เปิดตัว Motorola Edge 50 Ultra กล้องซูม Periscope 64MP และฝาหลังไม้จริง

เปิดตัว Motorola Edge 50 Ultra รุ่นใหม่ มีตัวเลือกสีไม้จริง พร้อมด้วยสีหนังวีแก้น 2 สี ได้แก่ Forest Grey และ Peach Fuzz (สีประจำปี 2024 ของ Pantone)

หากย้อนกลับไปในปีที่แล้วจะไม่มีรุ่น Ultra ดังนั้นรุ่นที่เปิดตัวในปีนี้จึงไม่ใช่รุ่นสานต่อแต่อย่างใด แต่เป็นการอัปเกรดเหนือกว่ารุ่น Edge 50 Pro ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมชิปเซ็ตที่เหนือกว่าและกล้องที่ดีกว่า

ตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 3 เมื่อเทียบกับรุ่น Pro ที่ใช้ชิปเซ็ต 7 Gen 3 โดยจะได้ RAM มากขึ้นเช่นกันคือ 12GB หรือ 16GB (LPDDR5X) และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 512GB หรือ 1TB (UFS 4.0)

ด้านการถ่ายรูปก็ได้รับการอัปเกรดกล้องหลักเซ็นเซอร์ 50MP รูรับแสง f/1.6 มีออโต้โฟกัสรอบทิศทางและกันภาพสั่นไหว OIS โดยกล้องที่โดดเด่นคือกล้อง Periscope 3x เทียบเท่าเลนส์ 72 มม. เซ็นเซอร์ 64MP (พิกเซล 0.7µm) และรูรับแสง f/2.4 และกล้องตัวที่สามคือกล้องมุมกว้างพิเศษ 50MP (พิกเซล 0.64µm) f/2.0 มีมุมมอง 122° และออโต้โฟกัสสำหรับการถ่ายภาพมาโคร

กล้องด้านหน้ามีเซ็นเซอร์ 50MP (พิกเซล 0.64µm) f/1.9 พร้อมออโต้โฟกัส โดยกล้องทั้งสามตัวสามารถบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60fps และยังมีโหมดสโลว์โมชั่นที่ 1080p (120fps กล้องด้านหน้า และสูงสุด 960fps กล้องด้านหลัง)

ปี 2024 เรียกได้ว่าเป็นปีแห่ง AI จึงมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยกล้องถ่ายรูปของ Motorola Edge 50 Ultra โดยเป็นการใช้ AI ปรับความเร็วชัตเตอร์และระดับการป้องกันภาพสั่นไหวโดยอัตโนมัติตามฉาก นอกจากนี้ยังรองรับการติดตามโฟกัสอัตโนมัติ, Photo Enhancement Engine ใหม่, ปรับภาพให้เหมาะสมเพื่อดูรายละเอียดในส่วนไฮไลท์และเงา ความชัด สี และโบเก้

มาต่อกันที่หน้าจอแสดงผล P-OLED ดีไซน์แบบโค้ง ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล (20:9) 144Hz และมีอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงถึง 360Hz (ในโหมดเกม) ความสว่างของจอสูงสุดที่ 2,500 nits, DC dimming, การแสดงสี 10 บิตรองรับ HDR10+ และการรับรองสำหรับการสตรีม HD จาก Netflix และ Amazon

ตัวเครื่องมีกรอบอลูมิเนียม ด้านหน้ามีกระจก Gorilla Glass Victus พร้อมการเคลือบป้องกันลายนิ้วมือ กันฝุ่นกันน้ำ IP68 สำหรับตัวเครื่องสี Peach Fuzz เป็นโทนสีจาก Pantone รวมไปถึงการทดสอบจอแสดงผลและรับรองว่าเป็น Pantone Validated และ Pantone Skintone Validated สำหรับระบบกล้องก็ได้รับมาตรฐานโดย Pantone เช่นกัน

แบตเตอรี่ให้มาขนาด 4500mAh พร้อมการชาร์จ TurboPower 125W ผ่านสายและชาร์จไร้สาย 50W โดยจะวางจำหน่ายรุ่นซิมเดียว (SIM หรือ eSIM) และซิมคู่ (SIM และ eSIM) รองรับ Wi-Fi 7 (802.11be) และ Bluetooth 5.4 รวมถึง Ultra Wide Band (UWB)

นอกจากนี้ก็มีพอร์ต USB-C รองรับทั้ง USB 3.2 และ DisplayPort 1.4 มีลำโพงสเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และยังรองรับ Dolby Head Tracking ด้วย

สเปค Motorola Edge 50 Ultra

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล, P-OLED, 1 พันล้านสี, 144Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8s Gen 3
• GPU: Adreno 735
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Periscope 64 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/1.9
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4500mAh ชาร์จเร็ว 125W

Motorola Edge 50 Ultra จะวางจำหน่ายในบางประเทศในยุโรป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999 ยูโร (ประมาณ 39,000 บาท)

ที่มา: gsmarena