Featured
รีวิว OPPO Pad Air | OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds แท็บเล็ตดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว และหูฟังที่ชวนดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียง
รีวิว OPPO Pad Air และ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds สองอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อนร้อน เรียกว่าจะมาเสริมการทำงานให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้ง แท็บเล็ตดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว ที่สนุกได้ไม่จำกัด กับ หูฟังไร้สายที่ชวนดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียงได้อย่างแท้จริง ใครที่กำลังเล็ง ๆ สองชิ้นนี้มาใช้คู่กับสมาร์ทโฟนอยู่ วันนี้เรารีวิวให้ชมกันแบบเต็ม ๆ พร้อมแล้วติดตามครับ!
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-Web.jpg)
เราขอแยกเป็นชิ้น ๆ เพื่อความไม่สับสนของข้อมูลผลิตภัณฑ์ละกันเนาะ แต่ต้องบอกเลยว่าทั้งคู่นั้นช่วยส่งเสริมให้การทำงานร่วมกันของ OPPO Ecosystem สมบูรณ์ขึ้นจริง ๆ งั้นมาเริ่มที่ OPPO Pad Air กันก่อนเลยดีกว่าครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-23.jpg)
OPPO Pad Air
สำหรับ OPPO Pad Air ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกจาก OPPO ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่น่าพกพาและสเปคที่ครบเครื่องใช้งานได้อย่างหลากหลาย ดั่งสโลแกน “แท็บเล็ตดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว สนุกได้ไม่จำกัด” มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลยครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-01.jpg)
สรุปสเปค OPPO Pad Air
- ขนาดตัวเครื่อง : 240.08 x 154.84 x 6.94 มม.
- น้ำหนัก : ประมาณ 440 กรัม
- หน้าจอ : LCD ขนาด 10.36″ ความละเอียด 2K (2000 x 1200 พิกเซล)
- refresh rate : 60Hz
- CPU : Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform (6nm)
- GPU : Adreno 650
- RAM : 4GB (+ 3GB RAM Expansion)
- ROM : 64GB
- แบตเตอรี่ : 7,100mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 18W Fast Charge
- กล้องหน้า : 5MP f/2.2
- กล้องหลัง : 8MP f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1
- สีสัน : Fog Gray
- อุปกรณ์เสริม : รองรับปากกา Stylus
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-04.jpg)
ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มอบรูปลักษณ์ดั่งเนินทรายยามพระอาทิตย์ตก
เห็นสเปคคร่าว ๆ ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูดีไซน์ตัวเครื่องกันเลยดีกว่า อย่างที่บอกว่า OPPO Pad Air นั้นโดดเด่นในเรื่องดีไซน์อย่างมาก ตามสไตล์ OPPO ที่มักจะแทรกความพิเศษของงานออกแบบเข้ามา ฝาหลังของรุ่นนี้มาพร้อมพื้นผิวแบบ Two-Tone ที่ผสมผสานระหว่างผิวแบบ Sunset dune กับ Reno Glow ได้อย่างลงตัว พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3D finishing แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-03.jpg)
ที่บริเวณส่วนบนพื้นผิวแบบ Sunset dune ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแถบเนินทรายยามพระอาทิตย์ตกที่สวยงามไร้ที่สิ้นสุด ด้วยกระบวนการ Reno Glow พร้อมการเคลือบ 5 ชั้นและเทคโนโลยี 3D finishing ครั้งแรกในอุตสาหกรรม เป็นดีไซน์ที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยล่ะครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-18.jpg)
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะส่วนล่างที่เป็นพื้นเรียบยังใช้กระบวนการ sandblast ด้วยอนุภาคของรายละเอียดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.15 มม. มอบผิวสัมผัสที่มีเลเยอร์มากขึ้น พร้อมรูปลักษณ์แบบโลหะที่โดดเด่นกว่าอีกด้วย
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-19.jpg)
ซึ่งพอรวม 2 พื้นผิวเข้าด้วยกันอย่างประณีตระหว่างแผ่นโลหะและอนุภาคทรายสุดแวววาวที่มีเอฟเฟกต์ 2 แบบที่แตกต่างกัน ก็ทำให้เราเห็นถึงความพิถีพิถันในการออกแบบตัวเครื่องให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เวลาสัมผัสก็จะได้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากแท็บเล็ตทั่วไปที่มักจะมีฝาหลังเรียบ ๆ พอได้พื้นผิว Sunset dune เข้ามา ระหว่างใช้งานก็ชอบเอานิ้วไปสัมผัสอยู่ตลอด ตรงนี้เราบอกเลยว่าฟินมาก ๆ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-24.jpg)
ดีไซน์บางเบา จับถือได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากเรื่องผิวสัมผัสที่น่าทึ่งแล้ว ในเรื่องขนาดตัวเครื่องก็ยังเป็นจุดเด่นที่ OPPO Pad Air นำเสนอออกมาได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ตัวเครื่องมาพร้อมน้ำหนักที่เบาประมาณ 440 กรัม พร้อมความบางเฉียบแค่ 6.94 มม. เท่านั้น ทำให้เราสามารถถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบายไม่รู้สึกว่าหนักเกินไปถ้าต้องถือใช้งานนาน ๆ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-25.jpg)
อีกทั้งด้วยผิวสัมผัสที่เป็นแบบด้านทั้งหมดตั้งแต่ฝาหลังไปจนถึงกรอบเครื่อง ยังทำให้เราถือใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลในเรื่องคราบรอยนิ้วมือที่จะมาติดบริเวณตัวเครื่องอีกต่อไป
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-26.jpg)
หน้าจอ 2K HD eye care ขนาดใหญ่ ปกป้องสายตาได้ดี
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง OPPO Pad Air มาพร้อมหน้าจอ 2K HD eye care ขนาดใหญ่ 10.36″ ให้ความเต็มตาในการใช้งานได้เป็นอย่างดี มีขอบหน้าจอที่บางเฉียบเพียง 8 มม. ใช้พื้นที่หน้าจอไปได้มากถึง 83.5% เลยล่ะครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-02.jpg)
ในเรื่องของสีสันก็ต้องชมว่าทำได้ดีเลย มุมมองกว้างใช้ได้ เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงที่ต้องการความสวยงามคมชัดเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมาพร้อมการแสดงผลสีได้ถึง 1 พันล้านสี ให้ความสมจริงและรายละเอียดที่มากขึ้นไปอีก ใครที่ชอบดูหนังหรือภาพความละเอียดสูงบนจอแท็บเล็ต OPPO Pad Air ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-11.jpg)
ส่วนความสว่างรุ่นนี้ก็มี smart backlight ที่สามารถปรับเพิ่ม-ลดแสงได้ถึง 2,048 โซน ช่วยมอบความนุ่มนวลเวลาใช้งานในหลาย ๆ สภาพแสงได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นเรื่องการถนอมสายตาก็ยังได้การรับรองจาก TÜV Rheinland ด้าน low blue light eye protection ที่จะช่วยลดอาการปวดตาที่เกิดจากการใช้งานเป็นเวลานานได้ มั่นใจได้เลยว่า ถึงแม้จะใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ ก็ยังสบายตาครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-27.jpg)
ลำโพง Dolby Atmos 4 ตัว มอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม
นอกจากภาพจะยอดเยี่ยมด้วยหน้าจอขนาดใหญ่แล้ว ระบบเสียงของ OPPO Pad Air ก็ไม่น้อยหน้าได้ลำโพงสตูดิโอ 4 ตัว พร้อมดีไซน์แบบสมมาตรคือมีทั้งฝั่งซ้าย-ขวาของตัวเครื่องเวลาเราถือใช้งานก็จะได้เสียงที่กระจายออกรอบทิศทาง ให้มิติแบบ 3D นอกจากนี้ยังมีพร้อม sound chamber ขนาดใหญ่ถึง 0.8cc และกำลังไฟ 1W เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเสียงของลำโพงในทุกย่านความถี่
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-21.jpg)
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-10.jpg)
แต่แค่ลำโพง 4 ตัวยังไม่เพียงพอเพราะ OPPO Pad Air ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos และรองรับ Dolby Audio decoding ที่เข้ามาช่วยมอบประสบการณ์เสียงแบบ 3D เมื่อเล่นวิดีโอที่มีการใช้เอฟเฟกต์เสียง Dolby หรือ Dolby Atmos อีกด้วย
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-05.jpg)
เท่าที่ลองฟังก็ยอมรับเลยว่าคุณภาพเสียงจากลำโพง 4 ตัวนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ได้ทั้งความดังและมิติ เอามาดูหนังหรือฟังเพลงนี่ถูกใจแบบสุด ๆ แน่นอนครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-28.jpg)
ตำแหน่งต่าง ๆ วางไว้ได้ดี
ตำแหน่งต่าง ๆ ของ OPPO Pad Air ก็วางไว้ได้ดีเลย เริ่มจากกล้องหน้าที่วางในตำแหน่งเหนือหน้าจอตรงกลางเมื่อใช้งานในแนวนอน ซึ่งเราว่าเหมาะสมดีเลย เพราะทุกวันนี้การใช้งานแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะเป็นแนวนอนหมดแล้วเวลาใช้งาน Video Call มองไปที่หน้าจอก็จะรู้สึกว่าสายตามองตรงไปมากกว่าตำแหน่งซ้ายมือด้วยครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-08.jpg)
ส่วนปุ่มกด OPPO Pad Air จะมีปุ่ม Power อยู่ที่มุมซ้ายมือและปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ด้านบน หรือถ้าสลับมาใช้งานในแนวตั้งก็จะเป็นปุ่ม Power อยู่ด้านบนและปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ฝั่งขวา ใช้งานได้อย่างคล่องตัวไม่อึดอัดครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-20.jpg)
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-07.jpg)
พอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องเป็นพอร์ต USB-C มาตรฐานเพียงพอร์ตเดียว ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.มาให้ครับผม
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-06.jpg)
และที่ด้านข้างเครื่องก็จะมีช่องใส่ microSD ให้เราได้เพิ่มหน่วยความจำภายนอกเพิ่มเติมได้สูงสุด 512GB หาก 64GB ที่ให้มาในเครื่องไม่พอเนาะ ตรงนี้ก็ช่วยให้เราใช้งาน OPPO Pad Air ได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวว่าความจุจะไม่พอให้เก็บเพลง รูป หรือหนังที่ชอบแล้ว
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-09.jpg)
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Pad Air ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีสมกับที่เป็นแท็บเล็ตจาก OPPO ที่มักจะมีความโดดเด่นและแตกต่างเสมอ บนรุ่นนี้ได้ฝาหลัง 2 พื้นผิวที่เราชอบมาก รูปลักษณ์ก็ว่าสวยแล้ว พอได้ลองสัมผัสแล้วยิ่งติดใจความนูน 3D ของฝาหลังที่ชวนให้เราลูบซ้ำ ๆ ที่ได้จับเครื่อง อีกทั้งตัวเครื่องยังมีขนาดและน้ำหนักที่บาง-เบาน่าพกพา จะพกติดกระเป๋าไปใช้งานก็ไม่เพิ่มน้ำหนักจนเกินไป จะถือใช้งานนาน ๆ ก็ไม่หนักจนปวดข้อมือ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-29.jpg)
ประสบการณ์การใช้งานแท็บเล็ตที่ยอดเยี่ยมด้วย ColorOS
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์และการใช้งานกัน! OPPO Pad Air มาพร้อม ColorOS ที่มีพื้นฐานจาก Android 12 มีการปรับ UI ให้เข้ากับแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่มากขึ้น ทั้งไอคอน, Wallpaper, Notification Bar หรือในหน้า Settings ต่าง ๆ เป็นต้นครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-12.jpg)
Gesture มากมาย ช่วยให้ทำงานบนจอใหญ่ง่ายขึ้น
ในเรื่องการใช้งานต่าง ๆ OPPO ก็ออกแบบ Gesture มาให้เราได้ใช้งานง่ายขึ้น อาทิ การแบ่งหน้าจอ, การใช้ Dual Windows หรือเรียกแอปแบบด่วน ๆ ก็ทำได้ง่ายขึ้นกว่าไปอีกด้วยคำสั่งท่าทางดังต่อไปนี้ครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-22.jpg)
Two-finger split screen
เราสามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพร้อมกันบน OPPO Pad Air ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ 2 นิ้วรูดลงมาตรงกลางหน้าจอเท่านั้น ตัวแอปที่เราเปิดอยู่จะถูกพักไว้ที่มุมจอและให้เราได้เลือกแอปต่อไปหรือใช้งานส่วนที่เหลือได้อย่างอิสระ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นจริง ๆ ครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/C0428_1.gif)
Dual windows
นอกจาก Two-finger split screen แล้ว เรายังสามารถใช้งาน 2 แอปหรือ Dual windows ได้ด้วยการแตะที่ไอคอนหน้าต่างคู่ใน Recent App ได้ด้วย พอแตะเข้าไปแล้วตัวแอปที่ใช้อยู่จะพักไปที่มุมจอให้เราเลือกใช้งานแอปถัดไปแบบเดียวกันครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/C0430_1.gif)
Flexible windows
หรือถ้าแบ่งคู่ 2 หน้าจอแล้วใช้พื้นที่เยอะไป อยากแค่ให้แอปลอยอยู่บนหน้าจอเฉย ๆ ตรงนี้ก็มี Gesture ให้ใช้ด้วย เพียงแค่ใช้ 4 หรือ 5 นิ้วของเราจีบเข้าหากันในขณะที่เปิดแอปอยู่ ตัวหน้าต่างจะถูกย่อลงมาเป็น Floating windows ลอย ๆ อยู่ เราจะลากไปที่มุมจอหรือขยายขึ้นอีกเล็กน้อยก็ได้เลย สะดวกสุด ๆ ครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/C0427_1.gif)
Smart Sidebar
ปิดท้ายที่ Smart Sidebar ที่อยู่คู่ ColorOS มานาน แต่พอมาอยู่บนแท็บเล็ตที่หน้าจอใหญ่ขึ้นแบบนี้ก็ใช้งานได้มากขึ้นไปอีก เพราะเราสามารถเลื่อนแถบที่มุมขวาของหน้าจอออกมาแล้วเลือกแอปใด ๆ ในนั้นมาใช้งานได้ทันแบบ Floating windows หรือจะลากมาร่วมกับแอปอื่น ๆ เพื่อเปิดเป็น Dual Windows ก็ได้เช่นกันครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/C0429_1.gif)
ในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน ต้องบอกเลยว่า OPPO คิดมาเป็นอย่างดีให้เราได้ทำงานอย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเปิดแอป สลับไป-มา เลือก 2 แอปมาทำงานในหน้าจอเดียว หรือจะย่อขยายหน้าต่างแอปได้อิสระ ทั้งหมดนี้ถูกคิดมาอย่างดีจนเราแทบไม่ขัดใจเวลาเราจะเลือกใช้เลยจริง ๆ ครับ
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-30.jpg)
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform
มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพ OPPO Pad Air มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform แบบ Octa-Core ขนาด 6nm คู่กับความจุ 4GB + RAM Expansion สูงสุด 3GB นอกจากนี้ยังมีระบบ AI System Booster 2.1 มอบประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างหลากหลายและลื่นไหล
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-13.jpg)
เราทดสอบคะแนนจาก AnTuTu Benchmark คร่าว ๆ ก็ออกมาที่ 253321 คะแนน
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-14.jpg)
ส่วนคะแนนจาก Geekbench 5 ก็ได้ Single-Core ไปที่ 378 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1606 คะแนนครับ เรียกว่าเพียงพอต่อการใช้งานเพื่อความบันเทิงและทำงานแล้วล่ะครับระดับนี้
![รีวิว OPPO Pad Air](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-15.jpg)
เล่นเกมกันหน่อย!
ได้สเปคมาแบบนี้การเล่นเกมก็คงเป็นหนึ่งในการทดสอบความแรงของสเปคล่ะเนาะ สำหรับเกมที่เราจะใช้ทดสอบ OPPO Pad Air ในรอบนี้คือ Asphalt 9 และ Apex Legends ครับผม ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาดังนี้
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-16.jpg)
เล่น Asphalt 9 บน OPPO Pad Air
สำหรับเกมแข่งรถภาพสวยการได้เล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่นี้ก็คงถูกใจอย่างแน่นอน เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality หรือสูงสุดเลย ภาพที่แสดงออกมาสวยงามเต็มตามาก ๆ บนจอของ OPPO Pad Air ขนาด 10.36″ นี้ครับ ความลื่นไหลก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลยด้วย
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-33.jpg)
เล่น Apex Legends บน OPPO Pad Air
ส่วนเกมยิงแนว Battle Royale อย่าง Apex Legends เราสามารถเลือกกราฟิกได้ที่ Normal และเฟรมเรต High เท่าที่เราลองเล่นก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลที่ 40fps แทบทั้งเกม กราฟิกก็สวยกำลังดี แต่อีกจุดที่เราชอบก็คือมิติเสียงของลำโพงที่พอเล่นกับเกมแนวนี้แล้วสุดยอดมาก ๆ รู้ตำแหน่งของศัตรูแบบชุดเจนจริง ๆ ครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-32.jpg)
แบตเตอรี่ 7,100 mAh ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ OPPO Pad Air มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุเยอะถึง 7,100mAh ถือว่าเยอะมาก ๆ ในบอดี้บางแค่ 6.94 มม.แบบนี้ ด้วยความจุระดับนี้ช่วยให้เราใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบสบายใจ ทาง OPPO เคลมว่าใช้ดูวิดีโอ HD 1080P ได้นาน 12 ชม.หรือ Video Call ผ่าน Zoom ได้นานถึง 15 ชม.กันเลยทีเดียวครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-34.jpg)
ส่วนระบบชาร์จก็ให้มาที่ 18W Fast Charge อาจจะไม่เร็วมากนักเมื่อเทียบกับขนาดแบตฯที่ให้มา แต่ก็ถือว่าชาร์จได้เร็วพอสมควรล่ะครับมาตรฐานนี้
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-17.jpg)
สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว สนุกได้ไม่จำกัดจริง ๆ”
สรุปให้เลยละกันครับ สำหรับ OPPO Pad Air ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีดีไซน์ยอดเยี่ยม โฉบเฉี่ยว บาง-เบา ด้วยพื้นผิวฝาหลังที่ออกแบบมาพิเศษไม่เหมือนใครกับผิว Sunset dune ผสานกับ OPPO Glow ได้อย่างลงตัว ชวนให้สัมผัสและหลงรักได้ทันที่อยู่บนมือ หน้าจอ 2K HD Eye care ที่มอบความเต็มตาในการใช้งานแถมยังถนอมสายตาที่เหนือกว่า มีสเปคที่ตอบโจทย์การใช้งานด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,100mAh และที่ขาดไม่ได้ก็คือซอฟต์แวร์ ColorOS ที่ปรับแต่งมาอย่างดี ให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัวและสมกับความเป็นแท็บเล็ตอย่างแท้จริง! ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตคุณภาพดีจากแบรนด์ OPPO อยู่ เราว่า OPPO Pad Air รุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-35.jpg)
OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds
มาต่อกันที่หูฟัง OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ รุ่นนี้มาพร้อมกับสโลแกนว่า “Diving into the Scene” หรือ “ดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียง“ เน้นเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนอย่างจริงจังเลยล่ะครับ เรามาสรุปคุณสมบัติคร่าว ๆ ของรุ่นนี้กันหน่อยครับ…
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-01.jpg)
คุณสมบัติเด่น OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds
- ขนาดเคสชาร์จ : ประมาณ 66.84 x 51.45 x 25.04 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 41.8 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง : 4.3 กรัม x 2
- ประเภทหูฟัง : True Wireless Earbuds
- ไดรเวอร์ไดนามิก : 12.4 มม.
- Bluetooth : เวอร์ชั่น 5.2
- แบตเตอรี่ : หูฟัง 43 mAh | เคสชาร์จ 440 mAh
- พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB-C
- กันฝุ่นกันน้ำ : IP54
- สีสัน : White, Gray
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-04.jpg)
ดีไซน์เคสแบบ Refractive Bubble Case
ได้เวลามายลโฉม OPPO Enco Air2 Pro กันแล้วครับ ตัวเคสของรุ่นนี้จะใช้ดีไซน์แบบ Refractive Bubble ฝาครอบด้วยบนมีความสะท้อนแสงรูปทรงฟองอากาศ 2 ชั้นแบะโปร่งใส คือเวลาเรามองเข้าไปจะเห็นเลยว่าที่ฝาเคสชาร์จจะมีเลเยอร์อยู่ 2 ชั้นให้มิติและให้ความรู้สึกเหมือนฟองอากาศที่น่าสนใจ
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-05.jpg)
ตัวเคสชาร์จยังมีรูปทรงโค้งมนและเพรียวบางน่าสัมผัส OPPO เรียกว่าดีไซน์แบบนี้ว่า Smilling Curve Design คือเมื่อเปิดเคสชาร์จจะมีลักษณะโค้งมนเหมือนรอยยิ้ม และด้วยการออกแบบใหม่นี้ทำให้เมื่อเรามองเห็นหูฟังได้มากถึง 77% เมื่อเปิดฝาเคสขึ้นมา เทียบกับแบบก่อนที่ 50%
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-06.jpg)
หูฟังทรง In-Ear สวมใส่สบาย
ส่วนตัวหูฟังก็มาในทรง In-Ear ที่มีก้านยื่นออกมาเพื่อให้เราจับสวมใส่ได้ง่าย แม้จะเป็นทรง In-Ear แต่ด้วยการออกแบบที่เพรียวบางก็ทำให้เราสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบาย ลดแรงกดจากการใส่เป็นเวลานานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ตัวก้านหูฟังจะมี Touch Panel ที่ให้เราใช้สั่งงานหูฟังได้แบบสัมผัสอีกด้วย
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-07.jpg)
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-08.jpg)
ฟังได้ไร้กังวลด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54
ในเรื่องความทนทาน OPPO Enco Air2 Pro ก็ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP54 กันละอองน้ำหรือฝนได้อย่างมั่นใจ ทำให้เราจะใส่ไปออกกำลังกายหรือใส่ลุยฝนก็ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะเป็นอะไรครับ
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-10.jpg)
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Enco Air2 Pro ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีเลย ด้วยรูปทรงโค้งมนเพรียวบางและความเป็น OPPO ที่แทรกดีไซน์เก๋ ๆ อย่าง Refractive Bubble Case เข้ามาที่ฝาเคสชาร์จและ Smilling Curve Design ที่ทำให้ดีไซน์นั้นโดดเด่นกว่าหูฟังไร้สายรุ่นไหน ๆ เราชอบเลยเป็นดีไซน์ที่ผ่านการคิดมาอย่างพิถีพิถันจริง ๆ
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-09.jpg)
เชื่อมต่อได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
มาต่อในเรื่องการเชื่อมต่อ OPPO Enco Air2 Pro นั้นเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth 5.2 ซึ่งหากเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ OPPO เองก็จะมีฟีเจอร์ Quick pairing ที่แค่เปิดฝาเคสชาร์จและนำไปใกล้ ๆ ก็จะมี Pop-Up ขึ้นมาให้เราจับคู่ได้ทันที
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-03.jpg)
ประสิทธิภาพเต็มรูปแบบด้วยไดรเวอร์ไดนามิก 12.4 มม.
เชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลามาลองฟังกันแบบจริงจังสักที OPPO Enco Air2 Pro มาพร้อม Titanized diaphragm drivers ขนาดใหญ่ถึง 12.4 มม. ซึ่งการที่มีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มการดันอากาศมากขึ้น ทำให้เกิดพลังในการสั่นสะเทือนมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือจะช่วยให้เรื่องของเบสให้มีแน่นมากขึ้น
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-11.jpg)
คุณภาพเสียงที่เราได้ลองฟังต้องบอกว่ามีไดนามิกสูงและเสียงที่สมดุล เสียงแหลมที่ละเอียดอ่อน เสียงเบสที่ทุ้มลึกและทรงพลังใช้ได้เลย และด้วยความเป็นทรงหูฟังแบบ In-Ear ก็ยิ่งให้ความแน่นและเข้าหูมากขึ้น ทำให้เสียงที่ขับออกมานั้นชัดเจน เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วนแน่นอน
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-12.jpg)
นอกจากนี้ OPPO Enco Air2 Pro ยังมาพร้อม Chamber หลังขนาดใหญ่ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอของประสิทธิภาพเสียงเบสสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจังหวะดนตรีหนักแน่น ไม่ว่าจะเป็นเพลงร็อค ป๊อป หรือแดนซ์ ซึ่งเราสามารถเข้าไปเปิดเอฟเฟกต์เสียงเบส Enco Live ที่เพิ่มความทุ้มลึก หนักแน่น และเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นได้ด้วย
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-36.jpg)
ANC ระบบตัดเสียงชั้นยอด ประสบการณ์ระดับ HD
จุดเด่นที่สุดของ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องระบบตัดเสียงรบกวน (ก็ใส่มาในชื่อซะเต็มยศขนาดนี้) OPPO เลือกใส่ชิป Active Noise Cacellation (ANC) แบบ dual-core ที่สามารถจับและปรับสัญญาณรบกวนความถี่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น เสียงรถไฟฟ้าใต้ดิน, รถโดยสารประจำทาง เสียงจากหอพักหรือสำนักงานให้เงียบสนิทในการใช้งานได้
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-13.jpg)
ทำให้เราเต็มอิ่มไปกับเสียงเพลงหรือเสียงคลิปได้อย่างไม่ต้องมีอะไรมากวนใจ และหากจะพูดคุยกับคนอื่นก็ยังมีโหมด Transparency ที่ช่วยรับเสียงจากภายนอกเข้ามาให้เราพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังเลย เพียงแค่แตะค้างที่หูฟังก็จะสลับโหมดการทำงานของ ANC กับ Transparency ได้แล้วครับ
ความหน่วงต่ำใส่เล่นเกมได้ด้วย
สำหรับใครที่อยากใช้ OPPO Enco Air2 Pro นี้เล่นเกม ก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องความหน่วงเพราะรุ่นนี้มีค่า Latency ที่ต่ำแค่ 94ms จะเลือกเล่นเกมที่มีความไวเสียงสูง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา อย่างเช่นเกมแนวยิง ๆ ถ้าความหน่วงไม่ต่ำพอเราจะได้ยินเสียงของกระสุนดีเลย์ ช้ากว่าภาพที่ยิงออกไปแล้วนิดหน่อย แต่บน OPPO Enco Air2 Pro นั้นมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม เสียงตามทันแบบสุด ๆ ไม่ขัดใจแน่นอนครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-14.jpg)
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ OPPO Enco Air2 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน ที่ตัวหูฟังเองสามารถฟังต่อเนื่องแบบไม่เปิด ANC ได้ถึง 7 ชม.และ 5 ชม.เมื่อเปิด ANC ส่วนเคสชาร์จก็ยังมีแบตเตอรี่มากพอที่ช่วยชาร์จให้ใช้งานรวมกันได้สูงสุดถึง 28 ชม.และแน่นอนว่าระบบชาร์จก็มี Flash Charging ที่ชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้อีก 2 ชม.เลยด้วยครับ
![OPPO Enco Air2 Pro](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-16.jpg)
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังไร้สายที่ช่วยให้เราดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียง”
สรุปให้เลยสำหรับ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่มาพร้อมคุณสมบัติระดับไฮเอนด์อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดเสียงรบกวน ANC ชั้นยอด, ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 12.4 มม., มีค่าความหน่วงต่ำ มอบประสบการณ์การฟังเพลงเสมือนดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียงได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ในเรื่องดีไซน์ก็ยังโดดเด่นด้วย Smilling Curve Design โค้งมนเพรียวบางและมีเอกลักษณ์ ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายระดับสูงสักตัวไว้ใช้ในทุกรูปแบบทั้งฟังเพลง คุยโทรศัพท์ หรือเล่นเกม OPPO Enco Air2 Pro รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ครบถ้วนแล้วจริง ๆ ครับ!
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOEncoAir2-Pro-17.jpg)
เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้!
สุดท้ายและท้ายสุดของจริงกับราคาของ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ OPPO Pad Air และ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds ก็มีดังนี้เลยครับ
- OPPO Pad Air ราคา 9,999 บาท
- OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds ราคา 2,499 บาท
ทั้งคู่เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมเป็นต้นไปที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/08/Review-OPPOPadAir-37.jpg)