกัน เราสามารถเลือกระดับกราฟิกได้สูงสุด HD คู่กับเฟรมเรต High เพียงพอต่อการเล่นได้สนุกสะใจแล้วล่ะครับ ตัวเฟรมเรตก็ทำได้นิ่งมาก ๆ เล่นได้แบบไม่เสียอารมณ์เช่นกัน แถมยังได้ลำโพงคู่ Stereo เข้ามาช่วยให้มิติของเกมกว้างขึ้น เล่นได้สมจริงขึ้นอีก อันนี้ถูกใจเราเลยล่ะ

โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพของ OPPO Reno8 T 5G ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมครับ ใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วย RAM ที่มากสูงสุด 8GB + 8GB จะเปิดแอปเยอะ ๆ สลับไป-มาก็ไม่เจออาการกระตุกให้เห็น ชิปเซ็ตก็เป็นตัวแรงอย่าง Snapdragon 695 5G ที่เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800mAh พร้อมทั้งชาร์จไว 67W SUPERVOOC อีกด้วย!

Premium New Design ดีไซน์ระดับแฟล็กชิป

ดูตัวอย่างภาพสวย ๆ กับประสิทธิภาพแรง ๆ ไปแล้ว มาดูดีไซน์เครื่องสวย ๆ กันต่อดีกว่า OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมี่ยมใหม่ระดับเดียวกับแฟล็กชิปหรือเรือธงกันเลย ด้วยความโค้งมน บาง เบา และก็ยังแฝงลูกเล่นในเรื่องของฝาหลังได้อย่างเต็มเปี่ยม

เริ่มที่สีสัน OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมสีไฮไลท์ สีทอง Sunrise Gold หรือสีทองที่เปรียบเสมือนแสงแดดอ่อนยามรุ่งอรุณ สร้างแรงบันดาลใจจากเฉดสีฟ้า และสีม่วงอันเงียบสงบไปจนถึงโทนสีแดงและเหลืองท่ีอบอุ่น

พื้นผิวยังคงน่าทึ่งด้วย OPPO Glow เป็นกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะของ OPPO ที่สร้างคริสตัลรูปทรงปิรามิดหลายล้านเม็ดบนฝาหลัง ของโทรศัพท์โดยการแกะสลักวัสดุในระดับจุลภาค ทำให้ได้พื้นผิวด้านละเอียดและมีสีสันที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วย OPPO Glow ทำให้ OPPO Reno8 T 5G เปล่งประกายและยังป้องกันรอยนิ้วมือและรอยอื่น ๆ ได้อีกด้วย

การออกแบบโมดูลกล้องที่ทันสมัย

ส่วนโมดูลกล้องของ OPPO Reno8 T 5G ได้รับการจัดวางในแนวตั้งเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่สมดุลยิ่งขึ้น ภายในแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกัน กล้องยังล้อมรอบด้วยวงแหวนโลหะตกแต่ง ช่วยเพิ่มสัมผัสระดับพรีเมียมพร้อมปกป้องเลนส์ได้ดีย่ิงขึ้น

หน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz

และเมื่อพลิกกลับมาดูที่ด้านหน้าเรายิ่งเห็นดีไซน์ระดับแฟล็กชิปด้วยหน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz มอบประสบการณ์การใช้งานที่พรีเมี่ยมขึ้น ถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน OPPO ในกลุ่มราคาหมื่นกลาง ๆ ที่ได้หน้าจอสวยหรูแบบนี้มาเลยก็ว่าได้ครับ

หน้าจอได้รับการออกแบบด้วยเส้นโค้งขนาดเล็กพิเศษที่มีความโค้ง 56 องศาและส่วนโค้งสูง 1.9 มม. ฟีเจอร์เฉพาะเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสมดุลในการรับชมภาพท่ีดื่มด่ำได้เต็มอรรถรสและยังสามารถจับถือได้อย่าง สบายมือ มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมในทุกคร้ังท่ีใช้

สำหรับสเปคจอของ OPPO Reno8 T 5G ก็จะมาพร้อมจอ AMOLED ขนาด 6.7″ ความละเอียด FHD+ แสดงสีสันได้ถึง 10bit หรือ 1.07 พันล้านสี เรียกว่าเป็นจอเกรดแฟล็กชิปที่แท้จริง ในเรื่องการแสดงผลต้องบอกเลยว่าสวยงามเอาเรื่องมาก ๆ ใครที่ชอบดูคอนเทนต์ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง จอสวยมากจริง ๆ

ในเรื่องการตอบสนอง OPPO Reno8 T 5G ก็ยังยอดเยี่ยมเพราะรองรับ Refresh rate สูง 120Hz ช่วยให้การใช้งานต่าง ๆ ลื่นไหล ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอไป-มา เลื่อนดูรูปบน Gallery หรือเล่นโซเชี่ยลก็ตอบสนองได้แบบติดนิ้วสุด ๆ ครับ

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย OPPO Reno8 T 5G ก็มีมาให้ทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอกับระบบสแกนใบหน้าด้วย เรียกว่าไฮเอนด์ระดับแฟล็กชิปจริง ๆ ครับ

ตัวเครื่องบางเบา เรียบหรู Ultra-Slim

เรื่องความบาง-เบาเป็นอีกจุดที่ OPPO Reno Series เน้นย้ำมาไม่แพ้เรื่องกล้อง OPPO Reno8 T 5G ก็ยังคงทำได้ยอดเยี่ยมด้วยตัวเครื่องขอบโค้งที่มีความบางเฉียบเพียง 7.7 มม.และน้ำหนักเบาแค่ 171 กรัมเท่านั้น ทำให้เราถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว

ด้านบน-ล่างของตัวเครื่องก็ใช้ดีไซน์แบบโค้งมนเหมือนกันหมดด้านบนจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนและ IR Blaster สำหรับใช้งานเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ

ส่วนด้านล่างก็มีพอร์ตการเชื่อมต่อหลักเป็น USB-C ช่องใส่ซิม, ไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ

ซึ่งตัวลำโพงนี้จะใช้งานร่วมกับลำโพงสนทนารวมเป็นลำโพงสเตอริโอคู่ ได้รับการพัฒนาด้วยอัลกอริธึมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลดเสียงรบกวนและการลดเสียงสะท้อน ทำให้เราได้รับเสียงรอบทิศทางและสามารถดำดิ่งสู่คอนเทนต์ที่ชอบได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนช่องใส่ซิมการ์ดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องอย่างที่เห็นไป ซึ่งถาดซิมจะเป็นแบบ Hybrid Slot คือใส่ได้ 2 ซิม แต่หากจะใส่ microSD ก็ต้องเลือกใส่ในช่องซิม 2 แทนนั่นเองครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ก็ต้องขอชื่นชมอีกสักเรื่องเพราะ OPPO Reno8 T 5G ออกแบบมาได้พรีเมี่ยม ระดับแฟล็กชิปจริง ๆ ทั้งฝาหลังสีสวย Sunrise Gold หรือหน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม ขนาดและน้ำหนักที่จับถือได้อย่างคล่องตัว เรียกว่าสวยทั้งรูปลักษณ์ ลงตัวทุกการสัมผัสจริง ๆ ครับ

ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด ColorOS 13 บน Android 13

ส่วนในเรื่องซอฟต์แวร์ OPPO Reno8 T 5G ได้ระบบปฏิบัติการล่าสุด ColorOS 13 (บนพื้นฐาน Android 13) มาตั้งแต่แกะกล่องเลย ทั้งความลื่นไหลและหน้าตา UI ดีไซน์ Aquamorphic ไอคอนต่าง ๆ มีความกลมมนทั้งในหน้าตาของระบบรวมถึง Widget ต่าง ๆ รวมถึงลูกเล่นที่เพิ่มมากับ Android 13 ด้วยครับ

OPPO Enco Air3 หูฟังรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาคู่กัน!

ก่อนจากกันเราก็ยังมีอุปกรณ์เสริมตัวใหม่ OPPO Enco Air3 หูฟังไร้สายที่เปิดตัวคู่กับ OPPO Reno8 T 5G มาแนะนำอีกสักนิด รุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์เป็นเอกลักษณ์พร้อมทั้งระบบเสียงทรงพลังด้วย ใครที่กำลังมองหาหูฟังใช้คู่กับ OPPO Reno8 T 5G ก็ไม่ควรพลาดครับ

ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยเคสโปร่งแสง

OPPO Enco Air3 มาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยเคสโปร่งแสงที่โชว์ให้เห็นหูฟังด้านใน ให้ความรู้สึกที่ยืดหยุ่นได้เล็กน้อยและคุณสามารถมองเห็นโครงสร้างของหูฟังไร้สายที่อยู่ด้านใน

