Connect with us

Android News

แกะกล่องพรีวิว OPPO Pad 2 แท็บเล็ตเรือธงล่าสุดกับ “มุมมองใหม่ที่เหนือกว่า”

Published

on

OPPO Pad 2 แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่เปิดตัวพร้อมกับ OPPO Find N3 Series เรียบร้อยในบ้านเรา รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในกลุ่มแท็บเล็ตของ OPPO เลย จัดเต็มทั้งสเปค, ดีไซน์ และความสามารถจากซอฟต์แวร์ จนใช้สโลแกนว่า “มุมมองใหม่ที่เหนือกว่า” ตัวเครื่องจะสวยงามแค่ไหน มุมมองใหม่ที่ว่านี้เหนือกว่ายังไง วันนี้เราแกะกล่องให้ชม ติดตามครับ!

แกะกล่อง OPPO Pad 2

มาเริ่มต้นที่แพ็กเกจของ OPPO Pad 2 ก่อนเลย ตัวกล่องรอบนี้จะเน้นความเรียบหรูด้วยกล่องสีขาวพร้อมแถบสีเงินที่มีลวดลายคล้ายดาวหมุนอยู่ด้านหน้า และชื่อรุ่นกับเลข 2 ที่ระบุไว้ชัดเจนเลย

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่องที่อยู่ในซองกระดาษอย่างดีเลย ที่เดี๋ยวเราจะมาดูดีไซน์กันเต็ม ๆ อีกทีเนาะ

ชั้นถัดไปก็จะมีซองเอกสารคู่มือการใช้งานและสายชาร์จ USB-C to A พร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไว 67W SUPERVOOC ที่ยังให้มาครบไม่ต้องซื้อเพิ่มแต่อย่างใดครับ

เบ็ดเสร็จอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ OPPO Pad 2 ก็จะมีด้วยกัน 4 อย่างประกอบด้วย

  • ตัวเครื่อง OPPO Pad 2
  • เอกสารคู่มือ
  • สายชาร์จ USB-C to A
  • อะแดปเตอร์ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

ดีไซน์ OPPO Pad 2

ได้เวลายลโฉมตัวเครื่องกันแล้ว อย่างแรกที่เราอยากพูดถึงเลยก็คือหน้าจอครับ OPPO Pad 2 มาพร้อมหน้าจออัตราส่วน 7:5 ซึ่งเรามักไม่ค่อยเห็นบนแท็บเล็ต Android มากนัก ตัวหน้าจอจะมีความป้อม ๆ แต่ก็ดูลงตัวกับการใช้งานทั้งแนวตั้งและแนวนอนดี

ซึ่งอัตราส่วนแบบนี้จะคล้ายกับพวกหนังสือที่เรากางออกมาเต็ม ๆ ทำให้เหมาะกับการอ่านเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเราถือเครื่องในแนวนอนพื้นที่ความสูงก็จะมากกว่าจอ 16:10 หรือ 16:9 พอสมควร ยิ่งถ้าเราแบ่งหน้าจอทำงาน 2 แอปพร้อมกัน แต่ละหน้าต่างก็จะมีพื้นที่เต็มตาขึ้นด้วย

ส่วนเรื่องการแสดงผล OPPO Pad 2 ก็ต้องบอกเลยว่าให้มาพรีเมี่ยมจริง ๆ เพราะได้จอ LCD (LTPS) ขนาดใหญ่ 11.61″ ความละเอียดสูงถึง 2800 x 2000 พิกเซล ในเรื่องสีสันก็ไม่ต้องห่วงแสดงได้มากถึง 1.07 พันล้านสี ระดับเฉดสี DCI-P3 97.4% และยังมีความเที่ยงตรง DeltaE ต่ำกว่า 2 อีกด้วย

ในเรื่องการตอบสนองหน้าจอ OPPO Pad 2 ก็ยอดเยี่ยมด้วย Refresh rate สูง 144Hz ที่มอบความลื่นไหลขั้นสุด สูงกว่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธงซะอีก ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอไป-มาหรือสลับแอปก็รู้สึกถึงความสมูทติดนิ้วมาก ๆ

ตัวกระจกหน้าจอของ OPPO Pad 2 จะมีความโค้งแบบ 2.5D ด้วย ตรงนี้เราว่าแปลกใหม่ดี เพราะส่วนใหญ่แท็บเล็ตจอใหญ่ ๆ ก็จะได้จอแบบแบนราบ 2D ไปเลย พอมีความโค้งเล็ก ๆ แบบนี้ก็ช่วยให้เวลาเราสัมผัสมีความละมุนนิ้วขึ้นมากพอควรเลยล่ะ

ตำแหน่งกล้องหน้าของ OPPO Pad 2 วางไว้ได้ดีเพราะอยู่เหนือหน้าจอในลักษณ์ที่ต้องวางเครื่องในแนวนอน ซึ่งยุคนี้แท็บเล็ตจอใหญ่ ๆ ก็มักจะออกแบบมาสำหรับการวิดีโอคอลด้วย การวางกล้องไว้ตรงนี้ก็ถูกต้องแล้วครับ

ดูด้านหน้าไปเยอะแล้ว ขอพลิกมาดูด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้าง OPPO Pad 2 นั้นมาพร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบ Star Trail หรือดาวหมุนแบบเดียวกับที่เราเห็นบนหน้ากล่องไปแล้วนั่นเอง ตัวฝาหลังมีการขัดเงาอย่างประณีต ให้เกิดลวดลายวน ๆ อยู่ที่ด้านหลังบนพื้นสีเทาเรียบหรูดีมาก

ซึ่งผิวสัมผัสแบบนี้ก็ช่วยให้ถือใช้งานได้สะดวก ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือมากนัก ขนาดตัวเครื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยด้วยเพราะเห็นจอใหญ่เบิ้มแบบนี้ แต่มาพร้อมความบางแค่ 6.54 มม.และน้ำหนักจะอยู่ที่ 552 กรัมเท่านั้นครับ

ตัวกล้องหลังของ OPPO Pad 2 ก็ยังโดดเด่นไม่แพ้กัน มาด้วยกรอบเลนส์วงกลมขนาดใหญ่ เสริมความทรงพลังเหมือนของกล้องหลัง 13MP ได้เป็นอย่างดี

ส่วนรอบ ๆ ตัวเครื่องก็ออกแบบมาดีในมุมของการจับถือครับ เพราะ 3 มุมซ้าย, ขวา, ล่าง จะมาในแบบโค้งมนทั้งหมด ทำให้เวลาเราจับถือนั้นไม่บาดและให้ความกระชับเข้ากับการจับถือได้ดี

ตำแหน่งปุ่มกดก็มีปุ่ม Power อยู่ที่ฝั่งซ้ายมือเหนือลำโพงตัวเครื่องซึ่งกดได้ง่ายไม่ว่าเราจะถือเครื่องในแนวตั้งหรือแนวนอนครับ

ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะอยู่ที่มุมขวามือเวลาถือเครื่องแนวตั้งหรือมุมบนเวลาวางเครื่องแนวนอน ซึ่งมุมนี้จะต่างจากส่วนอื่นนิดหน่อย เพราะจะมีการตัดขอบเหลี่ยมเข้าไปเพื่อเป็นแถบเชื่อมต่อกับ OPPO Pencil นั่นเองครับ

ทั้งด้านบนและล่างของ OPPO Pad 2 ก็จะมีลำโพง Stereo รวมกัน 4 ตัวที่มีข้อความระบุไว้ด้วยว่า Dolby Vision.Atmos หรือก็หมายความว่ารุ่นนี้รองรับทั้งภาพสวยและระบบเสียงเทพ ๆ เลยไงครับ ไม่ธรรมดาเนอะ!

ส่วนด้านล่างก็จะมีพอร์ต Connector ที่เอาไว้เชื่อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างเคสคีย์บอร์ดนั่นเองครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Pad 2 ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลย ทั้งความแปลกใหม่ของอัตราส่วน 7:5 ที่เราไม่ค่อยได้เห็นบนแท็บเล็ต Android เท่าไหร่ ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ฝาหลัง Star Trail สวย ๆ พร้อมความโค้งมนชวนให้สัมผัสของบอดี้ หรือจะเป็นกล้องหลังที่โดดเด่นแบบมองแว้บแรกก็รู้เลยว่าเป็นรุ่นนี้อีก

สเปค OPPO Pad 2

สำหรับสเปค OPPO Pad 2 ก็จัดมาให้ไม่ธรรมดากับชิป MediaTek Dimensity 9000 (4nm) ระดับพรีเมี่ยมที่ลื่นไหล ความเร็วสูงสุด 3.05GHz อีกทั้งยังมีความจุเยอะ RAM 8GB (LPDDR5) + Storage 256GB (UFS 3.1) อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าใช้งานได้แบบไม่มีสะดุดแน่นอน!

เราลองทดสอบคะแนนคร่าว ๆ จากแอป AnTuTu Benchmark ก็ออกมาสูงถึง 946967 คะแนน หายห่วงได้แล้วเนอะ

อ๊ะ…เหมือนยังไม่พอ ลองเล่นเกมให้ด้วย ปรับกราฟิกได้สูงแถมลื่นไหลมาก เพราะหน้าจอของ OPPO Pad 2 ให้มาแบบ 144Hz นี่นา

ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ก็ให้มาเยอะถึง 9510mAh เคลมว่าใช้งานดูวิดีโอได้นาน 12.4 ชม. และยังระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC ที่ชาร์จแค่ 10 นาทีก็ใช้งานต่อได้อีก 3 ชม.เลยนะ

ซอฟต์แวร์ OPPO Pad 2

ในเรื่องซอฟต์แวร์ OPPO Pad 2 ก็ใช้ ColorOS 13.1 for Pad ซึ่งมีการปรับ UI ให้เข้ากับแท็บเล็ตจอใหญ่ ๆ มากขึ้น มีฟีเจอร์อย่างการแบ่งหน้าจอโดยใช้ 2 นิ้วรูดเข้าถึงง่าย ๆ หรือใครที่ใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟน OPPO ยิ่งแจ่มใหญ่เพราะสามารถ Communication Sharing ที่ช่วยซิงค์ข้อมูลอาทิ แอปที่ใช้, ข้อความที่คัดลอก หรือแชร์เครือข่ายมือถือแบบไร้รอยต่อ เพียงแค่นำเครื่องมาใกล้ ๆ กันเท่านั้น

อุปกรณ์เสริม OPPO Pad 2

ปิดท้ายที่เรื่องอุปกรณ์เสริม แน่นอนว่าแท็บเล็ตยุคนี้ถ้ายิ่งมีอุปกรณ์เสริมมาเพิ่มความสามารถก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก OPPO Pad 2 ก็รองรับทั้งเคสคีย์บอร์ดที่รอบนี้อัปเกรดใหม่เป็น Smart Touchpad Keyboard แล้ว

ตัวเคสจะยึดกับเครื่องผ่านแม่เหล็กไม่ต้องมาประกอบหลายขั้นตอน แค่เอาฝาหลังแปะกรึ๊บ และเอาตัว Connector PIN มาเชื่อมต่อกับเคสได้เลย

ไฮไลท์ของเคสคีย์บอร์ดรอบนี้ก็ตามชื่อครับ มี Touchpad มาให้เราได้ใช้งานเป็นเมาส์บนหน้าจอ เข้าใกล้ความเป็นแล็ปท็อปเข้าไปอีก ส่วนตัวปุ่มกดบนคีย์บอร์ดก็เป็นปุ่มจริง ๆ ที่ดีดรับนิ้วมือได้ดีเลยด้วย

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ OPPO Pencil ที่จะเข้ามาเสริมการทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ สายจด สายวาดถูกใจแน่นอน ตัวด้ามเป็นแบบด้านสีขาวเนียน

ที่มุมหนึ่งจะมีแม่เหล็กลักษณ์แบนราบ เพื่อให้เราได้มาแปะกับตัวเครื่องเพื่อเชื่อมต่อหรือชาร์จได้ นอกจากนี้ยังสามารถแตะสั่งงานสลับเครื่องมือตามแอปได้ด้วย

ในเรื่องฟีเจอร์ OPPO Pencil ก็ไม่ธรรมดาเลยเพราะรองรับแรงกดมากถึง 4096 ระดับ แถมยังมีความหน่วงต่ำแค่ 2ms อีก วาดได้เหมือนบนกระดาษเลย ตอบสนองไวมาก!

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแกะกล่องของ OPPO Pad 2 คร่าว ๆ เท่านั้นเนาะ น่าจะพอเห็นภาพและความน่าใช้งานของรุ่นนี้อยู่พอควรเลย ทั้งดีไซน์ที่ดูทันสมัยและแปลกใหม่ สเปคที่อัดมาท็อปไม่แพ้แท็บเล็ตเรือธ. Android รุ่นไหน ๆ หรือจะเป็นซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยส่งให้ OPPO Pad 2 ดูน่าใช้ขึ้นไปอีก

ราคาและโปรโมชั่น

ก่อนจากกันเราก็มีข้อมูลราคาและโปรโมชั่นของ OPPO Pad 2 มาฝากกันเหมือนเคย รุ่นนี้เปิดราคามาที่ 24,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ และพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 66 จะได้รับของแถมมูลค่ากว่า 9,496 บาทประกอบไปด้วย

  • Smart Touchpad Keyboard
  • Smart Case
  • OPPO Pencil
  • พร้อมสิทธิพิเศษ YouTube Premium และ Google one

สรุปสเปค OPPO Pad 2

  • หน้าจอ: LCD (LTPS) 11.61″ อัตราส่วน 7:5
  • ความละเอียด: 2800 x 2000 พิกเซล, ความลึกสี 1.07 พันล้านสี, ความสว่างสูงสุด 500nits
  • refresh rate: 144Hz
  • ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 9000 Octa-Core 3.05GHz (4nm)
  • RAM: 8GB (LPDDR5)
  • Storage: 256GB (UFS 3.1)
  • แบตเตอรี่: 9,510mAh
  • ระบบชาร์จไว: 67W SUPERVOOC
  • ระบบเสียง: ลำโพง Stereo รองรับ Dolby Atmos
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 (ColorOS 13.1 for Pad)
  • อุปกรณ์เสริม: รองรับ Smart Touchpad Keyboard, OPPO Pencil
  • สีสัน: สีเทา

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured4 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

IT News13 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเชิญนักพัฒนาแอปพลิเคชัน ร่วมมือปั้นเนทีฟ แอปฯ สำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS

ณ งาน Huawei Analyst...

Smart Review13 ชั่วโมง ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

IT News14 ชั่วโมง ago

เอไอเอสจับมือกสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์...

IT News15 ชั่วโมง ago

Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 27 เม.ย. 67 เป็นต้นไปในราคาเพียง 12,990 บาท

เสียวหมี่ประกาศวางจำ...

IT News15 ชั่วโมง ago

realme เปิดตัวแบรนด์ช็อป เวอร์ชันล่าสุด “realme Experience Store 3.5”ครั้งแรกของเมืองไทย

ด้วยความมุ่งมั่นนำเส...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก