Connect with us

Featured

รีวิว OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกจาก OPPO จะพับทั้งที ก็ต้อง “พับที่ดีกว่า”

Published

on

รีวิว OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกของ OPPO ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย เป็นการเปิดตลาดจอพับของ OPPO ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย เพราะรุ่นนี้มาพร้อม “พับที่ดีกว่า” ชูจุดเด่นใน 3 เรื่องคือ ดีไซน์ที่ดีกว่า, กล้องที่ดีกว่าและประสบการณ์ที่ดีกว่า จะดีกว่าแค่ไหน สมาร์ตโฟนจอพับในตอนนี้ใช้งานจริงตอบโจทย์หรือยัง วันนี้เรารีวิวให้ชมแบบเต็ม ๆ เลย พร้อมแล้วติดตามครับ!

สรุปสเปค OPPO Find N2 Flip

  • หน้าจอนอก : AMOLED ขนาด 3.26” ความละเอียด 382 x 720 พิกเซล
  • หน้าจอหลัก : AMOLED ขนาด 6.8” ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080 พิกเซล)
  • Refresh rate : หน้าจอนอก 60Hz, หน้าจอหลัก 120Hz
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9000+ Octa-core 3.2GHz (4nm)
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 256GB
  • แบตเตอรี่ : 4300mAh
  • ระบบชาร์จ : 44W SUPERVOOC
  • กล้องหลัง : 2 ตัว
    • 50MP กล้องหลัก f/1.8
    • 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • กล้องหน้า : 32MP f/2.4
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB-C
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 (ColorOS 13)
  • สีสัน : สีม่วง Moonlit Purple, สีดำ Astral Black

ดีไซน์ที่ดีกว่า ด้วยจอด้านนอกที่ใหญ่ที่สุด!

มาเริ่มกันที่เรื่องแรกเลยกับ “ดีไซน์ที่ดีกว่า” OPPO รู้ดีว่าการที่จะใช้งานสมาร์ตโฟนจอพับได้อย่างคล่องตัวนั้น หน้าจอที่มีให้เป็นส่วนสำคัญ จอด้านนอกก็ต้องใช้งานได้และตอบโจทย์เช่นกัน OPPO Find N2 Flip จึงมาพร้อมจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาจอพับแนวตั้ง (Flip) ด้วยขนาดจอใหญ่ถึง 3.26″ เรียกว่าให้ความเต็มตากับเราตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ครับ!

แน่นอนว่าพอจอนอกใหญ่ขึ้น ก็ทำให้เราเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าเดิม รวมถึงใช้งานหน้าจอนอกได้แทนหน้าจอหลักในบางสถานการณ์ด้วยเช่นกัน UI การใช้งานของหน้าจอนอกก็ปรับมาให้เข้าใจง่ายคล้ายกับพวก Smart Watch ครับแบ่งเป็น

  • เลื่อนขึ้นเพื่อดูการแจ้งเตือน
  • เลื่อนลงเพื่อเปิด Control Center
  • ปัดซ้ายเพื่อเข้าสู่หน้า Smart Widget

Smart Widget ของ OPPO Find N2 Flip ก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบด่วน ๆ อย่างการปัดมาเพื่อเข้าสู่โหมดกล้องเพื่อใช้กล้องหลังเป็นการเซลฟี่ได้เลย หรือหน้าสภาพอากาศที่เราสามารถดูสภาพอากาศคร่าว ๆ ได้จากจอนอก เป็นต้น โดยตอนนี้แอปที่รองรับจะมีด้วยกัน 6 แอป ประกอบด้วย

  • แอปกล้อง
  • สภาพอากาศ
  • นาฬิกา
  • บันทึกเสียง
  • อีเว้นท์
  • ควบคุมหูฟังไร้สาย (รองรับเฉพาะหูฟัง OPPO และ OnePlus บางรุ่น)

แม้ตอนนี้แอปที่รองรับตัว Smart Widget อาจจะไม่เยอะมาก แต่ในอนาคต OPPO บอกว่าจะมีอัปเดตเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ซึ่งเราก็พอจะช่องทางว่าหากแอปยอดฮิตนั้นออกมาให้รองรับกับตัวหน้าจอนอกแบบทางการคงจะสนุกในการใช้งานอีกเยอะเลย ลองนึกว่าถ้าเราไถ Tiktok หรือดู IG Story ได้ผ่านจอด้านนอกโดยไม่ต้องกางจอออกมา ก็คงสะดวกไปอีกแบบเนาะ

นอกจาก Widget ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกแล้ว OPPO ยังมีฟีเจอร์ Interactive pet ที่ให้เราเลือกเปลี่ยน Wallpaper หน้าจอนอกเป็น Wallpaper สัตว์เลี้ยงท่ีโต้ตอบกับเราได้ด้วย ซึ่งน้อง ๆ น่ารักมาก เพิ่มความสนุกและเป็นมิตรให้กับผู้ใช้อย่างเราได้อีกเยอะเลย ตอนนี้จะมีให้เลือก 5 แบบคือ นก, หนูแฮมสเตอร์, กระต่าย, แมวและหมาครับ

หน้าจอหลักยอดเยี่ยมระดับท็อป

จอด้านนอกว่าเด็ดแล้ว พอกางหน้าจอด้านในมาต้องร้องว้าวกันเพิ่มอีก เพราะ OPPO Find N2 Flip นั้นได้หน้าจอ AMOLED ที่เต็มตาเอามาก ๆ ด้วยขนาดจอใหญ่ถึง 6.8″ ความละเอียด FHD+ แสดงผลสีสันได้สวยงาม มี Refresh rate 120Hz ลื่นไหลไม่ต่างจากหน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องใหญ่ ๆ สักเครื่องเลยแต่หน้าจอระดับนี้ขยายออกจากตัวเครื่องเล็ก ๆ ทรงตลับแป้งเมื่อกี้ก็แอบทึ่งเหมือนกันเนาะ

ในเรื่องสเปคจอของ OPPO Find N2 Flip กันอีกหน่อยดีกว่า เพราะแม้จะเป็นสมาร์ตโฟนจอพับแต่ก็ได้สเปคจอมาสูงสุด ๆ กับจอ E6 AMOLED ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วนก็เป็นแบบ 21:9 เอามาดูหนังนี่ได้เต็มจอโดยไม่เหลือขอบดำเลยล่ะครับ

ความกว้างของจอแบบ 21:9 ก็เข้าใกล้สมาร์ตโฟนทั่วไป (20:9) ได้อีกเยอะ ทำให้เวลาใช้งานมือเดียว พิมพ์คีย์บอร์ดก็ให้ความถนัดและชินมือได้เป็นอย่างดีครับ ไม่แคบจนตัวอักษรนั้นเบียดเข้ามาจนเกินไป แถมระบบสั่นในการใช้งานของ OPPO Find N2 Flip ก็ยังตอบสนองได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ อีกด้วย

ส่วนเรื่องความสว่างจอหลักของ OPPO Find N2 Flip ก็มาพร้อมความสว่างสูงสุดที่ 1,600 nits ให้เราใช้งานกลางแจ้งได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังติดฟิล์มกันแสงสะท้อนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO ส่งผลให้จอของ OPPO Find N2 Flip สะท้อนแสงสะท้อนน้อยกว่าโทรศัพท์จอพับรุ่นอื่นถึง 5 เท่า ซึ่งแปลว่าได้สีดำที่เข้มข้ึนและคอนทราสต์ท่ีดีขึ้นในทุกสภาพแสงนั่นเอง

ส่วนหน้าจอนอกก็ยังสู้แสงได้ดีไม่แพ้กันที่ 900 nits ถือว่าเพียงพอต่อการเช็กการแจ้งเตือน, ดูสภาพอากาศต่าง ๆ หรือเซลฟี่สักหน่อยในช่วงแสงจ้า ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับความสว่างระดับนี้

รอยพับที่แทบมองไม่เห็น

แต่ความอลังการของสเปคหน้าจอไม่ใช่เรื่องเดียวที่ควรว้าว เพราะเรื่อง “รอยพับ” นั้นเป็นจุดที่ OPPO ชูมาอย่างชัดเจนว่าเนียนกว่ามาก ในการใช้งานมุมตรงมองไปที่หน้าจอนั้นไม่เห็นรอยพับใด ๆ เลย เหมือนเราใช้งานสมาร์ตโฟนทั่วไปมาก หรือจะเอียงในองศาต่าง ๆ ก็แทบจะไม่เห็นรอยพับตรงกลางมากวนใจเลย ตรงนี้ยอดเยี่ยมมาก

แต่ถ้าเราจงใจสัมผัสบริเวณกลางเครื่องก็ยังพอรู้สึกอยู่บ้างว่าเป็นส่วนที่มีรอยพับ แต่ด้วยความยาวของหน้าจอในการใช้งานจริงเราแทบจะไม่ได้ไปสัมผัสบริเวณนั้นบ่อย ๆ อยู่แล้วครับ รอยพับนี้จึงไม่ได้กวนใจเราเลย ถือว่าออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมมาก

Flexion Hinge รุ่นใหม่ แข็งแกร่งและเบาอย่างเหลือเชื่อ!

เบื้องหลังความเรียบเนียนของรอยพับบนหน้าจอของ OPPO Find N2 Flip ก็มาจาก Flexion Hinge หรือบานพับที่เมื่อพับแล้วบานพับจะทำให้หน้าจอที่ยืดหยุ่นเป็นรูปแบบหยดน้ำที่นุ่มนวลตามแนวรอยพับ ซึ่งทำให้รอยพับที่เห็นได้นั้นลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับกลไกรูปตัว U แบบที่เห็นบนสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ซึ่งตรงนี้ OPPO เคลมว่าลดรอยพับให้เนียนตามากขึ้นถึง 63% เลยล่ะครับ

และด้วยเทคนิคบานพับแบบ Flexion Hinge นี้ก็ช่วยให้เวลาเราพับเครื่องนั้นแนบสนิทไปเลย ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวฝุ่นหรือเศษอะไรจะเข้าไปติดเวลาพับได้ด้วยครับ

ในเรื่องความทนทาน OPPO Find N2 Flip ก็ผ่านการทดสอบมาอย่างจริงจัง จนเคลมได้ว่าสามารถพับ-กางได้กว่า 400,000 ครั้ง ถ้าคิดง่าย ๆ ว่าพับวันละ 100 ครั้งก็ใช้งานได้นานเป็น 10 ปีกันเลย หมดห่วงเรื่องความทนทานแล้วเนาะแบบนี้

และด้วยรูปแบบบานพับที่แข็งแรงนี้ทำให้ OPPO Find N2 Flip สามารถปรับมุมองศาได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่พับและกางออกเท่านั้น เพราะเราสามารถปรับมุมมองใช้งานได้ตั้งแต่ 45º – 110º ได้อย่างมั่นใจ จะกางออกมาเพื่อใช้งานถ่ายรูปแทนข้างตั้งด้วย Flexform mode หรือกางออกเกือบสุดเพื่อตั้งตัวเครื่องก็ได้เช่นกัน

น้ำหนักเบาและทนทาน

จุดเด่นอีกอย่างของสมาร์ตโฟนจอพับก็คือด้วยความที่ตัวเครื่องนั้นสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย พกพาในกระเป๋าใบเล็กได้อย่างสะดวก ซึ่ง OPPO Find N2 Flip นั้นเมื่อพับแล้วจะมีความหนาแค่ 16.02 มม.เท่านั้นไม่ได้หนาจนเกินไป สาว ๆ ที่ชอบใช้กระเป๋าใบเล็ก ๆ ก็ยังสามารถใส่ OPPO Find N2 Flip เครื่องนี้ไปได้อย่างสะดวกสบาย

และถ้ากางเครื่องออกมาก็จะมีความบางแค่ 7.45 มม.เท่านั้น ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่บางเฉียบเลยก็ว่าได้ครับ ลองเทียบกับขนาดหน้าจอ 6.8″ ที่ได้สิ อีกทั้งน้ำหนักก็ยังเบาแค่ 191 กรัม แม้จะมีกลไกบานพับอยู่ภายในแต่ก็ไม่ได้ทำให้เครื่องหนักขึ้นเท่าไหร่เลย

สวยสมกับเป็นสมาร์ตโฟนสายแฟชั่น

มาดูรอบ ๆ เครื่องปิดท้าย ที่ตัวบานด้านหลังพับจะมีโลโก้ OPPO อยู่พร้อมลวดลายคลื่นเสียงที่มอบความหรูหราและใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วส่วนนี้จะไม่ได้โชว์สักเท่าไหร่ แต่ก็ยังแฝงลูกเล่นเล็กเข้ามาให้ดีไซน์นั้นไม่นิ่งจนเกินไปอีก

ปุ่มกดก็วางไว้ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ภายใน ซึ่งพอใส่ไว้ที่ปุ่ม Power แบบนี้เราก็สามารถสแกนใช้งานได้ง่ายทั้งตอนพับหรือกางหน้าจอเลยล่ะครับ

ที่ด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีพอร์ต USB-C ไมโครโฟน,ช่องใส่ซิม และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับลำโพงสนทนาเพื่อเป็นลำโพง Stereo คู่ได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบเลยล่ะ

ซึ่งลำโพงของ OPPO Find N2 Flip ก็ตอบโจทย์ในเรื่องความบันเทิงอย่างมาก เพราะเมื่อเรากางหน้าจอออกมาดูคอนเทนต์เต็ม ๆ เสียงที่ได้ก็รอบทิศทางมากขึ้น แถมมุมมองของตัวเครื่องก็สามารถปรับได้เยอะ จะกางในแนวตั้งให้เสียงยิงตรงเข้ามา หรือแนวนอนให้เสียงโอบล้อมเราก็ลงตัวไปหมด

และที่ฝาหลังก็จะมีโลโก้ของ OPPO | Hasselblad อยู่ด้วย เราว่าตรงนี้แหละที่เพิ่มความภูมิฐานให้ OPPO Find N2 Flip ได้อีกเยอะเลย เป็นตำแหน่งที่ลงตัวไม่น้อยครับ

2 สี 2 สไตล์

สำหรับสีสัน OPPO Find N2 Flip มาพร้อมสองสีให้เลือกคือ สีม่วง Moonlit Purple และ สีดำ Astral Black โดยแต่ละสีมีกรอบอะลูมิเนียม ขัดเงาท่ีผสานเข้ากับเคสกระจกอย่างนุ่มนวล มอบความมั่นใจและสวยงาม

  • สีม่วง Moonlit Purple มอบประกายระยิบระยับด้วยเนื้อแบบกระจายแสงที่ เป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ดังนั้นจึงแตกต่างจากกระจกแบมเดิม ลดการเกิดรอยนิ้วมือและรักษาความงามดั้งเดิมของเครื่องได้อย่างเต็มเปี่ยม
  • สีดำ Astral Black เป็นโทนสีที่ประณีต หรูหรา ไร้ที่สิ้นสุด ด้วยพื้นผิวที่นุ่มนวลซึ่งส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสง กรอบอลูมิเนียมขัดเงาและบานพับท่ีเหมือนคลื่นจะสะท้อนแสงและเติมเต็มรูปลักษณ์ระดับพรีเมี่ยม

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Find N2 Flip ก็สมกับที่ยกคำว่า “ดีไซน์ที่ดีกว่า” มานำเสนอจริง ๆ เพราะนอกจากหน้าจอนอกที่ใหญ่กว่าชัดเจนแล้ว รอยพับบนหน้าจอก็เนียนตากว่า บานพับแข็งแกร่งพับเครื่องได้แนบสนิทกว่า รวมถึงขนาดตัวเครื่องที่พอดีมือกว่าทั้งตอนพับเก็บหรือกางมาใช้งานมากกว่าด้วย เป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่ผ่านมาคิดมาอย่างดีจนเข้าใกล้ความสมบูรณ์ได้แล้วจริง ๆ ครับ

กล้องที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาร่วมกับ Hasselblad และ MariSilicon X Imaging NPU!

มาต่อในเรื่องกล้อง OPPO Find N2 Flip ก็จัด “กล้องที่ดีกว่า” มาให้เช่นกันด้วยกล้องหลังคู่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย

  • กล้องหลักความละเอียดถึง 50MP (เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56″) f/1.8
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8MP (เซ็นเซอร์ Sony IMX355) f/2.2
  • กล้องหน้าความละเอียด 32MP (เซ็นเซอร์ Sony IMX709) f/2.4

Quick High-Res Selfie สมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดสาหรับการเซลฟี่

ด้วยความที่ฮาร์ดแวร์กล้องระดับสูงแบบนี้ และเราก็สามารถใช้หน้าจอนอกเป็น Viewfinder ในการถ่ายภาพ, ภาพพอร์ทเทรต, หรือวิดีโอได้ด้วย ทำให้เราได้ภาพเซลฟี่ระดับสูงเพราะมาจากกล้องหลัง 50MP สุดคมแบบ Hasselblad เลย แถมหน้าจอด้านนอกอยู่ในแนวต้ัง เช่นเดียวกับหน้าจอด้านใน เมื่อเราเซลฟี่ก็จะเห็นภาพรวมทั้งหมดโดยมีการครอบตัดเพียงเล็กน้อย ซึ่งดีกว่าการถ่ายภาพด้วยภาพตัวอย่างหน้าจอแนวนอนอย่างเห็นได้ชัด

แต่เท่าที่เราลองใช้งานก็ยังมีจุดสังเกตอยู่บ้างคือในโหมด Quick High-Res Selfie นี้เราไม่สามารถสลับไปใช้เลนส์ Ultra Wide เวลาจะเซลฟี่หมู่แบบกว้างพิเศษก็อาจจะทำทันทีจากตอนพับจอไม่ได้ รวมถึงในการเซลฟี่จากหน้าจอนอกทันทีจะไม่มีตัวเลือกปิด Flip Selfie (เซลฟี่กลับด้าน) ด้วยครับ

Dual Preview เห็นภาพพร้อมกัน ไม่ต้องกลัวออกมาไม่ตรงใจ

อีกหนึ่งความดีงามของหน้าจอคู่ของสมาร์ตโฟนจอพับก็คือ เราสามารถเปิดใช้งานการแสดงตัวอย่างสองหน้าจอพร้อมกันได้ ช่วยให้หนุ่ม ๆ ที่ต้องถ่ายภาพแฟนสบายใจได้เลย เพราะแฟนก็จะได้เห็นภาพตัวเองก่อนกดถ่าย ได้ตั้งท่าโพสต์หรือยิ้มได้ถูกใจ ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ ลดขั้นตอนการถ่ายใหม่หลาย ๆ รอบได้จริงเลยล่ะครับ อ๊ะ…และในการใช้งานแบบนี้เราก็สามารถกดเปิดเลนส์ Ultra Wide และเปิด Dual Preview ให้ใช้งานเซลฟี่มุมกว้างพิเศษได้แล้วนะ

และนี่คือตัวอย่างจากโหมด Portrait ของ OPPO Find N2 Flip การที่นางแบบได้เห็นตัวอย่างก่อนถ่ายก็ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นจริง ๆ รวมถึงโหมด Portrait ของรุ่นนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก ทั้งการตัดขอบการเพิ่มความเนียนใสของใบหน้า หรือจะเป็นฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย เรียกว่าสามารถจบหลังกล้องแบบไม่ต้องไปแต่งต่อได้เลยล่ะครับ ไม่เชื่อลองดูตัวอย่างสิ!

FlexForm camara เป็นขาตั้งกล้องได้ในตัว พร้อมมุมมองที่หลากหลาย

ด้วยความที่หน้าจอสามารถพับ-กางได้หลายองศาอย่างที่บอกไป ด้วย FlexForm Camera ที่แบ่งสัดส่วนหน้าจอระหว่าง Viewfinder กับปุ่มควบคุมได้เป็นอย่างดี เมื่อวางบนพื้นราบ OPPO Find N2 Flip จะได้มุมต่ำสำหรับการถ่ายภาพมุมสูง แบบเสยขึ้นด้านบน และบนพื้นผิวที่สูง ให้ถ่ายภาพจากบนลงล่างที่นิ่งและครอบคลุมทั้งหมด หรือถ่ายไทม์แลปส์แบบไม่ต้องใช้ขาต้ังกล้องก็ได้เช่นกัน และเมื่อเราสามารถตั้งได้นิ่งขนาดนี้แล้วมีจอนอกมาช่วยอีกจะถ่ายภาพคนเดียวแบบไม่ต้องพึ่งใครก็สะดวกขึ้นว่าไหมล่ะครับ

การจัดเฟรมแบบ Waist-level

ลองจัดเฟรมแบบ Waist-level ทำให้การถ่ายภาพมุมต่าง่ายขึ้นมาก โดยใช้ประโยชน์จาก OPPO Find N2 Flip ที่มีขนาดกะทัดรัดเพียงพับบางส่วนและลดระดับโทรศัพท์ลงเราก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งการแสดงตัวอย่างไปที่ครึ่งล่างของหน้าจอเพื่อการถือที่ มั่นคงและมอบมุมมองที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ถ่ายวิดีโอแบบกล้องวิดีโอสุดคลาสสิคเพื่อความมั่นคงยิ่งขึ้น

หรืออีกไอเดียเก๋ ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถถือถ่ายวิดีโอได้ถนัดขึ้นด้วยเปิดกล้องแล้วพับ OPPO Find N2 Flip เป็นมุม 90º หมุนไปด้านข้าง และถือเหมือนกล้องถ่ายวิดีโอรุ่นเก่า เพื่อการจับถือท่ีมั่นคงยิ่งข้ึน

กล้องทรงพลังที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad

ดูลูกเล่นแพรวพราวไปเยอะแล้ว มาดูความเก่งกาจของกล้อง OPPO Find N2 Flip กันบ้าง อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้พัฒนาร่วมกับ Hasselblad เพราะฉะนั้นหน้า UI กล้องก็มีการปรับแต่งมาพิเศษแบบเดียวกับที่เราเห็นตอน OPPO Find X5 Pro มาแล้ว ปุ่ม Shutter เป็นสีส้มพร้อมเสียงชัตเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์

ในส่วนของภาพถ่ายที่ได้ก็จะมีกลิ่นอายของ Hasselblad อยู่สูงโทนมีความเป็นธรรมชาติและคมชัด สีสันมีมิติอย่างมาก มี AI คอยปรับสีสัน AutoHDR จัดการ Dynamic Range ช่วยส่งเสริมให้ไฟล์ภาพแจ่มขึ้นมาอีกเยอะ ถ่ายได้สนุกและไว้ใจได้ในทุกสถานการณ์จริง ๆ ครับ

หรือจะเป็น Master Filters ที่ให้เราเลือก 3 โทนพิเศษจาก Hasselblad ประกอบด้วย Radiance, Serenity และ Emerald มีความสวยที่แตกต่างกัน

อย่าง Radiance จะเน้นไปที่สีสันสดใสเหมาะกับการไปถ่ายภาพในคาเฟ่ฟ้าโล่ง ๆ เน้นสีสันของสีเหลือง, สีฟ้า, สีเขียวให้โดดเด่นขึ้นมา

ส่วน Serenity ก็จะให้ความคมเข้มเหมาะกับถ่ายวิวหรือสีสันที่เรียบหรูมากขึ้น

หรือ Emerald ก็จะให้อารมณ์ของภาพไปในทางที่น่าค้นหาและดึงสีเขียวให้มากขึ้นครับ

XPAN Mode โหมดภาพมุมกว้างที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้อง Hasselblad XPAN ก็ยังมีติดมาบน OPPO Find N2 Flip รุ่นนี้ด้วย ในโหมดนี้จะมอบขอบเขตการมองเห็นที่เหมือนฟิล์มกว้างพิเศษไม่เหมือนใคร ตั้งแต่ UI การจัดเฟรมระหว่างการถ่ายภาพไปจนถึงการนำเสนอภาพถ่าย อัตราส่วน 65:24 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสาหรับการสร้างภาพถ่ายในธีมการเล่าเรื่อง เลือกใช้ได้ทั้งภาพสีและภาพขาว-ดำครับ

มี MariSilicon X Imaging NPU ถ่ายแสงน้อย ยอดเยี่ยมวิดีโอ 4K Ultra Night ได้

และที่ขาดไม่ได้สำหรับรุ่นไฮเอนด์ก็คือชิป MariSilicon X ชิป Imaging NPU ที่เข้ามามอบพลังการประมวลผล AI ท่ีมีประสิทธิภาพสูงมากถึง 18 เทราต่อวินาที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอ 4K ระดับสูงได้ 2 แบบคือ

  • 4K Ultra Night Video ด้วย AI Noise Reduction (AINR) การประมวลผลภาพอันทรงพลังท่ีมักเกี่ยวข้องกับ Computational Photography จึงถูกนำมาใช้กับการจับภาพวิดีโอ สิ่งน้ีสร้างฉากกลางคืนที่ชัดเจน ให้ทุกเฟรมดูเหมือนภาพนิ่ง มากกว่าที่เคย
  • 4K HDR Video ชิป MariSilicon X ยังช่วยให้สามารถบันทึก 4K HDR video ด้วยช่วงไดนามิกที่น่าทึ่ง ดังนั้นข้อมูลเงาจึงถูกรักษาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ในขณะที่ส่วนสว่างจะไม่สว่างเกินไป แต่กลับดูสมดุล สว่าง และเต็มไปด้วยรายละเอียดอีกต่างหาก

เซลฟี่ด้วยกล้อง 32MP บนหน้าจอหลัก

แม้จะมี Quick High-Res Selfie อยู่แล้ว แต่บางสถานการณ์เราก็ยังต้องพึ่งกล้องหน้าจริง ๆ อยู่ ซึ่งตรงนี้ OPPO ก็ยังจัดเต็มให้กล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP เซ็นเซอร์ Sony IMX709 แบบ RGBW ที่มอบความสว่างชัดเจนที่มากขึ้น รวมถึงฟีเจอร์เด่นทีให้มาครบไม่ว่าจะเป็น Portrait Retouching หรือ SelfieHDR ด้วยครับ

เรื่องกล้องก็เหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ OPPO Find N2 Flip ให้สเปคจัดเต็ม บวกกับซอฟต์แวร์เทพ ๆ จาก Hasselblad ที่ปรับจูนโทนสี UI แถมยังมีชิป MariSilicon X Imaging NPU ที่เข้ามาเสริมในเรื่องของการถ่ายวิดีโอ 4K Ultra Night และ 4K HDR เพิ่มเติมหรือจะเป็น Flexform Camera, Dual Preview, Camcorder Capture ก็มาครบ “กล้องที่ดีกว่า” ที่ OPPO หมายถึงก็น่าจะชัดเจนแล้วนะครับ

ประสบการณ์ที่ดีกว่า ด้วยแบตเตอรี่และชาร์จเร็วที่สุดในกลุ่มจอพับ

ปิดท้ายที่ “ประสบการณ์ที่ดีกว่า” OPPO นำเสนอด้วยเรื่องสเปคที่น่าสนใจของ Find N2 Flip อย่างแรกคือเรื่องแบตเตอรี่ที่ให้มาใหญ่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนจอพับเลยก็ว่าได้ เพราะรุ่นนี้ได้แบตฯมา 4300mAh ปกติแล้วสมาร์ตโฟนจอพับแนวตั้ง (Flip) มักจะมีความจุแบตเตอรี่ไม่ถึง 4000mAh ด้วยซ้ำ แต่รุ่นนี้ให้มาเกินแต่ยังอยู่ในดีไซน์ตลับแป้งแบบไม่ใหญ่เทอะทะได้ ในเรื่องการใช้งานก็ยาวนานกว่าแน่นอนครับ

ไม่ใช่แค่แบตฯเยอะที่สุดเท่านั้น เพราะ OPPO Find N2 Flip ยังได้ระบบชาร์จเร็วที่เร็วที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนจอพับกับ 44W SUPERVOOC ช่วยให้แบตเตอรี่จากเกือบหมดเป็น 50% ได้ในเวลาเพียง 23 นาที และเต็ม 100% ภายในหนึ่งชั่วโมง เรียกว่าเร็วจริงอะไรจริงครับระดับนี้

ประสิทธิภาพที่เร็วแรงด้วยชิป Dimensity 9000+ ระดับเรือธง

ในส่วนของชิปเซ็ต OPPO Find N2 Flip ก็โดดเด่นไม่แพ้กันเพราะรุ่นนี้ใช้ชิป Dimensity 9000+ ระดับเรือธงที่ผลิตโดยสถาปัตยกรรม 4nm มอบประสิทธิภาพแนวหน้า แถมยังมีข้อดีในเรื่องการจัดการพลังงานที่ใช้งานได้นาน ความร้อนน้อย ซึ่งเข้ากับสมาร์ตโฟนจอพับที่มีพื้นที่ในการกระจายความร้อนแบบจำกัด

ความจุของ OPPO Find N2 Flip ที่วางจำหน่ายในไทยก็มีให้เลือกรุ่นเดียวเลยคือ 8GB + 256GB เรียกว่าเหลือ ๆ ในการใช้งานแล้วครับ ส่วน RAM ถ้าคิดว่าให้มา 8GB แล้วน้อยไปหน่อย ทาง OPPO ก็ยังมีฟีเจอร์ RAM Expansion ขยายเพิ่มได้อีก 8GB รวมเป็น Dynamic RAM ถึง 16GB ใช้กันจุก ๆ ไม่มีสะดุดแน่นอน

ด้วยชิปเซ็ตตัวแรงบวกกับ Dynamic RAM สูง ๆ ซะขนาดนี้ ผลทดสอบของ OPPO Find N2 Flip จากแอป AnTuTu Benchmark ก็หายห่วงครับออกมาสูงมาก ได้ไป 758674 คะแนนเลย

ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ที่มีการปรับเกณฑ์การวัดคะแนนใหม่ก็ทำให้ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 1062 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3332 คะแนนครับผม

ในเรื่องการเล่นเกมก็หายห่วงครับ เราทดสอบกับเกมฮิตอย่าง Asphalt 9 และ PUBG ก็เล่นได้ลื่น ๆ ทั้งคู่ตามสไตล์สเปคเรือธงนั่นแหละ ในส่วนของหน้าจอสัมผัสก็ทำได้ดีเลยจุดที่เราสัมผัสจะเป็นชั้นฟิล์มที่ติดมาป้องกันรอยก็ตาม แต่ก็ยังให้การควบคุมยังคงลื่นไหลและตอบสนองได้ไวมาก รวมถึงการมีลำโพงคู่ Stereo เข้ามาก็ช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้นมากอีกต่างหากครับ

ซอฟต์แวร์ที่ปรับจูนมาได้ดีเลยกับสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรก

ในส่วนของซอฟต์แวร์ OPPO Find N2 Flip ก็ใช้เป็น ColorOS 13 ที่ครอบทับอยู่บน Android 13 อีกที มีความสวยงามและเข้ากับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี ทั้งความลื่นไหลและลูกเล่นที่มีให้เฉพาะสมาร์ตโฟนจอพับแบบนี้

อาทิ ชุด Wallpaper ที่มีมาให้ตอบสนองกับหน้าจอพับถึง 5 แบบ คือเมื่อเราพับหรือกางหน้าจอออกตัว Wallpaper จะมีการขยับตามไปด้วย ตรงนี้เราว่าเลิศมาก มีความตอบโต้กันได้อย่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ ครับ

หรือจะเป็น FlexForm mode ที่นอกจากจะใช้งานในการถ่ายภาพได้แล้ว แอปทั่วไปอย่าง YouTube ก็จะแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วนได้ด้านบนเป็นตัววิดีโอเล่นไป ด้านล่างก็อ่านช่องคอนเมนต์หรือหาคลิปถัดไปดูได้ หรือจะ Video Call ผ่าน Google Duo ตัวระบบก็จะตรวจจับและแบ่งสัดส่วนเป็นจอบนเป็นภาพและจอล่างเป็นรายละเอียดหรือปุ่มควบคุม เป็นต้นครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ ในส่วนของประสบการณ์การใช้งาน OPPO Find N2 Flip ก็ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องของแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้นาน แถมมีชาร์จเร็วที่สุดในกลุ่มจอพับ สเปคที่เร็ว แรง ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน มีซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหลและเข้ากันได้ดีกับสมาร์ตโฟนจอพับแบบนี้ เรื่องประสบการณ์ก็ดีกว่าแบบไม่มีอะไรจะเถียงเหมือนกันครับ

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ตโฟนจอพับที่ดีกว่าอย่างชัดเจน จะบอกว่าพับที่ดีที่สุดก็ไม่เกินไปด้วยซ้ำ”

สรุปแล้ว OPPO Find N2 Flip ก็ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของสมาร์ตโฟนจอพับจาก OPPO ในตลาดประเทศไทย ดูก็รู้ว่ามุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างออกมาดีสมกับสโลแกน “พับที่ดีกว่า” แบบไม่ต้องสงสัย เปลี่ยนภาพจำของสมาร์ตโฟนจอพับที่ดูน่ากังวลในหลายเรื่องไปได้หมดสิ้น การยกเอา 3 เรื่องทั้ง ดีไซน์, กล้องและประสบการณ์การใช้งานมานำเสนอเราว่าเป็นการตีโจทย์ที่ยอดเยี่ยม เพราะ 3 เรื่องนี้อาจเป็น Painpoint ที่เจอกันอยู่บนสมาร์ตโฟนปัจจุบันกับดีไซน์ที่ยังไม่ลงตัว ทั้งรอยพับชัดเจน ตัวเครื่องปิดไม่สนิท หน้าจอด้านนอกที่เล็กไปไม่ตอบการใช้งานจริง, กล้องที่ควรจะดีขึ้นกว่านี้ทั้งความละเอียดและลูกเล่น, หรือจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ตอบรับกับการใช้งานจริง แบตฯไม่อึด ชาร์จไม่เร็วทันใจ เป็นต้น

แต่มาบน OPPO Find N2 Flip นั้นได้มีการปรับแก้ในจุดต่าง ๆ ให้ลงตัวและใช้งานได้จริงขึ้นมากแล้ว เราจึงคิดว่านี่แหละคืออีกหน้าของวงการสมาร์ตโฟนจอพับที่เกิดขึ้นแล้วจากแบรนด์ที่มีชื่อว่า OPPO และอย่างที่เขามุ่งมั่นตั้งใจไว้ว่า “Not The First, But The Best” (แม้ไม่ใช่เจ้าแรก, แต่เราดีที่สุด) เราว่ารุ่นนี้คือคำตอบที่ทุกคนรอคอยอยู่แน่ ใครที่อยากลองสมาร์ตโฟนจอพับเพราะคิดว่าดีไซน์สวย น่าหลงใหลเราว่าเริ่มจากรุ่นนี้แล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ!

ราคาและโปรโมชั่น OPPO Find N2 Flip

OPPO Find N2 Flip (8GB + 256GB) เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 29,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีม่วง Moonlit Purple กับสีดำ Astral Black

โดยจะมีโปรโมชั่นน่าสนใจคือเมื่อส่ังซื้อตั้งแต่วันท่ี 16 – 23 มีนาคม 2566 รับของสมนาคุณ มูลค่า 21,198 บาท ประกอบด้วย

  • OPPO Band 2 มูลค่า 2,999 บาท
  • OPPO Find N2 Flip Portable PU case มูลค่า 1,199 บาท
  • E-VIP CARD มูลค่า 17,000 บาท (ประกันหน้าจอแตกทั้งหน้าจอด้านนอกและหน้าจอด้านในจำนวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี)

พิเศษ! เมื่อซื้อ OPPO Find N2 Flip จะได้รับ OPPO Premium Service บริการสุดพิเศษ ดังนี้

1.สิทธิประโยชน์ ด้านพรีเมียม

  • 1.1 สำหรับลูกค้า Pre-Order จะได้รับสิทธิพิเศษ สิทธิ์ประกันจอแตกฟรี หน้าจอหลัก (จอใน) มูลค่า 13,000 บาท และ จอนอก(เล็ก) มูลค่า 4,000 บาท ฟรี อย่างละ 1 สิทธิ์ มูลค่ารวม 17,000 บาท
  • 1.2 บริการคอลเซ็นเตอร์ Premium Hotline เบอร์ 1800-019-098
  • 1.3 บริการเครื่องสำรองใช้ระหว่างซ่อม (รุ่น Find series) สาหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์บริการเอง
  • 1.4 รับบริการติดฟิล์มกันรอยและทำความสะอาดเครื่องฟรีถึง 2 ครั้ง/ปี
  • 1.5 รับส่วนลดเปลี่ยนหน้าจอหลัก(จอใน) 1 ครงั้ มลค่า 3,000 บาท สำหรับความเสียหายที่นอกเงื่อนไขการให้บริการ

2.สิทธิประโยชน์ ด้านการบริการ

  • 2.1 บริการช่องทางพิเศษในศูนย์บริการและผู้เชี่ยวชาญ Find Master ** ( Shop V3.0 ทั้งหมด 18 สาขา)
  • 2.2 บริการจองคิวล่วงหน้าก่อนเข้ามาใช้บริการท่ีเว็บไซต์ htps://support.oppo.com/th/ หรือ Application My OPPO
  • 2.3 บริการรับ-ส่งเครื่องซ่อมฟรี โดยติดต่อคอลเซ็นเตอร์ หรือเว็บไซต์ https://support.oppo.com/th/ หรือ Application My OPPO

3.สมาชิก My OPPO (กดรับสิทธิ์ใน Application My OPPO)

  • 3.1 รับสิทธิ์ประกันจอแตก 1 ครั้งภายในระยะเวลา 1 ปี ระดับ Gold และ Diamond *หน้าจอหลัก (จอใน) มูลค่า 13,000 บาท
  • 3.2 ได้รับสิทธิพิศษส่วนลด ลดราคาอะไหล่ และอุปกรณ์เสริมที่ศูนย์บริการออปโป้เซอร์วิส

และสำหรับใครที่สนใจซื้อเครื่องกับโอเปอเรเตอร์พร้อมผูกแพ็กเกจจะได้รับส่วนลดสูงสุดอีก 12,000 บาทด้วยครับ!

Advertisement

กำลังฮอต

Featured4 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured7 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News2 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Android News13 ชั่วโมง ago

ผล Geeekbench ยืนยัน OnePlus Nord 4 ใช้ชิป SD 7+ Gen 3 พร้อม RAM 12GB และใช้ Android 14

มีข่าวลือเรื่องสเปคไ...

IT News13 ชั่วโมง ago

Xiaomi จับมือ PADI ยกทีมเสียวหมี่แฟนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลทำความสะอาดหาดบางแสน

เสียวหมี่ ประเทศไทย ...

IT News14 ชั่วโมง ago

วันทรัพย์สินทางปัญญาโลก: OPPO ยังคงรักษาอันดับ IP จากทั่วโลก ไว้ที่ 10 อันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 5

29 เมษายน ...

IT News14 ชั่วโมง ago

ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9

ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์...

Smart Review14 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook OLED S 16 (S5606) โน้ตบุ๊คดีไซน์โดดเด่น สเปคแรงบน Intel Core Ultra เพิ่มความสวยด้วยไฟ RGB บนคีย์บอร์ด และจอ 16″ 3.2K แบบ 120Hz

ASUS Vivobook OLED S...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก