Connect with us

Android News

OPPO เปิดตัวหลากหลายนวัตกรรมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ บุกเบิกอนาคตแห่งการถ่ายภาพผ่านบนสมาร์ทโฟน

Published

on

  • นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ทั้งเซ็นเซอร์ RGBW โฉมใหม่ ระบบซูมออปติคอลแบบต่อเนื่อง เทคโนโลยี OIS ห้าแกน และ Under-screen Camera รุ่นใหม่

19 สิงหาคม 2564 เซินเจิ้น –  OPPO แบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก จัดงาน OPPO Future Imaging Technology Launch Event ประจำปี 2021 ในรูปแบบออนไลน์ เผยโฉมความก้าวหน้าสุดล้ำของเทคโนโลยีการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนที่มุ่งเน้นการอัปเกรดเซ็นเซอร์ โมดูล และอัลกอริธึม OPPO ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ “บันทึกภาพความงดงามในชีวิต ได้อย่างง่ายดาย”

นวัตกรรม ที่เปิดตัวในงานนี้ ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่ของ OPPO, ระบบซูมออปติคอลแบบต่อเนื่อง 85-200 มม. , เทคโนโลยีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) แบบ 5 แกน และกล้องใต้หน้าจอ (under-screen camera) รุ่นใหม่ของ OPPO พร้อมชุดอัลกอริธึม AI ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้มาใช้ ส่งผลให้ OPPO ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน ซึ่งครอบคลุมความสามารถในการถ่ายภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่ความไวแสง ความสามารถในการซูม ความเสถียร การวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ในอนาคต และอื่นๆ

เซ็นเซอร์ใหม่: เซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่ที่พัฒนาความไวแสงพร้อมประสิทธิภาพด้านสีที่เหนือชั้น

เซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่ของ OPPO มีการปรับปรุงความไวแสงให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยการใช้พิกเซลย่อยสีขาว (W) เพิ่มเติม เทคโนโลยี DTI ที่ล้ำสมัย และอัลกอริธึมพิกเซล 4-in-1 ที่ OPPO พัฒนาขึ้นเอง ผลลัพธ์จากนวัตกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เซนเซอร์ใหม่สามารถจับแสงได้มากกว่าเซนเซอร์รุ่นก่อนถึง 60% ในขณะที่ลดสัญญาณรบกวนลงได้ถึง 35%[1]  เพื่อให้ภาพที่คมชัดสว่าง และเด่นชัดขึ้นในสภาพแสงน้อย

ภาพแสดงเซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่ของ OPPO

เซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตและการประมวลผลขั้นสูง สามารถเพิ่มระดับพลังการประมวลผลที่จำเป็นต่อการทำงานของอัลกอริธึมที่ซับซ้อน และเพิ่มปริมาณข้อมูลที่ดึงออกมาได้สูงสุดผ่านพิกเซลสีขาวของเซ็นเซอร์ โดยอัลกอริธึมพิกเซล 4-in-1 ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงสีของเซ็นเซอร์ได้อย่างเด่นชัด ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ความผิดเพี้ยนของสี และลายมัวเร นอกจากนี้ เทคโนโลยีการแยกพิกเซล DTI สุดล้ำบนเซ็นเซอร์ใหม่ยังช่วยป้องกันการแทรกซ้อนของพิกเซลและปรับปรุงคุณภาพของภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย

นอกจากมีการพัฒนาความสามารถการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยแล้ว เซ็นเซอร์ RGBW รุ่นใหม่ ยังทำให้ภาพบุคคลหรือพอร์เทรตมีความคมชัดมากขึ้น ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วยการปรับผิวของตัวแบบ และคอนทราสต์ โดยเซ็นเซอร์ใหม่นี้จะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ OPPO ที่จะวางจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2564

โมดูลใหม่: ระบบซูมออปติคอล 85-200 มม. แบบต่อเนื่อง รองรับการซูมที่ราบรื่นไม่มีสะดุด และเทคโนโลยี OIS แบบ 5 แกน รับประกันการสแน็ปช็อตที่คมชัดยิ่งขึ้น

โมดูลที่เปิดตัวใหม่ครั้งนี้คือระบบซูมออปติคอล 85-200 มม. แบบต่อเนื่อง ซึ่งมีการออกแบบโมดูลโครงสร้างพื้นฐานที่ระดับฮาร์ดแวร์ขึ้นใหม่ทั้งหมด:

  • ใช้เทคโนโลยีเลนส์ G+P (แก้ว + พลาสติก) เป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวเลนส์แก้ว Aspheric ที่บางเฉียบและมีความแม่นยำสูง 2 ชิ้น เพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์ด้านออปติคอลอย่างเด่นชัด เช่น การลดแสงเล็ดลอด
  • การประยุกต์ใช้นวัตกรรมของเซ็นเซอร์ตรวจจับสนามแม่เหล็กในอุโมงค์ (เซ็นเซอร์ TMR) ช่วยให้เลนส์ภายในโมดูลกล้องเคลื่อนที่ได้อย่างมีเสถียรภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น
  • มอเตอร์เหนี่ยวนำที่ได้รับการอัพเกรดใหม่จะเพิ่มระดับการเลื่อนมุมกล้องขึ้นลงแบบไดนามิกซึ่งระบบเลนส์สามารถเคลื่อนไหวได้ และรองรับระบบซูมออปติคอลแบบต่อเนื่องด้วยกำลังขยายที่สูงขึ้น

ระบบซูมออปติคอล 85-200 มม. ที่รักษาความละเอียดของภาพได้อย่างต่อเนื่อง

นวัตกรรมที่กล่าวมานี้ รองรับการซูมออปติคอลแบบต่อเนื่องที่ความยาวโฟกัสเทียบเท่าระหว่าง 85 มม. ถึง 200 มม. โดยสามารถจับภาพที่คมชัดในทุกระดับกำลังขยาย ตั้งแต่ภาพบุคคลในระยะใกล้ ไปจนถึงภาพทิวทัศน์ที่ห่างไกล โดยไม่จำเป็นต้องคร็อปภาพ ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการปรับโฟกัสที่ราบรื่นตลอดช่วงการซูม พร้อมคุณภาพของภาพที่เทียบเท่ากับกล้องมืออาชีพ นอกจากนี้ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาที่เจอได้บ่อย ๆ เช่น การกระโดด ความคลาดเคลื่อนของไวต์บาลานซ์ หรือการแสดงสีบางสีเข้มเกินจริง ซึ่งอาจพบได้ในระบบซูมของกล้องหลายตัวทั่ว ๆ ไป

เทคโนโลยีใหม่จาก OPPO อย่างระบบ OIS แบบห้าแกน ช่วยให้โปรเซสเซอร์ของระบบสามารถรับข้อมูลการเคลื่อนไหวจากไจโรสโคป วิเคราะห์ และแยกย่อยข้อมูลออกเป็นส่วนย่อย ๆ ตามลำดับผ่านอัลกอริธึม จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปยังส่วนประกอบที่เคลื่อนย้ายได้ทั้งสองชิ้น ได้แก่ เลนส์ และเซ็นเซอร์ภาพ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยball-bearing motors และ shape memory alloys

เมื่อมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างน้อย ภาพจะคงความเสถียรได้จากการใช้ OIS ที่สามารถขยับเลนส์ได้ ทั้งในแนวนอน (X) และแนวตั้ง (Y)  อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก ระบบจะใช้ OIS แบบขยับเซ็นเซอร์ได้ – ซึ่งสามารถขยับทั้งในแนวนอน (x) แนวตั้ง (y) และการหมุนรอบ – ร่วมกับการชดเชยอัลกอริธึม เพื่อให้เกิดความเสถียรในห้าแกนของช่องว่างที่เกิดขึ้น

คุณสมบัติใหม่ทั้งหมดนี้ช่วยให้เกิดมุมการสั่นไหวสูงสุดที่ ±3° ซึ่งสูงกว่าเทคโนโลยี OIS แบบเดิมบนอุปกรณ์โมบายถึงสามเท่า ในขณะที่เซ็นเซอร์ยังสามารถขยับด้วยความแม่นยำระดับ 2μm  สำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือภาพเคลื่อนไหว เทคโนโลยีอัลกอริธึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO สามารถช่วยปรับปรุงความเสถียร ความคมชัด และประสิทธิภาพการแสดงสีให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน เพิ่มประสิทธิภาพการชดเชยการสั่นสะเทือนได้ถึง 65%  โดยเทคโนโลยี OIS แบบ 5 แกน จะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ OPPO ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2565

เทคโนโลยีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) แบบ 5 แกน จาก OPPO

อัลกอริธึมใหม่: อัลกอริธึมที่ OPPO พัฒนาขึ้นเองสำหรับรองรับกล้องใต้หน้าจอรุ่นใหม่ เพื่อส่งมอบความสมดุลระหว่างหน้าจอและคุณภาพของกล้องอันสมบูรณ์แบบ

สุดท้าย OPPO ยังได้เปิดตัวโซลูชั่นกล้องใต้หน้าจอรุ่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนในอนาคต มีการใช้ pixel geometry ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถแสดงผลภาพด้วยความละเอียดสูงถึง 400-PPI ในพื้นที่กล้องใต้หน้าจอ และด้วยการใช้สายไฟแบบโปร่งใส และการออกแบบใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือคุณภาพการแสดงผลที่ละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ด้วยวงจรพิกเซลแต่ละวงจรขับเคลื่อนเพียง 1 พิกเซล (“1-to-1”) ในหน้าจอและเทคโนโลยีการชดเชยอัลกอริธึมที่แม่นยำของ OPPO ทำให้ควบคุมสีและความสว่างของทั้งหน้าจอได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยมีค่าเบี่ยงเบนเพียง 2% และยืดอายุการใช้งานหน้าจอได้ยาวนานขึ้นถึง 50%

นอกจากนี้ สถาบันวิจัย OPPO ในสหรัฐอเมริกา ยังได้พัฒนาชุดอัลกอริธึม AI ด้านภาพ ประกอบด้วย การลดการเลี้ยวเบน, การป้องกันการควบแน่น, HDR และ AWB เพื่อปรับปรุงคุณภาพการถ่ายภาพของกล้องใต้หน้าจอให้ดียิ่งขึ้น  โดย OPPO ยังคงทดสอบ AI diffraction reduction model ด้วยการใช้ภาพหลายหมื่นภาพมาช่วยลดปัญหาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ใช้สามารถจับภาพได้ชัดเจนและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการถ่ายภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของผู้บริโภคทั่วโลก OPPO ได้เพิ่มขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับโลกอย่างไม่หยุดยั้ง โดยปัจจุบัน OPPO มีสถาบันวิจัย 6 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 5 แห่ง และแล็บที่วิจัยด้านภาพ (Imaging Lab) หลายสิบแห่งทั่วโลก รวมถึงแล็บแห่งใหม่ในไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย และแล็บในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำหน้าที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพของ OPPO ขึ้นเองเพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ซีรีส์ Reno  ในอนาคต OPPO จะยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีภาพที่พัฒนาขึ้นเองมาใช้ และเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ทั่วโลกต่อไป


[1] ข้อมูลจากแล็บ OPPO เมื่อเปรียบเทียบกับเซ็นเซอร์ RGB รุ่นก่อนหน้า

กำลังฮอต

Featured1 สัปดาห์ ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News1 เดือน ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก