Connect with us

ข่าวประชาสัมพันธ์

ไมโครซอฟท์และผู้นำภาคธุรกิจ เผยทิศทางขับเคลื่อนประเทศไทย ในงาน Solution Summit 2017

Published

on

Solution Summit 2017

 

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรในภาคธุรกิจ เผยแนวคิดสู่ความสำเร็จในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล จัดงาน Solution Summit 2017 นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นครบครันภายใต้แนวคิด “Digital Transformation in Action” พร้อมผลักดันธุรกิจไทยให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนโฉมหน้าโลกเศรษฐกิจสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อย่างเต็มศักยภาพ

งาน Solution Summit ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานซึ่งเป็นระดับผู้บริหารทั้งฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายไอทีกว่า 1,000 คน จากกว่า 600 หน่วยงานราชการและองค์กรธุรกิจ รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจของไมโครซอฟท์จำนวน 38 องค์กร เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมองด้านกระบวนการพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation) ที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การอัพเกรดระบบไอทีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและแนวทางการทำธุรกิจใน 4 มิติหลักๆ ได้แก่ การโต้ตอบและสื่อสารกับลูกค้า (Engage your customers) การเสริมศักยภาพให้กับพนักงาน (Empower your employees) การยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ (Optimize your business) และการพลิกรูปแบบผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจ (Transform your products / business)

นายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ถึงแม้ว่ากระบวนการ Digital Transformation จะเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญและองค์กรจำนวนมากต่างกล่าวถึงและเข้าใจในความสำคัญกันอย่างกว้างขวาง แต่ในทางปฏิบัติจริง กลับพบว่ากระบวนการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปอย่างรวดเร็วหรือเร่งด่วนเท่าที่ควร ทั้งยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากรอบด้าน ทั้งจากสภาวะทางเศรษฐกิจและผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดที่มีความคล่องตัวสูง ท่ามกลางโลกที่กำลังมุ่งหน้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัวนั่นเอง”

“ด้วยเหตุนี้เอง องค์กรต่างๆ จึงควรอ่านสถานการณ์ให้ไกลกว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อตามกระแสหรืออยู่รอดในปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องเริ่มตั้งคำถามกับรูปแบบการทำธุรกิจในปัจจุบัน และรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ในเชิงลึกเพื่อค้นหามุมมองใหม่มาประกอบการตัดสินใจและวางกลยุทธ์” นายอรพงศ์กล่าวเสริม “ทั้งนี้ การจะประสบความสำเร็จบนเส้นทาง Digital Transformation ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่เสริมศักยภาพขององค์กรได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์และ machine learning เครือข่าย IoT (Internet of Things) หรือแม้แต่เทคโนโลยี AR (augmented reality) และ VR (virtual reality) ที่ล้วนพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่น่าสนใจ”

ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ  หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยเทรนด์การผลิกโฉมธุรกิจด้วยดิจิทัลในประเทศไทยว่า “ปัจจุบัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในธุรกิจมากขึ้น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมากที่มีความตื่นตัวและเริ่มนำแผนงานดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและขีดความสามารถของบริษัท  สำหรับตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำเทคโนโลยีมาพัฒนา          การดำเนินงานและให้บริการผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุน ที่ได้พัฒนาแหล่งข้อมูลและเครื่องมือเพื่อการลงทุนออนไลน์ การให้บริการผู้ลงทุน รวมถึงการพัฒนา platform ที่เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนนำดิจิทัลมาเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน ที่ผ่านมามีการจัดสัมมนา IT Futures for Listed Company เพื่ออัพเดทเทรนด์นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Cloud Adoption , Data Analytic, ERP on Cloud เป็นต้น โดยมีบุคลากรด้านไอทีเข้าร่วมกว่า 300 คน จะเห็นได้ว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีความตื่นตัว และมีการลงทุนด้านดิจิทัล เพื่อเพิ่มขีดความความสามารถให้กับธุรกิจ โดยตลาดหลักทรัพย์พร้อมสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสอดรับกับนโยบาย Digital Economy และยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ของภาครัฐ”

คุณนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวอีกว่า “ในปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่าแทบทุกบริษัทได้ลงทุน หรือมีแผนในการปรับตัวรับผลของ digital disruption ในทุกวงการธุรกิจ ดังจะเห็นได้จากการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพมากมายที่มีความคล่องตัวสูง ทั้งยังมีความยืดหยุ่น ก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ทำให้บริษัทใหญ่ต่างเริ่มหันกลับมามองตัวเองถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะสามารถพลิกธุรกิจของตนเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างไม่ตกขบวน”

“สำหรับเอคเซนเชอร์เอง เราได้เห็นเทรนด์หลัก 5 ข้อที่ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ได้แก่ Intelligent Automation, Liquid Workforce, Platform Economy, Predictable Disruption และสุดท้ายคือความสามารถในการปรับตัวของคนเพื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเกินกว่า 86% ของธุรกิจตระหนักแล้วว่าใน 3 ปีข้างหน้านี้ นวัตกรรมดิจิทัลจะสร้างผลกระทบกับธุรกิจมากขึ้นและทั่วถึงยิ่งขึ้น”

”จากประสบการณ์ตรงของเอคเซนเชอร์ที่ได้เข้าไปช่วยหลายธุรกิจปรับตัวได้สำเร็จ พบว่าปัจจัยที่นำไปสู่การพลิกโฉมธุรกิจได้สำเร็จคือความสามารถในการปรับแนวคิดและวิธีการทำงานร่วมกันของพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และเทคโนโลยี โดยมีความท้าทายหลักคือผู้นำ ที่จะพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จ ถ้ามีผู้นำที่สามารถนำการเปลี่ยนแปลงและสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกับพนักงานได้ดีแล้ว จะทำให้การปรับองค์กรในช่วงแรกผ่านไปได้ด้วยดี และเป็นรากฐานสู่การเปลี่ยนแปลงขั้นที่สูงขึ้นและสำเร็จผล สำหรับปี 2560 สิ่งที่บริษัทควรจะทำเป็นลำดับแรกคือการพัฒนาบุคลากรและการกำหนดเป้าหมายและบทบาทที่ชัดเจนในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทำงานร่วมกับพนักงานให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยมีการให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากผู้นำในองค์กรทั้งทางด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ” คุณนนทวัฒน์กล่าวเพิ่มเติม

คุณปรัธนา ลีลพนัง รักษาการ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นอกจากกลยุทธ์และมุมมองใหม่ๆ ที่บริษัทต่างๆ ต้องนำมาปรับใช้ในยุคนี้แล้ว ปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้คือ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งถือเป็นรากฐานของความสำเร็จของทุกธุรกิจ ทุกขนาด และทุกอุตสาหกรรม เอไอเอสในฐานะผู้นำด้านเครือข่ายและบริการดิจิทัลของไทย พร้อมสนับสนุนการพัฒนาของภาครัฐและภาคธุรกิจในทุกระดับของประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อผนึกกำลังกันก้าวสู่ Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยเราได้วางแผนและพัฒนาโครงสร้างด้านดิจิทัลทั้งเครือข่ายและบริการให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับทุกธุรกิจ พร้อมTransform สู่โลกดิจิทัลไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาเครือข่ายทั้ง Mobile Super Wifi และ Fix Broadband จากเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ก้าวสู่ “เครือข่ายดิจิทัลที่รองรับการใช้งานระดับกิกะบิท” (Gigabit Network) พร้อมรองรับการก้าวสู่ 5G เป็นรายแรก, การพัฒนาดิจิทัลเซอร์วิสแพลตฟอร์ม ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย Video, Cloud, Mobile Payment และ IoT เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศนั้น เอไอเอสได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์บนเครือข่ายที่ดีที่สุดของเอไอเอส ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของเราสามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงในบริการอย่าง Office 365 หรือแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ได้เต็มสมรรถนะยิ่งขึ้น นับตั้งแต่การใช้งานทั่วไปอย่างการรับส่งอีเมล ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมหาศาล หรือการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ”

กำลังฮอต

Featured7 วัน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Featured3 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง

รีวิว vivo V30 Pro 5...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์

รีวิว vivo V30 5G สม...

Android News1 เดือน ago

แกะกล่องพรีวิว vivo V30 5G ถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่

แกะกล่องพรีวิว vivo ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก