Connect with us

Android News

พรีวิว OnePlus 7T Series สัมผัสที่สุดของความลื่นบนหน้าจอ 90Hz พร้อมความแรงบนขุมพลัง S855+ และสเปคที่ครบครัน

Published

on

เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเปิดราคาในประเทศไทยกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ OnePlus 7T Series ทั้ง 3 รุ่น ตั้งแต่ OnePlus 7T, OnePlus 7T Pro และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition โดยหน้าตาและดีไซน์จะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาพรีวิวกันแบบคร่าวๆ ครับ

 

เริ่มกันด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus 7T Series กันก่อน โดยมาพร้อมกับดีไซน์กระจกแบบด้านที่ทำให้ดูมีความเรียบหรูเป็นอย่างมากเมื่อสะท้อนกับแสงในมุมต่างๆ ทั้งยังได้สัมผัสที่ดูไม่เหมือนกับรุ่นอื่นที่ใช้เป็นกระจกแบบปกติอีกด้วย ขณะที่ด้านหลังจะมีความโค้งเล็กน้อยของตัวเครื่องทำให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวหลุดร่วงออกจากมือเลย

 

โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยที่โมดูลกล้องหลัง ซึ่ง OnePlus 7T จะมาพร้อมกับโมดูลกล้องทรงกลมที่จัดเรียงเลนส์กล้องไว้แบบแนวนอน พร้อมกับไฟแฟลช Dual LED ที่ด้านล่างของเลนส์ตรงกลาง

 

ขณะที่รุ่นพี่อย่าง OnePlus 7T Pro และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition เป็นโมดูลกล่องแนวตั้ง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช Dual LED ที่อยู่นอกกรอบ และมี Laser Focus ที่อยู่ทางซ้ายของเลนส์หลักด้วย

 

ทั้งนี้ ความพิเศษใน OnePlus 7T Pro McLaren Edition ต้องมีมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว ที่มีการเพิ่มลวดลายของพวงมาลัยในรถแข่งของรุ่น McLaren Speedtail เข้าไป ทำให้ดูแรงและพรีเมียมกว่าเดิม ควบคู่กับการตัดเส้นแสงที่ขอบเป็นสีส้ม (Papaya Orange) บริเวณรอบเครื่องด้านหลังและกรอบเลนส์กล้องที่เป็นสีสัญลักษณ์ของแบรนด์ McLaren ที่มีมากว่า 50 ปีได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว

 

ด้านหน้าจอแสดงผลทั้ง 3 รุ่น ชูโรงด้วยหน้าจอแสดงผล Fluid Display ที่มี Refresh Rate 90Hz และรองรับ HDR10+ เหมือนกันทั้งหมด โดยจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เริ่มที่ OnePlus 7T จะใช้เป็นหน้าจอแบน AMOLED ทรงหยดน้ำ มีความกว้างที่ 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) และอัตราส่วน 20:9

 

ส่วน OnePlus 7T Pro และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition มาพร้อมกับหน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120 x 1440 พิกเซล) และมีอัตราส่วน 19.5:9

 

มาดูกันที่รอบเครื่องกันที่ละรุ่นกันเลยดีกว่า โดยบริเวณเหนือหน้าจอของ OnePlus 7T จะมาแบบทรงหยดน้ำที่มีกล้องหน้าฝังอยู่และมีลำโพงตัวที่ 2 อยู่ทางด้านบน

 

ขณะที่ด้านบนของ OnePlus 7T Pro และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition จะมีเพียงลำโพงตัวที่ 2 เท่านั้น

 

ด้านบนของตัวเครื่อง OnePlus 7T จะมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เท่านั้น ส่วน OnePlus 7T Pro และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition จะมีทั้งกล้องหน้า Pop-Up และไมโครโฟนตัวที่ 2 ครับ

 

ขณะที่ฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่องทั้ง 3 รุ่นจะมีเหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่ด้านซ้ายที่มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และฝั่งขวาจะมีตัวเลื่อนสำหรับปรับโหมดเสียง, เงียบ หรือสั่น ถัดลงมาก็จะเป็นปุ่มล็อคเครื่อง

 

ส่วนด้านล่างก็มีเหมือนกันตั้งแต่ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เริ่มที่ OnePlus 7T จะเป็นกล้องที่รวมอยู่ในทรงกลม 3 เลนส์ พร้อมด้วยไฟแฟลช LED

 

ส่วนอีก 2 รุ่นจะเป็นกล้อง 3 เลนส์ที่จัดเรียงในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านล่าง และมี Laser Focus ที่ด้านซ้ายของเลนส์เพิ่มเข้ามา ซึ่งตรงนี้ OnePlus 7T รุ่นปกติจะไม่มีให้ครับ

 

สรุปสเปค OnePlus 7T

  • ขนาดตัวเครื่อง : 160.94 × 74.44 × 8.13 มม.
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Fluid Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มี Refresh Rate 90Hz, อัตราส่วน 20:9 และรองรับ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
  • GPU : Adreno 640
  • ความจุ RAM 8GB + ROM 128GB (UFS 3.0)
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รองรับ OIS + EIS
    • เลนส์ Ultra Wide Angle 117 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Telephoto 2x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX471
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 3800mAh รองรับ Warp Charge 30T

สรุปสเปค OnePlus 7T Pro / OnePlus 7T Pro McLaren Edition

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.6 x 75.9 x 8.8 มม.
  • น้ำหนัก : 206 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Fluid Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120 x 1440 พิกเซล) มี Refresh Rate 90Hz, อัตราส่วน 19.5:9 และรองรับ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
  • GPU : Adreno 640
  • ความจุ RAM 8GB + ROM 256GB แบบ UFS 3.0 (OnePlus 7T Pro) / ความจุ RAM 12GB + ROM 256GB แบบ UFS 3.0 (OnePlus 7T Pro McLaren Edition)
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รองรับ OIS + EIS
    • เลนส์ Ultra Wide Angle 117 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX471
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4085mAh รองรับ Warp Charge 30T

 

สำหรับราคาทั้ง 3 รุ่นจะมี ดังนี้

OnePlus 7T (8/128 GB) ราคา 17,990 บาท, OnePlus 7T Pro (8/256 GB) ราคา 26,990 บาท และ OnePlus 7T Pro McLaren Edition (12/256 GB) ราคา 29,990 บาท นอกจากนี้ OnePlus ยังเปิดตัวหูฟังบลูทูธ Bullets Wireless 2 ในราคา 3,740 บาท

แต่พิเศษเมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจของ AIS จะสามารถซื้อเครื่องในราคาเริ่มต้นเพียง 12,990 บาทเท่านั้น รวมไปถึงของสมนาคุณสุดพิเศษ Special Bundle เมื่อซื้อผ่านทาง JD Central และ LAZADA ด้วยครับ

ทั้งนี้ วันวางจำหน่ายเริ่มด้วย OnePlus 7T Pro ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ส่วน OnePlus 7T จะเริ่ม Pre-Order ในวันที่ 22-28 ตุลาคม และจำหน่ายจริงในวันที่ 1 พฤศจิกายน ขณะที่ OnePlus 7T Pro McLaren Edition (มีจำนวนจำกัด) และหูฟังบลูทูธ Bullets Wireless 2 ต้องรอทาง OnePlus ประกาศอีกครั้งในเร็วๆ นี้ครับ

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News6 วัน ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก