Connect with us

Featured

รีวิว OnePlus 8 เรือธงแห่งความลื่นผ่าน CPU Snapdragon 865 ควบคู่กล้อง 3 เลนส์ 48MP และรองรับ Warp Charge 30T

Published

on

OnePlus 8 สมาร์ทโฟนที่ถูกบอกว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ทำระบบปฏิบัติการ Android ได้ลื่นสุดๆ ซึ่งในรุ่นใหม่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เกินหน้าเรือธงแบบ Beyond Flagship ด้วยหน้าจอที่ดีสวยงามที่สุด, ควบคู่กับกล้องที่ถ่ายได้สวย คมชัดสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผล Snapdragon 865 ที่เป็นขวัญใจทั่วโลก ทำให้เล่นเกม และใช้งานต่างๆ ไม่มีสะดุดแน่นอน

 

สรุปสเปค OnePlus 8

  • ขนาดตัวเครื่อง : 160.2 × 72.9 × 8.0 มม.
  • น้ำหนัก : 180 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Fluid Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มี Refresh rate 90Hz, อัตราส่วน 20:9 และรองรับ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 865 Octa Core
  • โมเด็ม 5G : Snapdragon X55
  • GPU : Adreno 650
  • RAM : 12GB LPDDR4X
  • ROM : 256GB (UFS 3.0)
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์IMX586 รูรับแสง f/1.75 และรองรับระบบกันสั่นไหว OIS
    • เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 116 องศา รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า Punch-Hole ขนาดเล็ก 3.8 มม. ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.1, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4300mAh รองรับ Warp Charge 30T

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

สวยงามตั้งแต่ตัวกล่องเลยทีเดียวสำหรับ OnePlus 8 ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสีแดงที่เป็นสีของโลโก้ทั้งกล่อง มีเลข 8 ที่ด้านหน้าชัดเจน และด้านหลังก็มีข้อความว่า “เข้าถึงแอป Google ได้ง่ายๆ” โดยมีความยาวตามสไตล์ เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับอุปกรณ์เพียบครับ

ชั้นแรกเปิดมาก็เจอกับตัวเครื่อง OnePlus 8 ทันที ซึ่งชั้นที่วางเครื่องจะสามารถเปิดได้ โดยมีคู่มือการใช้งาน, สติ๊กเกอร์ต่างๆ, ข้อมูลความปลอดภัยและการรับประกันสินค้า, ข้อความจากซีอีโออย่าง Pete Lau และอุปกรณ์เปิดถาดซิม อะแดปเตอร์ – Warp Charge 30 Power Adapter และสาย – Warp Type-C สีแดง

 

ดีไซน์ของ OnePlus 8 ต้องบอกมีการออกแบบที่ดีมากๆ ในการสัมผัสครับ สีที่เราได้มาเป็นสีรุ้ง Interstellar Glow (Limited Edition) ที่ด้านหลังเป็นวัสดุกระจก 3D Corning Gorilla Glass มีการเล่นเฉดสีฟ้าๆ ม่วงๆ สวยงามมากครับ เมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ตอนไม่ได้ใส่เคส ตรงขอบด้านหลังจะออกเป็นสีรุ้งค่อนข้างชัดเจนด้วย ขณะที่อีกสีจะเป็นสีเขียว Glacial Green ที่เป็นกระจกแบบด้านครับ ทำให้ติดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างยาก

 

นอกจากสีสันที่สวยแล้ว OnePlus 8 ยังจับถนัดมือด้วยบางความของตัวเครื่องเพียง 8 มิลลิเมตรเท่านั้น และน้ำหนักก็เบาๆ ที่ 180 กรัม

 

เราได้ทราบกันดีแล้วว่า OnePlus 8 เป็นหนึ่งในรุ่นที่มีหน้าจอแสดงผลที่ดีที่สุดในโลกของสมาร์ทโฟน ณ ตอนนี้ครับ ซึ่งสีสัน, การสะท้อนเมื่อเล่นในที่แสงจ้า ทำได้ดีมากๆ ยังคงมองได้ชัดเจนครับ

 

OnePlus 8 ใช้หน้าจอ Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับการแสดงผล HDR 10+, 0.4 JNCD, ความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 402 ppi ที่สำคัญคือใช้งานได้ลื่นๆ ด้วย Refresh Rate 90Hz และเล่นได้นานโดยไม่ทำร้ายสายตามากเกินไปเพราะผ่านการรับรองจาก TÜV Eye Comfort Certification

 

มาดูรอบเครื่องกันครับ เริ่มที่เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีลำโพงสำหรับสนทนาและเป็นลำโพงที่ 2 แบบสเตอริโอด้วย Dolby Atmos ด้วย และที่มุมซ้ายบนก็จะมีกล้องหน้าที่ฝังอยู่

 

ทางซ้ายตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

 

ส่วนด้านขวามีปุ่มสำหรับเลื่อนเปลี่ยนโหมดเสียง (เสียงเข้า, สั่น, เงียบ) ถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM ที่สามารถใส่ได้ 2 ช่องแบบพลิกบน-ล่างครับ ถัดไปทางขวาจะมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

 

ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีกล้องหลังที่จัดเรียงเป็นแนวตั้งตรงกลางพอดี โดยที่ด้านล่างจะมีไฟแฟลช LED และโลโก้ OnePlus

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

OnePlus 8 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 รุ่นล่าสุดของ Google โดยครอบทับด้วย OxygenOS 10 ที่การใช้งานเสถียรมากที่สุดครับ ซึ่งการใช้งานทั่วไป การเข้าแอปพลิเคชั่นก็รันได้เร็ว ไม่ต้องรอนาน

 

หน้าตา UI : OxygenOS 10

 

วอลเปเปอร์สวยงาม มีหลากหลายแบบ

วอลเปเปอร์ของ OnePlus 8 มีให้เราเลือกหลายแบบมากๆ และมีความสวยงามครับ ซึ่งจะมีทั้งแบบ Live Wallpaper และแบบภาพนิ่ง ซึ่งโทนสีก็มีทั้งความเข้มและโทนสดใสๆ

 

Always-on-Display บอกสถานะเครื่องและการแจ้งเตือนง่ายๆ

หน้าจอ AMOLED ก็ไม่พลาดที่มีฟีเจอร์นี้แน่นอนครับ ซึ่งจากที่เรารู้กันก็จะเป็นการบอกสถานะในเครื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลา, วันที่, แบตเตอรี่คงเหลือ รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่แสดงผลเป็นไอคอนให้เราทราบครับ

ใครที่อยากเปลี่ยนรูปแบบของนาฬิกาก็มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ค่าเริ่มต้น, แอนะล็อก และเรียบง่าย

 

อัพเกรด Reading Mode ให้ดียิ่งขึ้นรองรับการมองเห็นทั้งกลางวันและกลางคืน

ในโหมดการอ่าน (Reading Mode) ในรุ่นนี้จะมี 2 แบบให้เราใช้งานเมื่อเวลาที่เราอ่านอะไรยาวๆ ครับ ได้แก่ เอฟเฟกต์สี ที่จะปรับเฉดสีสันในหน้าจอลดลงจนเกือบเทาครับ และเอฟเฟกต์ขาวดำ ที่ปรับสีสันลงจากแบบแรกให้เป็นแบบขาวดำทั้งหน้าจอ

 

Dark Theme 2.0 ใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น

ใน Dark Theme 2.0 หรือธีมเข้มใน OnePlus 8 จะเป็นการลดแสงสีฟ้าลงครับ ทำให้จอมีสีเหลืองเด่น ต่างจาก Reading Mode โดยเราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > การกำหนดเอง > ธีมที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า และเลือก “สีเข้ม”

 

ระบบเสียงลำโพงคู่แบบสเตอริโอ Dolby Atmos

เป็นเรือธงก็ต้องมาพร้อมกับลำโพงที่สร้างอรรถรสได้แบบเต็มอิ่มครับ อย่างลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos ที่เสียงจะออกใน 2 ลำโพง แบ่งซ้าย-ขวาอย่างชัดเจนทั้งตอนรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมครับ แล้วเสียงที่ได้ยินก็กระหึ่มเลยทีเดียว

 

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง

เรื่องของระบบความปลอดภัยในการป้องกันเข้าใช้งานเครื่องก็มีทั้งการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่จดจำได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งการใช้งานถือว่ารวดเร็วและความผิดพลาดก็ไม่มีให้เห็น

ส่วนอีกอย่างหนึ่งคือการสแกนใบหน้าครับ สามารถใช้ได้ 1 ใบหน้าเท่านั้น ซึ่งเมื่อลองใช้งานจริง แทบไม่เห็นเลยว่าเครื่องสแกนใบหน้าตอนไหน เหมือนแค่กดปลดล็อคแล้วเข้ามาหน้าจอหลักทันที

 

รองรับ 5G 

สำหรับ OnePlus 8 Series นั้นรองรับความถี่ 5G ในย่าน 700 MHz และ 3,500 MHz เท่านั้น ไม่รองรัคลื่นความถี่ 2,600MHz นะครับ

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

สำหรับ OnePlus 8 แน่นอนก็ต้องจัดเต็มเรื่องขุมพลังที่ต้องมาในระดับท็อปสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 865 Octa-core ควบคู่กับ RAM 12GB พร้อม ROM ชนิด UFS 3.0 สูงสุด 256GB ซึ่งทั้งหมดทำให้เราเล่นได้ไหลลื่นทุการใช้งาน ไม่ว่าจะเล่นเกม, ดูฟัง, ฟังเพลง, ทำงาน หรือแม้ตอนติดตั้งแอปพลิเคชั่นก็ตาม

 

สำหรับผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำได้ไปได้ที่ 512,164 คะแนน

 

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 918 และคะแนน Multi-Core ที่ 3,355

 

ฟีเจอร์และทดสอบด้านการเล่นเกม

OnePlus 8 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Space ที่เป็นการรวบรวมเกมทั้งหมดที่เราโหลดไว้ในที่เดียวกัน ที่สำคัญยังสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ ไม่ให้มารบกวนระหว่างเล่น รวมถึงโหมด Fnatic ที่เป็นการรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องทั้งหมดไปกับการเล่นเกม ทำให้เล่นได้ลื่นๆ แน่นอน

 

Call Of Duty: Mobile

สำหรับเกม Call Of Duty: Mobile เราปรับกราฟิกในระดับสูงที่สุดทั้งหมดเท่าที่จะเปิดได้ครับ เป็นภาพกราฟิกระดับ Very High และเฟรมเรทระดับ Max โดยต้องบอกว่า OnePlus 8 เล่นได้ไหลลื่นตลอดทั้งเกมครับ เฟรมเรทก็นิ่งๆ ไม่มีช่วงกระตุกให้เห็น

 

RoV

ต่อมาเป็นเกมฮิตอย่าง RoV เราปรับภาพการแสดงผลและภาพ HD เป็นระดับสูงมาก และเฟรมเรทก็เปิดระดับสูงไว้ด้วย เราเริ่มเล่นในโหมด 5 VS 5 ซึ่งต้องบอกเลยว่าน่าจะเป็นหนึ่งในรุ่นที่เฟรมเรทนิ่งที่สุดแล้วครับ เพราะตั้งแต่เริ่มเกมมาจะคงที่ 60fps ไปจนถึงช่วงจบเกม เท่าที่สังเกตได้คือจะไม่ดรอปลงเลย แม้แต่ 59fps ก็ยังไม่มีให้เห็นด้วยซ้ำ

 

Forza Street

มาต่อที่เกมใหม่อย่าง Forza Street เราก็เล่นได้แบบหมดห่วงครับ กราฟิกที่ได้สวยงาม และเล่นได้ต่อเนื่องโดยไม่มีอาการกระตุก

 

Asphalt 9: Legends

และสุดท้ายกับเกมแข่งรถอีกเกมอย่าง Asphalt 9: Legends แน่นอนว่าเล่นได้แบบไร้ปัญหา แถมมีระบบ Haptic vibration หรือระบบสั่นไหวที่ทำให้เรารับรู้ถึงอารมณ์ในเกมมากขึ้นนั่นเอง อย่างในช่วงที่ชนหรือกระแทกกัน ก็จะมีการสั่นเกิดขึ้นเป็นจังหวะๆ

 

แบตเตอรี่อึด พร้อมชาร์จไวด้วย Warp Charge 30T

OnePlus 8 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4300mAh ซึ่งถ้าใครใช้งานทั่วไปก็คงจะอยู่ถึงจากเช้าไปค่ำได้ครับ แต่ถ้าใครที่ใช้งานหนักๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะชาร์จช้าครับ เพราะรุ่นนี้มีระบบชาร์จเร็วอย่าง Warp Charge 30T มาให้ด้วย จากที่เราทดสอบ จากแบตเตอรี่ 24% ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

 

กล้องถ่ายรูป

มาถึงเรื่องกล้องที่หลายคนน่าจะรอคอยกันครับ โดย OnePlus 8 เองได้พัฒนาเรื่องกล้องขึ้นมาพอสมควร โดยมีกล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมกล้องหน้าที่ฝังในหน้าจอแสดงผลกันเลยทีเดียว ดังนี้

กล้องหลัง

  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์IMX586 รูรับแสง f/1.75 และรองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 116 องศา รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

กล้องหน้า

  • กล้องหน้า Punch-Hole ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

เลนส์หลักถ่ายสวยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่ม

สำหรับ OnePlus 8 จริงๆ เพียงแค่เลนส์หลักและโหมดปกติก็สามารถถ่ายภาพได้สวยงามมากๆ แล้วครับ เพราะระบบ AI ที่มีในเครื่องทำให้ปรับภาพตามวัตถุและสภาวะแสงได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ หากใครที่เลี้ยงสัตว์อย่างสุนัขหรือแมวไว้ที่บ้านก็ยังมีโหมด Smart Pet Capture ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพสัตว์เลี้ยงให้ออกมาสวยงามยิ่งขึ้นด้วย

 

คมชัด 48 ล้านพิกเซล

OnePlus 8 นั้นสามารถถ่ายภาพออกมาให้มีความละเอียดสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล เมื่อถ่ายออกมาก็จะได้ภาพที่มีความคมชัด สามารถซูมเพื่อให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม


ภาพถ่าย 48 ล้านพิกเซล / ครอป


ภาพถ่าย 48 ล้านพิกเซล / ครอป


ภาพถ่าย 48 ล้านพิกเซล / ครอป

 

Ultra Wide Angle มุมมองกว้าง เก็บได้ครบ

ในเลนส์ Ultra Wide Angle ของรุ่นนี้ถือว่าทำออกได้ดีสมเป็นเรือธงครับ สามารถถ่ายได้กว้าง 116 องศา แถมองค์ประกอบต่างๆ ที่เราต้องการก็ครบในเฟรมเดียว ไม่ต้องถอยไปไกลๆ ให้เสียเวลาเลยด้วย และสีสันก็จัดเต็มไม่แพ้เลนส์หลัก


เลนส์ Wide / เลนส์ Ultra Wide Angle


เลนส์ Wide / เลนส์ Ultra Wide Angle

 

แต่ถ้าใครใช้เลนส์นี้ในการถ่ายภาพบุคคลก็ทำได้แบบสวยงามครับ ฉากหลังมาครบ และตัวบุคคลก็ยังดูสวยงามด้วย

 

ถ่าย Portrait เบลอแบบธรรมชาติ

ต้องว่าเป็นโหมดที่ถ่ายแล้วชอบมากๆ ใน OnePlus 8 ครับ เพราะการเบลอฉากหลังต่างๆ นั้นทำออกมาได้เนียนตามาก ตัดขอบได้ค่อนข้างคม และตัวของบุคคลก็ยังดูมีมิติและใบหน้าก็ยังมีความบิวตี้ให้แบบธรรมชาติๆ ด้วย


ปิด Portrait / เปิด Portrait

 

Macro ถ่ายได้ใกล้สุดถึง 4 ซม.

ถ่ายกว้าง ถ่ายไกลแล้ว ก็มาถ่ายกันแบบใกล้ๆ กันบ้างครับด้วยเลนส์ Macro ที่มีระยะโฟกัสถึง 4 ซม. ใครที่อยากเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของวัตถุต่างๆ ก็เห็นได้คมชัดครับ แล้วเรื่องสีสันก็แทบไม่ดรอปจากของจริงเลยด้วย

 

Nightscape 3.0 ถ่ายที่มืดก็ไม่ต้องกลัว

OnePlus 8 มีการพัฒนาเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนอย่าง Nightscape เป็นเวอร์ชัน 3.0 แล้ว ช่วยให้ภาพมีความคมชัดและสว่างมากขึ้น และระยะเวลาที่ถือนิ่งๆ ก็ดูไวกว่าเดิมด้วย เพียง 2-3 วินาที ก็ได้ประมวลผลสำเร็จแล้ว


โหมดปกติ / โหมด Nightscape 3.0


โหมดปกติ / โหมด Nightscape 3.0

 

นอกจากนี้ โหมด Nightscape 3.0 ยังใช้กับเลนส์ Ultra-Wide Angle ได้ด้วยเช่นกันครับ

 

กล้องหน้า AI ก็สวยได้แบบธรรมชาติ

กล้องหน้าของ OnePlus 8 น่าจะเป็นรุ่นที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดรุ่นหนึ่งครับ เพราะในโหมดปกติก็ช่วยให้ใบหน้าของเรามีความสวยงามแบบธรรมชาติ ดูไม่แต่งเยอะจนเกินไปครับ โดยจะมีการปรับแต่งใบหน้า 3 ระดับ เป็น L1, L2 และ L3 ซึ่งแต่ละระดับจะปรับแต่งทีละนิดๆ ครับ ไม่ได้ดูเว่อวังอะไรมาก

 

กล้องหน้าก็จัด Portrait ได้งามๆ

เราได้เห็นการถ่าย Portrait เบลอฉากหลังในกล้องหลังไปข้างต้นแล้ว จะบอกว่ากล้องหน้าก็ทำได้สวยงามไม่แพ้กันครับ เบลอหลังได้เนียนๆ และตัดขอบได้เฉียบอีกด้วย

 

สรุปจุดเด่น

  • ดีไซน์สวยงาม ดูพรีเมี่ยม พร้อมกับสีสันสวยงามทั้ง Interstellar Glow (Limited Edition) และ Glacial Green
  • หน้าจอแสดงผลสีสันสวยงาม เล่นได้แม้กลางแจ้ง และมีขนาดใหญ่ 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และเล่นได้ลื่นๆ ด้วย Refresh Rate 90Hz
  • หน่วยประมวลผลตัวแรงสุดของ Android ในตอนนี้อย่าง Snapdragon 865 ใช้งานได้ไหลลื่นทั้งเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป
  • RAM สูงสุดถึง 12GB และ ROM 256GB แบบ UFS 3.0
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ถ่ายได้สวยงาม มีฟีเจอร์ให้ครบทั้ง คมชัดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล, Ultra-Wide และ Macro
  • แบตเตอรี่ความจุ 4300mAh ใช้งานได้นานตลอดวัน พร้อมชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี Warp Charge 30T

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่สามารถชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charge) ได้

 

ราคาและโปรโมชั่น

สำหรับ OnePlus 8 จะวางจำหน่ายในไทยเพียงความจุเดียว คือ RAM 12GB + ROM 256GB ในราคา 28,990 บาท โดยมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเขียว Glacial Green และสีรุ้ง Interstellar Glow (Limited Edition) โดยเริ่ม Pre-Order ระหว่างวันที่ 14 – 22 พฤษภาคมนี้ และพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พฤษภาคม เป็นต้นไป

พิเศษ! สำหรับลูกค้า Pre-order ที่สั่งจอง OnePlus 8 สี Glacial Green รับไปเลยชุดกล่อง Pop-up ที่มาพร้อมกับ Sandstone Bumper Case และ Karbon Bumper Case พร้อมกับชุดหูฟัง Bullet Wireless Z (Black) พร้อมบัตร VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งนาน 1 ปี มูลค่ารวมสูงสุดถึง 16,069 บาท และสามารถใช้งาน Google One จำนวน 100GB ฟรี 3 เดือน

ส่วนใครที่จองกับทาง AIS จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 10,500 บาท (สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม รับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท) โดย OnePlus 8 เริ่มต้น 18,990 บาท รับเพิ่มฟรี สิทธิดู YouTube Premium และ AIS PLAY FAMILY ฟรีสูงสุด 6 เดือน แถมเพิ่มโปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก AIS รับสิทธิ ชม Netflix นาน 3 เดือนเฉพาะในช่วงสั่งซื้อเครื่องล่วงหน้าเท่านั้น และผู้ที่สนใจรับชมรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ : www.ais.co.th/oneplus8

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured3 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News7 วัน ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก