รีวิว Nubia M2 lite สมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียม กล้องถ่ายสวย ราคาย่อมเยา

Nubia M2 lite สมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามเทียบเท่ารุ่นไฮเอนด์ มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน และกล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีโหมดถ่ายรูปหลากหลาย ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เอาใจคนชอบเซลฟี่ด้วยโหมดสวยปรับได้ 10 ระดับ

สรุปข้อมูลและสเปค Nubia M2 lite

• ตัวเครื่องบาง 7.5 มิลลิเมตร
• ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด 2G/3G/4G LTE
• หน้าจอ 5.5 นิ้ว HD ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
• รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ Nubia 4.0
• ชิปเซ็ต MTK MT6750 Octa-Core 64 bit
• จีพียู Mali-T860
• แรม 3GB + ความจุ 64GB (ราคา 6,490 บาท สำหรับคนชอบความจุมากกว่า) และแรม 4GB + ความจุ 32GB (ราคา 6,990 บาท สำหรับคนชอบแรมมากกว่า)
• เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB (ใส่ช่องซิม 2)
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 ระบบออโต้โฟกัสแบบ PDAF และแพลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
• รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, GPS, A-GPS
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ปุ่มโฮมด้านหน้าตัวเครื่อง

 

อุปกรณ์ในกล่อง

• ตัวเครื่อง Nubia M2 lite พร้อมแบตเตอรี่ในตัว
• อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• สายเคเบิล micro USB
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
• คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

 

ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล

Nubia M2 lite เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามเหมือนกับ M2 อาจเรียกได้ว่าเป็นคู่แฝดที่ปรับสเปคลงมาเพื่อให้ทุกคนจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ และวัสดุตัวเครื่องก็เป็นเกรดพรีเมียมแบบเดียวกัน

วัสดุตัวเครื่องของ Nubia M2 lite ขึ้นรูปจากโลหะอะลูมิเนียมชิ้นเดียวแบบไร้รอยต่อหรือที่เรียกว่ายูนิบอดี้ มีความโดดเด่นทั้งตัวเครื่องสีทอง และสีดำ (Black Gold) ที่มีเสริมขอบด้วยสีทอง ทำให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.5 มิลลิเมตร จับได้ถนัดมือ ในขณะที่กระจกที่ครอบหน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนก็เป็นแบบ 2.5D จะมีความโค้งมนบริเวณขอบกระจก ทำให้สอดรับกับอุ้งมือเวลาหยิบจับใช้งาน ต่างไปจากกระจกแบบเดิมที่มีขอบคม

 

หน้าจอแสดงผลของ Nubia M2 lite มีขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ลดสเปคลงมาจากรุ่น M2 ที่มีความละเอียด Full HD 1080p แต่ความคมชัดในระดับสายของคนเราก็ถือว่ายังให้สีสันที่สวยงามเพื่อแลกกับราคาที่ลดลงมาเกือบครึ่งหนึ่ง

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ Nubia M2 lite ตามคอนเซ็ปต์ของ Nubia ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นของกล้องถ่ายรูป

 

บริเวณล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มเมนู (ซ้าย) กับปุ่มย้อนกลับ (ขวา) ซึ่งปุ่มซ้ายขวาทั้ง 2 ปุ่มนี้สามารถตั้งค่าสลับตำแหน่งการใช้งานได้ตามความถนัด

 

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

 

Nubia M2 lite ยังคงมีช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm ทำให้ใช้งานร่วมกับหูฟังทั่วไปได้ทันที และมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ micro USB

 

ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง

 

ขอบด้านขวามีปุ่ม Power และช่องใส่ซิมขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือเลือกใส่ microSD card แทนในช่องซิม 2

 

ด้านหลังของ Nubia M2 lite มีผิวสัมผัสที่เรียบหรู และมีการดีไซน์เส้นเสาอากาศให้มีสีดำกลมกลืนไปกับสีตัวเครื่อง ภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh

 

อีกหนึ่งดีไซน์ที่ทำให้ Nubia M2 lite มีความโดดเด่นส่วนงาม คือสีแดงบริเวณขอบเลนส์กล้องหลังที่เป็นเพียงการเพิ่มสีแดงเข้ามาแต่กลับทำให้ดูสวยงามขึ้นมาได้

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

สำหรับฟีเจอร์การใช้งานต้องยกให้กับ Nubia ที่ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับราคาเท่าไหร่ ก็จะใส่ฟีเจอร์มาให้ครบไม่ต่างไปจากรุ่นแพง จึงทำให้ M2 lite จัดเต็มทุกฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น M2 โดยมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ Nubia UI 4.0 และอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนชื่นชอบเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งานครั้งแรกเลยก็คือแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องมีเฉพาะแอปพื้นฐาน ไม่มีแอปขยะติดตั้งมาให้รกเครื่อง ซึ่งทำให้ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บตัวเครื่องโดยไม่จำเป็น

 

เริ่มจากระบบ 2 ซิมของ Nubia M2 lite ใช้งานบนเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และเลือกสลับใช้งาน 3G/4G ไปยังซิมใดซิมหนึ่งได้ในเมนูการตั้งค่า แล้วอีกซิมก็จะถูกใช้งานบนเครือข่าย 2G/3G อัตโนมัติ และรองรับฟีเจอร์ VoLTE สำหรับการโทรบนเครือข่าย 4G ด้วย

 

ฟีเจอร์ถัดมาที่เหมือนจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานของ Nubia ไปแล้ว หลังจาก Nubia Z11 โชว์ความสามารถด้านนี้ไป รุ่นหลังๆ มาก็สามารถใช้งานได้ทุกรุ่น นั่นก็คือการสั่งงานด้วยขอบจอได้หลากหลายรูปแบบที่เรียกว่า Edge gestures เริ่มจากฟีเจอร์แรก Hold the edge and swipe inward เป็นการกดค้างที่ขอบจอเพื่อเลือกหน้าจอใช้งานอื่น ๆ ที่เพิ่งเปิดใช้งานไปก่อนหน้านี้

 

Swipe up/down from the edge เป็นการลากขอบจอขึ้นหรือลง เพื่อไปยังหน้าจอก่อนหน้าหรือหน้าจอถัดไปที่เพิ่งเปิดใช้งานไปก่อนหน้า

 

Slide repeatedly on edge เป็นการลากขอบจอติดต่อกัน 2 ครั้งเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชั่นที่เปิดค้างไว้เบื้องหลัง ยกเว้นหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่

 

Swipe from both edges เป็นลากขอบจอทั้ง 2 ข้างขึ้นหรือลง เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอแสดงผล ลากขึ้นจะเป็นการปรับความสว่างขึ้น และลากลงจะเป็นการลดความสว่างหน้าจอ

 

Double click edge เป็นการเคาะที่ขอบจอติดกัน 2 ครั้งเพื่อย้อนกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้า

 

ฟีเจอร์ Screen split-up สำหรับแบ่งหน้าจอเพื่อให้ใช้งานแอปได้พร้อมกัน 2 แอป เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Nubia พัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะไม่เพียงแค่รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 แอป แต่ยังเปิดเกมได้พร้อมกัน 2 เกม ซึ่งปัจจุบันยังไม่เห็นว่ามีสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่สามารถทำได้

 

Dual instance ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแยกแอปโซเชียลส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน ใช้งานได้พรัอมกัน 2 บัญชี และตอบโจทย์ผู้ใช้งานในไทยมากขึ้นเพราะว่ารองรับแอป LINE แล้ว

 

Supersnap ฟีเจอร์สำหรับการจับภาพหน้าจอที่ทำได้มากกว่าการจับภาพหน้าจอทั่วไป ด้วยลูกเล่นที่มากขึ้น ได้แก่ บันทึกหน้าจอเป็นภาพปกติ, เลือกภาพหน้าจอเป็นวงกลม, เลือกภาพหน้าจอเป็นรูปหัวใจ หรือเลือกภาพหน้าจอเป็นรูปร่างต่าง ๆ โดยการวาดลายเส้นเพื่อเลือกพื้นที่ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกจับภาพหน้าจอแบบยาวต่อเนื่องกันเป็นภาพเดียวได้ เช่น จับภาพหน้าจอแชทที่ยาว ๆ เป็นภาพเดียวได้โดยไม่ต้องมาเรียงต่อภาพเอง หรือจะเลือกบันทึกหน้าจอเป็นไฟล์วิดีโอก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอระดับ HD ได้ด้วย

 

ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) เพิ่มได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอ แตะสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้โดยไม่กดเปิดหน้าจอก่อน และใช้ล็อคแอปพลิเคชั่นเพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นได้ด้วย

 

ฟีเจอร์ด้านมัลติมีเดียรองรับ DTS Audio สำหรับการฟังผ่านหูฟัง ช่วยเพิ่มมิติของเสียง และเครื่องเล่นวิดีโอรองรับการย่อหน้าจอให้เล่นต่อเนื่องแบบลอยอยู่เหนือหน้าจออื่นได้

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Sensor Box for Android

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชพร้อมกันสูงสุด 10 จุด

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark ประสิทธิภาพการทำงาน

Nubia M2 lite รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย Nubia UI 4.0 ใช้ชิปเซ็ต MTK MT6750 ซีพียู Octa-core Cortex-A53 กับจีพียู Mali-T860 โดยรุ่นที่ใช้ในการทดสอบนี้เป็นรุ่นที่มีแรม 4GB และความจุตัวเครื่อง 32GB ซึ่งผลการทดสอบ AnTuTu V6.2.6 เป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม (RAM) และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู (GPU) ทำคะแนนรวมได้ 41,385 คะแนน

 

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Nubia M2 lite ทำคะแนน Single-Core ได้ 610 และ Multi-Core ทำได้ 2,507 คะแนน

 

ทดสอบเล่นเกมทั่วไปสามารถเล่นได้ลื่นไหล แต่หากเป็นเกมที่ต้องใช้เซ็นเซอร์ Gyro ในการเล่น อาจจะไม่รองรับการเล่นเต็มรูปแบบ เนื่องจาก M2 lite ไม่มีเซ็นเซอร์ดังกล่าว ในขณะที่แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งวัน

 

กล้องถ่ายรูป

Nubia M2 lite มีกล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล SONY Exmor RS CMOS ค่ารูรับแสง f/2.2 และมาพร้อม NeoVision 6.5 ทำให้ตัวกล้องมีฟีเจอร์ใช้งานที่หลากหลาย

 

กล้องหลังของ Nubia M2 lite ถ่ายภาพได้ขนาดความละเอียดสูงสุดในอัตราส่วน 4:3 ระบบโฟกัสถือว่าทำได้รวดเร็ว รองรับการแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และในโหมดออโต้ก็เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี

 

ในโหมด HDR สำหรับการถ่ายภาพในที่สภาพแสงต่างกัน Nubia M2 lite ทำออกมาได้ดีมาก จากตัวอย่างภาพถ่ายในช่วงบ่ายที่แสงแดดจ้า และบริเวณข้างตึกซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความมืด ตัวระบบก็สามารถถ่ายภาพออกมาแล้วปรับความสว่างของภาพให้เหมาะสม เพื่อให้เห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจนทั่วทั้งภาพ

 

กล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 เอาใจคนชอบเซลฟี่ด้วยโหมดสวยปรับได้ 10 ระดับ สามารถปรับแต่งภายหลังได้ด้วยฟีเจอร์ Retouch เลือกใส่ฟิลเตอร์ปรับแต่งหน้าได้

ตัวอย่างภาพถ่าย

 

สรุปจุดเด่น

• ดีไซน์สวยงาม วัสดุพรีเมียม และมีความโดดเด่นในเรื่องของสีตัวเครื่องที่ผสานกันอย่างลงตัวโดยเฉพาะสี Black Gold
• เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรักการถ่ายภาพ กล้องหลังโฟกัสเร็ว และกล้องหน้าความละเอียดสูง ปรับความเนียนสวยได้ 10 ระดับ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับราคาตัวเครื่อง
• ฟีเจอร์ใช้งานหลากหลาย ครบในเครื่องเดียว
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh การจัดการพลังงานทำได้ดี

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ในกล่องขายไม่แถมหูฟัง

รายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ http://store.nubia.com/ หรือ http://www.lazada.co.th/nubia-smartphone/ และที่ BigC แถมฟรี Gift Set