ได้แถมตัวเคสยังเปิดได้ 110 องศาช่วยให้เราหยิบหูฟังออกมาจากเคสได้อย่างง่ายดายและคล่องตัว

พลังเสียงที่ทรงพลังมากขึ้น

OPPO Enco Air3 มาพร้อมไดรเวอร์ยูนิตไดนามิกขนาดใหญ่พิเศษ 13.4 มม. เพื่อเสียงเบสทรงพลังและเสียงร้องที่ชัดเจน มอบประสบการณ์รับฟังที่ตอบสนองเสียงเบสที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและเสียงร้องที่ใส ชัดเจน และมีชีวิตชีวา

หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่มาพร้อม DSP (digital signal processor) ประสิทธิภาพสูงในช่วงราคานี้ ซึ่งจะช่วยมอบพลังการประมวลผลที่มากกว่า OPPO Enco Air2 ถึง 25 เท่า และ OPPO Enco Air3 ยังข่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น 35% มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้น 50% และมอบการผลิตเสียงที่แม่นยำยิ่งขึ้นอีกต่างหาก

ฟีเจอร์อื่น ๆ มาครบ

นอกจากนี้ OPPO Enco Air3 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจครบครันทั้ง 94ms low-latency การส่งข้อมูลแบบคู่ที่มีความหน่วงต่ำของ Bluetooth 5.3 เสียงตรงไม่มีดีเลย์, เชื่อมต่อสองอุปกรณ์พร้อมกันได้, แบตเตอรี่ที่ยาวนานรวม 25 ชั่วโมง (หูฟัง 6 ชม. + รวมเคสชาร์จ) และยังมีมาตรฐานกันน้ำ IP54 ด้วย

OPPO Reno8 T 5G เปิดราคาเริ่มต้น 13,990 บาท

สรุปราคากันสักหน่อย OPPO Reno8 T 5G จะมีให้เลือก 2 ความจุคือ 8GB + 128GB และ 8GB + 256GB กับ 2 สีคือสีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black มีราคาดังนี้

  • OPPO Reno8 T 5G รุ่น 8GB + 128GB ราคา 13,990 บาท
  • OPPO Reno8 T 5G รุ่น 8GB + 256GB ราคา 14,990 บาท

และมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองสินค้าตั้งแต่วันที่ 9 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 จะได้รับของสมนาคุณมูลค่า 7,599 บาท ประกอบไปด้วย

  • E-VIP CARD มูลค่า 5,500 บาท ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตก จานวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี และรับประกันตัวเครื่อง 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง
  • Reno Gift Set มูลค่า 2,099 บาท ประกอบไปด้วย เคสมือถือ/ที่วางมือถือ/ลำโพงบลูทูธ

สรุปแล้วนี่คือ “สมาร์ทโฟน The Portrait Expert ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวย คมชัดที่สุดในงบหมื่นกลาง”

สรุปแล้ว OPPO Reno8 T 5G ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องสำหรับใครที่ต้องการกล้องถ่าย Portrait ได้สวย และคมชัดที่สุดในงบหมื่นกลาง ๆ เพราะพี่เขาจัดมาให้ครบตั้งแต่ 108MP Portrait Camera ที่ถ่ายสวยคมชัดสุด ๆ ลูกเล่นในโหมด Portrait มากมายไม่ว่าจะเป็น AI Portrait Retouching หรือ Bokeh Flare Portrait หรือจะเป็นดีไซน์ที่สวยงามพรีเมี่ยมที่เห็นแล้วต้องตะลึงในความงาม สัมผัสแล้วหลงใหลในความรู้สึก ด้วยฝาหลังสีสวยโดดเด่น หน้าจอ 3 มิติ 120Hz สวยงามและลื่นไหล อีกทั้งยังมีสเปคที่จัดเต็มทั้งความจุสูงสุด 8GB + 256GB ระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC พร้อมแบตเตอรี่ 4,800mAh เรียกว่าในงบนี้หาใครเทียบได้ยากจริง ๆ ที่จะมีทั้งกล้องถ่าย Portrait สวย สเปคครบขนาดนี้ สมกับสโลแกน The Portrait Expert จริง ๆ เลยล่ะครับ!

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News6 วัน ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก