Connect with us

Android News

แกะกล่องพรีวิว OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด พร้อมดีไซน์ขอบเหลี่ยม

Published

on

OPPO Reno7 Z 5G น้องเล็กจาก OPPO Reno7 Series 5G เตรียมเปิดตัวในบ้านเราเร็ว ๆ นี้ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ก็ไม่รอช้า มีเครื่องมาแกะกล่องให้ชมดีไซน์ พร้อมเผยสเปคและฟีเจอร์เด่นคร่าว ๆ ให้ทราบกันสักหน่อย แต่ไหน ๆ มาแล้วก็ไม่ได้มาแค่สมาร์ทโฟนอย่างเดียวหรอกนะ เรายังอุปกรณ์ IoT ตัวใหม่อย่าง OPPO Enco Air2 และ OPPO Watch Free มาแกะกล่องให้ชมด้วย

OPPO Reno7 Z 5G

มากันยกชุดแบบนี้ อย่าเสียเวลาเลย มาชมพรีวิวของ OPPO Reno7 Z 5G, OPPO Enco Air2 และ OPPO Watch Free ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ!

แกะกล่อง OPPO Reno7 Z 5G

เราขอเริ่มที่ OPPO Reno7 Z 5G ก่อนเลย รอบนี้ยังมาพร้อมกล่องทรงมาตรฐานของ OPPO ใช้โทนสีเขียว-ดำ เหมือนเดิม ที่ด้านหน้าจะมีระบุชื่อรุ่นชัดเจน

OPPO Reno7 Z 5G

เปิดถัดลงไปอีกชั้นจะเป็นกล่องสีดำที่มีโลโก้ OPPO ระบุอยู่ที่ด้านหน้า ภายในก็จะเจอกับกล่องเล็กที่รวมเอาเอกสารคู่มือ, เข็มจิ้มถาดซิม และเคสซิลิโคนไว้ภายในครับ

OPPO Reno7 Z 5G
OPPO Reno7 Z 5G

ส่วนตัวเครื่องจะอยู่ในชั้นถัดไปอยู่ในซองอย่างดีพร้อมฟีเจอร์เด่นที่ระบุไว้ที่หน้าซองด้วย เดี๋ยวไว้เราอธิบานเพิ่มเติมอีกทีเนาะ และลึกลงไปชั้นล่างสุดจะมีอะแดปเตอร์ 33W SUPERVOOC และสายชาร์จอยู่ เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องที่มาก็จะมี 6 อย่างประกอบด้วย

  1. ตัวเครื่อง OPPO Reno7 Z 5G
  2. เคสซิลิโคนใส
  3. อะแดปเตอร์ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  4. สายชาร์จ
  5. เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
  6. เข็มจิ้มถาดซิม

ดีไซน์ OPPO Reno7 Z 5G

ได้เวลาแกะตัวเครื่องออกจากซอง ชมดีไซน์เต็ม ๆ แล้วครับ OPPO Reno7 Z 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Rainbow Spectrum และ Cosmic Black ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวก็คือสี Cosmic Black ที่มีความคมเข้ม แสดงถึงความมืดอันบริสุทธิ์ 100%

OPPO Reno7 Z 5G

ฝาหลังของ OPPO Reno7 Z 5G สีดำ Cosmic Black นี้จะมาพร้อมเทคโนโลยี OPPO Glow ที่มอบพื้นผิวเป็นแบบด้านพร้อมแทรกด้วยความระยิบระยับ ที่ช่วยให้จับถือได้ดีและไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือด้วยครับ

OPPO Reno7 Z 5G

ความพิเศษอีกอย่างของฝาหลัง OPPO Reno7 Z 5G ทั้ง 2 สีคือมีพื้นผิว 2 เลเยอร์บนฝาหลังแผ่นเดียว โดยเป็นการผสานกันของพื้นผิวเงาและด้าน 2 เลเยอร์พร้อมกับซ้อนด้วยพื้นผิวของ OPPO Glow ในชั้นสุดท้ายด้วยวิธีนี้ทำให้ OPPO สามารถตัดการตกแต่งรอบ ๆ ฐานของกล้องออกเป็นครั้งแรก ทำให้มอบเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันตามการหักเหของแสงช่วยเพิ่มความโดดเด่นขึ้นมาอีก และสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G สี Rainbow Spectrum จะมีการเพิ่มพื้นผิวเคลือบสีอีก 2 ชั้น โดยเป็นการผสาน 2 เฉด คือ เฉดเหลืองแดงในชั้นนอก และสีเขียวในชั้นฐาน ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แบบปริซึม 6 เฉดสี สร้างสีสันดั่งสายรุ้งหลังสายฝนเมื่อกระทบกับแสง

และอีกทีเด็ดของ OPPO Reno7 Z 5G ก็คือดีไซน์ไฟแจ้งเตือน Dual Orbit Lights ที่อยู่บริเวณกล้องหลักทั้ง 2 ตัว เวลามีการแจ้งเตือนเข้ามาหรือตอนเสียบชาร์จ วงแหวนรอบ ๆ เลนส์กล้องจะมีไฟติดขึ้นมาเป็นสี น้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู เสมือนวงแหวนสวรรค์ 2 วงที่ตกลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนยังไงยังงั้น และยิ่งสะท้อนลงบนฐานกล้องที่เป็นแบบมันวาวก็ยิ่งคมชัดและสม่ำเสมอเข้าไปอีก

OPPO Reno7 Z 5G

OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อม Ultra-Slim Retro Design แบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบาประมาณ 173 กรัม และบางแค่ 7.55 มม. ในสี Rainbow Spectrum และ 7.49 มม. ในสี Cosmic Black ดีไซน์กรอบเครื่องเป็นแบบเหลี่ยมที่ลบมุมได้อย่างดี ให้ความกระชับมือเวลาจับถืออีกด้วย

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง OPPO Reno7 Z 5G ใช้หน้าจอ Single Punch-Hole AMOLED FHD+ ขนาด 6.4″ ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีเลยทีเดียว ทั้งความอิ่มของสีสันและการใช้พื้นที่หน้าจอก็ใช้ไปมากถึง 90.8% ขอบจอบางใช้ได้ครับ

OPPO Reno7 Z 5G

แต่น่าเสียดายที่ refresh rate ยังอยู่ที่ 60Hz อยู่เนาะ บนหน้าจอของ OPPO Reno7 Z 5G มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ In-Display Fingerprint Unlock มาให้ด้วย การสแกนรวดเร็วใช้ได้เลยครับ

OPPO Reno7 Z 5G

ปุ่มกดของ OPPO Reno7 Z 5G จะวางไว้ในตำแหน่งที่แตะได้ง่าย ด้านซ้ายมือมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ด้านขวามือมีปุ่ม Power ครับ

OPPO Reno7 Z 5G

พอร์ตการเชื่อมต่อของ OPPO Reno7 Z 5G จะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง พอร์ตหลักเป็น USB-C และรุ่นนี้ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.มาด้วยนะ ใครที่อยากใช้งานด้วยหูฟังแบบแจ็ค 3.5 มม.ก็เสียบใช้งานได้โดยตรงไม่ต้องผ่าน Dongle

OPPO Reno7 Z 5G

ช่องใส่ซิมการ์ดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง ซึ่งถาดซิมจะเป็นแบบ Hybrid Slot คือใส่ได้ 2 ซิม แต่หากจะใส่ micro-SD ก็ต้องเลือกใส่ในช่องซิม 2 แทนนั่นเองครับ

OPPO Reno7 Z 5G

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ OPPO Reno7 Z 5G ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ด้วยฝาหลังที่ผ่านกระบวนการมากมายจนได้ผิวสัมผัสที่งดงามขนาดนี้ มีไฟแจ้งเตือน Dual Orbit Lights ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมบอดี้ยังเป็นทรงเหลี่ยม Ultra-Slim Retro Design ที่บางเบาชวนให้สัมผัสอย่างมากอีกด้วย

OPPO Reno7 Z 5G

กล้อง OPPO Reno7 Z 5G

มาต่อกันที่อีกไฮไลท์ของรุ่นนี้ OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมกล้องที่มีฟีเจอร์สำหรับถ่าย Portrait ได้เต็มเปี่ยม ตอกย้ำความเป็น The Portrait Expert เลยจริง ๆ แต่ก่อนอื่นเรามาดูสเปคกล้องกันก่อนดีกว่า รุ่นนี้ให้กล้องหลังมา 3 ตัว + กล้องหน้า 1 ตัวมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

  • กล้องหลัก High-Res 64MP
  • กล้อง Depth 2MP
  • กล้อง macro 2MP
  • กล้องหน้า 16MP
OPPO Reno7 Z 5G

ในส่วนของฟีเจอร์กล้องก็อย่างที่บอกว่าจัดมาสำหรับสาย Portrait โดยเฉพาะ ทั้งโหมด Bokeh Flare Portrait ในการถ่ายภาพนิ่งทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่จะมาเปลี่ยนพื้นหลังธรรมดา ๆ ให้เบลอได้สวยชวนฝันประหนึ่งเราใช้กล้อง DSLR ถ่ายยังไงยังงั้น หรือจะเป็นลูกเล่นที่ช่วยดึงแบบให้เด่นและเปลี่ยนฉากหลังเป็นขาว-ดำอย่าง AI Color Portrait ก็มีมาให้ใช้งานด้วย

ส่วนสายเซลฟี่ก็ถูกใจแน่นอนด้วยฟีเจอร์ Selfie HDR ที่แม้เราจะถ่ายภาพย้อนแสงแค่ไหนก็หน้าไม่มืดแถมฉากหลังก็ไม่ขาวโพลนไปด้วย นอกจากนั้นยังเสริมความสวยเนียนให้กับใบหน้าของเราได้ครบจบในคลิ๊กเดียวด้วยฟีเจอร์ Portrait Retouching สร้างเอฟเฟกต์เสมือนเราแต่งหน้าได้ง่าย ๆ อีกด้วย

สเปค OPPO Reno7 Z 5G

ปิดท้ายที่สเปค OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G แบบ 6nm มอบประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานในด้านต่าง ๆ ด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง แต่ยังได้ความลื่นไหล กราฟิกที่ดีด้วย ในเรื่องความจุรุ่นนี้ก็ให้มาที่ 8GB + 128GB พร้อม RAM Expansion สูงสุด 5GB อีกครับ เราทดสอบผ่าน AnTuTu Benchmark มาให้คะแนนก็ออกมาสูงใช้ได้เลย

ส่วนแบตเตอรี่ OPPO Reno7 Z 5G ได้มาเยอะถึง 4500mAh และมีระบบชาร์​จไว 33W SUPERVOOC ด้วย OPPO เคลมว่าชาร์จเต็มในเวลาแค่ 63 นาทีเท่านั้น หรือชาร์จเพียง 5 นาทีก็คุยได้ถึง 3 ชม.แล้วครับ

ในเรื่องซอฟต์แวร์ OPPO Reno7 Z 5G ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12 มีลูกเล่นใหม่ ๆ มาให้เพียบ ทั้ง Omoji, O Relax, Artist Wallpapers และ OPPO Reno7 Z 5G ยังเป็นอีกรุ่นที่ได้ TUV SUD รับรองการใช้งานลื่นไหลแม้จะใช้งานนานกว่า 36 เดือนด้วยนะ

สรุปสเปค OPPO Reno7 Z 5G

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.4″ ความละเอียด FHD+
  • refresh rate : 60Hz
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
  • RAM : 8GB (+ 5GB RAM Expansion)
  • ROM : 128GB
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh
  • ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 64MP
    • กล้อง Depth 2MP
    • กล้อง macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12
  • สีสัน : Rainbow Spectrum, Cosmic Black

OPPO Enco Air2

มาต่อกับ OPPO Enco Air2 หูฟังไร้สายตัวใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมสโลแกน Fresh Sound in the Air มีดีไซน์เคสแบบโปร่งแสงที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ สะกดทุกสายตา ขนาดของเคสชาร์จก็กะทัดรัดน่าพกพาเลยครับ

ส่วนตัวหูฟังจะเป็นทรงมาตรฐานพร้อมก้านที่ยื่นออกมาอีกหน่อย สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายไม่ปวดหูเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ครับ นอกจากนี้ในเรื่องระบบเสียง OPPO Enco Air2 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Blu-ray และ 13.4 mm composite tetanized diaphragm driver นอกจากนี้ในเรื่องของแบตเตอรี่ยังสามารถชาร์จเต็มภายใน 1.5 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีระบบ Noise cancellation ตัดเสียงรบกวน มอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายและความพึงพอใจเหนือราคาแน่นอนครับ

OPPO Watch Free

และชิ้นสุดท้ายกับ OPPO Watch Free มาพร้อมสโลแกน Day & Night, Work & Play มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 1.64″ สวมใส่สบาย มีสไตล์และง่ายต่อการใช้งาน

นอกจากนี้ OPPO Watch Free ยังมีฟีเจอร์น่าสนใจอย่าง ตัวช่วยในการติดตามการนอนหลับอย่างมืออาชีพ ด้วย OSleep ติดตามการนอนหลับในทุกสถานการณ์ตั้งแต่ก่อนนอนจนถึงตื่นนอน ด้วยการวัดค่า Sp02 แบบต่อเนื่องที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น และประเมินความเสี่ยงอาการนอนกรนแบบมืออาชีพโดยเฉพาะด้วยนะ

พบกัน 3 มีนาคมนี้!

ตอนนี้ใครสนใจให้ลองไปสัมผัส ลองเล่นที่หน้าร้านได้ ได้ยินมาว่ามีการเปิดจองล่วงหน้า และมารอพบกับงานเปิดตัวไปพร้อม ๆ กันในวันที่ 3 มีนาคม 2565 นี้ครับผม

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแกะกล่องพรีวิวคร่าว ๆ ของ OPPO Reno7 Z 5G กับ OPPO Enco Air2 และ OPPO Watch Free เท่านั้นเนาะ รีวิวฉบับเต็มรอติดตามได้เร็ว ๆ นี้ครับผม

กำลังฮอต

Featured7 วัน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News1 เดือน ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก